เชื่อว่าหลายคนโดยเฉพาะคนวัยทำงานต้อ

เชื่อว่าหลายคนโดยเฉพาะคนวัยทำงานต้องเคยสัมผัสหรือรู้จักกับความเครียดกันบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในยุคที่อะไรหลาย ๆ อย่างในสังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นปัจจุบัน แต่เราเคยสังเกตตัวเองหรือคนรอบข้างบ้างหรือไม่ว่า บางครั้งความเครียดธรรมดา ๆ อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาไปก็ได้ เพราะหากอาการที่เกิดจากความเครียดบางอย่างได้ถูกแสดงออกมาจนเกินจุด ๆ หนึ่งแล้ว คุณอาจจะกลายเป็นคนที่มีปัญหาทางจิตเวชโดยไม่รู้ตัว คอลัมน์ Wellness Talk ฉบับนี้จึงอยากจะพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับโรคทางด้านจิตเวช ซึ่งนายแพทย์ณภัทร เพชรวีรชูวงศ์ จิตแพทย์ประจำแผนกจิตเวช โรงพยาบาลสิริโรจน์ ได้กรุณาอธิบายลักษณะของโรคนี้ให้เราได้ทำความรู้จักและเข้าใจกับมันยิ่งขึ้น

‘โรคจิตเวช’ นับว่าเป็น ‘โรคทางจิตใจ’ ซึ่งมีสาเหตุและที่มาที่ไปเหมือนกับโรคทางกาย โรคจิตเวชสามารถแบ่งออกได้หลายกลุ่มตามลักษณะและความรุนแรงของการแสดงออก ซึ่งคนที่เป็นโรคนี้จะมีอาการที่เด่น ๆ 2 อย่างให้เราได้สังเกตได้ คือ ‘พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ’ และ ’ แนวคิดที่เปลี่ยนไป ’ซึ่งโรคทางจิตเวชจะวินิจฉัยได้ยากกว่าโรคอื่น ๆ ที่มีวิธีการที่สามารถตรวจสอบทางร่างกายได้เนื่องจากโรคจิตเวชเป็นเรื่องที่อาการของโรคไปอยู่ที่แนวคิด ซึ่งหากคนไข้ไม่พูดออกมาหรือไม่บอกว่าคิดอะไรและคนรอบข้างไม่สังเกต ก็จะเป็นเรื่องที่ยากในการวินิจฉัยหรือบอกได้ว่าคน ๆ นั้นกำลังมีปัญหาทางจิต

กลุ่มของโรคทางจิตใจนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มวิตกกังวล กลุ่มซึมเศร้าและอารมณ์แปรปรวน และกลุ่มโรคจิตกลุ่มวิตกกังวล (Anxiety Disorder)

“อาการวิตกกังวลเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไปซึ่งเป็นแล้วสามารถหายหรือบรรเทาได้เมื่อเจอเรื่องอื่นหรือผ่านระยะเวลาไปช่วงหนึ่ง แต่จะถึงขั้นที่เรียกว่าป่วย ก็ต่อเมื่อ หนึ่ง เสียต่องานหรือ ‘Function (ฟังก์ชั่น)’ เช่น ไม่สามารถเรียนหรือทำงานได้เหมือนปกติ และอย่างที่สอง คือ สังคมเสีย เช่น เข้ากับเพื่อนไม่ได้ อยู่ในสังคมไม่ได้ สองข้อนี้แหละที่จะเป็นตัวตัดสินได้ว่าคน ๆ นั้นป่วยทางจิตหรือไม่

โรควิตกกังวลมีตั้งแต่ระดับอ่อนไปจนถึงระดับมาก แต่อาจจะสังเกตได้ยากด้วยความที่เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็เป็น ซึ่งถ้าเป็นในคนปกติก็จะสามารถหยุดได้และจะกังวลเฉพาะในเรื่องที่สำคัญเท่านั้น แต่ถ้าป่วยจะกังวลในเรื่องหลาย ๆ เรื่องและกังวลในเรื่องไม่สำคัญ และก็ไม่สามารถหยุดความกังวลนั้นได้ จนก่อให้เกิดอาการอย่างเช่น นอนไม่หลับ นอนไม่พอและมึนหัว แล้วก็เริ่มเป็นทุกข์มากขึ้น ที่พบบ่อยมากคือ ‘โรควิตกกังวลแบบ Panic Disorder’

“นอกจากนี้ อาการย้ำคิดย้ำทำก็เข้าข่ายอยู่ในกลุ่มวิตกกังวลกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งผู้ป่วยจะแสดงอาการมากกว่าคนปกติ เช่น กลัวว่ายังไม่ปิดประตู ปิดแก๊ส แล้วก็จะลงไปตรวจสอบถึงสองสามเที่ยว และก็มีอาการแบบเดียวกันนานมากกว่า 2 สัปดาห์ เป็นแล้วไม่ดีขึ้น ต่างจากคนปกติที่จะมีการปรับตัวได้ภายใน 2 สัปดาห์”

อาการของโรควิตกกังวลแบบ Panic จะส่งผลออกมาทางร่างกายให้มีอาการคล้ายโรคหัวใจอ่อน คือ ใจสั่น บ้านหมุน จะเป็นลม แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก รู้สึกมีก้อนติดอยู่ที่คอ เหงื่อแตก มือเกร็ง รู้สึกเหมือนจะตาย และเมื่อผู้ป่วยไม่รู้สาเหตุว่ามาจากความเครียดก็จะไปหาหมอและรักษาตามอาการนั้น ซึ่งสุดท้ายหมอก็จะตรวจพบว่าไม่มีผิดปกติในร่างกาย และหมอส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าบอกให้คนไข้มาพบจิตแพทย์ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าหมดหน้าที่แล้วหรือกลัวบอกไปแล้วคนไข้ไม่พอใจ
“เคยมีคนไข้เล่าให้ผมฟังว่ามีคุณหมอแนะนำให้พบจิตแพทย์เพราะตรวจแล้วไม่เจออะไร แต่คนไข้กลับโกรธหมอ จึงตัดสินใจไปหาหมออีกหลายโรงพยาบาล และคำตอบของหมอที่ไปมาคือตรวจไม่เจออะไรเหมือนกัน ก็เลยยอมมาพบจิตแพทย์ สุดท้ายก็รักษาหายภายในสามเดือน ลักษณะอาการแบบนี้เจอได้เยอะมาก เป็นอาการที่เกิดจากความเครียดแต่เป็นในลักษณะการเก็บกดเอาไว้จากความโกรธที่ไม่สามารถแสดงออกมาได้ มันเป็นเหมือนพลังงานที่ทำให้สมองหลั่งสารผิดปกติออกมา แล้วแสดงอาการออกมาทางร่างกาย”กลุ่มซึมเศร้าและอารมณ์แปรปรวน (Major D epressive Disorder)

ในกลุ่มของ โรคซึมเศร้าและอารมณ์แปรปรวน ผู้ป่วยจะมีอาการซึมเศร้าชัดเจน รู้สึกเบื่อ เซ็ง ร้องไห้ แต่ก็เป็นการเศร้าโดยมีเหตุผล ซึ่งอาจจะมีอาการแบบนี้ได้เกือบทุกวัน วันหนึ่งหลายชั่วโมง เหมือนชีวิตช่วงนั้นเศร้ามาก ซึ่งเป็นอาการก่อนเข้าระยะเวลาสองอาทิตย์อันตราย

“โรคซึมเศร้านั้น เกิดจากการมีสิ่งกระตุ้น มีที่มาที่ไปแต่ไม่ยอมหาย เช่น เสียใจโดนแฟนทิ้ง เศร้ามากจนมีอาการกินไม่ได้หรือกินแหลก นอนไม่หลับหรือนอนเยอะเกินไป และคิดแต่เรื่องเดิมซ้ำ ๆ จนกำลังใจอ่อนเพลีย ซึ่งถ้าเป็นคนปกติ จะต้องดีขึ้นภายใน 2 อาทิตย์ และเริ่มปรับตัวได้ แต่ถ้าเป็นถึงขั้นที่เรียกว่าป่วย ก็จะมีอาการไม่สามารถปรับตัวได้และมีผลกระทบกับงานจนตกงาน เสียงาน เสียเพื่อนฝูง เสียสังคม จนอาจจะทำให้ผู้ป่วยหันไปพึ่งเหล้าหรือยาเสพติดเพื่อทดแทน อาจจะเป็นถึงขั้นขาดสติ ทำร้ายร่างกายตัวเอง หรือผู้อื่น และถึงขั้นฆ่าตัวตายได้ โรคซึมเศร้าถ้าไม่ได้รับการรักษาก็จะเป็นอันตราย อาการเช่นนี้จะเรียกว่า ‘ขั้วเดียว (Unipolar)’ คือมีเรื่องเครียดก็จะซึมเศร้า ส่วนในโรคในกลุ่มนี้อีกโรคหนึ่ง คือโรคอารมณ์แปรปรวนที่มักจะได้ยินกันบ่อยคือ ไบโพล่าร์ (Bipolar) นั้น ผู้ป่วยจะมีอาการสองขั้วหรือสองด้าน ขั้วหนึ่งคือซึมเศร้า แต่เนื่องจากว่ามีกลไกที่ต้องการให้ตัวเองหลุดพ้นจากความซึมเศร้า ร่างกายก็เกิดการเหวี่ยง (Swing) จนกลายเป็นสูงขึ้น (High) เกินปกติ ซึ่งศัพท์ที่ใช้เรียกอาการนี้ จะเรียกว่า ‘Euphoria’ หรือ ‘Mania’ ก็ได้ ความหมายก็คือ อารมณ์ดีเกินเหตุ สรุปง่าย ๆ คือ แบบแรกคือซึมเศร้าในตอนแรกแล้วหายไปเลย พอต่อไปในระยะหนึ่งถ้ายังไม่รักษา หรือปรับตัวเองก็จะกลายเป็น Mania”

นอกจากนี้ อาการต่าง ๆ ยังสามารถเกิดขึ้นภายในวันเดียวกันได้ ซึ่งเราจะเรียกว่า ‘อาการผสม (M ix Type)’ เช่น ตอนเช้ามีอาการเศร้า พอตกเย็นมีอาการ ‘High Mania’ ซึ่งไม่ใช่แค่อารมณ์ดีอย่างเดียว แต่มันมากกว่าคำว่าอารมณ์ดี คือมองทุกอย่างดีไปหมด คนไข้ที่อยู่ในกลุ่มนี้จะมีพฤติกรรมการแต่งตัวเก่งมาก อารมณ์ก็จะดีมาก เปลี่ยนไปจากปกติ ไม่ใช่บุคลิกภาพเดิมที่เคยเจอ และซื้อของแหลก ใช้จ่ายแบบไม่ค

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

I believe that many people, especially the people of working age must never touch or with stress?, which is a little unusual is happening in what many in the social era is changing rapidly, such as the current. But we've noticed yourself, or others, or whether it is sometimes plain stress may be subject to. Because if the symptoms that caused some stress was displayed until it exceeds some, you may want to become a man with psychiatric problems without realizing it. This column would Talk original Wellness will show you the reader to know the disease, psychiatry. To which Dr. Naphat Diamond hero Chu Wong Psychiatry department psychotherapy. Sirirote hospital, please describe the nature of this disease, we have to know and understand it. Psychiatric diseases ', ' a ' disease ', which has a psychological cause, and come to the same disease. Psychiatric disorder can be divided into several styles and by the severity of the actions. Who is this disease will have symptoms that we have featured 2 notice is behavior change ' and ' concept has changed. That psychiatric diseases are diagnosed, other than that there is a way that can be verified physically, because of disease, symptoms of a disease that psychiatry is the concept. If the patient does not speak out or do not say anything and people think it is not noticed, it would be difficult to diagnose, or indicate that the person is having mental problems. กลุ่มของโรคทางจิตใจนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มวิตกกังวล กลุ่มซึมเศร้าและอารมณ์แปรปรวน และกลุ่มโรคจิตกลุ่มวิตกกังวล (Anxiety Disorder) “อาการวิตกกังวลเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไปซึ่งเป็นแล้วสามารถหายหรือบรรเทาได้เมื่อเจอเรื่องอื่นหรือผ่านระยะเวลาไปช่วงหนึ่ง แต่จะถึงขั้นที่เรียกว่าป่วย ก็ต่อเมื่อ หนึ่ง เสียต่องานหรือ ‘Function (ฟังก์ชั่น)’ เช่น ไม่สามารถเรียนหรือทำงานได้เหมือนปกติ และอย่างที่สอง คือ สังคมเสีย เช่น เข้ากับเพื่อนไม่ได้ อยู่ในสังคมไม่ได้ สองข้อนี้แหละที่จะเป็นตัวตัดสินได้ว่าคน ๆ นั้นป่วยทางจิตหรือไม่ โรควิตกกังวลมีตั้งแต่ระดับอ่อนไปจนถึงระดับมาก แต่อาจจะสังเกตได้ยากด้วยความที่เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็เป็น ซึ่งถ้าเป็นในคนปกติก็จะสามารถหยุดได้และจะกังวลเฉพาะในเรื่องที่สำคัญเท่านั้น แต่ถ้าป่วยจะกังวลในเรื่องหลาย ๆ เรื่องและกังวลในเรื่องไม่สำคัญ และก็ไม่สามารถหยุดความกังวลนั้นได้ จนก่อให้เกิดอาการอย่างเช่น นอนไม่หลับ นอนไม่พอและมึนหัว แล้วก็เริ่มเป็นทุกข์มากขึ้น ที่พบบ่อยมากคือ ‘โรควิตกกังวลแบบ Panic Disorder’ “นอกจากนี้ อาการย้ำคิดย้ำทำก็เข้าข่ายอยู่ในกลุ่มวิตกกังวลกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งผู้ป่วยจะแสดงอาการมากกว่าคนปกติ เช่น กลัวว่ายังไม่ปิดประตู ปิดแก๊ส แล้วก็จะลงไปตรวจสอบถึงสองสามเที่ยว และก็มีอาการแบบเดียวกันนานมากกว่า 2 สัปดาห์ เป็นแล้วไม่ดีขึ้น ต่างจากคนปกติที่จะมีการปรับตัวได้ภายใน 2 สัปดาห์” อาการของโรควิตกกังวลแบบ Panic จะส่งผลออกมาทางร่างกายให้มีอาการคล้ายโรคหัวใจอ่อน คือ ใจสั่น บ้านหมุน จะเป็นลม แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก รู้สึกมีก้อนติดอยู่ที่คอ เหงื่อแตก มือเกร็ง รู้สึกเหมือนจะตาย และเมื่อผู้ป่วยไม่รู้สาเหตุว่ามาจากความเครียดก็จะไปหาหมอและรักษาตามอาการนั้น ซึ่งสุดท้ายหมอก็จะตรวจพบว่าไม่มีผิดปกติในร่างกาย และหมอส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าบอกให้คนไข้มาพบจิตแพทย์ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าหมดหน้าที่แล้วหรือกลัวบอกไปแล้วคนไข้ไม่พอใจ “เคยมีคนไข้เล่าให้ผมฟังว่ามีคุณหมอแนะนำให้พบจิตแพทย์เพราะตรวจแล้วไม่เจออะไร แต่คนไข้กลับโกรธหมอ จึงตัดสินใจไปหาหมออีกหลายโรงพยาบาล และคำตอบของหมอที่ไปมาคือตรวจไม่เจออะไรเหมือนกัน ก็เลยยอมมาพบจิตแพทย์ สุดท้ายก็รักษาหายภายในสามเดือน ลักษณะอาการแบบนี้เจอได้เยอะมาก เป็นอาการที่เกิดจากความเครียดแต่เป็นในลักษณะการเก็บกดเอาไว้จากความโกรธที่ไม่สามารถแสดงออกมาได้ มันเป็นเหมือนพลังงานที่ทำให้สมองหลั่งสารผิดปกติออกมา แล้วแสดงอาการออกมาทางร่างกาย”กลุ่มซึมเศร้าและอารมณ์แปรปรวน (Major D epressive Disorder)
ในกลุ่มของ โรคซึมเศร้าและอารมณ์แปรปรวน ผู้ป่วยจะมีอาการซึมเศร้าชัดเจน รู้สึกเบื่อ เซ็ง ร้องไห้ แต่ก็เป็นการเศร้าโดยมีเหตุผล ซึ่งอาจจะมีอาการแบบนี้ได้เกือบทุกวัน วันหนึ่งหลายชั่วโมง เหมือนชีวิตช่วงนั้นเศร้ามาก ซึ่งเป็นอาการก่อนเข้าระยะเวลาสองอาทิตย์อันตราย

“โรคซึมเศร้านั้น เกิดจากการมีสิ่งกระตุ้น มีที่มาที่ไปแต่ไม่ยอมหาย เช่น เสียใจโดนแฟนทิ้ง เศร้ามากจนมีอาการกินไม่ได้หรือกินแหลก นอนไม่หลับหรือนอนเยอะเกินไป และคิดแต่เรื่องเดิมซ้ำ ๆ จนกำลังใจอ่อนเพลีย ซึ่งถ้าเป็นคนปกติ จะต้องดีขึ้นภายใน 2 อาทิตย์ และเริ่มปรับตัวได้ แต่ถ้าเป็นถึงขั้นที่เรียกว่าป่วย ก็จะมีอาการไม่สามารถปรับตัวได้และมีผลกระทบกับงานจนตกงาน เสียงาน เสียเพื่อนฝูง เสียสังคม จนอาจจะทำให้ผู้ป่วยหันไปพึ่งเหล้าหรือยาเสพติดเพื่อทดแทน อาจจะเป็นถึงขั้นขาดสติ ทำร้ายร่างกายตัวเอง หรือผู้อื่น และถึงขั้นฆ่าตัวตายได้ โรคซึมเศร้าถ้าไม่ได้รับการรักษาก็จะเป็นอันตราย อาการเช่นนี้จะเรียกว่า ‘ขั้วเดียว (Unipolar)’ คือมีเรื่องเครียดก็จะซึมเศร้า ส่วนในโรคในกลุ่มนี้อีกโรคหนึ่ง คือโรคอารมณ์แปรปรวนที่มักจะได้ยินกันบ่อยคือ ไบโพล่าร์ (Bipolar) นั้น ผู้ป่วยจะมีอาการสองขั้วหรือสองด้าน ขั้วหนึ่งคือซึมเศร้า แต่เนื่องจากว่ามีกลไกที่ต้องการให้ตัวเองหลุดพ้นจากความซึมเศร้า ร่างกายก็เกิดการเหวี่ยง (Swing) จนกลายเป็นสูงขึ้น (High) เกินปกติ ซึ่งศัพท์ที่ใช้เรียกอาการนี้ จะเรียกว่า ‘Euphoria’ หรือ ‘Mania’ ก็ได้ ความหมายก็คือ อารมณ์ดีเกินเหตุ สรุปง่าย ๆ คือ แบบแรกคือซึมเศร้าในตอนแรกแล้วหายไปเลย พอต่อไปในระยะหนึ่งถ้ายังไม่รักษา หรือปรับตัวเองก็จะกลายเป็น Mania”

นอกจากนี้ อาการต่าง ๆ ยังสามารถเกิดขึ้นภายในวันเดียวกันได้ ซึ่งเราจะเรียกว่า ‘อาการผสม (M ix Type)’ เช่น ตอนเช้ามีอาการเศร้า พอตกเย็นมีอาการ ‘High Mania’ ซึ่งไม่ใช่แค่อารมณ์ดีอย่างเดียว แต่มันมากกว่าคำว่าอารมณ์ดี คือมองทุกอย่างดีไปหมด คนไข้ที่อยู่ในกลุ่มนี้จะมีพฤติกรรมการแต่งตัวเก่งมาก อารมณ์ก็จะดีมาก เปลี่ยนไปจากปกติ ไม่ใช่บุคลิกภาพเดิมที่เคยเจอ และซื้อของแหลก ใช้จ่ายแบบไม่คิ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

I believe that many people, especially the working people have been exposed to stress or well-known, more or less. This is regarded as normally happens in an era where many things in society has changed rapidly as today. But we've noticed yourself or those around you or not. Sometimes ordinary stress may be unusual to them. If symptoms caused by stress, some have been expressed, beyond a point, then you may become people with psychiatric problems unconsciously column Wellness Talk This would therefore like to take your readers to know about the disease. psychiatric The doctor Naphat Wong holds a diamond beaching Psychiatrist, Department of Psychiatry Hospital Please describe the nature of this disease, we have to know and understand it more 'psychiatric disorder' was a 'mental disorder' which is the cause and which was the same as physical ailments. Psychiatric disease can be divided into several groups according to the type and intensity of expression. People with this disease have symptoms that highlights two things that we have observed is' behavioral change 'and' a concept that has changed. 'Antipsychotics, which are more difficult to diagnose other diseases, there are methods that can monitor the body because of a psychiatric disorder, the symptoms of the disease to the concept. If the patient does not speak out or say anything and his peers did not notice. It is difficult to diagnose or indicate that the person is having mental problems of mental disease were divided into three groups, ie groups concerned. The depression and mood swings Anxiety and psychosis group (Anxiety Disorder) "The anxiety is typical of people in general, which is then able to recover or mitigate it when it's time to go through another one. But it means that when one was sick to work or 'Function (Function)', for example, can not study or work as usual. The second is the social and waste, such as his friend did not. Society is not Second, it is that will determine whether or not the person with mental illness , anxiety disorders range from mild to extreme levels. It may be difficult to notice with the story, it was as if a normal person would be stopped and will only concern important matters only. If the patient is concerned about the many issues and concerns do not matter. And I can not stop worrying them. The cause symptoms such as insomnia, sleep and dizziness. Then began a more miserable. Is a very common 'Anxiety and Panic Disorder' "Also. Compulsive symptoms did it address the concerns of this group. Patients showing symptoms than normal, as fears that the door is not shut off the gas and then to check up a couple of flights. It has the same symptoms for more than two weeks is not improved. Unlike normal people who are adaptable within two weeks, " Symptoms of Anxiety and Panic will lead to physical symptoms like heart disease weakens the shake houses swirl fainting, chest suffocation feeling. pack attached to the neck, sweating hands flexed feels like to die. And when patients do not know the cause of stress that would go to a doctor and treat the symptoms. The last doctor would have detected no abnormalities in the body. And most doctors do not tell patients to see a psychiatrist. This may be because a previous or afraid to tell patients dissatisfied "'ve had patients tell me that a doctor recommended that I see a psychiatrist because inspectors did not find anything. The patient was angry with the doctor Decided to go to the doctor several hospitals. And the answer to the doctor to check is not anything alike. He refused to see a psychiatrist Finally, healed within three months. Other studies have also found a lot. The symptoms are caused by stress, but in a manner to keep the press out of anger that can not be expressed. It is the same energy that the brain sends out abnormal substance. Then show off the body "of depression and mood swings (Major D epressive Disorder) in the group. Depression and mood swings Patients with depressive symptoms clearly feel sick to cry, but it is a sad reason. Which may have these symptoms almost daily. One day several hours Life is like a very sad This is a period of two weeks before the danger "that major depression. Due to the stimulus Have come to regret it, but not lost, as fans left. Very sad to have to eat or not eat crushed. Insomnia or sleeping too much. And think about it over and over until I fainted. If a normal person Will be better within two weeks and begin to adapt. But even that sick. It will have to be adaptable and have an impact on jobs and the unemployed, losing friends, losing social and patients may turn to alcohol or drugs to substitute. Possibly even delirium. Physical harm himself or others, and even suicide. If depression is not treated, it can be dangerous. This symptom is called 'single-pole (Unipolar)' is a serious matter, it is depression. The disease in this group of diseases. Bipolar disorder is often heard frequently is Bipolar (Bipolar), patients with symptoms of bipolar or two-sided. The terminal is depressed But since that mechanism needs to extricate himself from depression. The body was cast (Swing) becomes higher (High) than normal, which is the term used call signs are called 'Euphoria' or 'Mania' has the meaning is. Good mood is overly simple conclusion is depressed at first, and then disappeared. But next time, if there is no treatment. Or adjust itself would become. Mania " The symptoms can also occur on the same day. Which we refer to as 'a mixed (M ix Type)' early morning symptoms such as depression. When evening had 'High Mania' is not just a good one. But it's more than a good mood. Everything is looking good. Patients in this group will have a very good dressing habits. The mood is very good The transition from normal Not previously encountered personality And the purchase of crushed I do not spend

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.Many people believe the working people to ever touch or known to stress some not probably quite a bit. Which is considered a normal occurrence in this era of anything in the society is changing rapidly as present.