บุคคลสำคัญของประเทศมาเลเซียดร.มหาเธ

บุคคลสำคัญของประเทศมาเลเซีย
ดร.มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (Dr.Mahathir bin Mohamad)
นายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด เป็นผู้วางรากฐานพัฒนาประเทศในรูปแบบของแผนพัฒนาประเทศที่มีชื่อว่า VISION 2020 ซึ่งเป็นผู้นำมาเลเซียสู่ความเจริญทัดเทียมนานาประเทศ
มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของประเทศมาเลเซีย
ประวัติ
มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (ยาวี: محضير بن محمد อังกฤษ: Mahathir bin Mohamad) เกิดที่รัฐเกดะห์ วันที่ 10 กรกฎาคม เมื่อปี พ.ศ. 2468 เป็นหนึ่งใน 4 ขอนายกรัฐมนตรีที่มีชื่อเสียงของมาเลเซีย ภายใต้พรรครัฐบาลที่เขาจัดตั้งขึ้นรวมระยะเวลาทั้งสิ้น 22 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 จนถึงปี 2546 ทำให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียที่อยู่ในวาระที่นานที่สุด เขา จบแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมาลายา ประเทศสิงคโปร์ เมื่อ พ.ศ. 2498ทำงานเป็นหมอได้ 2 ปี ก่อนลาออกจากราชการ สมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐบ้านเกิด เป็น ส.ส. อยู่ 14 ปี ก่อนที่จะเข้าสู่รัฐสภาในปี พ.ศ. 2507 เขาทำหน้าที่อยู่ระยะนึงก่อนที่จะสูญเสียตำแหน่ง ส.ส ที่บ้านเกิดของเขาเอง หลังจากนั้น มหาเธร์ก็ถูกไล่ออกจากพรรคพันธมิตรอัมโน (UMNO) เมื่อ พ.ศ. 2512 เมื่อนายก อับดุล ราซะก์ เข้ารับตำแหน่ง แล้วกลับมาในพรรค อัมโน อีกครั้ง หลังจากที่ อับดุล ราซะก์ ลาออก และหลังจากนั้นก็ได้รับเลื่อนตำแหน่งให้เป็น คณะรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2519 และต่อมาก็ได้รับเลือกให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และต่อมาในปี พ.ศ. 2524 มหาเธร์ก็ได้เข้าพิธีสาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย หลังจากการลาออกของ ฮุซเซน อน ถือเป็นการเปิดฉากเริ่มต้นการเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งที่นานที่สุดของ มาเลเซีย
ตลอดระยะการทำงานเป็นนายกรัฐมนตรีของ มหาเธร์ มาเลเซียเป็นประเทศที่มี อัตราการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจ สูงจนหน้าจับตาของโลก

ตนกู อับดุล ราห์มาน (Tunku Abdul Rahman)
ผู้นำมาเลเซียไปสู่เอกราชและเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศ ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาของประเทศ (Bapa of Malaysia)


ตนกู อับดุล ราห์มาน
นายกรัฐมนตรีคนแรก ของประเทศมาเลเซีย
ผู้นำการเรียกร้องเอกราชให้แก่ประเทศมาเลเซีย
ได้รับยกย่องเป็นบิดาแห่งประเทศมาเลเซียหรือ PaPa of Malaysia
ประวัติ
ตนกู อับดุล ราห์มัน เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 ที่วังอิสตานาเปอลามิน (Istana Pelamin) เมืองอลอร์สตาร์ รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในขณะนั้นยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร เป็นบุตรของเจ้าพระยาไทรบุรี (อับดุลฮามิด) (เจ้าพระยาฤทธิสงคราม)[1] สุลต่านองค์ที่ 24 แห่งรัฐเกดะห์ กับหม่อมมารดาชาวไทยนามว่า หม่อมเนื่อง นนทนาคร[2] หรือมะเจ๊ะเนื่อง หรืออีกชื่อว่า ปะดูกา ซรี เจ๊ะเมินยาราลา (Paduka Seri Cik Menjalara) ชายาองค์ที่ 6 ของท่านสุลต่าน ซึ่งเป็นบุตรีของหลวงบุรานุรักษ์ เจ้าเมืองนนทบุรีในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยตนกู อับดุล ราห์มันเป็นลูกชายคนที่ 14 จากบรรดาลูก 20 คนของสุลต่านอับดุลฮามิด
ตนกู อับดุล ราห์มัน มีพระเชษฐาร่วมพระมารดาคือ ร้อยเอกตนกู ยูซุฟ (รับราชการในกรมตำรวจ) เพื่อนสนิทของเจ้าคุณอนุสาสน์พณิชย์การ

ประวัติการศึกษา
เมื่อปี พ.ศ. 2452 (ค.ศ. 1909) ตนกู อับดุล ราห์มัน ได้เข้าศึกษาในชั้นประถมมาเลย์ (Malay Primary School) ที่ถนนบาฮารู (Jalan Baharu) ในเมืองอลอร์สตาร์ ประเทศมาเลเซีย ต่อด้วยเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนในปกครองของอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันเป็นวิทยาลัยสุลต่านอับดุลฮามิด
ท่านตนกู อับดุล ราห์มาน ท่านเป็นนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ในปี พ.ศ. 2456 ขณะที่มีอายุ เพียง 10 ขวบ ถูกส่งตัวมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับพี่ชายของเขาอีก 3 คน ท่านเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นและเพื่อนสนิท คือ ถวิล คุปตารักษ์ หรือหลวงถวิลเศรษฐพาณิช เรียนอยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ 2 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2456-2458 ต่อมาปี พ.ศ. 2458 เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนปีนังฟรีสกูล(Penang Free School)
ปี พ.ศ. 2461 ท่านเป็นนักเรียนคนแรกที่ได้ทุนจากรัฐบาลของรัฐเกดะห์ ที่ไปศึกษาในสหราชอาณาจักร ไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยเซนต์แคทรีน (St Catharine's College) ในมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ และได้รับปริญญาบัณฑิตสาขาศิลปศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1925
หลังจากกลับมาจากอังกฤษทำงานอยู๋ช่วงเวลาหนึ่ง ได้เดินทางไปศึกษาวิชากฎหมายต่อ ที่ Inner Temple ที่ประเทศอังกฤษ แต่ต้องหยุดเรียน ในปี ค.ศ. 1938 เนื่องจากช่วงนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2ขึ้น ทำให้เขาต้องหยุดเรียนและกลับมาที่มาเลเซีย หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ในปี ค.ศ. 1947 จึงกลับไปศึกษาที่ Inner Temple อีก และจบการศึกษาในปี ค.ศ. 1949
ประวัติการทำงาน
หลังจบการศึกษาอับดุลราห์มานเข้ารับราชการในเกดะห์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองที่เขตกูลิม (Kulim) และ สุไหงปตานี (Sungai Petani) ในอาณานิคมของสหราชอาณาจักร ได้รับเลือกให้เป็นประธานของสมาคมมาเลย์ของสหราชอาณาจักร (the Malay Society of Great Britain)
ปี ค.ศ. 1949 ในช่วงแรกของอาชีพนักการเมือง เขาได้เข้ารับงานราชการเป็นที่แรกที่สำนักงานกฎหมายของเมืองอลอร์สตาร์ ต่อมาเมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นอัยการก็มีคำสั่งให้ย้ายไปประจำที่ กัวลาลัมเปอร์ และหลังจากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานศาล ในช่วงเวลานั้นได้มีกลุ่มลัทธิชาตินิยมในมาเลย์ ในการต่อต้านสหภาพมาลายาของอังกฤษ (Britain's Malayan Union) นำโดย ดาโต๊ะอันจาฟาร์ (Datuk Onn Jaafar) นักการเมืองของมาเลเซียที่เป็นผู้นำขององค์การประชาชาติมาเลเซียหรือพรรคแนวร่วมแห่งสหพันธ์มลายา (UMNO ที่เป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ในมาเลเซีย) และท่านตนกู อับดุล ราห์มาน ได้สมัครเข้าร่วมกับพรรคอัมโน (UMNO) ท่านเป็นนักการเมืองเชื้อสายชาวมาเลย์ที่ได้รับความนิยมและยอมรับจนได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าสาขาของพรรคอัมโนในรัฐเกดะห์
เดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 1951 เกิดวิกฤตทางการเมืองขึ้นได้รับเลือกให้เป็นประธานพรรคแนวร่วมแห่งสหพันธ์มาลายา (UMNO) คนใหม่และดำรงตำแหน่งเป็นเวลานานถึง 20 ปี และ จนในปี ค.ศ.1954 เป็นตัวแทนคณะผู้แทนเจรจาขอเอกราชมาเลเซียคืนจากสหราชอาณาจักร
ปี ค.ศ. 1955 มีการเลือกตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก พรรคชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากแบบถล่มทลายในสภา ท่านได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเซีย นับเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1957 จนถึง22 กันยายน ค.ศ. 1970 และหลังชัยชนะจากการเลือกตั้งท่านยังรณรงค์ต่อสู่เรียกร้อ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Portrait of MalaysiaDr. Mohammed Mahathe fly (Dr.Mahathir Mohamad bin). Prime Minister, 4th longest tenure as foundations, developing countries in the form of country development plan called VISION 2020, which is leading Malaysia into the prosperous international flair.Maha Mohammed flew the former Prime Minister and Minister of the Ministry of the Interior of the country, Malaysia.Historyมหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (ยาวี: محضير بن محمد อังกฤษ: Mahathir bin Mohamad) เกิดที่รัฐเกดะห์ วันที่ 10 กรกฎาคม เมื่อปี พ.ศ. 2468 เป็นหนึ่งใน 4 ขอนายกรัฐมนตรีที่มีชื่อเสียงของมาเลเซีย ภายใต้พรรครัฐบาลที่เขาจัดตั้งขึ้นรวมระยะเวลาทั้งสิ้น 22 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 จนถึงปี 2546 ทำให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียที่อยู่ในวาระที่นานที่สุด เขา จบแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมาลายา ประเทศสิงคโปร์ เมื่อ พ.ศ. 2498ทำงานเป็นหมอได้ 2 ปี ก่อนลาออกจากราชการ สมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐบ้านเกิด เป็น ส.ส. อยู่ 14 ปี ก่อนที่จะเข้าสู่รัฐสภาในปี พ.ศ. 2507 เขาทำหน้าที่อยู่ระยะนึงก่อนที่จะสูญเสียตำแหน่ง ส.ส ที่บ้านเกิดของเขาเอง หลังจากนั้น มหาเธร์ก็ถูกไล่ออกจากพรรคพันธมิตรอัมโน (UMNO) เมื่อ พ.ศ. 2512 เมื่อนายก อับดุล ราซะก์ เข้ารับตำแหน่ง แล้วกลับมาในพรรค อัมโน อีกครั้ง หลังจากที่ อับดุล ราซะก์ ลาออก และหลังจากนั้นก็ได้รับเลื่อนตำแหน่งให้เป็น คณะรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2519 และต่อมาก็ได้รับเลือกให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และต่อมาในปี พ.ศ. 2524 มหาเธร์ก็ได้เข้าพิธีสาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย หลังจากการลาออกของ ฮุซเซน อน ถือเป็นการเปิดฉากเริ่มต้นการเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งที่นานที่สุดของ มาเลเซีย Throughout the work, as the Prime Minister of the University Press. Malaysia is a country with high economic growth until the world's eyes. Their Curie Sarah Abdullah (Tunku Abdul Rahman). Leader of Malaysia towards independence, and it is the first Prime Minister of the country. Is regarded as the father of the nation (of Bapa Malaysia). Their Gu Abdul Sarah edema.The country's first Prime Minister, MalaysiaLeader of independence give to country MalaysiaGet recognized as father of the country of Malaysia, or PaPa Malaysia.Historyตนกู อับดุล ราห์มัน เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 ที่วังอิสตานาเปอลามิน (Istana Pelamin) เมืองอลอร์สตาร์ รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในขณะนั้นยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร เป็นบุตรของเจ้าพระยาไทรบุรี (อับดุลฮามิด) (เจ้าพระยาฤทธิสงคราม)[1] สุลต่านองค์ที่ 24 แห่งรัฐเกดะห์ กับหม่อมมารดาชาวไทยนามว่า หม่อมเนื่อง นนทนาคร[2] หรือมะเจ๊ะเนื่อง หรืออีกชื่อว่า ปะดูกา ซรี เจ๊ะเมินยาราลา (Paduka Seri Cik Menjalara) ชายาองค์ที่ 6 ของท่านสุลต่าน ซึ่งเป็นบุตรีของหลวงบุรานุรักษ์ เจ้าเมืองนนทบุรีในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยตนกู อับดุล ราห์มันเป็นลูกชายคนที่ 14 จากบรรดาลูก 20 คนของสุลต่านอับดุลฮามิดตนกู อับดุล ราห์มัน มีพระเชษฐาร่วมพระมารดาคือ ร้อยเอกตนกู ยูซุฟ (รับราชการในกรมตำรวจ) เพื่อนสนิทของเจ้าคุณอนุสาสน์พณิชย์การประวัติการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2452 (ค.ศ. 1909) ตนกู อับดุล ราห์มัน ได้เข้าศึกษาในชั้นประถมมาเลย์ (Malay Primary School) ที่ถนนบาฮารู (Jalan Baharu) ในเมืองอลอร์สตาร์ ประเทศมาเลเซีย ต่อด้วยเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนในปกครองของอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันเป็นวิทยาลัยสุลต่านอับดุลฮามิดท่านตนกู อับดุล ราห์มาน ท่านเป็นนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ในปี พ.ศ. 2456 ขณะที่มีอายุ เพียง 10 ขวบ ถูกส่งตัวมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับพี่ชายของเขาอีก 3 คน ท่านเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นและเพื่อนสนิท คือ ถวิล คุปตารักษ์ หรือหลวงถวิลเศรษฐพาณิช เรียนอยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ 2 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2456-2458 ต่อมาปี พ.ศ. 2458 เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนปีนังฟรีสกูล(Penang Free School)ปี พ.ศ. 2461 ท่านเป็นนักเรียนคนแรกที่ได้ทุนจากรัฐบาลของรัฐเกดะห์ ที่ไปศึกษาในสหราชอาณาจักร ไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยเซนต์แคทรีน (St Catharine's College) ในมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ และได้รับปริญญาบัณฑิตสาขาศิลปศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1925หลังจากกลับมาจากอังกฤษทำงานอยู๋ช่วงเวลาหนึ่ง ได้เดินทางไปศึกษาวิชากฎหมายต่อ ที่ Inner Temple ที่ประเทศอังกฤษ แต่ต้องหยุดเรียน ในปี ค.ศ. 1938 เนื่องจากช่วงนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2ขึ้น ทำให้เขาต้องหยุดเรียนและกลับมาที่มาเลเซีย หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ในปี ค.ศ. 1947 จึงกลับไปศึกษาที่ Inner Temple อีก และจบการศึกษาในปี ค.ศ. 1949ประวัติการทำงานหลังจบการศึกษาอับดุลราห์มานเข้ารับราชการในเกดะห์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองที่เขตกูลิม (Kulim) และ สุไหงปตานี (Sungai Petani) ในอาณานิคมของสหราชอาณาจักร ได้รับเลือกให้เป็นประธานของสมาคมมาเลย์ของสหราชอาณาจักร (the Malay Society of Great Britain)ปี ค.ศ. 1949 ในช่วงแรกของอาชีพนักการเมือง เขาได้เข้ารับงานราชการเป็นที่แรกที่สำนักงานกฎหมายของเมืองอลอร์สตาร์ ต่อมาเมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นอัยการก็มีคำสั่งให้ย้ายไปประจำที่ กัวลาลัมเปอร์ และหลังจากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานศาล ในช่วงเวลานั้นได้มีกลุ่มลัทธิชาตินิยมในมาเลย์ ในการต่อต้านสหภาพมาลายาของอังกฤษ (Britain's Malayan Union) นำโดย ดาโต๊ะอันจาฟาร์ (Datuk Onn Jaafar) นักการเมืองของมาเลเซียที่เป็นผู้นำขององค์การประชาชาติมาเลเซียหรือพรรคแนวร่วมแห่งสหพันธ์มลายา (UMNO ที่เป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ในมาเลเซีย) และท่านตนกู อับดุล ราห์มาน ได้สมัครเข้าร่วมกับพรรคอัมโน (UMNO) ท่านเป็นนักการเมืองเชื้อสายชาวมาเลย์ที่ได้รับความนิยมและยอมรับจนได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าสาขาของพรรคอัมโนในรัฐเกดะห์เดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 1951 เกิดวิกฤตทางการเมืองขึ้นได้รับเลือกให้เป็นประธานพรรคแนวร่วมแห่งสหพันธ์มาลายา (UMNO) คนใหม่และดำรงตำแหน่งเป็นเวลานานถึง 20 ปี และ จนในปี ค.ศ.1954 เป็นตัวแทนคณะผู้แทนเจรจาขอเอกราชมาเลเซียคืนจากสหราชอาณาจักร
ปี ค.ศ. 1955 มีการเลือกตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก พรรคชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากแบบถล่มทลายในสภา ท่านได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเซีย นับเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1957 จนถึง22 กันยายน ค.ศ. 1970 และหลังชัยชนะจากการเลือกตั้งท่านยังรณรงค์ต่อสู่เรียกร้อ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Key people of Malaysia,
Dr. Mahathir Bin Mohammad (Dr.Mahathir bin Mohamad)
Prime Minister 4th longest tenure. The foundation developed countries in the form of a development plan called VISION 2020, which is leading Malaysia towards prosperity par with other countries
Mahathir bin Mohamad, former Prime Minister and Interior Minister of Malaysia
history
Mahathir bin Mohamad. (Jawi: محضير بن محمد English: Mahathir bin Mohamad) was born in Kedah on July 10 , when the year 2468 is one of four highly reputable prime minister of Malaysia. Under the Conservative government, he established a total period of 22 years from 2524 until 2546 he was made prime minister of Malaysia in the long term, he received his MD from the University of Malaya. Singapore in 2498 to work as a doctor for two years before resigning from service. Subscribe to the state House of Representatives Homeland is an MP for 14 years before entering Parliament in 2507, he served one term before losing position. In the house of his birth. after that Mahathir was expelled from the ruling party United Malays National Organisation Alliance (UMNO) was established in 2512 when Prime Minister Abdul Razak Hussein inauguration. Then back in UMNO after Abdul Razak Hussein resigned and later was promoted to. Cabinet in 2519 and was later elected to the vice chancellor and later, in 2524 Mahathir was sworn in as Prime Minister of Malaysia. Following the resignation of Hussein before an initial opening of a premier position in Malaysia's longest serving
prime minister throughout the work of Mahathir of Malaysia as a nation. High rates of economic growth until the world caught

its loan Abdul Rahman (Tunku Abdul Rahman)
leading to the independence of Malaysia and the first Prime Minister of the country. Recognized as the father of the nation (Bapa of Malaysia)


that Abdul Rahman's
first prime minister. Malaysia
The leaders demanded independence for Malaysia.
Has been hailed as the father of PaPa of Malaysia or Malaysian
history
that I Abdulrahman was born on 8 February 2446, the palace Istana Perla Min (Istana Pelamin) in Alor Setar Kedah. Malaysia's Which at that time still under the rule of Great Britain. Chao was the son of Kedah (Abdul Hamid) (XVI Rittirong War) [1], the 24th Sultan of Kedah. Mom to Mom Mothers in Thailand known as the Boston Urban [2] or the Ma Che. Dugas, also known art Sree Rama la Che outage drugs (Paduka Seri Cik Menjalara) the wife of the sixth sultan. The daughter of Luang Bush's support conservation. The downtown in the reign of King Rama V by his Telugu Abdul Rahman son 14 from among the 20 members of the Sultan Abdul Hamid
their loan Abdulrahman it with my brother sharing his mother's captain. Yusuf's their (the police service), a close friend of Sir conservative message of Commerce.

Education
in BE 2452 (AD 1909), it's Abdul Rahman attended elementary Malay (Malay Primary School) Street Baja Room (Jalan Baharu) in the city of Alor Setar. Malaysia With admission to the schools of British rule. Currently the College of Sultan Abdul Hamid
Abdul Rahman's own all of your former students Debsirin in 2456 at the age of just 10 years old, was sent to study in Bangkok. Together with his brother, three other people are admitted to study at the High School. In Bangkok, Thailand, with a contemporary and close friend of Gupta green or royal Tawil Tawil Commerce Economics. Student at the High School two years until the year 2456 to 2458 years later in 2458 to study at the School of Penang Free School (Penang Free School)
in 2461 as a student first. a grant from the government of Kedah. A study in the UK. Go to College of St. Kathryn (St Catharine's College) at Cambridge University. And earned a Bachelor of Arts in 1925,
after his return from England, doing work over time. Went to study law at the Inner Temple, England. But the study was stopped in 1938 due to World War 2, it was up to him to stop and come back to Malaysia. After World War 2 ended in 1947 went to study at the Inner Temple, and graduated in 1949
resumes.
After graduating Abdul Rahman entered service in Kedah. And was appointed an Officer of the parent Kulim (Kulim) and the Sungai Patani (Sungai Petani) in a colony of Britain. Was chosen as president of the Malaysian Association of the UK (the Malay Society of Great Britain)
in 1949 At the beginning of his political career. He has been a governor at the law firm of Alor Setar. Later, when he was appointed as a prosecutor was ordered to relocate to. Kuala Lumpur And later was appointed to chair the tribunal. During that time, a group of Malay nationalism. In the anti-Malayan Union of England (Britain's Malayan Union) led by Dato's Jafar (Datuk Onn Jaafar) politicians Malaysia's leadership of the Organization nations, Malaysia or the alignment of the Federation of Malaya (UMNO as a party big. Malaysia) and its Telugu Abdul Rahman has joined with the United Malays National Organisation (UMNO) is a political lineage Malay popular and respected and has been appointed as head of UMNO in. Kedah
August 1951 political crisis has been chosen as president of the Federal Alliance Party of Malaya (UMNO) and new positions for up to 20 years, and until last year. Fri. 0.1954 represents the Malaysian delegation negotiating independence from Britain
in 1955 elections for the first time. The party won a landslide majority in the House. He has been chosen as the first prime minister of Malaysia. The official count from 31 August 1957 until 22 September 1970 and, after winning the election campaign will also continue to run hot.