สภาพความเป็นอยู่อากิโอะ โมริตะ เป็นลูกชายคนโตของเคียวซาเอมอนและชูโกะ โ การแปล - สภาพความเป็นอยู่อากิโอะ โมริตะ เป็นลูกชายคนโตของเคียวซาเอมอนและชูโกะ โ อังกฤษ วิธีการพูด

สภาพความเป็นอยู่อากิโอะ โมริตะ เป็น

สภาพความเป็นอยู่
อากิโอะ โมริตะ เป็นลูกชายคนโตของเคียวซาเอมอนและชูโกะ โมริตะ ซึ่งอยู่ในครอบครัวที่ค่อนข้างมั่งคั่งในญี่ปุ่นมีพี่น้อง 3 คนเป็นผู้ชายทั้งหมด โดยทำธุรกิจเหล้าสาเกจนโด่งดังและเป็นที่ยอมรับที่สุด ความเป็นอยู่เป็นไปอย่างสะดวกสบายมีบ้านหลังใหญ่และมีหลายครอบครัวอาศัยในบ้านหลังนี้ การที่มั่งคั่งนี้เองจึงทำให้ความคิดความอ่านค่อนข้างที่จะเป็นตะวันตก มีญาติหลายคนไปเรียนในยุโรป และหลงใหลในอุปกรณ์ใหม่ ๆ ของยุโรปพอสมควร จนทำให้เด็กคนนี้มีความฝันที่จะสร้างเครื่องเล่นแผ่นเสียงไฟฟ้าและบันทึกเสียงของตัวเองใหได้
สำหรับการศึกษา เนื่องจากความสนใจในด้านคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และชอบด้านการทดลองเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้ผลการเรียนวิชาอื่น ๆ จึงออกมาแย่ สิ่งที่เขาพยายามทดลองคือสร้างเครื่องบันทึกเสียงแต่ก็ล้มเหลว ในที่สุดหลังจากที่จบมัธยมปลายเขาก็ได้เลือกเรียนต่อในสาขาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยโอซาก้าอิมพีเรียล แทนที่จะเลือกเศรษฐศาสตร์ตามที่พ่อของเขาต้องการ แต่อย่างไรก็ดีขณะที่เขาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยนั้น ญี่ปุ่นได้เปิดสงครามมหาเอเชียบูรพารวมไปถึงการรบกับอเมริกาด้วย ผู้ชายที่มีอายุเกิน 18 ปีจะต้องถูกเกณฑ์ทหาร อย่างไรก็ตามเขาเลือกที่จะเข้าสมัครเป็นทหารช่างเพื่อทดลองเกี่ยวกับอาวุธชิ้นใหม่ให้กับกองทัพ น้องชายทั้งสองของเขาก็เช่นกันได้ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเช่นเดียวกัน แต่เคราะห์ดีที่สงครามสิ้นสุดเสียก่อนที่พวกเขาจะออกรบ โดยช่วงที่มีสงครามนั้นทหารจะมีอำนาจเหนือการเมืองมาก ข่าวสารทั้งหมดจะผ่านทางข่าวทหารและปกปิดข่าวจริงเพื่อประโยชน์ในด้านยุทธศาสตร์ตลอดเวลา และจากการที่เข้าเป็นทหารวิจัยนี้เองทำให้เขาได้รู้จักกับ มาซารุ อิบูกะ ( ซึ่งเป็นคู่หูในการจัดตั้งบริษัท SONY ต่อมา ) ซึ่งเป็นลูกเจ้าของเครื่องมือวัดแห่งญี่ปุ่น หลังจากสู้รบอย่างยาวนานในที่สุดญี่ปุ่นก็ประกาศยอมแพ้สงครามเนื่องจากความย่อยยับของบ้านเมืองหลังจากการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตร และการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ของอเมริกา
การมองถึงโอกาส
แน่นอนว่าเมื่อสิ้นสุดสงครามแล้ว โมริตะและพี่น้องของเขาได้กลับบ้าน แต่สภาพของบ้านเมืองในตอนนั้นแร้นแค้นมาก การขาดแคลนเครื่องมือแพทย์และการตกงานของประชาชนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูหมดหวัง ในขณะที่เขากลับบ้านเขาก็ยังติดต่อกับอิบูกะอยู่เสมอ ๆ ซึ่งโรงงานเขาก็ถูกระเบิดทำลายจนต้องย้ายไปอยู่นอกเมืองเช่นเดียวกัน และจากการติดต่อกันจึงรู้ถึงว่าอิบูกะกำลังทำห้องทดลองในโตเกียวอยู่และต้องการให้โมริตะมาช่วยเพื่อร่วมกันก่อตั้งธุรกิจใหม่ขึ้นมา จากความรู้ ความสามารถและธุรกิจของอิบูกะที่ประสบความสำเร็จพอสมควร โดยเฉพาะ Project ใหม่ที่ท้าทาย ทำให้เขาตัดสินใจเดินทางมาโตเกียวเพื่อทำธุรกิจกับอิบูกะทันทีที่เขาส่งจดหมายเชิญ
ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ
เมื่อโมริตะเดินทางมาถึงโตเกียวก็ทำงานสอนในมหาวิทยาลัยรวมถึงทำงานบริษัทไปด้วย โดยร่วมจัดตั้งบริษัทขึ้นมาในปี 1946 ชื่อ “ บริษัท วิศวกรรมโทรคมนาคมแห่งโตเกียว “ ซึ่งโมริตะได้เสี่ยงมากเนื่องจากเขาจะเป็นผู้สืบทอดกิจการของที่บ้านอยู่แล้ว แต่กลับมาโตเกียวตามลำพังเพื่อหาธุรกิจใหม่ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นบริษัทใหม่จึงต้องกลับไปยืมบริษัทพ่อเขาหลายครั้งโดยออกหุ้นให้แทน สถานที่ตั้งของบริษัทในช่วงแรกคือซากของห้างสรรพสินค้าที่ถูกระเบิดนั่นเอง และหลังจากสอนในมหาวิทยาลัยได้ไม่นานเขาก็ลาออกมา แน่นอน บริษัทของเขาต้องการทำในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเขาต้องทำหน้าที่ทุกอย่างทั้งส่งขึ้นรถ ขับรถหรือส่งเอกสาร เริ่มต้นได้เริ่มทำเครื่องบันทึกเสียงโดยใช้เส้นลวด แต่เนื่องจากไม่ทราบว่าโชคดีหรือร้าย บริษัทที่ทำเส้นลวดบางนี้ได้ไม่ยอมขายให้เนื่องจากเป็นบริษัทเล็ก และทำให้บริษัทของโมริตะไปพัฒนาในการใช้เทปแทน ซึ่งมีข้อดีกว่าการใช้ลวดบันทึกเสียงมากมายเพราะสามารถตัดต่อได้ ซึ่งเครื่องบันทึกเทปนั้นหัวใจอยู่ที่เทปซึ่งทั้งโมริตะและอิบุกะได้ทำการทดลองมาอย่างอดทนและในที่สุดก็สามารถเครื่องเล่นเทปได้
การที่คิดว่าเมื่อเราสามารถผลิตของดีได้แล้วจะทำให้เราสามารถขายได้มากเสมอ ความคิดนี้ผิดทันทีถ้าเราไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าสินค้าเรามีคุณค่าอย่างไร เมื่อเขาสามารถผลิตเครื่องเล่นเทปและเทปได้แต่คนส่วนใหญ่ไม่ซื้อ เนื่องจากมันเป็นของใหม่ที่คนทั่วไปไม่รู้จัก อาจเป็นเพราะว่ามันใหญ่และแพงเช่นนั้นหรือ ในที่สุดเขาก็พบว่าเนื่องจากคนไม่เห็นคุณค่ามันมากกว่า ดังนั้นเขาจึงไปสาธิตในที่ต่าง ๆ เช่น ศาล เพื่อใช้ในการบันทึกคำให้การแทนการจดชวเลขของเจ้าหน้าที่ การใช้ช่วยในการฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษ นอกจากนี้เขายังลดขนาดที่เทอะทะของมันให้เล็กลงและทำให้ราคาถูกลง ดันั้นสินค้าของเขาจึงขายได้เมื่อความต้องการมากขึ้นเขาจึงต้องขยายและย้ายบริษัทไปอยู่ในตัวเมือง และขอซื้อลิขสิทธิ์แรงดันไฟฟ้า AC ของ NEC เพื่อมาปรับปรุงเครื่องเล่นเทปของเขาอีกทางหนึ่งด้วย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Living conditionsAki: ZAO Morita is a son of sickle-El Monte, and Chu Ko. Morita, who is in a relatively wealthy family in Japan with 3 brothers who are all men, by the famous liquor business until the sake and acceptable as possible. Well-being is a comfortable home away from home, and there are many families living in this home away from home. To make this wealth of ideas of reading, rather it is in the West. There are many relatives to study in Europe, and Europe's new devices into justified satisfied that this child has a dream to create an electric phonograph record player and recording their own results.สำหรับการศึกษา เนื่องจากความสนใจในด้านคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และชอบด้านการทดลองเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้ผลการเรียนวิชาอื่น ๆ จึงออกมาแย่ สิ่งที่เขาพยายามทดลองคือสร้างเครื่องบันทึกเสียงแต่ก็ล้มเหลว ในที่สุดหลังจากที่จบมัธยมปลายเขาก็ได้เลือกเรียนต่อในสาขาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยโอซาก้าอิมพีเรียล แทนที่จะเลือกเศรษฐศาสตร์ตามที่พ่อของเขาต้องการ แต่อย่างไรก็ดีขณะที่เขาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยนั้น ญี่ปุ่นได้เปิดสงครามมหาเอเชียบูรพารวมไปถึงการรบกับอเมริกาด้วย ผู้ชายที่มีอายุเกิน 18 ปีจะต้องถูกเกณฑ์ทหาร อย่างไรก็ตามเขาเลือกที่จะเข้าสมัครเป็นทหารช่างเพื่อทดลองเกี่ยวกับอาวุธชิ้นใหม่ให้กับกองทัพ น้องชายทั้งสองของเขาก็เช่นกันได้ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเช่นเดียวกัน แต่เคราะห์ดีที่สงครามสิ้นสุดเสียก่อนที่พวกเขาจะออกรบ โดยช่วงที่มีสงครามนั้นทหารจะมีอำนาจเหนือการเมืองมาก ข่าวสารทั้งหมดจะผ่านทางข่าวทหารและปกปิดข่าวจริงเพื่อประโยชน์ในด้านยุทธศาสตร์ตลอดเวลา และจากการที่เข้าเป็นทหารวิจัยนี้เองทำให้เขาได้รู้จักกับ มาซารุ อิบูกะ ( ซึ่งเป็นคู่หูในการจัดตั้งบริษัท SONY ต่อมา ) ซึ่งเป็นลูกเจ้าของเครื่องมือวัดแห่งญี่ปุ่น หลังจากสู้รบอย่างยาวนานในที่สุดญี่ปุ่นก็ประกาศยอมแพ้สงครามเนื่องจากความย่อยยับของบ้านเมืองหลังจากการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตร และการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ของอเมริกาLooking to opportunities.แน่นอนว่าเมื่อสิ้นสุดสงครามแล้ว โมริตะและพี่น้องของเขาได้กลับบ้าน แต่สภาพของบ้านเมืองในตอนนั้นแร้นแค้นมาก การขาดแคลนเครื่องมือแพทย์และการตกงานของประชาชนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูหมดหวัง ในขณะที่เขากลับบ้านเขาก็ยังติดต่อกับอิบูกะอยู่เสมอ ๆ ซึ่งโรงงานเขาก็ถูกระเบิดทำลายจนต้องย้ายไปอยู่นอกเมืองเช่นเดียวกัน และจากการติดต่อกันจึงรู้ถึงว่าอิบูกะกำลังทำห้องทดลองในโตเกียวอยู่และต้องการให้โมริตะมาช่วยเพื่อร่วมกันก่อตั้งธุรกิจใหม่ขึ้นมา จากความรู้ ความสามารถและธุรกิจของอิบูกะที่ประสบความสำเร็จพอสมควร โดยเฉพาะ Project ใหม่ที่ท้าทาย ทำให้เขาตัดสินใจเดินทางมาโตเกียวเพื่อทำธุรกิจกับอิบูกะทันทีที่เขาส่งจดหมายเชิญBeginning a businessเมื่อโมริตะเดินทางมาถึงโตเกียวก็ทำงานสอนในมหาวิทยาลัยรวมถึงทำงานบริษัทไปด้วย โดยร่วมจัดตั้งบริษัทขึ้นมาในปี 1946 ชื่อ “ บริษัท วิศวกรรมโทรคมนาคมแห่งโตเกียว “ ซึ่งโมริตะได้เสี่ยงมากเนื่องจากเขาจะเป็นผู้สืบทอดกิจการของที่บ้านอยู่แล้ว แต่กลับมาโตเกียวตามลำพังเพื่อหาธุรกิจใหม่ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นบริษัทใหม่จึงต้องกลับไปยืมบริษัทพ่อเขาหลายครั้งโดยออกหุ้นให้แทน สถานที่ตั้งของบริษัทในช่วงแรกคือซากของห้างสรรพสินค้าที่ถูกระเบิดนั่นเอง และหลังจากสอนในมหาวิทยาลัยได้ไม่นานเขาก็ลาออกมา แน่นอน บริษัทของเขาต้องการทำในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเขาต้องทำหน้าที่ทุกอย่างทั้งส่งขึ้นรถ ขับรถหรือส่งเอกสาร เริ่มต้นได้เริ่มทำเครื่องบันทึกเสียงโดยใช้เส้นลวด แต่เนื่องจากไม่ทราบว่าโชคดีหรือร้าย บริษัทที่ทำเส้นลวดบางนี้ได้ไม่ยอมขายให้เนื่องจากเป็นบริษัทเล็ก และทำให้บริษัทของโมริตะไปพัฒนาในการใช้เทปแทน ซึ่งมีข้อดีกว่าการใช้ลวดบันทึกเสียงมากมายเพราะสามารถตัดต่อได้ ซึ่งเครื่องบันทึกเทปนั้นหัวใจอยู่ที่เทปซึ่งทั้งโมริตะและอิบุกะได้ทำการทดลองมาอย่างอดทนและในที่สุดก็สามารถเครื่องเล่นเทปได้การที่คิดว่าเมื่อเราสามารถผลิตของดีได้แล้วจะทำให้เราสามารถขายได้มากเสมอ ความคิดนี้ผิดทันทีถ้าเราไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าสินค้าเรามีคุณค่าอย่างไร เมื่อเขาสามารถผลิตเครื่องเล่นเทปและเทปได้แต่คนส่วนใหญ่ไม่ซื้อ เนื่องจากมันเป็นของใหม่ที่คนทั่วไปไม่รู้จัก อาจเป็นเพราะว่ามันใหญ่และแพงเช่นนั้นหรือ ในที่สุดเขาก็พบว่าเนื่องจากคนไม่เห็นคุณค่ามันมากกว่า ดังนั้นเขาจึงไปสาธิตในที่ต่าง ๆ เช่น ศาล เพื่อใช้ในการบันทึกคำให้การแทนการจดชวเลขของเจ้าหน้าที่ การใช้ช่วยในการฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษ นอกจากนี้เขายังลดขนาดที่เทอะทะของมันให้เล็กลงและทำให้ราคาถูกลง ดันั้นสินค้าของเขาจึงขายได้เมื่อความต้องการมากขึ้นเขาจึงต้องขยายและย้ายบริษัทไปอยู่ในตัวเมือง และขอซื้อลิขสิทธิ์แรงดันไฟฟ้า AC ของ NEC เพื่อมาปรับปรุงเครื่องเล่นเทปของเขาอีกทางหนึ่งด้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
สภาพความเป็นอยู่
อากิโอะ โมริตะ เป็นลูกชายคนโตของเคียวซาเอมอนและชูโกะ โมริตะ ซึ่งอยู่ในครอบครัวที่ค่อนข้างมั่งคั่งในญี่ปุ่นมีพี่น้อง 3 คนเป็นผู้ชายทั้งหมด โดยทำธุรกิจเหล้าสาเกจนโด่งดังและเป็นที่ยอมรับที่สุด ความเป็นอยู่เป็นไปอย่างสะดวกสบายมีบ้านหลังใหญ่และมีหลายครอบครัวอาศัยในบ้านหลังนี้ การที่มั่งคั่งนี้เองจึงทำให้ความคิดความอ่านค่อนข้างที่จะเป็นตะวันตก มีญาติหลายคนไปเรียนในยุโรป และหลงใหลในอุปกรณ์ใหม่ ๆ ของยุโรปพอสมควร จนทำให้เด็กคนนี้มีความฝันที่จะสร้างเครื่องเล่นแผ่นเสียงไฟฟ้าและบันทึกเสียงของตัวเองใหได้
สำหรับการศึกษา เนื่องจากความสนใจในด้านคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และชอบด้านการทดลองเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้ผลการเรียนวิชาอื่น ๆ จึงออกมาแย่ สิ่งที่เขาพยายามทดลองคือสร้างเครื่องบันทึกเสียงแต่ก็ล้มเหลว ในที่สุดหลังจากที่จบมัธยมปลายเขาก็ได้เลือกเรียนต่อในสาขาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยโอซาก้าอิมพีเรียล แทนที่จะเลือกเศรษฐศาสตร์ตามที่พ่อของเขาต้องการ แต่อย่างไรก็ดีขณะที่เขาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยนั้น ญี่ปุ่นได้เปิดสงครามมหาเอเชียบูรพารวมไปถึงการรบกับอเมริกาด้วย ผู้ชายที่มีอายุเกิน 18 ปีจะต้องถูกเกณฑ์ทหาร อย่างไรก็ตามเขาเลือกที่จะเข้าสมัครเป็นทหารช่างเพื่อทดลองเกี่ยวกับอาวุธชิ้นใหม่ให้กับกองทัพ น้องชายทั้งสองของเขาก็เช่นกันได้ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเช่นเดียวกัน แต่เคราะห์ดีที่สงครามสิ้นสุดเสียก่อนที่พวกเขาจะออกรบ โดยช่วงที่มีสงครามนั้นทหารจะมีอำนาจเหนือการเมืองมาก ข่าวสารทั้งหมดจะผ่านทางข่าวทหารและปกปิดข่าวจริงเพื่อประโยชน์ในด้านยุทธศาสตร์ตลอดเวลา และจากการที่เข้าเป็นทหารวิจัยนี้เองทำให้เขาได้รู้จักกับ มาซารุ อิบูกะ ( ซึ่งเป็นคู่หูในการจัดตั้งบริษัท SONY ต่อมา ) ซึ่งเป็นลูกเจ้าของเครื่องมือวัดแห่งญี่ปุ่น หลังจากสู้รบอย่างยาวนานในที่สุดญี่ปุ่นก็ประกาศยอมแพ้สงครามเนื่องจากความย่อยยับของบ้านเมืองหลังจากการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตร และการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ของอเมริกา
การมองถึงโอกาส
แน่นอนว่าเมื่อสิ้นสุดสงครามแล้ว โมริตะและพี่น้องของเขาได้กลับบ้าน แต่สภาพของบ้านเมืองในตอนนั้นแร้นแค้นมาก การขาดแคลนเครื่องมือแพทย์และการตกงานของประชาชนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูหมดหวัง ในขณะที่เขากลับบ้านเขาก็ยังติดต่อกับอิบูกะอยู่เสมอ ๆ ซึ่งโรงงานเขาก็ถูกระเบิดทำลายจนต้องย้ายไปอยู่นอกเมืองเช่นเดียวกัน และจากการติดต่อกันจึงรู้ถึงว่าอิบูกะกำลังทำห้องทดลองในโตเกียวอยู่และต้องการให้โมริตะมาช่วยเพื่อร่วมกันก่อตั้งธุรกิจใหม่ขึ้นมา จากความรู้ ความสามารถและธุรกิจของอิบูกะที่ประสบความสำเร็จพอสมควร โดยเฉพาะ Project ใหม่ที่ท้าทาย ทำให้เขาตัดสินใจเดินทางมาโตเกียวเพื่อทำธุรกิจกับอิบูกะทันทีที่เขาส่งจดหมายเชิญ
ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ
เมื่อโมริตะเดินทางมาถึงโตเกียวก็ทำงานสอนในมหาวิทยาลัยรวมถึงทำงานบริษัทไปด้วย โดยร่วมจัดตั้งบริษัทขึ้นมาในปี 1946 ชื่อ “ บริษัท วิศวกรรมโทรคมนาคมแห่งโตเกียว “ ซึ่งโมริตะได้เสี่ยงมากเนื่องจากเขาจะเป็นผู้สืบทอดกิจการของที่บ้านอยู่แล้ว แต่กลับมาโตเกียวตามลำพังเพื่อหาธุรกิจใหม่ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นบริษัทใหม่จึงต้องกลับไปยืมบริษัทพ่อเขาหลายครั้งโดยออกหุ้นให้แทน สถานที่ตั้งของบริษัทในช่วงแรกคือซากของห้างสรรพสินค้าที่ถูกระเบิดนั่นเอง และหลังจากสอนในมหาวิทยาลัยได้ไม่นานเขาก็ลาออกมา แน่นอน บริษัทของเขาต้องการทำในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเขาต้องทำหน้าที่ทุกอย่างทั้งส่งขึ้นรถ ขับรถหรือส่งเอกสาร เริ่มต้นได้เริ่มทำเครื่องบันทึกเสียงโดยใช้เส้นลวด แต่เนื่องจากไม่ทราบว่าโชคดีหรือร้าย บริษัทที่ทำเส้นลวดบางนี้ได้ไม่ยอมขายให้เนื่องจากเป็นบริษัทเล็ก และทำให้บริษัทของโมริตะไปพัฒนาในการใช้เทปแทน ซึ่งมีข้อดีกว่าการใช้ลวดบันทึกเสียงมากมายเพราะสามารถตัดต่อได้ ซึ่งเครื่องบันทึกเทปนั้นหัวใจอยู่ที่เทปซึ่งทั้งโมริตะและอิบุกะได้ทำการทดลองมาอย่างอดทนและในที่สุดก็สามารถเครื่องเล่นเทปได้
การที่คิดว่าเมื่อเราสามารถผลิตของดีได้แล้วจะทำให้เราสามารถขายได้มากเสมอ ความคิดนี้ผิดทันทีถ้าเราไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าสินค้าเรามีคุณค่าอย่างไร เมื่อเขาสามารถผลิตเครื่องเล่นเทปและเทปได้แต่คนส่วนใหญ่ไม่ซื้อ เนื่องจากมันเป็นของใหม่ที่คนทั่วไปไม่รู้จัก อาจเป็นเพราะว่ามันใหญ่และแพงเช่นนั้นหรือ ในที่สุดเขาก็พบว่าเนื่องจากคนไม่เห็นคุณค่ามันมากกว่า ดังนั้นเขาจึงไปสาธิตในที่ต่าง ๆ เช่น ศาล เพื่อใช้ในการบันทึกคำให้การแทนการจดชวเลขของเจ้าหน้าที่ การใช้ช่วยในการฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษ นอกจากนี้เขายังลดขนาดที่เทอะทะของมันให้เล็กลงและทำให้ราคาถูกลง ดันั้นสินค้าของเขาจึงขายได้เมื่อความต้องการมากขึ้นเขาจึงต้องขยายและย้ายบริษัทไปอยู่ในตัวเมือง และขอซื้อลิขสิทธิ์แรงดันไฟฟ้า AC ของ NEC เพื่อมาปรับปรุงเครื่องเล่นเทปของเขาอีกทางหนึ่งด้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Living state
.Akio Morita was the eldest son of sickle saemon Shugo and Morita, which are in the family quite rich in Japan have siblings 3 people are all men. The business until the famous sake and recognized.The rich this the thought is to be the West. There are many relatives studying in Europe, and passionate in the new devices of Europe reasonably.For the study due to interest in mathematics, physics, chemistry, and like the trial, as life, make achievement. . it out what he tried to experiment is to create a recorder but failed.University of Osaka Imperial Rather than choose economics as his father. However, while he was studying in the University. Japan opened the Greater East Asia war including the battle with the United States of America.18 years shall be drafted. However, he chose to sign a serviceman to experiment on new weapon for the army. Both his brother, too, had been in the army as well.The war that the military will have power over politics. All information is through the military news and conceal the real news for the sake of strategy all the time. That the military research and this made him acquainted with Masaru(which is a partner in the company SONY later), which is the son of the owner of measuring instrument of Japan.And the atomic bombings of America
.Looking to the occasion!Of course, at the end of the war. Morita and his brothers were back home. But the condition of the country at that time, from hand to mouth. A shortage of medical instruments and erosion of people make everything look desperate.The factory, which he was blow up until the need to move to the outside as well. And from the contact and know the ว่าอิ boogie going do lab in Tokyo, and want to help to jointly founded the Morita new business.The ability and business of Electronics boogie that successful enough. Especially Project new challenge that he decided to travel to Tokyo to do business with the IBU and as soon as he sent a letter to invite
.The initial business
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: