Marketing Intermediaries – คนกลางทา

Marketing Intermediaries – คนกลางทางการตลาด : มีหลายกลุ่มเช่น พ่อค้าคนกลาง (ค้าปลีก,ค้าส่ง), บริษัทกระจายและขนส่งสินค้า, คนกลางทางการเงิน ซึ่งกลุ่มเหล่านี้จะเป็นตัวกลางระหว่างบริษัทของเรากับผู้บริโภค ซึ่งต่อให้เราสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้มากมาย แต่เราไม่มีคนกลางในการนำผลิตภัณฑ์ของเราไปส่งต่อให้กับผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์ของเราก็ไม่มีทางขายได้ เช่น บริษัทของเราผลิตเงาะกระป๋องออกมาและส่งไปขายที่ห้างเทสโก้โลตัส อยู่มาวันหนึ่งเทสโก้โลตัสบอกว่าจะไม่รับเงาะกระป๋องของเราไปขายอีกต่อไป แบบนี้เราก็แย่แน่นอน
3. Customer – ผู้บริโภค : แน่นอนว่าปลายทางของผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการให้ไปถึงนั่นคือ กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมายของเรา ซึ่งถ้าวันดีคืนดีพวกเขาเหล่านี้ต่อต้านผลิตภัณฑ์ของเรา และไม่ยอมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา ก็จะส่งผลกระทบต่อบริษัทของเราโดยตรง
4. Competitors – คู่แข่ง : คู่แข่งนั้นคือ ร่างก็อปปี้ของเรา ไม่ว่ากระบวนการของเราจะเป็นอย่างไร คู่แข่งก็จะมีกระบวนการที่คล้ายกัน เช่น รับวัตถุดิบจากแหล่งเดียวกัน ส่งให้พ่อค้าคนกลางคนเดียวกัน กลุ่มผู้บริโภคกลุ่มเดียวกัน แต่คนละแบรนด์กับเรา นั่นจะทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของเราถูกแบ่งไปสู่คู่แข่งในทันที ซึ่งคู่แข่งนั้นมี 2 ประเภทคือ คู่แข่งทางตรง คือ คู่แข่งที่มีผลิตภัณฑ์อยู่ในกลุ่มเดียวกับเรา เช่น บริษัทเราผลิตยาสีฟันกลิ่นมะม่วง แต่คู่แข่งเราผลิตยาสีฟันกลิ่นกล้วย พอลงสู่ตลาด ก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ยาสีฟัน ซึ่งก็จะเป็นคู่แข่งกับเราโดยตรง ส่วนคู่แข่งประเภทที่ 2 นั้นคือ คู่แข่งทางอ้อม คือ คู่แข่งที่มีผลิตภัณฑ์คนละกลุ่มกับเรา ซึ่งอาจจะเป็นสินค้าทดแทนก็ได้ เช่น หากลูกค้าต้องการจะซื้อโน๊ตบุ๊คสักเครื่องหนึ่ง แต่ปรากฏว่าราคาสูงเกินไป ลูกค้าอาจจะเปลี่ยนใจไปซื้อคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแทน ซึ่งเป็นการซื้อสินค้ามาเพื่อทดแทน หรือ กรณีที่ลูกค้าอยากดื่มโคล่า แต่ในร้านไม่มีขาย ลูกค้าอาจจะเลือกดื่มน้ำอัดลมชนิดอื่นแทน เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ทุกๆ บริษัทก็จะเป็นคู่แข่งทางอ้อมกับบริษัทของเราอยู่แล้ว เช่น บริษัทของเราผลิตข้าวมันไก่ แต่บริษัทคู่แข่งผลิตสปาเก็ตตี้ ซึ่งดูเหมือนเป็นผลิตภัณฑ์คนละกลุ่ม คนละสไตล์กัน แต่ลองจินตนาการว่าในเที่ยงวันหนึ่ง ถ้าคุณเดินเข้าไปซื้อข้าวมันไก่แล้ว คุณจะยังคงซื้อสปาเก็ตตี้หรือไม่ ซึ่งก็คงจะไม่ซื้อ (ซื้อมาทำไมตั้ง 2 อย่าง) ซึ่งนั่นถือเป็นการแย่งตลาดด้วยเช่นกัน

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Marketing Intermediaries – who in the middle of the market: there are several middlemen (wholesalers, retailers), Distribution and transport company, were in the middle of the financial, which of these groups is an intermediary between a company of us consumers. Which, we are able to produce many different products, but we don't have a middle man in order to bring our products to pass to consumers. Our products, there is no way to sell our company such as Rambutan and send to Tesco Lotus. Day one of the Tesco Lotus said that will not be our selling Rambutan anymore. This way, we are certainly worse.3. Customer – consumer: of course, the destination of the products that we want to reach, that is, the consumer group that is our goal. If the day propitious them against our products and not use any of our products, it will affect our company directly.4. Competitors – คู่แข่ง : คู่แข่งนั้นคือ ร่างก็อปปี้ของเรา ไม่ว่ากระบวนการของเราจะเป็นอย่างไร คู่แข่งก็จะมีกระบวนการที่คล้ายกัน เช่น รับวัตถุดิบจากแหล่งเดียวกัน ส่งให้พ่อค้าคนกลางคนเดียวกัน กลุ่มผู้บริโภคกลุ่มเดียวกัน แต่คนละแบรนด์กับเรา นั่นจะทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของเราถูกแบ่งไปสู่คู่แข่งในทันที ซึ่งคู่แข่งนั้นมี 2 ประเภทคือ คู่แข่งทางตรง คือ คู่แข่งที่มีผลิตภัณฑ์อยู่ในกลุ่มเดียวกับเรา เช่น บริษัทเราผลิตยาสีฟันกลิ่นมะม่วง แต่คู่แข่งเราผลิตยาสีฟันกลิ่นกล้วย พอลงสู่ตลาด ก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ยาสีฟัน ซึ่งก็จะเป็นคู่แข่งกับเราโดยตรง ส่วนคู่แข่งประเภทที่ 2 นั้นคือ คู่แข่งทางอ้อม คือ คู่แข่งที่มีผลิตภัณฑ์คนละกลุ่มกับเรา ซึ่งอาจจะเป็นสินค้าทดแทนก็ได้ เช่น หากลูกค้าต้องการจะซื้อโน๊ตบุ๊คสักเครื่องหนึ่ง แต่ปรากฏว่าราคาสูงเกินไป ลูกค้าอาจจะเปลี่ยนใจไปซื้อคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแทน ซึ่งเป็นการซื้อสินค้ามาเพื่อทดแทน หรือ กรณีที่ลูกค้าอยากดื่มโคล่า แต่ในร้านไม่มีขาย ลูกค้าอาจจะเลือกดื่มน้ำอัดลมชนิดอื่นแทน เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ทุกๆ บริษัทก็จะเป็นคู่แข่งทางอ้อมกับบริษัทของเราอยู่แล้ว เช่น บริษัทของเราผลิตข้าวมันไก่ แต่บริษัทคู่แข่งผลิตสปาเก็ตตี้ ซึ่งดูเหมือนเป็นผลิตภัณฑ์คนละกลุ่ม คนละสไตล์กัน แต่ลองจินตนาการว่าในเที่ยงวันหนึ่ง ถ้าคุณเดินเข้าไปซื้อข้าวมันไก่แล้ว คุณจะยังคงซื้อสปาเก็ตตี้หรือไม่ ซึ่งก็คงจะไม่ซื้อ (ซื้อมาทำไมตั้ง 2 อย่าง) ซึ่งนั่นถือเป็นการแย่งตลาดด้วยเช่นกัน

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Marketing Intermediaries - Marketing Intermediaries: there are many groups such as the middleman (wholesale, retail), a distribution company and freight.Financial intermediary Which these groups will as an intermediary between our company and consumers. That even if we can produce various products. A lot, but we have no middleman in the products of us forward to consumers.As our company produces canned rambutan out and sold the mall, Tesco lotus. One day, Tesco lotus said he will not accept our canned rambutan sold anymore. We are แย่แน่นอน
.3. Customer - Consumer:Of course, the destination of the products that we want to go to that is The consumer is our goal. If a propitious day them against our products. And don't choose to use our products.4. Competitors - competitor:Competition is a copy of our body. No matter our process will be. Competitors have a similar process, such as getting raw materials from the same source. Send middleman is identical. Consumer groups in the same group.That our market share is divided into rival immediately, which rivals are 2 type is a direct competitor is rivals with products in the same group as us. Companies such as we produce toothpaste mango flavour.Once into the market, will be products in the group, toothpaste, which is a competitor to us directly the competitors type 2 is indirect competitors. Products with different groups is rivals with us. Which may be a substitute goods, such asHowever, it appears that the price is too high. Customers might be to buy a desktop computer. Which is the buying goods to replace or if the customer want to drink cola, but in the shop is not for sale, customers may choose another type of soft drinks instead.Most of which every The company will be the indirect competitors to our company. Our company produce, such as rice But rival companies produce spaghetti. Which looks like a different product group've got different styles.If you walk in to buy chicken rice. Will you still buy spaghetti? Which would not buy (buy here set 2 like). And that is to take the market as well
.