ถ้ำคืออะไร ? ถ้ำ ตามความหมายทางวิทย

ถ้ำคืออะไร ?
ถ้ำ ตามความหมายทางวิทยาศาสตร์ คือ ช่องว่าง หรือ โพรงในหิน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นท่อทางเดินของน้ำ ระหว่างทางน้ำเข้า และทางน้ำออก เช่น น้ำพุ น้ำซับ ส่วนความหมายทางอื่น จะหมายถึง ช่องว่างที่เกิดตามธรรมชาติในหิน ที่มีขนาดพอที่คนจะเข้าไปได้ สามารถจะเข้าไปสำรวจและทำแผนที่ได้ ถ้ำเกิดขึ้นได้เกือบทุกสภาวะบนผิวโลก เกิดขึ้นได้กับหินทุกประเภท แต่ที่น่าสนใจที่สุด คือ ถ้ำที่เกิดจากหินปูน
ถ้ำเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ถ้ำเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดเมื่อน้ำฝนตกลงมารวมตัวกับก๊าสคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในอากาศทำให้น้ำฝนมีสภาพ เป็นกรดอ่อนๆ หรือที่เรียกกันว่ากรดคาร์บอนิค มีคุณสมบัติสามารถละลายหินปูน (Limestone) หรือหินที่อยู่ในกลุ่มแคลคาร์เรียสได้ดี เมื่อน้ำฝนที่ตกลงมาบางส่วนซึมและใต้ดินไหลบ่ามาตามหน้าดินมารวมกันกลายเป็น ทางน้ำขนาดใหญ่ ส่วนที่ไหลซึมลงใต้ดินจะได้รับการเติมคาร์บอนไดอ๊อกไซด์จากกิจกรรมการย่อย สลายของซากพืชซากสัตว์ของจุลินทรีย์เล็กๆ ในดินน้ำที่ซึมลงไปรวมกันเกิดเป็นระดับน้ำใต้ดิน รอการไหลซึมลงตามรอยแตก (joint) ของหินปูนและทำการละลายหินปูนจนเกิดเป็นโพรงถ้ำขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อระดับน้ำใต้ดินลดระดับลง ทำให้เกิดช่องว่างอากาศภายในถ้ำขึ้น น้ำภายในจะเริ่มไหล ระดับน้ำใต้ดินจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดปี และเริ่มกระบวนการพัฒนาของโถงถ้ำโดยใช้กระบวนการกษัยการ(Erosion)ควบคู่กับกระบวนการละลาย (Solution)การพัดพาตะกอนขนาดเล็กขัดสีพื้นถ้ำและผนังถ้ำ ทำให้ระดับพื้นถ้ำต่ำลงเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันน้ำที่ซึมมาตามรอยแตกของหินจากเพดานถ้ำและผนังถ้ำก็มีการสะสมตัวของตะกอนหินปูน(Calciamcarbonate) โดยการที่น้ำใต้ดินมีสวนผสมของสารละลายแคลเซียมไบคาร์บอเนตปล่อยก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ออกมาทำให้แคลเซียมที่อยู่ในสารละลายเริ่มตกตะกอนและจับตัวกันอีก ครั้งเกิดรูปทรงที่แปลกตาของตะกอนภายในถ้ำ เมื่อถ้ำมีการพัฒนาของโถงใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เพดานด้านบนจะเริ่มรับน้ำหนักไม่ไหวก็จะมีการถล่มของโถงถ้ำเกิดอาจเกิดเป็น ช่องเปิดที่เป็นช่องทางเชื่อมต่อกับภายนอก กลายเป็นปากถ้ำหรือการถล่มบางครั้งจะไม่สามารถสร้างช่องทางเชื่อมต่อได้แต่ สามารถทำให้เกิดลักษณะภูมิประเทศเฉพาะตัว
ตามเส้นทางน้ำขนาดใหญ่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถสร้างเส้นทางเชื่อมต่อกับถ้ำต่างๆ เกิดเป็นโถงถ้ำที่ซับซ้อน สร้างปากถ้ำหรือเส้นทางเชื่อมต่อกับโลกภายนอก หลังจากนั้นสิ่งมีชีวิตเริ่มเข้ามาอาศัยปากถ้ำเป็นที่หลบภัย หากิน หรือใช้เป็นที่อยู่อาศัย บางชนิดหลงเข้าไปลึก ๆ ถ้าสามารถวิวัฒนาการและปรับตัวได้ก็เกิดเป็นสายพันธ์ใหม่ๆ ที่มีลักษณะเฉพาะ อวัยวะบางอย่างหายไปเช่น ตา ฯลฯ หรือการเพิ่มประสาทสัมผัสพิเศษเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จำกัดได้ ในตอนหน้าเรามาศึกษากันว่า ภายในถ้ำนั้น จะมีอะไรบ้าง....
ตามที่ทราบกันมาว่า ถ้ำนั้น คือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่ต้องใช้ระยะเวลานาน หลายร้อย หลายพันปี ดังนั้น ลักษณะของถ้ำจึงสามารถแบ่งได้หลายประเภท
ลักษณะของถ้ำ
1. แบ่งตามระดับน้ำใต้ดิน
- ถ้ำฟรีแอทิก ( phreatic cave) ถ้ำที่เกิดใต้ระดับน้ำใต้ดิน
- ถ้ำวาโดส ( Vadose cave) ถ้ำที่เกิดเหนือระดับน้ำใต้ดิน เขตไม่อิ่มน้ำ
2. แบ่งตามลักษณะและทิศทาง
- ถ้ำแนวนอน ทอดตัวยาวลึก
- ถ้ำชั้น ภายในแบ่งเป็นหลายๆ ชั้น
- ถ้ำแนวตั้ง ทอดตัวแนวตั้งลึกลงไปในดิน ตัวอย่างที่เราจะพบได้บ่อยในปัจจุบัน เช่น หลุมยุบ
- ถ้ำแนวลาด ทอดตัวลาดเท ไม่ขนานหรือตั้งฉากกับระดับพื้น
ถ้ำผาไท สันนิษฐานว่าถูกค้นพบโดยพรานป่าล่าสัตว์ หรือจากการสำรวจทางหลวงแผ่นดิน ภายในถ้ำเป็นโถงขนาดใหญ่เกิดจากภูเขาหินปูนอายุไม่น้อยกว่าเก้าล้านปี ความลึกจากปากถ้ำเข้าไปประมาณ 1,150 เมตร ตลอดเส้นทางอุทยานฯ ได้ติดตั้งไฟฟ้าเพื่อให้สะดวกในการเดินชมหินงอกหินย้อยที่มีอยู่มากมายในถ้ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 เคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2469 ดังปรากฏหลักฐานพระปรมาภิไธยย่อ ปปร. ภายในถ้ำมีค้างคาวจำนวนมากอาศัยอยู่ บริเวณใกล้เคียงมีถ้ำโจรและถ้ำเสือที่มีประวัติเก่าแก่ สามารถเดินถึงได้จากถ้ำผาไท
ถ้ำโจร เป็นถ้ำขนาดเล็กมี 3 ห้อง งดงามด้วยม่านหินย้อยในแต่ละโถงถ้ำ เล่ากันว่าอดีตเคยเป็นที่อาศัยของโจรมาก่อน
หล่มภูเขียว มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่อยู่บนภูเขามีลักษณะคล้ายปล่องภูเขาไฟ น้ำในแอ่งลึกมากจนมองเห็นน้ำเป็นสีเขียว มีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก การเดินทาง ใช้เส้นทางรถยนต์จากหมู่บ้านอ้อน ประมาณ 6 กิโลเมตร
น้ำตกแม่แจ้ฟ้า หรือ น้ำตกตาดเหมย ตั้งอยู่ห่างจากบ้านทุ่งฮ้าง หมู่ 1 ตำบลทุ่งผึ้ง อำเภอแจ้ห่ม เป็นทางรถยนต์เข้าไปประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีน้ำใสสะอาดไหลลงแอ่งน้ำรองรับลงมาเป็นชั้น มีความสูงรวม 9 ชั้น แต่ละชั้นงดงามด้วยสายน้ำสีเขียวมรกตซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของน้ำตกบนภูเขาหินปูน
แต่ถ้าถามว่าถ้ำไหนในเมืองไทยที่เก่าแก่ที่สุด...คงไม่มีไหนเท่าที่นี่ เพราะมีเถ้าภูเขาไฟอายุ 15 ล้านปีเป็นข้อพิสูจน์เป็นหนึ่งเดียวในสยามนามนั้น..."ถ้ำผาไท" ถ้าไม่มาก็คงไม่รู้ว่าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท นั้นซ่อนมหัศจรรย์ธรรมชาติไว้อยู่ เหตุผลที่มาตอนแรก เพราะใฝ่ฝันหาอากาศที่เย็นสบายตลอดปี จึงเลือกมาเที่ยวพักผ่อนที่ถ้ำผาไท ซึ่งไม่ผิดหวัง เพราะอากาศร่มรื่นเย็นกำลังดี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีของที่นี่ประมาณ 26 องศาเซลเซียส อาจด้วยความที่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน และเป็นพื้นที่ป่า ที่เป็นป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง ซึ่งมีความ อุดมสมบูรณ์มาก มีสวนสักกระจายอยู่ทั่วไป จึงทำให้พื้นที่ปกคลุมไปด้วยธรรมชาติที่หล่มรื่น
อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท มีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแจ้ห่ม อำเภองาว จังหวัดลำปาง มีลักษณะภูมิประเทศทั่วไปเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่เป็น พื้นที่ต้นน้ำลำธาร ชั้นที่ 160 มีจุดเด่นและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญ คือ ถ้ำผาไท หล่มภูเขียว บริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม ถ้ำออกรู ห้วยแม่พลึง นอกจากนี้ยังมีน้ำตกขนาดเล็กกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มหัศจรรย์ธรรมชาติอย่างแรก ที่พบ คือหมู่มวลนกแปลก ที่อาศัยอยู่มากมาย ที่นี่มีนกหายากอยู่มากกว่า 50 ชนิด เช่น นกปีกลายสก๊อต นกเขาเขียว นกเขาเปล้าธรรมดา น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

What is a cave?On the scientific meaning of the cave is a space or cavity in the rock, which will act as a drain of water. Between water and the water such as water fountains lining the meaning section will mean a gap occurs naturally in rocks that have enough people to go. Can be to survey and map. The caves occur almost every State on the surface of the Earth. All kinds of stone occur, but the most interesting is the limestone.The cave occurs, what should I do?ถ้ำเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดเมื่อน้ำฝนตกลงมารวมตัวกับก๊าสคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในอากาศทำให้น้ำฝนมีสภาพ เป็นกรดอ่อนๆ หรือที่เรียกกันว่ากรดคาร์บอนิค มีคุณสมบัติสามารถละลายหินปูน (Limestone) หรือหินที่อยู่ในกลุ่มแคลคาร์เรียสได้ดี เมื่อน้ำฝนที่ตกลงมาบางส่วนซึมและใต้ดินไหลบ่ามาตามหน้าดินมารวมกันกลายเป็น ทางน้ำขนาดใหญ่ ส่วนที่ไหลซึมลงใต้ดินจะได้รับการเติมคาร์บอนไดอ๊อกไซด์จากกิจกรรมการย่อย สลายของซากพืชซากสัตว์ของจุลินทรีย์เล็กๆ ในดินน้ำที่ซึมลงไปรวมกันเกิดเป็นระดับน้ำใต้ดิน รอการไหลซึมลงตามรอยแตก (joint) ของหินปูนและทำการละลายหินปูนจนเกิดเป็นโพรงถ้ำขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อระดับน้ำใต้ดินลดระดับลง ทำให้เกิดช่องว่างอากาศภายในถ้ำขึ้น น้ำภายในจะเริ่มไหล ระดับน้ำใต้ดินจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดปี และเริ่มกระบวนการพัฒนาของโถงถ้ำโดยใช้กระบวนการกษัยการ(Erosion)ควบคู่กับกระบวนการละลาย (Solution)การพัดพาตะกอนขนาดเล็กขัดสีพื้นถ้ำและผนังถ้ำ ทำให้ระดับพื้นถ้ำต่ำลงเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันน้ำที่ซึมมาตามรอยแตกของหินจากเพดานถ้ำและผนังถ้ำก็มีการสะสมตัวของตะกอนหินปูน(Calciamcarbonate) โดยการที่น้ำใต้ดินมีสวนผสมของสารละลายแคลเซียมไบคาร์บอเนตปล่อยก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ออกมาทำให้แคลเซียมที่อยู่ในสารละลายเริ่มตกตะกอนและจับตัวกันอีก ครั้งเกิดรูปทรงที่แปลกตาของตะกอนภายในถ้ำ เมื่อถ้ำมีการพัฒนาของโถงใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เพดานด้านบนจะเริ่มรับน้ำหนักไม่ไหวก็จะมีการถล่มของโถงถ้ำเกิดอาจเกิดเป็น ช่องเปิดที่เป็นช่องทางเชื่อมต่อกับภายนอก กลายเป็นปากถ้ำหรือการถล่มบางครั้งจะไม่สามารถสร้างช่องทางเชื่อมต่อได้แต่ สามารถทำให้เกิดลักษณะภูมิประเทศเฉพาะตัว ตามเส้นทางน้ำขนาดใหญ่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถสร้างเส้นทางเชื่อมต่อกับถ้ำต่างๆ เกิดเป็นโถงถ้ำที่ซับซ้อน สร้างปากถ้ำหรือเส้นทางเชื่อมต่อกับโลกภายนอก หลังจากนั้นสิ่งมีชีวิตเริ่มเข้ามาอาศัยปากถ้ำเป็นที่หลบภัย หากิน หรือใช้เป็นที่อยู่อาศัย บางชนิดหลงเข้าไปลึก ๆ ถ้าสามารถวิวัฒนาการและปรับตัวได้ก็เกิดเป็นสายพันธ์ใหม่ๆ ที่มีลักษณะเฉพาะ อวัยวะบางอย่างหายไปเช่น ตา ฯลฯ หรือการเพิ่มประสาทสัมผัสพิเศษเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จำกัดได้ ในตอนหน้าเรามาศึกษากันว่า ภายในถ้ำนั้น จะมีอะไรบ้าง....ตามที่ทราบกันมาว่า ถ้ำนั้น คือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่ต้องใช้ระยะเวลานาน หลายร้อย หลายพันปี ดังนั้น ลักษณะของถ้ำจึงสามารถแบ่งได้หลายประเภทลักษณะของถ้ำ1. แบ่งตามระดับน้ำใต้ดิน- ถ้ำฟรีแอทิก ( phreatic cave) ถ้ำที่เกิดใต้ระดับน้ำใต้ดิน- ถ้ำวาโดส ( Vadose cave) ถ้ำที่เกิดเหนือระดับน้ำใต้ดิน เขตไม่อิ่มน้ำ 2. แบ่งตามลักษณะและทิศทาง- ถ้ำแนวนอน ทอดตัวยาวลึก- ถ้ำชั้น ภายในแบ่งเป็นหลายๆ ชั้น- ถ้ำแนวตั้ง ทอดตัวแนวตั้งลึกลงไปในดิน ตัวอย่างที่เราจะพบได้บ่อยในปัจจุบัน เช่น หลุมยุบ - ถ้ำแนวลาด ทอดตัวลาดเท ไม่ขนานหรือตั้งฉากกับระดับพื้นถ้ำผาไท สันนิษฐานว่าถูกค้นพบโดยพรานป่าล่าสัตว์ หรือจากการสำรวจทางหลวงแผ่นดิน ภายในถ้ำเป็นโถงขนาดใหญ่เกิดจากภูเขาหินปูนอายุไม่น้อยกว่าเก้าล้านปี ความลึกจากปากถ้ำเข้าไปประมาณ 1,150 เมตร ตลอดเส้นทางอุทยานฯ ได้ติดตั้งไฟฟ้าเพื่อให้สะดวกในการเดินชมหินงอกหินย้อยที่มีอยู่มากมายในถ้ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 เคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2469 ดังปรากฏหลักฐานพระปรมาภิไธยย่อ ปปร. ภายในถ้ำมีค้างคาวจำนวนมากอาศัยอยู่ บริเวณใกล้เคียงมีถ้ำโจรและถ้ำเสือที่มีประวัติเก่าแก่ สามารถเดินถึงได้จากถ้ำผาไท
ถ้ำโจร เป็นถ้ำขนาดเล็กมี 3 ห้อง งดงามด้วยม่านหินย้อยในแต่ละโถงถ้ำ เล่ากันว่าอดีตเคยเป็นที่อาศัยของโจรมาก่อน
หล่มภูเขียว มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่อยู่บนภูเขามีลักษณะคล้ายปล่องภูเขาไฟ น้ำในแอ่งลึกมากจนมองเห็นน้ำเป็นสีเขียว มีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก การเดินทาง ใช้เส้นทางรถยนต์จากหมู่บ้านอ้อน ประมาณ 6 กิโลเมตร
น้ำตกแม่แจ้ฟ้า หรือ น้ำตกตาดเหมย ตั้งอยู่ห่างจากบ้านทุ่งฮ้าง หมู่ 1 ตำบลทุ่งผึ้ง อำเภอแจ้ห่ม เป็นทางรถยนต์เข้าไปประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีน้ำใสสะอาดไหลลงแอ่งน้ำรองรับลงมาเป็นชั้น มีความสูงรวม 9 ชั้น แต่ละชั้นงดงามด้วยสายน้ำสีเขียวมรกตซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของน้ำตกบนภูเขาหินปูน
แต่ถ้าถามว่าถ้ำไหนในเมืองไทยที่เก่าแก่ที่สุด...คงไม่มีไหนเท่าที่นี่ เพราะมีเถ้าภูเขาไฟอายุ 15 ล้านปีเป็นข้อพิสูจน์เป็นหนึ่งเดียวในสยามนามนั้น..."ถ้ำผาไท" ถ้าไม่มาก็คงไม่รู้ว่าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท นั้นซ่อนมหัศจรรย์ธรรมชาติไว้อยู่ เหตุผลที่มาตอนแรก เพราะใฝ่ฝันหาอากาศที่เย็นสบายตลอดปี จึงเลือกมาเที่ยวพักผ่อนที่ถ้ำผาไท ซึ่งไม่ผิดหวัง เพราะอากาศร่มรื่นเย็นกำลังดี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีของที่นี่ประมาณ 26 องศาเซลเซียส อาจด้วยความที่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน และเป็นพื้นที่ป่า ที่เป็นป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง ซึ่งมีความ อุดมสมบูรณ์มาก มีสวนสักกระจายอยู่ทั่วไป จึงทำให้พื้นที่ปกคลุมไปด้วยธรรมชาติที่หล่มรื่น
อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท มีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแจ้ห่ม อำเภองาว จังหวัดลำปาง มีลักษณะภูมิประเทศทั่วไปเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่เป็น พื้นที่ต้นน้ำลำธาร ชั้นที่ 160 มีจุดเด่นและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญ คือ ถ้ำผาไท หล่มภูเขียว บริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม ถ้ำออกรู ห้วยแม่พลึง นอกจากนี้ยังมีน้ำตกขนาดเล็กกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มหัศจรรย์ธรรมชาติอย่างแรก ที่พบ คือหมู่มวลนกแปลก ที่อาศัยอยู่มากมาย ที่นี่มีนกหายากอยู่มากกว่า 50 ชนิด เช่น นกปีกลายสก๊อต นกเขาเขียว นกเขาเปล้าธรรมดา น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The cave?
.The cave, according to scientific meaning is a gap or hole in the stone, which will act as a conduit of the passage of the water, the water and the water out. Such as the fountain, spring, and the meaning of other means the gap arising naturally in the rock.Can be in survey and mapping. The caves occur almost every conditions on the earth's surface. Occur with all types of stone, but the most interesting is the limestone cave
.The cave happen??
.The cave is a natural phenomenon. When the rain fell together with the gas carbon dioxide in the air makes the rain has a กรดอ่อน, or known as carbon organic acid Features can be dissolved limestone (Limestone).When the rain fell some locating underground runoff and soil together become the aunt to give water large The percolation into the ground will be filling carbon dioxide from the activities of digestion. The breakdown of the fossil of a small plaqueWaiting to seep into the break (joint) of limestone and the soluble limestone until a cave cavity enlarged as often when ground water down. Air gap inside the cave, the water inside the starts flowing.And start the development process of the cave by using the process of erosion (Erosion) along with the melting process (Solution) sediment delivery, small abrasion the floor caves and cave wall. The cave floor down gradually.By that groundwater is mixed solution of calcium bicarbonate carbon emissions. Dioxide out the calcium in solution, began settling and captured again. Times what strange shapes of sediment within the cave.On the ceiling above will begin to get weight not have collapse of the cave's potential. Opening a channel connected to the outside. A cave or collapse sometimes will not be able to build a channel connected but.
.Along the big water is one factor that can create a path connected to the cave. เกิดเป็น Hall of the cave complex. Create a cave or path connected to the outside world.Tricky or used as a residence. Some types of struck deep into. If can evolve and adapt the new species that are unique. Some organs such as the eye is missing, etc.In front of us study that inside the cave, there are something....
as known that the cave is a natural phenomenon that takes a long time, the hundreds of thousands of years. Therefore, the characteristics of the cave can be divided into several types. Characteristics of cave. According to the groundwater level 1

.Free - cave at clinic (phreatic cave) cave caused under ground water
- cave wa doses (Vadose cave) cave caused over underground water area is not filled with water.
2. According to the characteristics and direction of
- cave horizontal moves deep
- cave layers within divided into many. I
.- the cave vertically extending vertically deep in the soil. For example, we often found at present, such as the sinkhole
- cave the lat stretches cant not parallel or perpendicular to the floor level
.Caves, assumed that was discovered by the Rangers hunting. Or from the national highway. Inside the cave is a large hall from limestone mountain was no less than nine million years. The depth of the mouth of the cave, and go about 1