ผมเรียกมันว่า“การเดินทาง”
การเดินทางครั้งนี้ก่อเกิดการเริ่มต้นที่มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นเลือกที่จะเดินเข้ามาสำผัสประสบการณ์ในรั้วของยามาฮ่าในช่วงกลางเดือนตุลาคมปี 57 – ปลายเดือนสิงหาคม ปี 58 ช่วงเวลาสั้นๆที่ได้สัมผัส กับพี่ๆในแผนกทุกคน มีครบทุกรสชาติ เปรี้ยว หวาน มัน เผ็ด ครบรสจริง ๆ บรรยากาศที่ยามาฮ่ามีทั้งความอบอุ่นการได้พบปะกัน เสียงหัวเราะและรอยยิ้มก็เกิดขึ้นที่นี่ เริ่มก่อให้เกิดกำแพงของความประทับใจก่อขึ้นทีละน้อย...ทีละน้อย มีเสียงหยอกเย้าคนนั้น...คนนี้ส่งผ่านกันเป็นระลอก น่าสนุกทีเดียวครับ
รอยยิ้ม...เสียงหัวเราะ...เสียงหยอกย้อ และสิ่งดีๆ ที่เราได้ทำให้แก่กัน เจมส์ อยากให้เก็บมันเอาไว้ครับ บางครั้ง...อาจมีบ้างทีเราทำอะไรไม่ถูกใจกัน...อาจมีบ้างทีที่เราพูดกันคนละภาษา แต่นั่นมันคงเป็นเพียงแค่เศษส่วนเล็กน้อย หากเรามองย้อนถึงการเริ่มเดินทาง การใช้ชีวิตอยู่ร่วมงานกันเป็นเวลา 10 เดือน สิ่งดีๆ มากมาย เกิดขึ้นกับเจมส์อย่างไม่รู้ตัว ณ เวลานั้น...ณ จุดๆ นั้น เราอาจมองข้าม ไม่ได้เก็บมาประมวลปะติดปะต่อเป็นเรื่องราว แต่เมื่อมาย้อนคิด มองดูแล้ว หลายเหตุการณ์ที่เรา ได้ร่วมกันทำ หลายความรู้สึกที่ได้แบ่งปันกัน มันน่าประทับใจใช่มั๊ย??
มันควรค่าแก่การจดจำและรำลึกถึงอย่างแน่นอน...ขอบคุณทุกคนนะสำหรับสิ่งดีๆ ที่ได้มอบให้แก่กัน สำหรับเจมส์ การเดินทางในครั้งนี้ สนุกมากครับ ความสนุก ไม่ได้อยู่ที่การเห็นสิ่งแปลกใหม่จากสถานที่ทำงาน....แต่เป็นความสนุกที่ได้ร่วมงานกัน...ส่งความเอื้ออาทรและห่วงใยให้กันครับ ....นั่นจึงเป็นความประทับใจที่สุดแล้วสำหรับเจมส์ ในการเดินทางครั้งนี้
ธรรมดาของชีวิตครับ มีพบมีจากลา ขอขอบพระคุณพี่ๆ ทุกคนที่เป็นทั้ง พี่ชาย พี่สาว ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่ดีเยี่ยมมากๆ ขอบคุณสำหรับการสั่งสอนและให้บทเรียน ขอบคุณสัมหรับ พี่ๆ และเพื่อนร่วมงานทุกคนด้วย สิ่งที่พี่ ๆ ช่วยสนับสนุนในเรื่องของการงานก็ดี เรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของงานก็ดี แต่สิ่งที่ดีและงดงามที่สุดมองไม่เห็นด้วยตาสัมผัสไม่ได้ด้วยมือ หากแต่รู้สึกได้ด้วยใจ มันทำให้รู้สึกได้ว่า มันมาจากใจและตั้งใจทำให้จริงๆ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
เจมส์ วีระยุทธ วิชญ์วัฒนานนท์