"The meeting met?" I repeat the words and look in front of aunt Martha owned a dormitory for students, "but agreed, I have a single room is not a dude?""This remains the last room, if not remove this room did not have a goal, then?"I fell silent and looked at the key in hand. I have a quarrel with his father at all coming out alone. From the first, which is home to move to the College to University Hall ' with its many chuk lahuk. The dormitory is the only option because it also has a room available."But I don't like to live with someone else? ...""If this occurs, remove the room again, the price will decrease the agreed goal, right?""Discount?" I quit the brow that's totally a good deal after breaking up with at home. Funds available, I want to remove some used as deposit room. The money store had not been praying. If you have paid a price for it, they probably will help a lot. "The mail room's ... He is a Yes?""Don't mess with worry. Their world is not out to see wan high last month that saw the West nor mang "looks excellent!, I was totally like my privacy the same."And that's a price reduction this reduction, how much did lol." I asked smiling and courteous. Aunt Marta thamong in front of me before the big smile a little smile. This woman is the real me.“ก็...ถ้าเธอตกลงเอาห้องนี้ใช่มั้ย ป้าจะลดให้เหลือ...” ป้าบอกตัวเลขที่ทำให้ผมยิ้มออกมา“ตกลง" ผมพยักหน้าและโยนกุญแจห้องขึ้นในอากาศก่อนจะคว้ามันไว้ "ผมเอาห้องนี้เนี่ยล่ะ"เรื่องรูมเมตอะไรนี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมอยู่แล้ว :) ยี่สิบนาทีต่อมา...ผมยืนอยู่หน้าห้องพักหมายเลข 506 ที่อยู่บนชั้นห้า ห้องใหญ่สุดและมีพื้นที่ใช้สอยเยอะมากพอตามที่ผมต้องการ หอพักอื่นๆ ราคาถูกกว่านี้ แต่ไม่มีห้องครัว ไม่มีเครื่องครัวที่ดีพอ คนที่ชอบทำอาหารมากๆ แบบผมขาดสองอย่างนั่นไม่ได้หรอก ที่สำคัญคือมันเต็มหมดแล้ว ผมวางกระเป๋าเดินทางลงกับพื้นตอนที่หยิบกุญแจออกมาไขประตูห้องผมไม่ได้ถามป้ามาร์ธาต่อเกี่ยวกับเรื่องรูมเมต และคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ผมเองก็เป็นคนสบายๆ เข้ากับคนได้ง่าย ตราบใดที่รูมเมตผมไม่ใช่ตัวประหลาดหรือโรคจิตที่คอยตามติดชีวิตคนอื่น ผมก็โอเคล่ะ ผมผลักประตูห้องเข้าไปและก็ต้องผงะกับกลิ่นอับที่ตีเข้าหน้ามา...นี่มัน...อะไรกันเนี่ย...ผมอ้าปากค้างยืนมองภาพตรงหน้าและคิดหาคำมาบรรยายไม่ออก สิ่งแรกที่ผ่านเข้ามาในหัวคือ...ผมรังเกียจที่นี่...และมัน...สกปรกมาก...มันไม่เหมือนภาพตัวอย่างที่ผมเห็นทางอีเมลเลยแม้แต่นิดเดียว ทุกตารางเมตรของห้องขนาดกว้างเต็มไปด้วยข้าวของมากมาย ของที่เห็นแล้วผมต้องเบ้ปากอยากจะอ้วกออกมา นั่นมัน...ถ้วยโยเกิร์ตที่กองสูงเท่าเอวผมจริงๆ ใช่มั้ย หรือว่าผมแค่ตาฝาดไป =_=;; และนั่น...นั่นมันซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ยัดใส่ถุงดำขนาดใหญ่จนพองไปหมด ผมก้าวขาเข้ามาในห้องและเอื้อมมือไปกดเปิดสวิตช์ไฟ ยิ่งสว่างมากขึ้นเท่าไหร่ผมยิ่งรู้สึกขยะแขยงมากขึ้นเท่านั้น หนังสือราวๆ สามร้อยเล่มวางกระจัดกระจายเป็นกองๆ อยู่ทุกมุมห้อง ชั้นหนังสือก็มี แต่ไม่ใช้เก็บ มันกลับกลายเป็นที่วางถุงขนมที่มองคร่าวๆ แล้วน่าจะอยู่ตรงนั้นมาไม่ต่ำกว่าสามเดือนผมก้าวถอยหลังแล้วหันไปมองหมายเลขห้องตรงประตูอีกครั้ง '506' ก็ไม่ผิดนี่...ผมก้าวขาเข้าไปข้างในอีกรอบ และตัดสินใจว่าจะไม่มีทางอยู่ที่ห้องนี้เด็ดขาด ผมกลอกตาอย่างหงุดหงิดและกำลังจะหันหลังเดินหนี แต่ก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบๆ ซะก่อน ผมหันไปมองตามหาเสียงนั้น ดูเหมือนว่ามันจะดังมาจากกองถุงพลาสติกที่อยู่ตรงกลางห้องนะ หรือว่ามันจะมีหนู...“กรี๊ดดด!!” เสียงแหลมปรี๊ดดังขึ้นมาทำเอาผมสะดุ้งโหยงและเอามือปิดหูอย่างรวดเร็ว ผู้หญิงคนหนึ่งทะลึ่งตัวขึ้นมาจากกองถุงพลาสติกทำเอาข้าวของลอยกระเด็นขึ้นบนอากาศ เธอเป็นผู้หญิงจริงๆ ใส่เสื้อยืดย้วยๆ สีเขียวอื๋อ แว่นกรอบสี่เหลี่ยมหนาปั่ก และ...ผมสีแดง...แดงแบบ...เอเรียลนางเงือกน้อย...มันมีคนทำผมสีนี้ด้วยเหรอนอกจากพวกดารานักร้องน่ะ -O-;ผมอ้าปากค้างและมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผู้หญิงคนนั้นใช้มือปัดอะไรออกไปจากแขนก่อนจะรีบลุกขึ้นมายืน“โธ่เอ๊ย แมลงสาบนี่เอง นึกว่าอะไร -_-”“...”แมลงสาบนี่เอง...?แมลงสาบไต่แขนแล้วยังจะทำหน้าแบบนี้ได้อีกน่ะเหรอ =O=;“นายเป็นใคร" คำถามนั้นดังขึ้นตอนที่เธอเงยหน้ามาเห็นผมพอดี“เอ่อ...ฉัน...” ผมอึกอักและมองหน้าเธอ "เธอคือเจ้าห้องของนี้รึเปล่า"“ใช่น่ะสิ"“งั้นฉันก็คงเป็น...รูมเมตเธอมั้ง"“หา?"“ป้ามาร์ธาไม่ได้บอกไว้เหรอ"“บอก...มั้ง" เธอเกาศีรษะแกรกๆ "ฉันจำไม่ได้เหมือนกัน แต่เหมือนจะไม่ได้บอกนะ"“แต่ไม่เป็นไร ผมคง...ไม่อยู่ที่นี่หรอก" ผมแสดงออกทางสีหน้าชัดเจนว่าเพราะอะไร ความสกปรกของห้องนี้มันเหนือคำบรรยายจริงๆ“ห้องฉันรกนิดหน่อยน่ะ ช่วงใกล้เดดไลน์ก็อย่างนี้แหละ" เธอพึมพำอะไรคนเดียวและเตะสิ่งของออกไปรอบๆ ด้าน "จริงๆ ป้ามาร์ธาบอกฉันไว้แล้วล่ะเรื่องที่จะหารูมเมตมาให้น่ะ พอดีช่วงหลังๆ ฉันช็อตๆ น่ะ เลยไปขอลดค่าเช่าห้อง ไม่กี่วันถัดมาป้ามาร์ธาก็เสกนายขึ้นมาเลย ไวจริงๆ"“แต่ฉันคงไม่อยู่...”
“เพราะห้องฉันรกน่ะเหรอ O_O”
“-_-;;”
“นายอย่าจุกจิกไปหน่อยเลยน่า เป็นผู้ชายซะเปล่า"
“เธอเป็นผู้หญิง คงไม่อยากได้ฉันเป็นรูมเมตหรอก"
“โอ๊ย สบายมาก ฉันมีพี่ชายสามคนนะ เลยชินกับการใช้ชีวิตกับผู้ชายสุดๆ สบายใจได้" แต่ฉันมีปัญหากับความสกปรกของเธอ -_- ผมไม่ได้พูดคำนั้นออกไปและคิดว่าในสถานการณ์แบบนี้ควรจะทำอะไรต่อดี แต่อีกฝ่ายก็ถามแทรกก่อน
“นี่กี่โมงแล้วงั้นเหรอ"
ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเอ่ยตอบ "บ่ายสองครึ่ง"
“บะ...บ่ายสองครึ่ง!!” อีกฝ่ายตะโกนดังลั่น "ฉันมีนัดตอนบ่ายสาม เฮ้ย!!” แล้วหล่อนก็วิ่งหนีเข้าไปในห้องที่ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องนอน
“เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อนสิ ฉันว่าเราต้องคุยกันนะ"
“ฉันไม่มีเวลาหรอก" อีกฝ่ายตะโกนออกมาจากในห้องนอน
“เฮ้ย ไม่ได้นะ ถ้าไม่คุยกันให้รู้เรื่องแล้วฉันจะทำยังไงต่อล่ะ เธออยากได้รูมเมต...”
“จริงๆ ฉันไม่อยากได้รูมเมตหรอก ฉันก็แค่อยากได้ห้องราคาถูกเท่านั้นเอง"
“ฉันก็อยากได้ห้องราคาถูกเหมือนกัน แต่สภาพห้องแบบนี้ฉันอยู่ไม่ได้หรอก"
“มันแค่รกนิดหน่อยเองนะ"
“มัน
การแปล กรุณารอสักครู่..