บทคัดย่อ ​การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุปร

บทคัดย่อ

​การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานิพนธ์ แบบฝึกทักษะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ เรื่อง การปั้นพาเพลิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนพัฒนาวิทยา กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 16 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง การปั้นพาเพลิน จำนวน 4 แผน 2) แบบฝึกทักษะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ เรื่อง การปั้นพาเพลิน เพื่อใช้ทดสอบก่อนเรียนและหลังการเรียน 3) แบบสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การปั้นพาเพลิน ในหัวข้อการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง ดำเนินการเก็บข้อมูลโดยใช้สำรวจความพึงพอใจในนิพนธ์ แบบฝึกทักษะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ เรื่อง การปั้นพาเพลิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ใช้ทดสอบก่อนและหลังการทดลอง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการหา ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แบบสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การปั้นพาเพลิน การวิเคราะห์หาข้อมูลใช้การคำนวณด้วยสูตรทางสถิติพื้นฐาน เพื่อหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ
โดยสรุป นิพนธ์ แบบฝึกทักษะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ เรื่อง การปั้นพาเพลิน นักเรียนทำคะแนนแบบทดสอบหลังทำกิจกรรมได้คะแนนสูงกว่าก่อนทำกิจกรรม คะแนนเฉลี่ยก่อนทำกิจกรรม กล่าวคือคะแนนเฉลี่ยก่อนทำกิจกรรม คือ 68.75 คะแนน หลังทำกิจกรรม คือ 81.25 คะแนน เพิ่มขึ้น .10 คะแนนผลแบบสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แบบฝึกทักษะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ เรื่อง การปั้นพาเพลิน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 3.81 ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.228 ระดับคะแนนมากที่สุด แบบฝึก เรื่อง แบบฝึกทักษะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ เรื่อง การปั้นพาเพลิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนพัฒนาวิทยา ประกอบการเรียนวิชาศิลปะที่ได้พัฒนาขึ้นนี้เป็นแบบฝึกทักษะที่มีประสิทธิภาพเหมาะสม ผู้เรียนมีความพึงพอใจ สามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนวิชาทัศนศิลป์ระดับประถมศึกษาที่ 3 ได้

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Abstract ​การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานิพนธ์ แบบฝึกทักษะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ เรื่อง การปั้นพาเพลิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนพัฒนาวิทยา กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 16 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง การปั้นพาเพลิน จำนวน 4 แผน 2) แบบฝึกทักษะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ เรื่อง การปั้นพาเพลิน เพื่อใช้ทดสอบก่อนเรียนและหลังการเรียน 3) แบบสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การปั้นพาเพลิน ในหัวข้อการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง ดำเนินการเก็บข้อมูลโดยใช้สำรวจความพึงพอใจในนิพนธ์ แบบฝึกทักษะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ เรื่อง การปั้นพาเพลิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ใช้ทดสอบก่อนและหลังการทดลอง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการหา ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แบบสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การปั้นพาเพลิน การวิเคราะห์หาข้อมูลใช้การคำนวณด้วยสูตรทางสถิติพื้นฐาน เพื่อหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยสรุป นิพนธ์ แบบฝึกทักษะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ เรื่อง การปั้นพาเพลิน นักเรียนทำคะแนนแบบทดสอบหลังทำกิจกรรมได้คะแนนสูงกว่าก่อนทำกิจกรรม คะแนนเฉลี่ยก่อนทำกิจกรรม กล่าวคือคะแนนเฉลี่ยก่อนทำกิจกรรม คือ 68.75 คะแนน หลังทำกิจกรรม คือ 81.25 คะแนน เพิ่มขึ้น .10 คะแนนผลแบบสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง แบบฝึกทักษะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ เรื่อง การปั้นพาเพลิน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 3.81 ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.228 ระดับคะแนนมากที่สุด แบบฝึก เรื่อง แบบฝึกทักษะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ เรื่อง การปั้นพาเพลิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนพัฒนาวิทยา ประกอบการเรียนวิชาศิลปะที่ได้พัฒนาขึ้นนี้เป็นแบบฝึกทักษะที่มีประสิทธิภาพเหมาะสม ผู้เรียนมีความพึงพอใจ สามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนวิชาทัศนศิลป์ระดับประถมศึกษาที่ 3 ได้

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Abstract This research aims to develop the project. Skills creative development of the visual arts, sculpture enjoyed. Grade 3 School of Science. The target audience is students in Grade 3 at number 16 was used in this study were 1) to learn about the management plan. Right molding of plan 4 2) Skills creative development of the visual arts, sculpture enjoyed. To take the test before and after the class 3) customer satisfaction survey of students towards learning about molding enjoyed. This research is in experimental research. The data were collected using customer satisfaction surveys in the project. Skills creative development of the visual arts, sculpture enjoyed. Grade 3 test before and after the experiment. Data were analyzed by means of a The mean and standard deviation. The survey of student satisfaction with the activities enjoyed learning about the statue. Analysis of the data used to calculate basic statistical formula. The average percentage qualitative data analysis and summary writing skills, creative development of the visual arts, sculpture enjoyed. Student test scores do not score higher than before the activity. The average score of the first activities Namely the average first activity was 68.75 points behind the activity was 81.25 points up. 10 scores a satisfaction survey of students towards learning about skills development, creativity and visual arts of sculpture. right Students of grade 3 percent to 3.81 grade point average of 0.228 on a training exercise most creative development of the visual arts, sculpture enjoyed. Grade 3 School of Science. Learning the art has developed a training effective manner. Student satisfaction Can be used in the teaching of Visual Arts in Elementary Education at the third.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Abstract.The objective of this research is to develop a thesis. Training creative thinking development in visual arts, molding with grade school science 3 development target. The students were 16 3. The instruments used in this study were 1) learning plans on molding with the number 4 plan 2) exercises on development of creativity in visual arts. The molding with is used to test students before and after learning 3) survey the satisfaction of students on learning activities On molding the with On the topic of this research is experimental research. Data was collected using a survey of satisfaction in the thesis. Training creative thinking development in visual arts, molding with grade 3 test before and after the experiment. Data analysis methods. The mean and standard deviation. A survey of student satisfaction towards learning activities on molding take entertained. The analysis of the data used to calculate statistical formula basis to determine the average percentage, analyzing qualitative data.In conclusion, the thesis exercises on development of creativity in visual arts, with molding. Student test scores after the score was higher than before the activity, the average score before doing activities. The average score before activity, is 68.75 rate after the activity, is 81.25 rate increased. 10 the survey of satisfaction of the students with learning activities On training creative thinking development in visual arts, molding with among students of grade 3 were 3.81 mean in 0.228 level the most points. Practice on training creative thinking development in visual arts, molding with grade 3 development school science. In the course of art developed a powerful exercises suitable students are satisfied. Can be used in the teaching of visual arts.