อาจเป็นข่าวเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในชายขอ

อาจเป็นข่าวเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในชายขอบของสังคมไทย เป็นการลุกขึ้นมาต่อสู้ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของคนในท้องถิ่น ที่อาจ ไม่ส่งผลกระทบหรือสร้างความระคายเคืองใดๆ ให้แก่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง แต่ ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อวิถีการดำรงชีวิตของคนในพื้นที่ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่มันเป็นครั้งที่ร้อยที่พันของการตอบโต้กันระหว่างนโยบายและการกระทำของภาครัฐที่มีต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของคนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงมันเป็นปรากฏการณ์อุบัติซ้ำที่ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลงได้เมื่อใด

ที่ผมเกริ่นมานี้ก็เพื่อที่จะเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีการเคลื่อนไหวเล็กๆ ของชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนชาวบ้านจาก จ.ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ในนาม "สมาคมคนทาม" จำนวนกว่า 100 คน ได้ร่วมประกอบพิธีกรรมสืบชะตาแม่น้ำมูล โดยการสู่ขวัญแม่น้ำมูล ณ ริมฝั่งแม่น้ำมูล เขตพื้นที่บ้านร่องอโศก ต.หนองแค อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ตามความเชื่อและพิธีกรรมที่พวกเขาสืบทอดมาจากคนรุ่นก่อนๆ ซึ่งเราอาจเรียกได้ว่า เป็นภูมิปัญญาเชิงนิเวศแบบดั้งเดิมของชาวบ้าน ในการที่จะปกป้องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่กำลังถูกคุกคามจากนโยบายและการกระทำของภาครัฐ ที่ชาวบ้านมองว่า นี่คือการทำลายล้างระบบนิเวศริมฝั่งแม่น้ำมูล เส้นเลือดใหญ่ของผู้คนในลุ่มน้ำดังกล่าว

ต้นเหตุของการชุมนุมประกอบพิธีกรรมสืบชะตาแม่น้ำมูลในครั้งนี้ มาจากการที่ภาครัฐโดยกรมเจ้าท่า ได้มีโครงการขุดลอกแม่น้ำมูล พร้อมกับมีการปรับภูมิทัศน์และที่ดินริมตลิ่งแม่น้ำทั้งสองข้างเพื่อทำเป็นเขื่อนกั้นตลิ่ง โดยใช้หินและคอนกรีตความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร โครงการนี้เกิดขึ้นเหมือนกับหล่นลงมาจากฟากฟ้า โดยที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้รับทราบมาก่อน ไม่มีการสอบถามความเห็นของชาวบ้านว่าจะเอาหรือไม่เอา ไม่มีการศึกษาผลกระทบตามกระบวนการขั้นตอนที่ถูกกำหนดไว้เป็นแนวในการปฏิบัติ โครงการซึ่งไม่มีที่มาที่ไปนี้ ทำให้ชาวบ้านหลายคนมองว่า มันคือความพยายามในการใช้เงินงบประมาณของทางราชการโดยไม่มีเหตุผลอันควร และเหมือนว่าจะมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างแอบแฝงไว้ด้วย

ชาวบ้านใน อ.ราษีไศล ในอดีต เคยได้รับชะตากรรมอันเลวร้ายจากผลกระทบของโครงการสร้างเขื่อนราษีไศลมาอย่างหนัก พวกเขาลุกขึ้นมาต่อสู้และต่อรองกับอำนาจรัฐ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิเสียงในการดูแลธรรมชาติและระบบนิเวศในท้องถิ่นของพวกเขา การต่อสู้อันยืดเยื้อยาวนานทำให้พวกเขาเริ่มฉลาดและรู้เท่าทันเกมกลของอำนาจรัฐในการจัดการฐานทรัพยากรที่บิดเบี้ยว และไม่สนใจผู้คนตัวเล็กตัวน้อยในชุมชนท้องถิ่น การต่อสู้ในครั้งนั้น ทำให้พวกเขาเรียนรู้และสรุปบทเรียนอย่างแจ่มชัด จนต่อมาได้ร่วมกันจัดตั้ง "สมาคมคนทาม" ขึ้นมา ซึ่งถือว่าเป็นการรวมกลุ่มของชาวบ้าน ในการจัดการทรัพยากรของตนอย่างเคารพในจิตวิญญาณของธรรมชาติ เพื่อให้มันคงอยู่อย่างยั่งยืนในอนาคต

เมื่ออยู่ๆ ภาครัฐเข้ามาดำเนินโครงการที่ดูไม่ค่อยมีเหตุผลมีผล และไม่เคารพสิทธิเสียงของชาวบ้าน คนราษีไศลและคนลุ่มน้ำมูลก็คงไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้อีกต่อไป พวกเขาเห็นว่า โครงการกระทำชำเราแม่น้ำมูลในครั้งนี้จะส่งผลให้พื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์ในบริเวณดังกล่าวถูกทำลายไปในทันที โดยเฉพาะป่าทามราษีไศล อันเปรียบเสมือนมดลูกใหญ่ของลุ่มน้ำมูล ที่ก่อกำเนิดทรัพยากรธรรมชาติที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตของผู้คนมายาวนาน

ในการชุมนุมต่อต้านและประกอบพิธี กรรมสืบชะตาแม่น้ำในครั้งนี้ ชาวบ้านได้เสนอข้อเรียกร้องสำคัญ 3 ประการต่อทางจังหวัด คือ 1.ให้หยุดโครงการขุดลอกแม่น้ำมูลโดยทันที 2.ให้มีการตรวจสอบไต่สวนกระบวนการและ ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม พร้อมปรึกษาหารือกับชุมชนท้องถิ่นก่อนดำเนิน การใดๆ ในแม่น้ำมูล และสุดท้ายให้มีกระบวน การวางแผนการจัดการน้ำโดยประชาชนมีส่วนร่วม ข้อเรียกร้องดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาจากภาครัฐหรือไม่ ก็คงต้องติดตามกันต่อไป

การเข้ามาจัดการทำเขื่อนกันตลิ่งและปรับภูมิทัศน์แม่น้ำมูล ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในพื้นที่บ้านร่องอโศก แต่ได้เกิดขึ้นและดำเนินการเสร็จไปแล้วในริมฝั่งแม่น้ำมูลของบ้านห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ที่ริมตลิ่งแม่น้ำมูลถูกเขื่อนคอนกรีตและหินแข็งกระด้างเข้ามาแทนที่เป็นระยะทางยาวสุดลูกหูลูกตา จนทำให้ฟากฝั่งของแม่น้ำมูลกลายเป็นเสมือนแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในท้องถิ่น ใช่ มันดูสะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบ แต่ว่านี่คือการกระทำที่ทำลายระบบนิเวศริมฝั่งแม่น้ำให้ย่อยยับจนไม่อาจกู้คืนได้อีก ทำไมกรมเจ้าท่าถึงไม่คำนึงในเรื่องนี้ ทั้งที่รู้กันอยู่ว่าระบบนิเวศของแม่น้ำนั้นมีความสำคัญอย่างไร

หยุดโครงการกระทำชำเราแม่น้ำมูล เสียทีเถอะ ชาวบ้านเขาขอร้อง

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

It might be a little news happening in the margins of society, Thailand is virtually fighting to protect the natural resources of local people may not affect or create any irritation to make government agencies involved, but deep impact against the way of life of the people in the area. The motion this time is not the first time, but it is the hundreds of thousands of times the interaction between government policies and actions towards nature and the environment of the local people, which is something that should never happen, but in reality it is a phenomenon that does not seem to happen repeatedly that ends when. I came to the Herald that talks about when this past September 8 there has been a small movement of the nationals of one of the banklum, which consists of representatives from ROI et, Surin, SI SA KET province, villagers on behalf of "the society of people times" over 100 people have traced the fate of the liturgical Assembly by the River to River data morale at the banks of the River Bann rongosok zone data. Tambon Nong khae, a. Raja ไศล, SI SA KET si based on the beliefs and rituals that they inherited from the previous generation, which we might call the eco-wisdom of the locals. In order to protect nature and the environment is being threatened from the policies and actions of the Government. Here's a look at the destructive ecological River data. Blood of people in such a basinต้นเหตุของการชุมนุมประกอบพิธีกรรมสืบชะตาแม่น้ำมูลในครั้งนี้ มาจากการที่ภาครัฐโดยกรมเจ้าท่า ได้มีโครงการขุดลอกแม่น้ำมูล พร้อมกับมีการปรับภูมิทัศน์และที่ดินริมตลิ่งแม่น้ำทั้งสองข้างเพื่อทำเป็นเขื่อนกั้นตลิ่ง โดยใช้หินและคอนกรีตความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร โครงการนี้เกิดขึ้นเหมือนกับหล่นลงมาจากฟากฟ้า โดยที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้รับทราบมาก่อน ไม่มีการสอบถามความเห็นของชาวบ้านว่าจะเอาหรือไม่เอา ไม่มีการศึกษาผลกระทบตามกระบวนการขั้นตอนที่ถูกกำหนดไว้เป็นแนวในการปฏิบัติ โครงการซึ่งไม่มีที่มาที่ไปนี้ ทำให้ชาวบ้านหลายคนมองว่า มันคือความพยายามในการใช้เงินงบประมาณของทางราชการโดยไม่มีเหตุผลอันควร และเหมือนว่าจะมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างแอบแฝงไว้ด้วยชาวบ้านใน อ.ราษีไศล ในอดีต เคยได้รับชะตากรรมอันเลวร้ายจากผลกระทบของโครงการสร้างเขื่อนราษีไศลมาอย่างหนัก พวกเขาลุกขึ้นมาต่อสู้และต่อรองกับอำนาจรัฐ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิเสียงในการดูแลธรรมชาติและระบบนิเวศในท้องถิ่นของพวกเขา การต่อสู้อันยืดเยื้อยาวนานทำให้พวกเขาเริ่มฉลาดและรู้เท่าทันเกมกลของอำนาจรัฐในการจัดการฐานทรัพยากรที่บิดเบี้ยว และไม่สนใจผู้คนตัวเล็กตัวน้อยในชุมชนท้องถิ่น การต่อสู้ในครั้งนั้น ทำให้พวกเขาเรียนรู้และสรุปบทเรียนอย่างแจ่มชัด จนต่อมาได้ร่วมกันจัดตั้ง "สมาคมคนทาม" ขึ้นมา ซึ่งถือว่าเป็นการรวมกลุ่มของชาวบ้าน ในการจัดการทรัพยากรของตนอย่างเคารพในจิตวิญญาณของธรรมชาติ เพื่อให้มันคงอยู่อย่างยั่งยืนในอนาคตWhen ayu Government into projects that see little reason to take effect and do not respect the rights of the villagers. People are paradise and ไศล si basin data would not be silently. They believe that the project is done to rape the Mun River, abundant in the area of the forest was destroyed in an instant, particularly wild time Raja ไศล an si compared the uterus of the basin the initiate's natural resources to sustain people's long life.To rally against and the ceremony trace the fate of a river karma. People have proposed three major claims with the provinces are: 1. to stop the project to dredge the river Mun. 2. how interrogate, examine the processes and impact of environmental and social. With consultation with the local community. Any action in the Mun River, and finally, with the route. Water management planning by public participation Such claims will be considered from the Government whether or not they want to track.การเข้ามาจัดการทำเขื่อนกันตลิ่งและปรับภูมิทัศน์แม่น้ำมูล ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในพื้นที่บ้านร่องอโศก แต่ได้เกิดขึ้นและดำเนินการเสร็จไปแล้วในริมฝั่งแม่น้ำมูลของบ้านห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ที่ริมตลิ่งแม่น้ำมูลถูกเขื่อนคอนกรีตและหินแข็งกระด้างเข้ามาแทนที่เป็นระยะทางยาวสุดลูกหูลูกตา จนทำให้ฟากฝั่งของแม่น้ำมูลกลายเป็นเสมือนแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในท้องถิ่น ใช่ มันดูสะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบ แต่ว่านี่คือการกระทำที่ทำลายระบบนิเวศริมฝั่งแม่น้ำให้ย่อยยับจนไม่อาจกู้คืนได้อีก ทำไมกรมเจ้าท่าถึงไม่คำนึงในเรื่องนี้ ทั้งที่รู้กันอยู่ว่าระบบนิเวศของแม่น้ำนั้นมีความสำคัญอย่างไรหยุดโครงการกระทำชำเราแม่น้ำมูล เสียทีเถอะ ชาวบ้านเขาขอร้อง

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

It may be small news Which took place in the margins of society Thailand. He rose to fight to protect the natural resources of local people who may not affect or create any irritation. The government agencies involved, but a profound impact on the way of life of local people. This movement is not the first. But it was the hundreds of thousands of the interaction between the policies and actions of government for nature and environment of local people. This is something that should not happen. But in reality it is a phenomenon that is unlikely to occur repeatedly ended when I assume this is to tell you that on September 8, has a small movement. The group of villagers These include representatives from the locals. Sa Ket, Surin, Roi Et "The Association was time" more than 100 people attended ceremonies traditionally destined river. The welcome at the river banks of the river. Ban Rong district of Bangkok. Khae district Rasi Salai district. Sisaket beliefs and rituals they inherited from previous generations. We may be called Ecological wisdom of traditional folk. In order to protect nature and the environment that are threatened by the policies and actions of government. The locals viewed This is the destruction of ecosystems along the banks of the river. The lifeblood of the people in the watershed, the source of intelligence gathering ritual destiny in this river. From the government by the Marine Department. A project to dredge the river. Along with the landscape and the land along the river banks on both sides to make the dam embankment. The stone and concrete of approximately 7 km project like this happen to fall from the sky. The local people have not been aware of before. There is no question that the views of local people are taken or not taken. No impact study by step process that is defined as the practice. The project, which has come to this. Many residents said. It is an attempt to use the budget of the government without any valid reasons. And as if that would be a clue that something hidden by villagers in the district Salai in the past had been a fate worse by the impact of Rasi Salai dam project came hard. They rose to fight and negotiate with the state. In order to get the right sound in nature and their local ecosystems. The prolonged battle started making them intelligent and knowingly game machine of state power to manage the resource base is distorted. And ignore the little people in the local community. The battle at that time Learn lessons and make them clearly. He later was jointly established "Association of the Times", which was considered as the integration of residents. To manage their resources in a spirit of respect for nature. So that it remains sustainable in the future on the other. Government to carry out projects that seem realistic effect. And do not respect the voice of the people. The Rasi Salai and watershed information would not be silent any longer. They see Project sexually river in this area will result in a rich forest in the area was destroyed in an instant. Especially wetlands Salai It is like the womb of a watershed information. The origination of natural resources that effect the lives of people long in a rally against the ceremony. Karma dating destiny in this river. The villagers had offered major concessions on three factors: 1. the province to stop the dredging of the river immediately. 2. monitoring and investigation process. Environmental and social impact studies. Consultation with the local community before taking any action on the river, and finally the process. The water management plan for public participation. Claims will be considered by the government or not. We need to continue to pursue the deal came together embankment dam and river landscape. Not recently took first place in the House Asoke groove. But it happens and you're done, then the value of Huay Kha river bank mosquito district Downtown district. Ubon Ratchathani. The river banks were hardened concrete and stone dam in place a long distance out of sight. And the banks of the river became a tourist attraction of new local products, it looks clean, orderly But this is the act of destroying the ecosystem along the river to Waterloo, and can not be recovered again. Why the Marine Department in this regard. Well known is that the ecosystem of the river is important, however, to stop the abuse river finally let him ask the locals.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

May be a little story that occurred in the boundaries of Thai society. To put up a fight to protect the natural resources of the local people may not affect or create any irritation To the relevant government agencies.This movement is not the first time But it is the hundred thousands of reaction between the policies and actions of the government towards the nature and environment of the local people. Which is something that should never have happened.
.
I mentioned here to tell you that on the day 8 September, the motion of a small group of villagers Which consists of representatives from villagers.Sisaket, ROI et, Surin, known as "the association" the people 100 people joined the rituals to destiny Havel by welcome back to the Mun River. At the Mun River area crack house Asoka T. Nong khae District salai.)Sisaket, according to the beliefs and rituals that they derive from the older generation, which we may call it that. Ecological wisdom of traditional village.The villagers look. This is the destruction of the Mun River ecosystem. Large vessels of the people in the basin
.
.The cause of the rally rituals to fate Havel at this time. From the government by the marine department. The Mun River dredging project.Rock and concrete by using the length of about 7 kilometers. This project is like falling down from the sky. The people in the area was not aware of before. There is no opinions of the villagers to take it or leave it.The project, which is out of nowhere, many villagers look. It is an attempt to use the government budget without probable cause? , and seems to have a clue hidden with
.
the villagers in the district.In the past have been salai ill fate that impact from dam construction project salai as heavy. They put up a fight, and negotiate with the government power.The battle of long lasting they began intelligent and knowingly game trick of state power in the การฐา resource that is distorted. And ignore the little people in the local community, the battle at that time.Until the later Association jointly established "people", which is a group of people. In the management of natural resources of their respect in the spirit of nature. So it must be sustainably in the future!
.When a government in the project doesn't make sense effect. And do not respect the rights of the villagers sound People salai and Mun River would not be silent on any longer. They see