ฉันจำได้ว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน

ฉันจำได้ว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 ฉันบินผ่านไปที่ราชดำเนิน เห็นคนไทยหลายแสนคนใส่เสื้อสีเหลืองมารวมกัน วันนั้นเป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสของฟ้าเบื้องบนตัดกับสีเหลืองจากเสื้อของฝูงชน ฉันได้ยินคนไทยพร้อมใจเปล่งเป็นเสียงเดียวกันว่า’’ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ’’ ดังกึกก้อง ความสามัคคีของคนเบื้องล่างทำให้ฉันขนลุกสะท้านไปทั้งตัว
หลังจากนั้นไม่นาน ฉันบินผ่านบริเวณนั้นอีกครั้ง เห็นคนใส่เสื้อสีเหลืองจำนวนมากมายรวมตัวกันเหมือนครั้งก่อน จะต่างกันอยู่บ้างก็ตรงที่ว่าคราวนี้ไม่มีเสียงที่ทำให้ฉันรู้สึกอิ่มเอิบใจอีกแล้ว คงมีเพียงเสียงก่นด่า ต่อว่ากันผ่านไมโครโฟน ต่อมาก็มีคนใส่เสื้อสีแดงมารวมกันอีกกลุ่มหนึ่งทำแบบเดียวกับคนใส่เสื้อสีเหลืองเหตุการณ์นั้นทำให้หัวใจของฉันเต้นรัว ไม่ใช่เพราะฉันรู้สึกร่วมไปกับพวกเขา แต่เป็นเพราะฉันจะได้เฝ้าดูเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อีกครั้งและทำหน้าที่เก็บเกี่ยวเรื่องราวเหล่านั้นมาเล่าสู่กันฟังต่อไป
หากถามฉันว่าฉันจะไปยุ่งอะไรกับพวกเขาหรือ ฉันเป็นแค่นกบินอยู่บนท้องฟ้า ฉันลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่เบื้องล่าง ไม่ว่าใครจะใส่เสื้อสีไหนหรือทำอะไร ฉันก็ยังบินเฝ้าดูอยู่เหนือเหตุการณ์ต่อไป ฉันคงบอกไม่ได้ว่าใครถูกหรือผิด ทำได้เพียงคิดพิเคราะห์ในใจ และเล่าให้ฟังได้เฉพาะ’’สิ่งที่ฉันเห็น’’ ไม่ใช่ ’’สิ่งที่ฉันคิดเห็น’’
ฉันบินไปมาเฝ้าดูเหตุการณ์อย่างเสรี ฉันเคยได้ยินเขาพูดกันว่า ‘’สื่อมวลชนมีเสรีภาพในการนำเสนอข่าว’’บางคนก็พูดว่า ’’หากปล่อยให้ใครเข้ามาแทรกแซง จะกระทบต่อเสรีภาพของมวลชน’’ ฉันจึงเข้าใจว่าสื่อมวลชนก็มีเสรีภาพเช่นเดียวกัน ไม่ต้องถูกครอบงำหรือถูกพันธนาการทางความคิด แต่ฉันไม่รู้ว่าเสรีภาพของสื่อมวลชนจะเหมือนกับเสรีภาพของฉันหรือเปล่า เพราะเสรีภาพของฉันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ฉันคิดว่าสื่อมวลชนที่มีเสรีภาพในการทำงานก็ต้องมีหน้าที่เคารพสิทธิเสรีภาพของคนอื่นและต้องไม่ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนเหมือนกัน เพราะเสรีภาพนั้นต้องมาพร้อมหน้าที่เคารพสิทธิของผู้อื่นเสมอ
ฉันบินไปมาและเล่าเหตุการณ์ที่พบเห็นอย่างอิสระ แต่ฉันไม่ได้ทำตามอำเภอใจ ฉันได้ยินคนเขาใช้คำว่า “อิสระ’’ กับคำว่า ’’อำเภอใจ’’ เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของบุคคลใดหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ว่าจะเพื่อผลประกอบการขององค์กร เพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง หรือแม้แต่เพื่อรักษาไว้ซึ่งตำแหน่งหน้าที่การงานของตนเอง แต่ที่ฉันบอกว่าฉันมีอิสระ เพราะฉันไม่สนประโยชน์ของใคร ฉันถามแต่ใจของตัวเองว่าฉันมีอิสระจากอคติหรือไม่
‘’อคติ’’ เป็นความลำเอียง ไม่ว่าจะเป็นฉันทาคติ คือลำเอียงเพราะความรัก โทสาคติ คือลำเอียงเพราะความโกรธ โมหาคติ คือลำเอียงเพราะความเขลาเบาปัญญา หรือภยาคติ คือลำเอียงเพราะความกลัว
ฉันทำหน้าที่ของฉันอย่างอิสระ ไม่มีอคติ ฉันบินอยู่เหนือปัญหา ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างใดกับกลุ่มคนที่ใส่เสื้อสีต่างกัน ฉันเห็นอะไรมาก็เล่าให้ฟังไปตามนั้น ฉันหาโอกาสที่จะมองเห็นจากมุมของทุกฝ่าย และจะเล่าสิ่งที่เห็นจากทุกมุมอย่างเท่าเทียมกันด้วย
ฉันทำหน้าที่อย่างมีเป้าหมาย เพราะฉันต้องการเติบโต ต้องการอาหาร ต้องการรังที่อบอุ่น ฉันคิดว่าทุกคนบนโลกก็ต้องการเหมือนกันฉัน อยากเห็นเศรษฐกิจดี อยากอยู่ในบ้านเมืองที่สงบสุข ทุกคนก็ควรจะทำหน้าที่เพื่อเป้าหมายด้วย สื่อมวลชนในฐานะเป็นคนกลางส่งผ่านข้อมูลข่าวสารไปยังประชาชนก็ต้องทำหน้าที่โดยมีเป้าหมายเช่นกัน เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วนถูกต้อง ประชาชนจึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน คำว่า ”ประชาชน” ในที่นี้น่าจะหมายถึงประชาชนทุกคน ไม่ใช่แค่ประชาชนคนใดหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ฉันภูมิใจที่เป็นพิราบขาว เพราะสีขนของฉันขาวปลอดทั้งตัว ฉันไม่มีสีที่แต่งแต้มให้ผิดไปจากความขาวบริสุทธิ์ ฉันคิดว่าสื่อมวลชนทุกคนก็คงทำหน้าที่ด้วยใจบริสุทธิ์เป็นกลาง เพราะเป็นหนทางที่จะทำให้เขาภาคภูมิใจในวิชาชีพสื่อ
ในสมัยที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าเหมือนปัจจุบัน บรรพบุรุษของฉันเคยได้รับความไว้วางใจจากมนุษย์ให้ส่งข่าวสารระหว่างกัน เพราะไม่ว่าใครจะส่งข่าวสารไปอย่างไร บรรพบุรุษของฉันก็จะนำข่าวสารไปถึงผู้รับอย่างถูกต้องครบถ้วน แม้จะต้องบินฝ่าท่ามกลางสมรภูมิรบ สื่อมวลชนเองก็ต้องทำหน้าที่เหมือนกับบรรพบุรุษของฉันเป็นแน่ เขาจึงเปรียบให้ฉันเป็นสัญลักษณ์ของสื่อมวลชน
ฉันเชื่อว่าการทำหน้าที่ส่งผ่านข้อมูลข่าวสารอย่างครบถ้วนถูกต้องและเป็นการเป็นไปถึงประชาชน ย่อมทำให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์และรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ เพื่อให้การเข้ามามีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการแก้ปัญหาเป็นไปในทางที่จะก่อให้เกิดสันติภาพและความสงบสุขของบ้านเมือง มากกว่าจะสร้างความขัดแย้งให้ทวีความรุนแรง เพราะประชาชนจะตระหนักและเข้าใจ ได้อย่างถูกต้องว่าปัญหาอยู่ตรงไหนและจะแก้ปัญหาที่จุดใด หากข้อมูลข่าวสารที่ส่งถึงประชาชนมีความเอนเอียง ย่อมก่อให้เกิดความไม่พอใจของประชาชนอีกฝ่ายหนึ่งที่เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม และย่อมไม่มีทางที่สันติภาพจะเกิดขึ้นได้ในสังคม
สันติภาพเป็นเสาหลักค้ำบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุข ที่ใดมีสันติภาพ ความสามัคคีย่อมเกิดขึ้น และความสามัคคีจะเป็นพลังในการร่วมกันผลักดันพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
ฉันภูมิใจที่ได้เป็นสัญลักษณ์ของสื่อมวลชน ภูมิใจที่เป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ แต่ฉันคงไม่กล้าบอกใครว่าตัวฉันเป็นสันติภาพ หากแต่เพียงเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในสังคม ฉันจะทำหน้าที่ของฉันอย่างมีอิสระและเป็นกลางต่อไปเพื่อเป้าหมายของฉันนั่นคือ ’’สันติภาพของบ้านเมือง’’

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

I remember that when I fly over to June 9, 2006 at the Royal. Several hundred thousand people who see Thailand wearing yellow shirts. It is clear skies of blue with yellow from the jacket of the crowd. I've heard people unite Thailand is emitting the same '' King King so emphatically. '' The unity of the people below me chilling shocker to both. Not long after that. I fly through the area. I see people wearing yellow shirts gathered as many times before. It is different, in that that this time there is no sound that makes me feel like IM oep mind. Probably just the sound through a microphone, swearing that to reproach. Later, someone wears a red one made of a combination of the other one wears yellow, it makes my heart beat chiefs. Not because I feel, together with them, but because I've watched the events of history and serves them to harvest the story told to continue listening. If you ask me whether I'm going to mess with them or anything. I'm just a bird flying in the sky I float above the issue, everything that happens is below who wears no colors or what? I'm still flying above the next event watching. I'm not saying that anyone is fixed. Can only think to examine, in particular, and talks have been '' what I saw, '' not '' what I think. '' I'm flying back and forth watching free event. I've heard him say that, '' the media have freedom to present the news, '' some people say, '' If you let anyone else into intervention will affect the liberty of the people. '' I understand that the media have freedom as well. He doesn't have to be overwhelming or phanthanakan ideas, but I don't know that the freedom of the media is the same as my freedom, because my freedom does not give anyone trouble. I think the media have freedom to work, there must be a duty to respect the freedom of others and must not make people drunk like his. Because of the freedom that comes with a duty to respect the rights of others, always. I'm flying back and forth and told the events seen independently, but I did not follow the free will. I heard he used the term "independent man, '' with the word '' No '' is for the benefit of a person or a group, whether to the Organization's performance for the benefit of the people, or even to maintain their job responsibilities, but I am saying that I am free because I don't, but I asked the son who benefit of myself that I got free from prejudice? '' Prejudice '' is an investigation, not to be biased, because it is chanthakti love mohakti thosakti investigation, because anger is the investigation, because it is light, wisdom or folly is to be biased because of the fear of phayakti. I'm doing my duty independently. There is no prejudice, I am flying over the problem. Don't have any groups. people who wears a different color. I saw what was to follow. I am looking for an opportunity that will be visible from all sides of the story and what I see from all angles equally. I act with a goal, because I want to grow food to warm nest. I think that everyone on Earth, similar to me. I would like to see a good economy he wants to live in the home city of peace. Everyone should act to target. Mass media as a mediator to transmit information to the public, it must act with the goal. So people get complete information is correct. It is important to target people's Act of mass media. The word "public" in this case seems to refer to all people, not just any people, or a group. I'm proud to be white because color phirap white feather my free sample. I don't have to paint colors from pure white. I think the media, everyone would act in a neutral, because it's pure chance that it will make him proud in the professional media. The technology is not yet in progress, like the present. My ancestors were able to get the trust of humans to send messages between each other. Because no matter who is sending the messages to? My ancestors will bring the message to accurately complete recipients. Despite their carriers in the midst of the battle monument. The media wants it functions as my ancestors of course. His relation to me is a symbol of the mass media. I believe that the Act of passing information to a fully valid, and it is to the people, the people understand the situation and understand the problem clearly so that the access of the public to participate in solving the problem as to the cause of peace and the peace of the country, rather than create a conflict, because people are aware of the severity and understood properly, whether the issue is where and to what point solutions. If the message data sent to sway people surely cause displeasure of the people at the other end, one sees that what happened was not legitimate, and surely not the way to peace does not have to occur in society. Peace is the main guarantee happy, a town house. Where there is peace and unity shall occur, harmony is power-sharing push developing country to progress further. I am very proud to be a symbol of mass media. Proud to be a symbol of peace, but I wouldn't dare tell anyone that I am a peace. But just as one mechanism to help create peace in the society. I'm going to do my duty with an independent and neutral to my goal, that is, the '' peace of the nation. ''