ระบบการหายใจ (respiratory system)  ระบบการหายใจ คือ ระบบที่ประกอบด้วยอ การแปล - ระบบการหายใจ (respiratory system)  ระบบการหายใจ คือ ระบบที่ประกอบด้วยอ อังกฤษ วิธีการพูด

ระบบการหายใจ (respiratory system)

ระบบการหายใจ (respiratory system)
ระบบการหายใจ คือ ระบบที่ประกอบด้วยอวัยวะเกี่ยวข้องกับการหายใจ เป็นการนำอากาศเข้าและออกจากร่างกายส่งผลให้แก๊สออกซิเจนทำปฏิกิริยากับสารอาหาร ได้พลังงาน น้ำ และแก๊สคาร์บอนไดออกไซต์ กระบวนการหายใจเกิดขึ้นกับทุกเซลล์ตลอดเวลา การหายใจจำเป็นต้องอาศัย โครงสร้าง 2 ชนิดคือ กล้ามเนื้อกะบังลม และกระดูกซี่โครง
กลไกการทำงานของระบบหายใจ
1. การหายใจเข้า (Inspiration) กะบังลมจะเลื่อนต่ำลง กระดูกซี่โครงจะเลื่อนสูงขึ้น ทำให้ปริมาตรของช่องอกเพิ่มขึ้น ความดันอากาศในบริเวณรอบ ๆ ปอดลดต่ำลงกว่าอากาศภายนอก อากาศภายนอกจึงเคลื่อนเข้าสู่จมูก หลอดลม และไปยังถุงลมปอด
2. การหายใจออก (Expiration) กะบังลมจะเลื่อนสูง กระดูกซี่โครงจะเลื่อนต่ำลง ทำให้ปริมาตรของช่องอกลดน้อยลง ความดันอากาศในบริเวณรอบ ๆ ปอดสูงกว่าอากาศภายนอก อากาศภายในถุงลมปอดจึงเคลื่อนที่จากถุงลมปอดไปสู่หลอดลมและออกทางจมูก
อวัยวะที่สำคัญของระบบหายใจ
1. จมูก (Nose) เป็นทางผ่านของอากาศด่านแรก ประกอบด้วยโครงสร้างรูปสามเหลี่ยมของกระดูกและกระดูกอ่อน ผิวด้านนอกปกคลุมด้วยผิวหนัง ส่วนผิวด้านในบุด้วยเยื่อเมือก (Mucous membrane) มีช่องเปิดของช่องจมูกอยู่ 2 ช่อง แยกจากกันโดยผนังกั้น (Septum) ภายในเยื่อเมือกจะมีต่อมน้ำมันทำหน้าที่เป็นด่านป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้ลงไปสู่ปอด ช่องจมูกในส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนบนจะเป็นพื้นที่เกี่ยวกับการดมกลิ่น ส่วนล่างจะเป็นทางผ่านของอากาศ โดยมีส่วนของกระดูกเอทมอยด์ (Ethmoid) และกระดูกคอนคี ส่วนล่าง (Inferior conchae) ยื่นออกมา 3 อัน เพื่อให้อากาศผ่านเข้าไปได้มาก และระหว่างกระดูกที่ยื่นออกมานี้ จะมีร่องเนื้อแดง (Metus) ซึ่งเป็นทางผ่านของอากาศ และมีอยู่ข้างละ 3 อัน ภายในร่องเนื้อแดงจะมีช่องเปิดของโพรงอากาศ (Air sinus) ในกะโหลกศีรษะ ซึ่งมีอยู่ 4 แห่งด้วยกัน คือ โพรงอากาศที่โหนกแก้ม (Maxilla sinus) ที่หน้าผาก (Forntal sinus) ที่ดั้งจมูก (Ethmoid sinus) และที่กระดูกสฟินอยด์ (Sphenoid sinus) จมูกนอกจากทำหน้าที่เป็นทางผ่านของอากาศไปสู่ปอดแล้ว ยังทำหน้าที่รับกลิ่น ช่วยทำให้เสียงชัดเจน อากาศชุ่มชื้นและกรองฝุ่นละออง นอกจากนี้ยังมีท่อน้ำตา (Naso-lacrimal duct) มาเปิดที่หัวตาอีกด้วย
2. คอหอย (Pharynx) เป็นส่วนที่อยู่ต่อจากจมูกและปาก มีลักษณะคล้ายกรวย แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
1) คอหอยส่วนที่อยู่ติดต่อกับจมูก (Naso-pharynx) เป็นทางผ่านของอากาศอย่างเดียว ที่ส่วนนี้จะมีช่องไปติดต่อกับหูส่วนกลาง เรียกช่องนี้ว่า หลอดยูสเตเชียน (Eustachian’s tube)
2) คอหอยส่วนที่อยู่ติดกับปาก (Oro-pharynx) เป็นทางผ่านของอาหารและอากาศ
3) คอหอยส่วนที่อยู่ติดกับกล่องเสียง (Laryngo-pharynx) เป็นทางผ่านของอากาศอย่างเดียว
3. กล่องเสียง (Larynx) เป็นอวัยวะพิเศษ ทำหน้าที่เป็นทางเดินอากาศ ตั้งอยู่ส่วนบนด้านหน้าคือบริเวณลูกกระเดือก (Adam’s apple) ด้านหน้าของหลอดอาหารประกอบด้วยกระดูกอ่อนทั้งชนิดใสและชนิดยืดหยุ่น 9 ชิ้นด้วยกัน ยึดติดกันด้วยเอ็นยึดข้อต่อและกล้ามเนื้อ กระดูกอ่อนต่างๆ ได้แก่
1) กระดูกอ่อนไทรอยด์ (Thyroid Cartilage) เป็นกระดูกอ่อนชิ้นใหญ่ที่สุด ประกอบด้วยกระดูกอ่อนแผ่นสี่เหลี่ยม 2 แผ่นมาประกบกันเป็นลูกกระเดือก
2) กระดูกอ่อนคริคอยด์ (Cricoids Cartilage) รูปร่างเหมือนวงแหวน ริมล่างจะติดต่อกับหลอดลม
3) ฝาปิดกล่องเสียง (Epiglottis) เป็นกระดูกอ่อนยืดหยุ่น มีรูปร่างคล้ายใบไม้ ยึดติดกับกระดูกอ่อนไทรอยด์ เมื่อเวลากลืนอาหารลงไป ฝาปิดกล่องเสียงจะปิด เพื่อไม่ให้อาหารตกลงไป
4) กระดูกอ่อนอาริทีนอยด์ (Arytenoids Cartilage) อยู่ส่วนบนของกระดูกอ่อนคริคอยด์ ซึ่งจะเป็นที่ยึดปลายข้างหนึ่งของสายเสียง (Vocal cord) ส่วนปลายอีกข้างหนึ่งจะยึดติดกับกระดูกอ่อนไทรอยด์
4. หลอดลม (Trachea) อยู่ด้านหน้าของหลอดอาหาร ตอนบนจะติดอยู่กับกระดูกอ่อนคริคอยด์ ปลายล่างจะอยู่ในระดับกระดูกสันหลังระดับอกชิ้นที่ 5 (T5) หลอดลมยาวประมาณ 4.5 นิ้ว ส่วนประกอบของหลอดลมประกอบด้วยกระดูกอ่อนรูปครึ่งวงกลม 16-20 ชิ้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้หลอดลมแฟบได้ง่าย และทำให้อากาศผ่านเข้าออกได้สะดวก ฝาปิดกล่องเสียงก็สามารถขยายตัวได้ สะดวกในการกลืนอาหาร ทั้งกล่องเสียงและหลอดลมภายในจะบุด้วยเยื่อเมือกและมีขน (Cilia) ซึ่งจะขับเมือกออกมาคอยดักฝุ่นละอองหรือสิ่งที่หายใจปนไปกับอากาศเอาไว้
5. หลอดลมขั้วปอด (Bronchi) เป็นส่วนที่อยู่ต่อจากหลอดลม แยกออกเป็น 2 ข้าง คือ ซ้ายและขวา โดยข้างขวาจะสั้นกว่า กว้างกว่า และอยู่ในแนวดิ่งมากกว่าข้างซ้าย โรคต่างๆ เช่น วัณโรค ปอดปวม จึงมักจะเกิดกับข้างขวามากกว่าข้างซ้าย หลอดลมขั้วปอดนี้จะทอดเข้าสู่ปอดข้างขวาและซ้าย แตกแขนงออกเป็นแขนงเล็กๆ เป็นหลอดลมในปอด (Bronchioles)
หลอดลมขั้วปอดมีส่วนประกอบเหมือนหลอดลม แต่มีขนาดเล็กกว่าและผนังก็จะบางลงไปเรื่อยๆ จนถึงขนาดเล็กและไม่มีกระดูกอ่อนเหลืออยู่ คงมีชั้นกล้ามเนื้อบางๆ ที่ปลายหลอดลมในปอดจะมีถุงลม (Alveoli) รวมกันอยู่เป็นพวงซึ่งเป็นที่แลกเปลี่ยนอากาศ ทั้งนี้เพราะที่ผนังถุงลมจะมีหลอดเลือดฝอยมาหล่อเลี้ยงมาก
6. ปอด (Lungs) เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่หายใจภายในตั้งอยู่ในช่องอก มีสองข้างคือ ซ้ายและขวา ระหว่างปอดทั้งสองข้างจะมีหัวใจ หลอดลม หลอดอาหาร หลอดเลือดขนาดใหญ่ หลอดน้ำเหลือง และต่อมน้ำเหลือง
ปอดข้างขวาจะใหญ่กว่า หนักกว่า และกว้างกว่าปอดข้างซ้าย ปอดข้างขวาจะมีกะบังลมดันนูนสูงขึ้นมามาก เนื่องจากตับหนุนอยู่ใต้กะบังลมอีกทีหนึ่ง ปอดขวามี 3 พู คือ พูบน พูกลาง และพูล่าง โดยมีรอยต่อซึ่งอยู่ระหว่างพูเรียกว่า ฟิสเซอร์ (Fissure) ส่วนปอดซ้ายจะมี 2 พู คือ พูบนและพูล่าง
เนื้อปอดจะมีลักษณะโปร่งและหยุ่นคล้ายฟองน้ำ ลอยน้ำได้ ประกอบด้วยหลอดลมในปอด ถุงลม หลอดเลือด หลอดน้ำเหลือง และมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันยึดให้ติดกัน ปอดพูหนึ่ง ๆ จะประกอบด้วยพูเล็กๆ หลายพู และในพูเล็กๆ อันหนึ่ง จะประกอบด้วยหลอดลมในปอดอีกอันหนึ่งและถุงลมในปอดเป็นพวงๆ ซึ่งเป็นที่แลกเปลี่ยนก๊าซ
ปอดแต่ละข้างจะมีเยื่อหุ้มปอด (Pleura) เป็นพวกเยื่อเซอรัสห่อหุ้มปอดเอาไว้เพื่อป้องกันอันตราย เยื่อหุ้มปอดแบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ ชั้นนอก (Parietal layer) และชั้นใน (Visceral layer) ระหว่างชั้นทั้งสองของเยื่อหุ้มปอดนี้ จะมีของเหลวบรรจุอยู่เรียกว่า น้ำหล่อเลี้ยงปอด (Pleural fluid) เพื่อทำให้ปอดชุ่มชื้น และป้องกันการเสียดส
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Respiratory (respiratory system). Respiratory system is a system that contains an organ associated with breathing air to bring in and out of the body, as a result, oxygen reacts with nutrients. Power. Water and gas, carbon di-out site. The process breathing occur with every cell at any time. Breathing requires Two types of structures is the diaphragm and rib muscles.Mechanism of the respiratory system.1. inhalation (Inspiration), thoracic diaphragm moves lower rib moves higher, the volume of the chest rise. The air pressure in the area around the lungs lower than outside air. The weather outside, so moving into bronchi and nose to the lung parenchyma.2. breathe out (Expiration), the diaphragm moves high rib to move lower, making the volume of space reduced. The air pressure in the area around the lungs is higher than the outside air. The air inside the lungs, thus moving from airbags air bag into the bronchi, lungs and nostrils.Important organs of the respiratory system.1. จมูก (Nose) เป็นทางผ่านของอากาศด่านแรก ประกอบด้วยโครงสร้างรูปสามเหลี่ยมของกระดูกและกระดูกอ่อน ผิวด้านนอกปกคลุมด้วยผิวหนัง ส่วนผิวด้านในบุด้วยเยื่อเมือก (Mucous membrane) มีช่องเปิดของช่องจมูกอยู่ 2 ช่อง แยกจากกันโดยผนังกั้น (Septum) ภายในเยื่อเมือกจะมีต่อมน้ำมันทำหน้าที่เป็นด่านป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้ลงไปสู่ปอด ช่องจมูกในส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนบนจะเป็นพื้นที่เกี่ยวกับการดมกลิ่น ส่วนล่างจะเป็นทางผ่านของอากาศ โดยมีส่วนของกระดูกเอทมอยด์ (Ethmoid) และกระดูกคอนคี ส่วนล่าง (Inferior conchae) ยื่นออกมา 3 อัน เพื่อให้อากาศผ่านเข้าไปได้มาก และระหว่างกระดูกที่ยื่นออกมานี้ จะมีร่องเนื้อแดง (Metus) ซึ่งเป็นทางผ่านของอากาศ และมีอยู่ข้างละ 3 อัน ภายในร่องเนื้อแดงจะมีช่องเปิดของโพรงอากาศ (Air sinus) ในกะโหลกศีรษะ ซึ่งมีอยู่ 4 แห่งด้วยกัน คือ โพรงอากาศที่โหนกแก้ม (Maxilla sinus) ที่หน้าผาก (Forntal sinus) ที่ดั้งจมูก (Ethmoid sinus) และที่กระดูกสฟินอยด์ (Sphenoid sinus) จมูกนอกจากทำหน้าที่เป็นทางผ่านของอากาศไปสู่ปอดแล้ว ยังทำหน้าที่รับกลิ่น ช่วยทำให้เสียงชัดเจน อากาศชุ่มชื้นและกรองฝุ่นละออง นอกจากนี้ยังมีท่อน้ำตา (Naso-lacrimal duct) มาเปิดที่หัวตาอีกด้วย2. คอหอย (Pharynx) เป็นส่วนที่อยู่ต่อจากจมูกและปาก มีลักษณะคล้ายกรวย แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1) คอหอยส่วนที่อยู่ติดต่อกับจมูก (Naso-pharynx) เป็นทางผ่านของอากาศอย่างเดียว ที่ส่วนนี้จะมีช่องไปติดต่อกับหูส่วนกลาง เรียกช่องนี้ว่า หลอดยูสเตเชียน (Eustachian’s tube) 2) คอหอยส่วนที่อยู่ติดกับปาก (Oro-pharynx) เป็นทางผ่านของอาหารและอากาศ 3) คอหอยส่วนที่อยู่ติดกับกล่องเสียง (Laryngo-pharynx) เป็นทางผ่านของอากาศอย่างเดียว 3. กล่องเสียง (Larynx) เป็นอวัยวะพิเศษ ทำหน้าที่เป็นทางเดินอากาศ ตั้งอยู่ส่วนบนด้านหน้าคือบริเวณลูกกระเดือก (Adam’s apple) ด้านหน้าของหลอดอาหารประกอบด้วยกระดูกอ่อนทั้งชนิดใสและชนิดยืดหยุ่น 9 ชิ้นด้วยกัน ยึดติดกันด้วยเอ็นยึดข้อต่อและกล้ามเนื้อ กระดูกอ่อนต่างๆ ได้แก่ 1) กระดูกอ่อนไทรอยด์ (Thyroid Cartilage) เป็นกระดูกอ่อนชิ้นใหญ่ที่สุด ประกอบด้วยกระดูกอ่อนแผ่นสี่เหลี่ยม 2 แผ่นมาประกบกันเป็นลูกกระเดือก 2) กระดูกอ่อนคริคอยด์ (Cricoids Cartilage) รูปร่างเหมือนวงแหวน ริมล่างจะติดต่อกับหลอดลม 3) ฝาปิดกล่องเสียง (Epiglottis) เป็นกระดูกอ่อนยืดหยุ่น มีรูปร่างคล้ายใบไม้ ยึดติดกับกระดูกอ่อนไทรอยด์ เมื่อเวลากลืนอาหารลงไป ฝาปิดกล่องเสียงจะปิด เพื่อไม่ให้อาหารตกลงไป 4) กระดูกอ่อนอาริทีนอยด์ (Arytenoids Cartilage) อยู่ส่วนบนของกระดูกอ่อนคริคอยด์ ซึ่งจะเป็นที่ยึดปลายข้างหนึ่งของสายเสียง (Vocal cord) ส่วนปลายอีกข้างหนึ่งจะยึดติดกับกระดูกอ่อนไทรอยด์ 4. หลอดลม (Trachea) อยู่ด้านหน้าของหลอดอาหาร ตอนบนจะติดอยู่กับกระดูกอ่อนคริคอยด์ ปลายล่างจะอยู่ในระดับกระดูกสันหลังระดับอกชิ้นที่ 5 (T5) หลอดลมยาวประมาณ 4.5 นิ้ว ส่วนประกอบของหลอดลมประกอบด้วยกระดูกอ่อนรูปครึ่งวงกลม 16-20 ชิ้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้หลอดลมแฟบได้ง่าย และทำให้อากาศผ่านเข้าออกได้สะดวก ฝาปิดกล่องเสียงก็สามารถขยายตัวได้ สะดวกในการกลืนอาหาร ทั้งกล่องเสียงและหลอดลมภายในจะบุด้วยเยื่อเมือกและมีขน (Cilia) ซึ่งจะขับเมือกออกมาคอยดักฝุ่นละอองหรือสิ่งที่หายใจปนไปกับอากาศเอาไว้ 5. หลอดลมขั้วปอด (Bronchi) เป็นส่วนที่อยู่ต่อจากหลอดลม แยกออกเป็น 2 ข้าง คือ ซ้ายและขวา โดยข้างขวาจะสั้นกว่า กว้างกว่า และอยู่ในแนวดิ่งมากกว่าข้างซ้าย โรคต่างๆ เช่น วัณโรค ปอดปวม จึงมักจะเกิดกับข้างขวามากกว่าข้างซ้าย หลอดลมขั้วปอดนี้จะทอดเข้าสู่ปอดข้างขวาและซ้าย แตกแขนงออกเป็นแขนงเล็กๆ เป็นหลอดลมในปอด (Bronchioles) หลอดลมขั้วปอดมีส่วนประกอบเหมือนหลอดลม แต่มีขนาดเล็กกว่าและผนังก็จะบางลงไปเรื่อยๆ จนถึงขนาดเล็กและไม่มีกระดูกอ่อนเหลืออยู่ คงมีชั้นกล้ามเนื้อบางๆ ที่ปลายหลอดลมในปอดจะมีถุงลม (Alveoli) รวมกันอยู่เป็นพวงซึ่งเป็นที่แลกเปลี่ยนอากาศ ทั้งนี้เพราะที่ผนังถุงลมจะมีหลอดเลือดฝอยมาหล่อเลี้ยงมาก 6. ปอด (Lungs) เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่หายใจภายในตั้งอยู่ในช่องอก มีสองข้างคือ ซ้ายและขวา ระหว่างปอดทั้งสองข้างจะมีหัวใจ หลอดลม หลอดอาหาร หลอดเลือดขนาดใหญ่ หลอดน้ำเหลือง และต่อมน้ำเหลือง
ปอดข้างขวาจะใหญ่กว่า หนักกว่า และกว้างกว่าปอดข้างซ้าย ปอดข้างขวาจะมีกะบังลมดันนูนสูงขึ้นมามาก เนื่องจากตับหนุนอยู่ใต้กะบังลมอีกทีหนึ่ง ปอดขวามี 3 พู คือ พูบน พูกลาง และพูล่าง โดยมีรอยต่อซึ่งอยู่ระหว่างพูเรียกว่า ฟิสเซอร์ (Fissure) ส่วนปอดซ้ายจะมี 2 พู คือ พูบนและพูล่าง
เนื้อปอดจะมีลักษณะโปร่งและหยุ่นคล้ายฟองน้ำ ลอยน้ำได้ ประกอบด้วยหลอดลมในปอด ถุงลม หลอดเลือด หลอดน้ำเหลือง และมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันยึดให้ติดกัน ปอดพูหนึ่ง ๆ จะประกอบด้วยพูเล็กๆ หลายพู และในพูเล็กๆ อันหนึ่ง จะประกอบด้วยหลอดลมในปอดอีกอันหนึ่งและถุงลมในปอดเป็นพวงๆ ซึ่งเป็นที่แลกเปลี่ยนก๊าซ
ปอดแต่ละข้างจะมีเยื่อหุ้มปอด (Pleura) เป็นพวกเยื่อเซอรัสห่อหุ้มปอดเอาไว้เพื่อป้องกันอันตราย เยื่อหุ้มปอดแบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ ชั้นนอก (Parietal layer) และชั้นใน (Visceral layer) ระหว่างชั้นทั้งสองของเยื่อหุ้มปอดนี้ จะมีของเหลวบรรจุอยู่เรียกว่า น้ำหล่อเลี้ยงปอด (Pleural fluid) เพื่อทำให้ปอดชุ่มชื้น และป้องกันการเสียดส
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Respiratory system (respiratory system).The respiratory system is the system that contains the organ associated with breathing. Is the air in and out of the body, resulting in the oxygen react with nutrients, energy, water, and carbon dioxide gas oxide. The breathing process happened to all the cells constantly breathing need to rely on 2 structure types are the diaphragm muscles and the ribs.Mechanism of respiratory system.1. Inhale (Inspiration) diaphragm to move down, the ribs will move higher. The volume of stock increased air pressure in the area around the lungs lower than the outside air. The outside air is moving into the nose, trachea, and to the alveolar lung.2. Exhale (Expiration) diaphragm to move high rib will slide down. The volume of out less air pressure in the area around the lungs than the outside air. Air in the alveoli and alveolar lung moves from lung to the trachea and out through the nose.The vital organs of the respiratory system.1. The nose (Nose) is the way of the air defense first. Consists of a triangular structure of bone and cartilage The outer skin is covered with skin. The inner surface is lined with mucous membranes (Mucous membrane) is the opening of the nose is 2 channels separated by walls กั้ (Septum) within the mucosa have oil glands act as barrier to prevent dust from going into the lungs. Nasal in the deep split into 2 parts. The upper area is about the smell. The lower part is a passage of air. The part of the ethmoid bone (Ethmoid) and Navy นคี lower (Inferior conchae) sticking out 3, to allow the air to pass through a lot. And between the bones sticking out, a groove red meat (Metus), which is the way of the air, and there are on each side 3. Grooves in red meat is the opening of a sinus (Air sinus) in the skull, which is 4 of together the sinus (Maxilla cheekbones. Sinus) on the forehead (Forntal sinus) bridge (Ethmoid sinus) and bone สฟ eat alkaloids (Sphenoid sinus) nose than a way through the air into the lungs. Also served to smell, make clear sound of moist air and the dust filter are also water eyes.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: