เคยจูบใครไหมครับ? ถามกันให้หวามใจเล่นแบบนี้แหละ... กับคนที่เคยมีประสบก การแปล - เคยจูบใครไหมครับ? ถามกันให้หวามใจเล่นแบบนี้แหละ... กับคนที่เคยมีประสบก อังกฤษ วิธีการพูด

เคยจูบใครไหมครับ? ถามกันให้หวามใจเล

เคยจูบใครไหมครับ? ถามกันให้หวามใจเล่นแบบนี้แหละ... กับคนที่เคยมีประสบการณ์คงไม่ต้องอธิบายมากว่าจูบนั้นให้ความรู้สึกดียังไง... แต่ว่า... แล้วมันมาถึงตรงนี้ได้ยังไง พฤติกรรมที่เอาปากประกบกันนี้มันเริ่มเกิดขึ้นได้ยังไง?

ลองนึกถึงครั้งที่ชายหญิงคู่แรกยังไม่รู้จักการจูบ พฤติกรรมการเอาปากไปแปะกับอีกคนหนึ่งมันคงออกจะพิลึกเอาการอยู่... แล้วเรานึกยังไงเล่าถึงได้เริ่มจูบกัน... มีหลายทฤษฎีที่พยายามจะอธิบายที่มาของพฤติกรรมนี้ครับ แนวคิดหนึ่งที่ได้รับการยอมรับก็คือ การจูบนั้นเริ่มจากการใช้ปากป้อนอาหารของบรรดาแม่ๆทั้งหลายให้กับลูกๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ต่างๆเช่น นก สุนัข แมว รวมไปถึงลิงครับ ในกรณีของสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม พฤติกรรมการป้อนอาหารที่เคี้ยวแล้วของแม่ๆทั้งหลาย เป็นการให้สารอาหารเสริมที่ไม่มีในนม แถมยังเป็นการส่งต่อภูมิคุ้มกันจากแม่ไปยังลูกน้อยอีกด้วย พฤติกรรมการป้อนอาหารด้วยปากนี้เอง ทำให้สัตว์หลายชนิด"ผูกพันธ์"กับความรู้สึกของปากที่สัมผัสกับปาก

เรื่อยมาจนถึงสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาเช่นมนุษย์ พฤติกรรมการป้อนอาหารที่เคี้ยวแล้วให้ลูกน้อยด้วยปากก็มีมาก่อนที่อาหารสำหรับทารกจะแพร่หลายครับ การเคี้ยวอาหารของแม่จะช่วยย่อยอาหารนั้นๆทั้งจากการบดของฟันและเอ็นไซม์ในน้ำลายของแม่ ซึ่งจะทำให้ลูกน้อยดูดซึมสารอาหารได้ง่ายขึ้น เพราะในระยะแรกๆเด็กทารกจะยังไม่มีเอนไซม์ครบเหมือนผู้ใหญ่ ดังนั้นการฝังใจและรู้สึกผูกพันกับการสัมผัสริมฝีปากด้วยริมฝีปากก็ติดเรามาแต่นั้นครับ

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่คนเรามีแนวโน้มจะแสดงความรักผ่านทางริมฝีปาก และรู้สึกดีที่ได้รับการแสดงความรักผ่านริมฝีปากเช่นกัน... ต่อมาเมื่อเรามีพฤติกรรมการจูบกันเกิดขึ้นแล้ว การจูบยังเป็นการส่งผ่านข้อมูลที่ร่างกายรับรู้ได้อัตโนมัติอีกด้วยครับ ข้อมูลที่ว่านี้ก็คือสารเคมีต่างๆที่ผ่านมาทางน้ำลายนั่นเอง(อย่าเพิ่งยี้ครับ ลองถามคนที่มีประสบการณ์ ร้อยทั้งร้อยไม่เห็นจะยี้... เนาะ!) สารเคมีที่มากับน้ำลายนี้ก็ได้แก่ ฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งพอเราได้รับมาแล้ว ก็จะแปลความหมายได้อัตโนมัติ(และอยู่เหนือการควบคุมของจิตสำนึก)ว่า อีกฝ่ายนั้นเหมาะสมที่จะจับคู่กับเราหรือไม่ และการเลือกผ่านจิตใต้สำนึกนี้เองก็มักจะถูกอย่างน่าประหลาด(เพราะไม่เอาความชอบและอารมณ์เข้าไปตัดสินมากนัก) ดังนั้นมนุษย์ที่ชอบการจูบจึงมีแนวโน้มจะส่งต่อสายพันธุ์ที่แข็งแรงเพราะตัดสินใจเลือกจับคู่ได้ถูกคน และความชอบในพฤติกรรมการจูบก็ถูกส่งต่อมาด้วย นานเข้า นานเข้า... เราทั้งหลายที่เหลือรอดอยู่ ก็มีพฤติกรรมการจูบติดตัวมาเช่นที่เห็นนี้นั่นเองครับ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Never Kiss anyone? Question, will this play wam ... For those who've experienced would be explained more than Kiss, good sense? ... But that ... Then it arrived here. The behaviour of this mesh mouth removed it starts to happen?

imagine a time unknown to the first pair of female Kiss. The behavior to remove witnesses to post to one another it will remove a fearsome question ... Then we thought it over and over and began to kiss each other ... There are several theories that attempt to explain the origin of this behaviour. One concept that has been accepted, it is to kiss them, starting from the mouth of food entered all mae, as well as children with animals such as birds, cats, dogs. In the case of animals, mammals Chewing food and then entering the behaviour of various substances as mae supplement without dairy in transit as the immunity from the mother to the baby. Many types of animals, "bound" with the feeling of lips touch the mouth
.
Takes up until the creature God wisdom, such as humans. Chew food input behavior and then give the ball a little harder before, with food for babies is widespread. That will make the ball less absorption of nutrients. Because in the early stage, the baby is not yet fully adult-like enzymes. Therefore, embedding and felt lips touch contingent with lips, next to us, but then I
.
So it's not surprising that people are more likely to show love through their lips and feel good has been shown love through the labia as well ... Later, when we have the habits, Kiss each other. Kiss still is a transmission that automatically recognize the body. The information that this is a different chemical substances through saliva exerted (don't just yi. A hundred and a hundred no yi... No!) The chemicals with this hormone, saliva, which we inherited, then it will be automatically interpreted (and beyond the control of the consciousness) that the other end is paired with us? Therefore, humans prefer to kiss, it is likely to pass a strong breed, because deciding match has been people and passion in kissing habits was forwarded coming. Full access for a long time.We all survive, along with the kissing habits, such as this, be sure to see it.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เคยจูบใครไหมครับ? ถามกันให้หวามใจเล่นแบบนี้แหละ... กับคนที่เคยมีประสบการณ์คงไม่ต้องอธิบายมากว่าจูบนั้นให้ความรู้สึกดียังไง... แต่ว่า... แล้วมันมาถึงตรงนี้ได้ยังไง พฤติกรรมที่เอาปากประกบกันนี้มันเริ่มเกิดขึ้นได้ยังไง?

ลองนึกถึงครั้งที่ชายหญิงคู่แรกยังไม่รู้จักการจูบ พฤติกรรมการเอาปากไปแปะกับอีกคนหนึ่งมันคงออกจะพิลึกเอาการอยู่... แล้วเรานึกยังไงเล่าถึงได้เริ่มจูบกัน... มีหลายทฤษฎีที่พยายามจะอธิบายที่มาของพฤติกรรมนี้ครับ แนวคิดหนึ่งที่ได้รับการยอมรับก็คือ การจูบนั้นเริ่มจากการใช้ปากป้อนอาหารของบรรดาแม่ๆทั้งหลายให้กับลูกๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ต่างๆเช่น นก สุนัข แมว รวมไปถึงลิงครับ ในกรณีของสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม พฤติกรรมการป้อนอาหารที่เคี้ยวแล้วของแม่ๆทั้งหลาย เป็นการให้สารอาหารเสริมที่ไม่มีในนม แถมยังเป็นการส่งต่อภูมิคุ้มกันจากแม่ไปยังลูกน้อยอีกด้วย พฤติกรรมการป้อนอาหารด้วยปากนี้เอง ทำให้สัตว์หลายชนิด"ผูกพันธ์"กับความรู้สึกของปากที่สัมผัสกับปาก

เรื่อยมาจนถึงสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาเช่นมนุษย์ พฤติกรรมการป้อนอาหารที่เคี้ยวแล้วให้ลูกน้อยด้วยปากก็มีมาก่อนที่อาหารสำหรับทารกจะแพร่หลายครับ การเคี้ยวอาหารของแม่จะช่วยย่อยอาหารนั้นๆทั้งจากการบดของฟันและเอ็นไซม์ในน้ำลายของแม่ ซึ่งจะทำให้ลูกน้อยดูดซึมสารอาหารได้ง่ายขึ้น เพราะในระยะแรกๆเด็กทารกจะยังไม่มีเอนไซม์ครบเหมือนผู้ใหญ่ ดังนั้นการฝังใจและรู้สึกผูกพันกับการสัมผัสริมฝีปากด้วยริมฝีปากก็ติดเรามาแต่นั้นครับ

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่คนเรามีแนวโน้มจะแสดงความรักผ่านทางริมฝีปาก และรู้สึกดีที่ได้รับการแสดงความรักผ่านริมฝีปากเช่นกัน... ต่อมาเมื่อเรามีพฤติกรรมการจูบกันเกิดขึ้นแล้ว การจูบยังเป็นการส่งผ่านข้อมูลที่ร่างกายรับรู้ได้อัตโนมัติอีกด้วยครับ ข้อมูลที่ว่านี้ก็คือสารเคมีต่างๆที่ผ่านมาทางน้ำลายนั่นเอง(อย่าเพิ่งยี้ครับ ลองถามคนที่มีประสบการณ์ ร้อยทั้งร้อยไม่เห็นจะยี้... เนาะ!) สารเคมีที่มากับน้ำลายนี้ก็ได้แก่ ฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งพอเราได้รับมาแล้ว ก็จะแปลความหมายได้อัตโนมัติ(และอยู่เหนือการควบคุมของจิตสำนึก)ว่า อีกฝ่ายนั้นเหมาะสมที่จะจับคู่กับเราหรือไม่ และการเลือกผ่านจิตใต้สำนึกนี้เองก็มักจะถูกอย่างน่าประหลาด(เพราะไม่เอาความชอบและอารมณ์เข้าไปตัดสินมากนัก) ดังนั้นมนุษย์ที่ชอบการจูบจึงมีแนวโน้มจะส่งต่อสายพันธุ์ที่แข็งแรงเพราะตัดสินใจเลือกจับคู่ได้ถูกคน และความชอบในพฤติกรรมการจูบก็ถูกส่งต่อมาด้วย นานเข้า นานเข้า... เราทั้งหลายที่เหลือรอดอยู่ ก็มีพฤติกรรมการจูบติดตัวมาเช่นที่เห็นนี้นั่นเองครับ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Have you kissed? Asked to thrill heart play like that...? With people who have experienced wouldn't be much to explain that the kiss that feeling... But..Then it comes to here? Behavior that took the lips against this it started happening?

and try to think of the first couple still don't know the kiss Put your behavior on with one another it is weird pretty..And we sense? Have started to kiss..There are many theories that try to explain the origin of this behavior One idea that has been recognized is A kiss that start from the mouth of all mothers with feeding their children Whether the various animals such as birds, dogs and catsIn the case of the animals, mammals Feeding behavior that chew of mothers A nutrient supplement without milk Also, a forward immunity from mother to babyMake many kinds of animals. "" "connection" with a sense of touch and the mouth mouth

U.S. beings wisdom like a human Feeding behavior that chew and baby with your mouth there before food for infants are prevalentWhich will make the baby absorb nutrients more easily Because early infant has not fully enzymes like an adult So impressed and felt bound to touching the lips lips is stuck us but that

so it is not surprising that people tend to show the love through the lips And I feel that love has been shown through the lips as well..And it came to pass, when we kiss behavior happened A kiss is a data transmission body to recognize automatically The information that this is various chemicals past saliva itself (don't foulAll in all, no foul... come onChemicals that came with this saliva) to various hormones, which when we get here It will interpret it automatically (and beyond the control of consciousness) The other is suitable to match with us or notSo human like kissing tends to forward a strong breed because decide pair has been people And love in kisses behavior was forwarded by a long time, for a long time... we will survive Have a kiss on her behavior such as see this itself
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: