3. ทดสอบความคงทนของสีต่อสารซักฟอกขอ

3. ทดสอบความคงทนของสีต่อสารซักฟอกของผ้าจากเส้นใยหนอนผีเสื้อยักษ์ที่เคลือบ และ ไม่เคลือบนาโนซิงค์ออกไซด์และย้อมด้วยน้ำย้อมสีจากน้ำตะโก
ทำการทดสอบความคงทนของสีต่อสารซักฟอกโดยการแช่ผ้าลงในผงซักฟอกเข้มข้น5% แล้ววัดค่าของสีที่เปลี่ยนแปลงไป
1.วัดค่าสีของผ้าทั้งสี่แบบก่อนการแช่(ผ้าที่มีสารโพลีอีเทอร์ฟอสเฟตเป็นตัวเชื่อมประสานกับ
นาโนซิงค์ออกไซด์ที่ย้อมสีจากน้ำตะโก,ผ้าที่มีสารอะครีลิกเป็นตัวเชื่อมประสานกับนาโนซิงค์ออกไซด์ที่ย้อมสีจากน้ำตะโก,ผ้าจากเส้นใยจากหนอนผีเสื้อยักษ์ที่ย้อมสีจากน้ำตะโก และผ้าฝ้ายที่ย้อมสีจากน้ำตะโก โดยใช้ผ้าแต่ละแบบ แบบละ4ชิ้นที่ย้อมสีมาในความเข้มข้นที่ต่างกันคือ 25%,50%,75% และ 100%)
2. เทผงซักฟอกเข้มข้น 5 % ลงในบีกเกอร์ 4 บีกเกอร์ (ทำ4ชุดเนื่องจากใช้ผ้าที่ย้อมสีจากน้ำตะโกความเข้มข้นต่างกัน4ความเข้มข้น)โดยให้แต่ละบีกเกอร์มีปริมาตร 60 ลูกบาศก์เซนติเมตร
3.แช่ผ้าที่มีสารโพลีอีเทอร์ฟอสเฟตเป็นตัวเชื่อมประสานกับนาโนซิงค์ออกไซด์ที่ย้อมสีจากน้ำตะโกลงในบีกเกอร์ที่1,ผ้าที่มีสารอะครีลิกเป็นตัวเชื่อมประสานกับนาโนซิงค์ออกไซด์ที่ย้อมสีจากน้ำตะโก ลงในบีกเกอร์ที่2 ,ผ้าจากเส้นใยจากหนอนผีเสื้อยักษ์ที่ย้อมสีจากน้ำตะโก ลงในบีกเกอร์ที่3 และ ผ้าฝ้ายที่ย้อมสีจากน้ำตะโก ลงในบีกเกอร์ที่4 (ขนาดเท่าๆกัน คือ 4x10 เซนติเมตร) เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
4. ล้างผ้าให้สะอาด แล้วตากในร่มที่อุณหภูมิห้อง
5. วัดระดับความเข้มสีของผ้าด้วยเฉดวัดระดับสี แล้วนำมาเปรียบเทียบกับค่าสีก่อนการซักเพื่อดู
การซีดของสี
6. ทำซ้ำ ข้อ 2-5 ซ้ำ 3 ครั้ง แล้วบันทึกผล

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

3. ทดสอบความคงทนของสีต่อสารซักฟอกของผ้าจากเส้นใยหนอนผีเสื้อยักษ์ที่เคลือบและไม่เคลือบนาโนซิงค์ออกไซด์และย้อมด้วยน้ำย้อมสีจากน้ำตะโก ทำการทดสอบความคงทนของสีต่อสารซักฟอกโดยการแช่ผ้าลงในผงซักฟอกเข้มข้น5% แล้ววัดค่าของสีที่เปลี่ยนแปลงไป1.วัดค่าสีของผ้าทั้งสี่แบบก่อนการแช่ (ผ้าที่มีสารโพลีอีเทอร์ฟอสเฟตเป็นตัวเชื่อมประสานกับนาโนซิงค์ออกไซด์ที่ย้อมสีจากน้ำตะโก ผ้าที่มีสารอะครีลิกเป็นตัวเชื่อมประสานกับนาโนซิงค์ออกไซด์ที่ย้อมสีจากน้ำตะโก ผ้าจากเส้นใยจากหนอนผีเสื้อยักษ์ที่ย้อมสีจากน้ำตะโกและผ้าฝ้ายที่ย้อมสีจากน้ำตะโกโดยใช้ผ้าแต่ละแบบ แบบละ4ชิ้นที่ย้อมสีมาในความเข้มข้นที่ต่างกันคือ 25%, 50%, 75% และ 100%)2. เทผงซักฟอกเข้มข้นลงในบีกเกอร์ 5% 4 บีกเกอร์ (ทำ4ชุดเนื่องจากใช้ผ้าที่ย้อมสีจากน้ำตะโกความเข้มข้นต่างกัน4ความเข้มข้น) โดยให้แต่ละบีกเกอร์มีปริมาตร 60 ลูกบาศก์เซนติเมตร3.แช่ผ้าที่มีสารโพลีอีเทอร์ฟอสเฟตเป็นตัวเชื่อมประสานกับนาโนซิงค์ออกไซด์ที่ย้อมสีจากน้ำตะโกลงในบีกเกอร์ที่1 ผ้าที่มีสารอะครีลิกเป็นตัวเชื่อมประสานกับนาโนซิงค์ออกไซด์ที่ย้อมสีจากน้ำตะโก ลงในบีกเกอร์ที่2 ผ้าจากเส้นใยจากหนอนผีเสื้อยักษ์ที่ย้อมสีจากน้ำตะโก ลงในบีกเกอร์ที่3 และผ้าฝ้ายที่ย้อมสีจากน้ำตะโก ลงในบีกเกอร์ที่4 (ขนาดเท่าๆกันคือ 4 x 10 เซนติเมตร) เป็นเวลา 1 ชั่วโมง4. ล้างผ้าให้สะอาดแล้วตากในร่มที่อุณหภูมิห้อง5. วัดระดับความเข้มสีของผ้าด้วยเฉดวัดระดับสีแล้วนำมาเปรียบเทียบกับค่าสีก่อนการซักเพื่อดูการซีดของสี6. ทำข้อ 2-5 ซ้ำ 3 ครั้งแล้วบันทึกผล

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

3 และ และผ้าฝ้ายที่ย้อมสีจากน้ำ ตะโกโดยใช้ผ้าแต่ละแบบ 25%, 50%, 75% และ 100%) 2 เทผงซักฟอกเข้มข้น 5% ลงในบีกเกอร์ 4 บีกเกอร์ 60 ลงในบีกเกอร์ที่ 2 ลงในบีกเกอร์ที่ 3 และผ้าฝ้ายที่ย้อมสีจากน้ำ ตะโกลงในบีกเกอร์ที่ 4 (ขนาดเท่า ๆ กันคือ 4x10 เซนติเมตร) เป็นเวลา 1 ชั่วโมง4 ล้างผ้าให้สะอาดแล้วตากในร่ม ที่อุณหภูมิห้อง 5 ทำซ้ำข้อ 2-5 ซ้ำ 3 ครั้งแล้วบันทึกผล