เรียงความเรื่องอาชีพของครูเป็นอาชีพ

เรียงความเรื่องอาชีพของ
ครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติ ครูเป็นผู้ให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนทุกๆคนรียงความเรื่อง ฉันจะประสบความสำเร็จในอาชีพครูได้อย่างไร
การเป็นครูนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องมีความรู้ทางวิชาการเพื่อจะสอนนักเรียนเท่านั้น แต่ครูยังจะต้องเป็นผู้ช่วยนักเรียนให้พัฒนาทั้งทางด้านสติปัญญา บุคลิกภาพ อารมณ์ และสังคมด้วยดังนั้น ครูต้องเป็นผู้ที่ให้ความอบอุ่นแก่นักเรียน เพื่อนักเรียนจะได้มีความเชื่อและไว้ใจครู พร้อมที่จะเข้าพบครูเวลาที่มีปัญหา นอกจากนี้ครูจะต้องเป็นต้นฉบับที่ดีแก่นักเรียน ถ้าหากจะถามนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถม จนถึงนิสิตนักศึกษาขั้นมหาวิทยาลัย ว่ามีใครบ้างในชีวิตของนักเรียนที่นักเรียนยึดถือเป็นต้นฉบับ นักเรียนส่วนมากจะมีครูอย่างน้อยหนึ่งคนยึดเป็นต้นฉบับหรือตัวแบบและนักเรียนจะยอมรับค่านิยมและอุดมการณ์ของครู เพื่อเป็นหลักของชีวิต อิทธิพลของครูที่นักเรียนยึดเป็นต้นฉบับจะติดตามไปตลอดชีวิต
มีผู้กล่าวว่า ครูเปรียบเสมือนศิลปินที่ปั้นรูป เพราะครูทุกคนมีส่วนในการพัฒนาบุคลิกภาพของนักเรียน แต่ผลงานของครูไม่เหมือนกับปฏิมากรที่พองานแต่ละชิ้นสำเร็จก็เห็นผลงาน อาจจะตั้งให้ชมได้ หรือถ้าไม่ชอบอาจจะแก้ไขเพิ่มเติมได้ ส่วนครูนั้นจะต้องรอจนนักเรียนกลับมาบอกครูว่าครูได้ช่วยเขาอย่างไร หรือมีอิทธิพลต่อชีวิตเขาอย่างไร และบางครั้งการรอก็เป็นการเสียเวลาเปล่าเพราะแม้ว่านักเรียนบางคนจะคิดถึงความดีของครู แต่ก็คิดอยู่ในใจไม่แสดงออก จึงทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าอาชีพครูเหมือนเรือจ้างที่มีหน้าที่ส่งคนข้ามฟากเท่านั้น ซึ่งเป็นเครื่องชี้ถึงทัศนคติทางลบที่มีต่ออาชีพครูจึงมีส่วนทำให้คนบางคนตัดสินใจเลือกอาชีพครูเป็นอาชีพสุดท้าย
จะเห็นว่าการเป็นครูที่ดีนั้นจะต้องเป็นด้วยจิตวิญาณมีความเข้าใจหลักการสอนกระบวนการสอนตามหลักวิชาการแล้วยังไม่พอ ครูจะต้องรู้เกี่ยวกับจิตวิทยา เพราะครูทุกคนมีวิถีชีวิตอยู่กับคนแทบจะตลอดเวลาจึงจำเป็นจะต้องรู้ชีวิตจิตใจของมนุษย์ว่าเขาเหล่านั้นมีความต้องการอะไร ดังมีกล่าวว่าคนเป็นครูจะต้องรู้จิตวิทยาเพราะว่าจิตวิทยาช่วยครูได้ดังที่สุรางค์ โค้วตระกูล. 2544 : 4-5 [1] กล่าวไว้ดังต่อไปนี้
1. ช่วยครูให้รู้จักลักษณะนิสัย (Characteristics) ของนักเรียนที่ครูต้องสอนโดยทราบหลักพัฒนาการทั้งทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และบุคลิกภาพเป็นส่วนรวม
2. ช่วยให้ครูมีความเข้าใจพัฒนาการทางบุคลิกภาพบางประการของนักเรียน เช่น อัตมโนทัศน์ (Self concept) ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และเรียนรู้ถึงบทบาทของครูในการที่จะช่วยนักเรียนให้มี อัตมโนทัศน์ ที่ดีและถูกต้องได้อย่างไร
3. ช่วยครูให้มีความเข้าใจในความแตกต่างระหว่างบุคคล เพื่อจะได้ช่วยนักเรียนเป็นรายบุคคลให้พัฒนาตามศักยภาพของแต่ละบุคคล
4. ช่วยให้ครูรู้วิธีจัดสภาพแวดล้อมของห้องเรียนให้เหมาะสมแก่วัย และขั้นพัฒนาการของนักเรียน เพื่อจูงใจให้นักเรียนมีความสนใจและอยากจะเรียนรู้
5. ช่วยให้ครูทราบถึงตัวแปรต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของนักเรียน เช่น แรงจูงใจ อัตมโนทัศน์ และการตั้งความคาดหวังของครูที่มีต่อนักเรียน
6. ช่วยครูในการเตรียมการสอนวางแผนการเรียน เพื่อทำให้การสอนมีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้นักเรียนทุกคนเรียนรู้ตามศักยภาพของแต่ละบุคคล โดยคำนึงหัวข้อต่อไปนี้
6.1 ช่วยครูเลือกวัตถุประสงค์ของบทเรียนโดยคำนึงถึงลักษณะนิสัยและความแตกต่างระหว่างบุคคลของนักเรียนที่จะต้องสอน และสามารถที่จะเขียนวัตถุประสงค์ให้นักเรียนเข้าใจว่าสิ่งที่ครูคาดหวังให้นักเรียนรู้มีอะไรบ้าง โดยถือว่าวัตถุประสงค์ของบทเรียนคือสิ่งที่จะช่วยให้นักเรียนทราบว่า เมื่อจบบทเรียนแล้วนักเรียนจะสามารถทำอะไรได้บ้าง
6.2 ช่วยครูในการเลือกหลักการสอนและวิธีสอนที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงลักษณะนิสัยของนักเรียนและวิชาที่สอน และกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียน
6.3 ช่วยครูในการประเมินไม่เพียงแต่เฉพาะเวลาครูได้สอนจนจบบทเรียนเท่า นั้นแต่ใช้ประเมินความพร้อมของนักเรียนก่อนสอน ในระหว่างที่ทำการสอน เพื่อจะทราบว่านักเรียนมีความก้าวหน้าหรือมีปัญหาในการเรียนรู้อะไรบ้าง
7. ช่วยครูให้ทราบหลักการและทฤษฎีของการเรียนรู้ที่นักจิตวิทยา ได้พิสูจน์แล้วว่าได้ผลดี เช่น การเรียนรู้จากการสังเกตหรือการเลียนแบบ (Observational learning หรือ Modeling)
8. ช่วยครูให้ทราบถึงหลักการสอนและวิธีสอนที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งพฤติกรรมของครูที่มีการสอนอย่างมีประสิทธิภาพว่ามีอะไรบ้าง เช่น การใช้คำถาม การให้แรงเสริม และการทำตนเป็นต้นแบบ
9. ช่วยครูให้ทราบว่านักเรียนที่มีผลการเรียนดีไม่ได้เป็นเพราะ ระดับเชาวน์ปัญญาเพียงอย่างเดียว แต่มีองค์ประกอบอื่นๆ เช่น แรงจูงใจ (Motivation) ทัศนคติหรือ อัตมโนทัศน์ของนักเรียนและความคาดหวังของครูที่มีต่อตัวนักเรียน
10. ช่วยครูในการปกครองชั้นและการสร้างบรรยากาศของห้องเรียน ให้เอื้อต่อการเรียนรู้และเสริมสร้างบุคลิกภาพของนักเรียน ครูและนักเรียนมีความรัก และไว้วางใจซึ่งกันและกัน นักเรียน ต่างก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำให้ห้องเรียนเป็นสถานที่ที่ทุกคนมีความสุขและนักเรียนรักโรงเรียน อยากมาโรงเรียน
เนื่องจากการศึกษามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เยาวชนพัฒนาการทั้งทางด้านเชาวน์ปัญญา และทางบุคลิกภาพ เพื่อช่วยให้เยาวชนมีความสำเร็จในชีวิต ทุกประเทศจึงหาทางส่งเสริมการศึกษา ให้มีคุณภาพ มีมาตรฐานความเป็นเลิศ ความรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาการศึกษาจึงมีสำคัญในการช่วยทั้งครูและนักการศึกษาผู้มีความรับผิดชอบในการปรับปรุงหลักสูตรและการเรียนการสอน

ผลลัพธ์ (มาเลย์) 1:

Cikgu kerjaya Esei adalah kerjaya yang berprestij. Guru untuk mendidik anak-anak tentang setiap pelajar kulir a. Saya berjaya mengajar mereka?
.Guru Itu Bukan sahaja ia mempunyai pengetahuan teknikal untuk mengajar pelajar sahaja. Tetapi guru-guru juga perlu membantu pelajar untuk membangunkan personaliti intelektual, sosial, emosi dan sebagainya.Pelajar perlu mempunyai keyakinan dan kepercayaan dalam guru. Bersedia untuk menghadapi guru yang berkenaan. Di samping itu, guru mestilah asli kepada pelajar. Jika anda bertanya pelajar dari sekolah rendah. Universiti DePaul PelajarKebanyakan pelajar akan mempunyai sekurang-kurangnya seorang guru atau pemegang asal dan pelajar menerima nilai-nilai dan cita-cita guru. Untuk inti dalam kehidupan Pengaruh guru ini, pelajar akan mengambil landasan yang asal untuk kehidupan
.Dikatakan bahawa Guru adalah seperti seorang artis arca. Kerana semua guru-guru yang terlibat dalam pembangunan personaliti pelajar. Tetapi kerja-kerja guru-guru tidak sama seperti kerja-kerja setiap karya pemahat dicapai ini. Yang dinyatakan untuk melawatGuru perlu menunggu sehingga pelajar kembali untuk memberitahu guru bahawa guru telah membantu mereka. Atau mempengaruhi hidupnya. Dan kadang-kadang menunggu adalah satu pembaziran masa kerana walaupun sesetengah pelajar akan terlepas seorang guru yang baik.Ia membuatkan orang berasa seperti guru sewa bot yang bertanggungjawab untuk menghantar feri sahaja. Yang merupakan penunjuk kepada sikap negatif terhadap guru dan seterusnya menyumbang kepada profesion perguruan sebagai pilihan kerjaya, sesetengah orang mengambil keputusan lalu
.Ia dilihat bahawa guru yang baik mesti menjadi satu proses pengajaran keingkarannya, mengajar secara teknikal, maka tidak mencukupi. Guru mesti tahu tentang psikologi.Setelah berkata, sebagai seorang guru, pembantu guru mesti tahu psikologi, psikologi, sebagai Kow keluarga Surangsri.2544: 4-5 [1] membincangkan berikut:
1. Membantu guru mengenali ciri-ciri (Ciri-ciri) daripada pelajar yang diajar oleh guru-guru untuk memberitahu pembangunan fizikal, intelektual, emosi, sosial dan personaliti secara keseluruhan
2.Membantu guru memahami beberapa aspek pembangunan personaliti pelajar sebagai konsep kendiri (konsep kendiri) yang berlaku. Dan belajar tentang peranan guru untuk membantu pelajar-pelajar untuk mempunyai konsep kendiri yang baik dan kesahihan?
3.Membantu guru memahami perbezaan antara individu. Untuk membantu pelajar individu untuk membangunkan potensi setiap individu
4.Membantu guru tahu bagaimana persekitaran bilik darjah yang sesuai untuk usia mereka. Dan peringkat pembangunan pelajar Bagi memotivasikan pelajar berminat dan mahu belajar
5.Membantu guru mengetahui pembolehubah. Bahawa pembelajaran pelajar pengaruh, seperti motivasi, konsep diri, dan menetapkan jangkaan guru terhadap pelajar
6.Membantu guru-guru untuk menyediakan pengajaran rancangan pengajaran. Untuk membuat arahan secara berkesan boleh membantu semua pelajar belajar potensi setiap individu. Dengan mengambil kira topik-topik berikut
6.1 memberi kita objektif pengajaran dengan mengambil kira personaliti dan perbezaan individu pelajar yang akan diajar. Dan dapat menulis objektif pelajar faham apa yang guru-guru mengharapkan pelajar mengetahui apa.Pada akhir pembelajaran ini, pelajar akan dapat melakukannya
.6.2 membolehkan guru-guru untuk memilih pengajaran dan kaedah pengajaran yang sesuai. Dengan mengambil kira ciri-ciri pelajar dan diajar.
6 dan proses pembelajaran pelajar.3 membolehkan guru-guru untuk menilai bukan sahaja guru mengajar pelajaran berakhir. Tetapi untuk menilai kesediaan pelajar sebelum mengajar. Semasa pengajaran Untuk mengetahui bagaimana pelajar berjalan atau mempunyai masalah untuk belajar apa
7.Membantu guru-guru mempelajari prinsip-prinsip dan teori psikologi pembelajaran. Telah terbukti berkesan sebagai belajar dari pemerhatian atau peniruan. (Pembelajaran pemerhatian, atau model)
8.Membantu guru belajar untuk mengajar prinsip-prinsip dan kaedah pengajaran yang berkesan. Termasuk sikap guru-guru mengajar dengan berkesan, apa yang mereka suka menggunakan soalan untuk memberi dorongan tambahan. Dan membuat prototaip mereka
9.Membantu guru-guru tahu bahawa pelajar dengan gred yang baik, bukan kerana. IQ sahaja Namun terdapat unsur lain seperti motivasi (motivasi) atau sikap.Ke-10.Membantu guru-guru dan ibu bapa untuk mewujudkan suasana bilik darjah. Untuk memudahkan pembelajaran dan meningkatkan personaliti pelajar. Guru dan pelajar suka Dan mempercayai antara satu sama lain, pelajar bantu-membantu.Saya datang ke sekolah!Oleh kerana pendidikan memainkan peranan yang penting dalam membantu anak-anak muda membangunkan kedua-dua kecerdasan. Personaliti dan Untuk membantu belia berjaya dalam hidup. Setiap negara telah berusaha untuk menggalakkan standard kualiti pendidikan yang cemerlang.