คนไทยรู้จักปลูกพริก และมีวิธีบริโภค

คนไทยรู้จักปลูกพริก และมีวิธีบริโภคพริกหลายรูปแบบ ทั้งในลักษณะสด แห้ง ดอง เผา และแกง และมักแบ่งพริกออกเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มที่เผ็ดมาก ซึ่งได้แก่ พริกขี้หนูสวน พริกขี้หนูไทย และพริกเหลือง กับกลุ่มที่เผ็ดน้อย ซึ่งได้แก่ พริกหยวก พริกชี้ฟ้า และพริกฝรั่ง

ถึงแม้ว่าเราจะคุ้นเคยกับพริกดีเสียจนทำให้คิดไปว่า พริกเป็นพืชพื้นเมือง แต่นักประวัติพฤกษศาสตร์ได้พบว่า ถิ่นกำเนิดของพริกคือ ทวีปอเมริกากลาง และใต้ และจากที่นั่นนักผจญภัยก็ได้นำพริกมาปลูกเผยแพร่ในยุโรปแล้วจากยุโรปพริกก็ถูกนำไปปลูกกันแพร่หลายทั่วโลก

หลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่า ชาวอินเดียนใน Mexico รู้จักบริโภคพริกเป็นอาหารมานานร่วม 9,000 ปีแล้ว เพราะอุจจาระที่เป็นก้อนแข็งที่พบที่เมือง Huaca Prieta มีซากเมล็ดพริกที่มีอายุประมาณ 9,000 ปี การศึกษาวิถีชีวิตของชนเผ่า Olmec, Toltec และ Aztec ต่างก็แสดงให้รู้ว่า ชาวอินเดียนเหล่านี้รู้จักปลูกและบริโภคพริกเช่นกัน นอกจากนี้นักประวัติศาสตร์ยังได้ขุดพบซากของต้นพริกที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ในเทวสถานของเปรูด้วย หรือแม้แต่ลายปักเสื้อผ้าของคนอินเดียนที่อาศัยอยู่ในเปรู เมื่อ 1,900 ปีก่อน ก็มีลวดลายปักเป็นต้นพริก

ในปี 2036 นักประวัติศาสตร์ชื่อ Peter Martyr ได้รายงานว่า พริกแดงที่ Columbus นำมาจากอเมริกามีรสเผ็ด และแพทย์ที่ติดตาม Columbus ไปอเมริกาเป็นครั้งที่สองในปี 2037 ก็ได้กล่าวถึงชาวอินเดียนว่า นิยมปรุงอาหารด้วยพริก และเมื่อกองทัพสเปนบุกอาณาจักร Aztec นายพล Cortez ได้เขียนจดหมายเล่าว่า กษัตริย์ Aztec ทรงโปรดเสวยพระสุคนธรสที่มีพริกปน

คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของพริกคือ มีรสเผ็ด และการมีคุณสมบัติที่ดุเดือดรุนแรงนี้เองที่ทำให้ชาวอินเดียนนิยมใช้พริกทรมานเชลยหรือศัตรู เช่น เผาพริกปริมาณมากให้ควันพริกขับไล่ทหารสเปน ส่วนชาว Maya ก็มีประเพณีว่า ผู้หญิง Maya คนใดเวลาถูกจับได้ว่าแอบดูผู้ชาย จะถูกพริกขยี้ที่ตา และบิดามารดาของผู้หญิง Maya คนใดถ้ารู้ว่า บุตรสาวของตนเสียพรหมจรรย์อย่างผิดประเพณี "บริเวณลับ" ของเธอจะถูกละเลงด้วยพริก สำหรับชาวอินเดียนเผ่า Carib ใน Antilles นั้น ก็นิยมใช้พริกทาบาดแผลของเด็กผู้ชายเพื่อฝึกให้อดทน และเวลาจับเชลยได้ ชาวอินเดียนเผ่านี้ก็จะใช้ไฟจี้ตามตัวจนเป็นแผลพุพองแล้วเอาพริกทา และเมื่อเชลยเสียชีวิตลงเนื้อของเชลยก็จะถูกแล่เอาไปปรุงด้วยพริกเป็นอาหาร เป็นต้น

นักประวัติศาสตร์ชื่อ Francisco Hernandez ซึ่งเป็นแพทย์ในกษัตริย์ Philip ที่ 2 แห่งสเปน และได้เคยถูกส่งตัวไปศึกษาธรรมชาติของพืชและสัตว์ในดินแดนใหม่ (อเมริกา) ก็ได้รายงานกลับมาว่า ชาวอินเดียนนิยมปลูกพริกมาก ส่วน P. Bernabe Cobo ผู้ใช้เวลาสำรวจอเมริกานาน 50 ปี ในศตวรรษที่ 20-21 ก็ได้รายงานทำนองเดียวกันว่า ชาวอินเดียนในเม็กซิโกนิยมปลูกพริก โดยได้เขียนลงในหนังสือ Historia ว่า ชาวอินเดียนถือว่าพริกเป็นพืชที่สำคัญรองจากข้าวโพด เพราะชอบบริโภคพริกสด และใช้พริกในพิธีสักการะบูชาเทพเจ้าทุกงาน แต่เมื่อถึงเทศกาลอดอาหาร คนอินเดียนเหล่านี้จะไม่บริโภคอาหารที่มีพริกปนเลย Cobo ยังกล่าวเสริมว่า ไม่เพียงแต่ผลพริกเท่านั้นที่เป็นอาหาร แม้แต่ใบพริกก็ยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ด้วย และสำหรับ Garcilaso de la Vega ผู้เป็นบุตรของขุนนางสเปนนั้น ก็ได้เล่าว่า ชาวอินคาถือว่าพริกเป็นผลไม้ที่มีคุณค่ามาก เพราะอาหารอินคาจะมีพริกปนไม่มากก็น้อย นอกจากนี้หมอชาวบ้านของชนเผ่านี้ก็มีความรู้อีกว่า ใครก็ตามที่บริโภคพริกในปริมาณที่พอดี ระบบขับถ่ายของคนคนนั้นจะทำงานปกติ แต่ถ้าบริโภคมากเกินไป กระเพาะจะเป็นอันตราย Alexander von Humboldt นักปราชญ์ชาวเยอรมันก็เป็นบุคคลอีกท่านหนึ่งที่ได้เดินทางไปสำรวจทวีปอเมริกาเป็นเวลานานหลายปี และได้เปรียบเทียบความสำคัญของพริกว่าคนยุโรปถือว่า เกลือมีความสำคัญต่อชีวิตเพียงใด คนอินเดียนก็ถือว่าพริกมีความสำคัญต่อเขาเพียงนั้น

การศึกษาประวัติการเดินทางของพริกจากทวีปอเมริกาสู่โลกภายนอก ทำให้เรารู้ว่า Alvarez Chanca ชาวสเปนเป็นบุคคลแรกที่นำพริกสู่ประเทศตน ในปี 2036 และคนสเปนเรียกพริกว่า Chili ซึ่งเป็นคำที่แปลงมาจากคำ Chile อันเป็นชื่อของประเทศที่ให้กำเนิดพริกในอเมริกาใต้ และอีก 55 ปีต่อมา ชาวอังกฤษก็เริ่มรู้จักพริก เมื่อถึงปี 2098 บรรดาประเทศต่างๆ ในยุโรปกลางก็เริ่มรู้จักปลูกพริกกันแล้ว และเมื่อถึงปี 2300 พ่อค้าชาวโปรตุเกสก็ได้นำพริกจากยุโรปไปปลูกในอินเดีย และเอเชียอาคเนย์

นักชีววิทยาจัดพริกอยู่ในวงศ์ Solanaceae ซึ่งเป็นวงศ์ของมะเขือเทศ มันฝรั่ง และยาสูบ และให้พริกอยู่ในสกุล Capsicum ซึ่งมาจากคำว่า Kapto ที่แปลว่า กัดกร่อน แต่นักภาษาศาสตร์บางคนคิดว่า รากศัพท์ที่แท้จริงของคำคำนี้คือ capsa ซึ่งแปลว่า กล่อง ถึงความคิดเห็นเรื่องที่มาของชื่อจะแตกต่างกัน แต่ทุกคนก็ยอมรับในประเด็นเดียวกันว่า พริกมีรสเผ็ด แม้แต่ชาว Maya ก็เรียกพริกว่า Huuyub ซึ่งแปลว่า สูดปาก หลังจากที่ได้กินพริกเข้าไป การศึกษาคุณสมบัติด้านเภสัชวิทยาของพริก ทำให้เรารู้ว่าแพทย์ในอดีตเคยใช้พริกเป็นยารักษานานาโรค เช่น โรคบวม เสียดท้อง ปวดท้อง อาเจียน อหิวาต์ อาหารไม่ย่อย ปวดหัว ปวดประสาท ปวดตามข้อ ท้องร่วง กระเพาะอักเสบ แก้เมาคลื่น โรคหวัด ลดน้ำมูก ป้องกันการติดเชื้อ ลดอาการไขมันอุดตันของเส้นเลือด ลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง บรรเทาอาการปวด ทำให้มีอารมณ์ดี และใช้เป็นยาไล่แมลงก็ยังได้ด้วย

ส่วนนักโภชนาการได้พบว่า พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู และพริกหวานต่างก็มีวิตามิน C เช่น ในเนื้อพริก 100 กรัม จะมีวิตามิน C ตั้งแต่ 87-90 มิลลิกรัม และมี betacarotene (หรือวิตามิน A) ซึ่งช่วยให้สายตาดีด้วย

นักชีวเคมีได้วิเคราะห์พบว่า รสเผ็ดของพริกเกิดจากสาร capsicin ที่แฝงอยู่ในบริเวณรก (placenta) ของผล แต่ไม่อยู่ในเนื้อและเปลือกพริก การวิเคราะห์โครงสร้างเคมีของ capsicin ทำให้รู้ว่ามันมีชื่อ 8-methyl-n-vanillyl-6-noneamide ซึ่งมีสูตร C18 H23 NO3 มีน้ำหนักโมเลกุล 305.46 มีจุดหลอมเหลว 65 องศาเซลเซียส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ละลายน้ำได้เล็กน้อย และละลายในไขมัน น้ำมัน และแอลกอฮอล์ได้ดี นอกจากนี้มันยังมีสมบัติทนความร้อน ความเย็นได้ดีด้วย ดังนั้น การต้มหรือการแช่แข็งจะไม่ทำให้พริกเผ็ดน้อยลงหรือมากขึ้นแต่อย่างใด และถ้าต้องการจะแก้รสเผ็ด ผู้สันทัดกรณีแนะนำว่า น้ำหรือเบียร์ก็พอช่วยได้บ้าง แต่ถ้าจะให้ดีให้กินอาหารที่มีไขมัน หรือเครื่องดื่มที่มี ethonol มาก ก็จะช่วยได้ดีขึ้น และถ้าพริกมีรสขม นั่นก็เพราะคน

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Thailand is planted peppers And how many chili consumption patterns. Fresh, dried, preserved in both burned and curries and chilies are often divided into two groups. Groups, including very spicy chilli garden. Thailand chilli And PrikehlืagIncluding paprika and chili peppers, guava
.Although we are familiar with, so it was thought that a good chili. Pepper is native plants But the history of botany has found. Origins of chili is Central and South America
Archaeological evidence shows that. Indians in mexico chili consumption as long as 9,000 years ago because excreta share a hard lump found in the remains huaca prieta pepper seeds aged about 9,.000 years of tribal lifestyle education olmec, toltec and aztec also indicate that. Indians are known peppers grown and consumed as well. In addition, historians have also unearthed the remains of the old pepper 2.000 years in the temple of Peru. Or even embroidered garments of the Indians who lived in Peru 1,900 years ago, they embroidered or patterned pepper

.In 2036, a historian named peter martyr reported that red peppers are spicy columbus brought from America. And doctors who follow columbus go to America for the second time in the year 2037 was mentioned as an Indian. Top with chili cookingGeneral aztec cortez wrote aztec tells the king hath eat a pepper scent mingling
.Maya woman who is caught eavesdropping at men. Being pepper rub on the eye And his parents knew that if any woman maya. His daughter lost her virginity to a tradition of "the secret" of her being smeared with chili. Carib tribe of Indiansantilles then used pepper skin wounds of boys trained to be patient. The time taken captive Indian tribes, it is used as a pendant light, then remove the peppers until the skin blisters.The

A historian named francisco hernandez, a doctor in king philip 2 of Spain and had been sent to study the nature of plants and animals in the new land (America) also report that back. The Indians grow more peppers p.bernabe cobo the time to explore America for 50 years in the same report that was 20-21 century. Indians in Mexico grown chili. Was written down in the book historia considered that the Indian pepper was an important crop after maize.Divine Liturgy and peppers in all the work. But when the fasting festival Indian people are not eating a chili mix at cobo has said. Not only is the food chili only.And for garcilaso de la vega, the son of a Spanish nobleman was then told that the Incas considered chilli fruit is very valuable. Because the Incas, chili mix, more or less. In addition, the doctor, the villagers of this tribe also knew how.Person's digestive system is functioning normally. But if excessive consumption Stomach is dangerous alexander von humboldt German philosopher is a person who has traveled extensively toured North America for many years.Salt is essential to life is. The Indian chilli is also considered important to him just then
.Educational travel history pepper from South America to the world. We know that the Spanish alvarez chanca the first person to bring the chili to his country in 2036 and the Spanish called it chili pepper, which is a term derived from the chile.And another 55 years later, the British began to make chili on 2098 Those countries. In Central Europe it started growing peppers as well. By the year 2300, and Portuguese traders brought from Europe to grow chilli in India. And Southeast Asia
Biologists held in the family solanaceae peppers, tomatoes, potatoes and tobacco, the family of the genus capsicum and chili, which comes from the word meaning kapto corrosion but some linguists think. The true etymology of the word is capsa.To the comment about the origin of the name is different. But they all agree on the same issues that are spicy chili pepper that even the maya called huuyub which translates into fresh mouth after eating chili.We know that doctors in the past have used pepper to treat various diseases such as cholera, swelling, heartburn, indigestion, upset stomach, vomiting, headache, diarrhea, stomach pain, nerve pain and inflammation, reduces nasal catarrh seasick.Reduce clogging of the arteries. Reduce the risk of cancer. Pain Relief Make a good mood And was also used as an insect repellent with
.
Most nutritionists have found that chili pepper and capsicum are also vitamin c like meat, pepper 100 grams are from 87-90 mg of vitamin c and betacarotene (vitamin a), which allows the eye with

.Biochemical analyzes showed that the Spicy peppers caused by substances capsicin latent in the placenta (placenta) of the result, but not in flesh and peel peppers. Analysis of the chemical structure makes capsicin know it had a name. 8-methyl-n-vanillyl-6-noneamide which has the formula c18.no3 molecular weight 305.46 has a melting point of 65 ° C, a colorless, odorless, slightly soluble. And dissolve in fats, oils and alcohol as well. It also has heat resistant properties. Its so coolIf you want to solve spicy. Pundits suggest that Water or beer is enough help. But if it is better to eat foods that contain fat. Or drinks with ethonol it will get better. If peppers bitter It is simple

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Thai people know chilli and chilli products have grown in a variety of ways, both in the fresh and dried plum characteristics of curry and chili is often divided into two groups: very spicy paprika and paprika pepper garden Thai Yellow. Bell Pepper Capsicum Frutescens Capsicum: pepper gum

Although we are accustomed to good Chili, so think that pepper is native plants, but researchers have found that botanical history of Central and South America: Chili.
Archaeological evidence suggests that Indian people in Mexico know chilli food intake for a long time together 9000 years, and because of a solid cube stools that are found at Huaca Prieta city ruins pepper seeds with the age of 9,0 years, studying the lifestyle of the Olmec, Toltec, and the Aztec tribes were shown to know that Indian people know chilli consumption and planting these as well. In addition, historians have unearthed the remains of the peppers over the age of 2,0 yrs in the shrine of Peru with the embroidery pattern, or even a person's clothes, Indian living in Peru. When 1900 years ago it has embroidery pattern etc

'In the year 2036 famous historian Peter Martyr reported that red pepper that Columbus brought from America, with spicy and doctors keep track of Columbus going to America a second time in the year 2037, mentioned by Indian cooking top with pepper. General Aztec Cortez has written a letter that tells the story of the King and his Royal Aztec suknotrot with chilli mix
.
The most striking feature of the chili is spicy and has properties that this intense moment, Indian used torture, such as burning of enemy captives or chili chili chili smoke plenty of military eviction, Spain. Best of Maya A man was arrested at Maya women that men will sneak the crushed pepper, and the Maya women's parents if they knew their daughter was celibacy, traditions "secret area" of her will be to smear (on) with the Indian tribe Carib. The Antilles are commonly used to pepper the boy's wounds to practice, patience and time to catch the prisoner. Nationals of Indian tribes, it is used as a pendant light until the blister and remove the pepper cream. Etc

Historian named Francisco Hernandez, a doctor at King Philip II of Spain, and was sent to study the nature of the plants and animals in the new (u.s.) territory, reported back that the most popular peppers grown Indian people P section. Bernabe Cobo, who spent 50 years in the 17th century, explores the long America at 20-21, it has been reported that Indian people similarly in Mexico has grown popular chili burn in the book Historia that Indian people are considered as important plant chili corn. And all the gods to worship worship ceremony in pepper, but when the fasting Festival. These Indian people are not foods chilli contamination at Cobo says added that not only effects the chili is food. Garcilaso de la Vega and for the children of Spain and Ireland, it has been told that the Incas considered pepper fruit is very valuable because the food prices will have a chili is 600 years old. In addition, a doctor from the ethnic villagers with knowledge that. Excretory system of the regular working people, but if too much is consumed. The Alexander von Humboldt German dangerous German philosopher as someone another person, one who has traveled to South Africa for a long time for many years. Salt is vital for life. Indian people it is considered an important pepper him just that
.
A study of the history of chili from the Americas to the outside world. Alvarez Chanca, people we know Spain is the first person that brought their countries to the chili. In the year 2036 and Chili pepper called "Spain, which is a word derived from the word Chile. And another 55 years later. The British began to know chilli to the year 2098 among various countries in Central Europe began to know chilli grown together, and when they arrived the year 2300 by Portugal was brought to Europe from the pepper grown in India and South East Asia
.
Biologist in the Solanaceae family, pepper held a family of potatoes and tomatoes, tobacco, Capsicum, the pepper, which comes from the word Kapto, which translates as corrosive, but some linguists think that the actual terms of the root words: capsa. To box comments about the origin of the name is different, but everyone is in the same issue, accept that there are chili spicy Chili, even though Maya people called Huuyub, which means to inhale the mouth. After eating chili. We know that the doctors in the past have used paprika as international medications diseases such as chronic swelling. Abdominal pain, vomiting, diarrhea, pain in the abdomen ahiwa nervous indigestion pains headache pain and diarrhea by acupuncture. Fix seasick Disease, cold reduces the snot Reduce fatty blockage of the blood vessel Reduce the risk that cancer will relieve pain, there is a good mood and is used as an insect repellant also.
.
Best nutritionist have determined that pepper Capsicum Frutescens Capsicum and paprika, chili beef, for example, vitamin C is 100 grams contains vitamin C from 87-90 mg, and betacarotene (vitamin A), which makes the eyes

.Researchers have found that the biochemical analysis of spicy pepper caused by latent capsicin substances in placenta (placenta) of results, but not in the flesh and Peel peppers. Chemical structure analysis of capsicin to know it has a name, 8-methyl-n-vanillyl-6-noneamide, which contains the formula C18. There are 305 molecular weight NO3.There are 46 melting point 65 degrees Celsius. There is no color, no smell, slightly soluble in alcohol and fat soluble and oil well. In addition, it also has a heat resistant properties. Cold is good. And if you want to solve the spicy person well-informed suggests that water or beer, enough to help? But if they are, well, eat fatty foods or beverages that are making ethonol it better and if chilli with bitterness because people.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Thai people know how consumption has grown chilies and chili several forms, in the form of fresh roasted, pickled and dried chilies and curry and are often divided into two groups: Group a spicy Thai Chili Garden, chili, and yellow pepperwhich include pepper chilies and sweet pepper

Although we are familiar with chili, so to think that chili is a native plant, but a history of botanical origin have found that chili is the Continent and South America.
archaeological evidence shows that the people of India, known as the Mexico chili consumption is a long time ago, in 9,000 years, as the soils found at the Hard Rock is a city in ruins Huaca Prieta bean chili that is approximately 9 years,000 years ago the study of tribal life Olmec, Toltec Aztec and they show that the people of India, they also known as chili cultivation and consumption historian, also found a carcass of a pepper tree of life there is more than 2,000 years ago in Peru with a place of worship or even embroidered garments of Indian people who live in Peru when 1,900 years ago there was a thread embroidery, etc. chili

In the year 2036 the historian Peter Martyr reported that the red pepper Columbus brought from America is spicy. And the doctor followed Columbus to America for the second time in the year 2037, he said to the people of India, popular cooking with chiliesGeneral Aztec Cortez Aztec. write a letter telling me that the king hath slandered thy fragrance with a chili-and-

Most of the unique features and chili is a spicy. And there is a feature that this radical, popular with the inhabitants of the Indian chili torture enemy prisoners or such as burned chili pepper large quantities of smoke out of the Spanish military MayaWomen Maya any man has been arrested at that time observes men will be chili rubbed his eyes, and his father and mother of the women Maya if any man know that his daughter, celibacy is wrong traditions "The secret." She will be the one with the green pepper, and for the inhabitants of the Indian tribe CaribAntilles was popular chili painted wounds of boys to practice, patience, and time to the inhabitants of the Indian prisoners. This race will be used as the power to wound up to be Burns, and then painted it with chili
etc.
historian named Francisco Hernandez Philip. which is a medical doctor in the king of Spain, and 2 had been sent to study the nature of plants and animals in the land (North America), it reports back that the inhabitants of the Indian popular chili cultivation. P.The Bernabe Cobo spend time exploring America's long 50 years in the 20 th century - 21 may similarly report that the inhabitants of the Indian in Mexico popular chili cultivation by writing down in a book that the inhabitants of the Indian Historia chili crop is considered to be an important secondary from cornand chili in the ceremony worship deities all work, but when it comes to Indian food festival address these will not consume food that has chili, so Cobo also said that not only the green pepper is a food only.and, for the Garcilaso de la Vega was the son of a nobleman, Spanish, it may be said, that the people of Canaan, that the chili is a fruit that has a greater value for the food, there will be no more or less chili, also a doctor, the villagers of this tribal people have the knowledge, thatThe Reverse Osmosis system of the people, it will work normally, but if you eat too much to stomach will be dangerous Alexander Humboldt von German philosopher was one person, you have to go to the explore America for several yearssalt is essential to life, it was how people in India, and chili are important to him, just

The history of the study of chili from the Americas to the outside world, we know that the people of Spain Alvarez Chanca chili in the first person who brought to their own country in the year 2036 and the Spanish called chili Chili which is a word that comes from the word that convert Chileand another 55 years later, the inhabitants of the British began to recognize and chili to the year 2098 when all the countries in Central Europe, it was known as chili cultivation, and to the year 2300 when the Portuguese traders brought chili from Europe to grow in India and Southeast Asia

biologist offers chili in my house which is a house of Solanaceae tomato, potato and tobacco, and chili, which came from the word currency Capsicum Kapto. That means that some people think that นักภาษาศาสตร์ corrosion but the stem of the word is really capsathe box up to the opinions of the name will be subject to a different, but they all agree on the issue that same chili is spicy. Even the Maya Huuyub called chili, which means to draw in his mouth after eating chili.We know that physicians, in the past had been used as a cure many diseases such as pepper disease stomachache vomiting swollen to pierce the bottom of the submenu อหิวาต์ food is not a headache, a sore nerve pain in accordance with Article diarrhea stomach flu reduce inflammation to resolve seasick noseReduce fat clogging of arteries reduces the risk of cancer is to relieve pain, there are good-humored and use it as a type insect repellents, it also has a

the nutritionists have found that chilies chilies and sweet pepper has a vitamin C such as meat in chili 100 grams vitamin C C from 87 - 90 mg and betacarotene (or Vitamin A), which allows a good eyes

biochemistry analysis, it was found that spicy. of chili from the hidden in the area of capsicin overgrown (placenta) of the results, but it is not in meat and skins and chili chemical structure analysis of capsicin, I know that it is the name 8-methyl-n-vanillyl-6-noneamide C recipes which has 18there NO 3 305 molecular weight.There are 46 melting point 65 degrees Celsius there is no color there is no smell of water soluble and dissolve in a little oil or fat and alcohol, it also has a good heat-resistant properties of the cold, so good.and if you want to resolve spicy. commentators recommended that the water or beer would be enough, but if you will be good to eat, or drink that is a fat ethonol. It'll help you better and if it has a bitter taste and chili because it was there.