อัตถชีวประวัติของฉัน คุณแม่ตั้งครรภ์ในช่วงระยะเวลาการรักษา 9 เดือน เมื การแปล - อัตถชีวประวัติของฉัน คุณแม่ตั้งครรภ์ในช่วงระยะเวลาการรักษา 9 เดือน เมื อังกฤษ วิธีการพูด

อัตถชีวประวัติของฉัน คุณแม่ตั้งครรภ

อัตถชีวประวัติของฉัน
คุณแม่ตั้งครรภ์ในช่วงระยะเวลาการรักษา 9 เดือน เมื่อแสงแดดในยามเช้า ในวันที่อังคาร ที่ 13 กรกฎาคม 2536 ที่มีเด็กน่ารัก ตาโต ดวงตาคล้ายกับชาวต่างชาติ รูปร่างผอม ที่เปิดตามองโลก
ชีวิตในวัยเด็กของข้าพเจ้าก็เหมือนเด็กบ้านนอกทั่วๆไป ฉันชื่อ นางสาวอังสุดา แก้วคำโฮง เกิดที่เมืองมหาสารคาม ในสถานที่ๆสวยงาม ชื่อเล่นอัง เกิดวันอังคาร ที่ 13 เดือนกรกฎาคม พ.ศ 2536 ปัจจุบันอายุ 22 ปี ชอบการ์ตูนโดราเอม่อนแต่จะชอบสีชมพูและสีม่วง เพราะทำให้ฉันรู้สึกนุ่มนวลอ่อนหวาน อบอุ่นและมีพลัง อาหารโปรดของฉัน คือ ส้มตำ ไก่ย่างข้าวเหนียวหมูปิ้ง ฉันเกิดที่สถานีอนามัยโนนทอง จ.มหาสารคาม แรกเกิดฉันมีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม 8 ขีด มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน รวมทั้งตัวฉันเอง พี่สาวของฉันห่างกันกับฉัน 2 ปี ชื่อนางสาวสินจัย แก้วคำโฮง อายุ 26 ปี พี่สาวได้แต่งงานมีลูกสาว 1 คน ฉันจึงรักหลานสาวคนแรกของครอบครัวมาก และพี่สาวคนที่ 2 ชื่อนางสาวอุษา แก้วคำโอง อายุ 24 ปี แต่งงานแล้ว ยังไม่มีลูก และตัวดิฉันเองกำลังศึกษา ส่วนพ่อของฉันชื่อนายเกรียงไกร แก้วคำโอง อายุ 52 ปี แม่ของฉัน
ชื่อนางชวัลนุช แก้วคำโฮง อายุ 42 ปี ครอบครัวของฉันประกอบอาชีพทำนา ในสภาพครอบครัวของฉันอยู่กันอย่างอบอุ่น รักใคร่ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทุกๆคนจะคอยเอาใจใส่กัน จะคอยเป็นห่วงกันอยู่เสมอ แต่นิสัยส่วนตัวของฉันจะเป็นเด็กค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเอง ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็ก ทุกคนในบ้านจึงตามใจตลอด จนติดเป็นนิสัย อยากได้อะไรก็ต้องได้เสมอ ฉันจะสนิทกับแม่มาก ปรึกษาพูดคุยกับแม่ได้ทุกๆ เรื่อง แม่จะสอนและให้ข้อคิดอยู่เสมอ ต่อมาฉันได้เริ่มเข้าศึกษาที่โรงเรียนก่อนเข้าอนุบาล
(ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก) จากนั้นก็เข้าศึกษาต่ออนุบาลที่โรงเรียนบ้านหนองทุ่ม ซึ่งตอนนั้นฉันยังจำได้พอเข้าศึกษาอนุบาลวันแรก ฉันร้องตามแม่มากทั้งวันจนแม่มารับกลับบ้านตอนเย็น ส่วนกิจวัตรประจำวันในตอนเป็นเด็กอนุบาลก็จะซนและเอาแต่ใจตัวเอง ขี้งอลมาก เช้ามาก็ต้องสะพายกระเป๋าสีม่วงกับปิ่นโตและกระบอกน้ำสีม่วงทั้งหมด ไปโรงเรียนจะมีพ่อคอยรับ-ส่ง อยู่ตลอด กิจกรรมการเรียนการสอนส่วนมากครูจะให้ปั้นดินน้ำมัน ระบายสี หัดเขียน ก-ฮ ฟังครูเล่านิทานก่อนนอน และในระหว่างช่วงไปโรงเรียนก็มีการออกกำลังกายในตอนเช้าหลังจากเข้าแถวเสร็จ ดื่มนมเป็นธรรมดาของเด็กเล็กที่จะได้รับนมเป็นเครื่องดื่มตอนกลางวัน และวันนั้นก็เกิดขึ้น ข้าพเจ้าได้รับนมกล่องใหญ่มาก แต่ไม่รู้ว่าตัวเองดื่มนมท่าไหนกัน จึงสำลักออกมาทั้งปาก ทั้งจมูก คิดว่าคงจะตายให้ได้แล้วล่ะมั่ง ตั้งแต่นั้นมาข้าพเจ้าก็ไม่แตะต้องนมอีกเลย ได้กลิ่นนมทีไรเหมือนจะอ้วกออกมาทุกครั้ง มากสุดดื่มได้แค่นมเปรี้ยวและนมถั่วเหลืองเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเองตัวเล็ก ไม่สูงอยากที่ตั้งใจ ทั้งที่ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าไม่ดื่มนม ก็พยายามเล่นกีฬาแบบยืดตัว เช่น บาสเก็ตบอลแทน แต่มันก็ไม่ช่วยอะไร นึกโทษตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้ พอบ่ายสามโมงครึ่งก็นั่งรอพ่อมารับ พอเห็นของเล่นที่อยากได้ก็จะบอกพ่อกับแม่ซื้อให้ ถ้าไม่ซื้อให้ก็จะร้องไห้ ตะโกนเสียงดัง จนกว่าพ่อกับแม่จะซื้อให้ เป็นต้น เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พ่อกับแม่ลืมข้าพเจ้าไว้ที่โรงเรียน ไม่มารับกลับบ้านเหมือนทุกๆ วัน เคยคิดว่า ลูกทั้งคนนะ ลืมได้ยังไงกัน ลืมแบบนึกไม่ออกด้วย ดูเหมือนว่าตอนนั้น ข้าพเจ้าดูจะไม่ทุกข์ร้อนเลยที่พ่อกับแม่ยังไม่มารับ จนกระทั่งคุณครูเดินมาถามว่า ยังไม่มีคนมารับหรอ คุณครูก็เลยอาสาพามาส่ง โดยอาศัยความจำของเด็กตัวเล็กๆ ไม่น่าเชื่อว่าข้าพเจ้าจะพาคุณครูมาถึงบ้านได้ ข้าพเจ้าจำความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้เลย แอบคิดว่า จำได้ยังไงกัน บ้านกับโรงเรียนอยู่ห่างกันตั้งเยอะ และตอนนั้นข้าพเจ้าก็เรียนอยู่แค่ชั้นอนุบาล 1 คุณครูชมข้าพเจ้าใหญ่ และพ่อกับแม่ก็นึกขึ้นได้ว่าลืมข้าพเจ้าเมื่อตอนเห็นหน้า พออายุย่างเข้า 7 ขวบได้เข้าศึกษาต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเดิมเนื่องจากใกล้บ้านและฉันได้ศึกษาโรงเรียนบ้านหนองทุ่มจนสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในช่วงเด็กประถมฉันจะชอบเขียนคัดลายมือ เขียนเรียงความวันพ่อและวันแม่ และเป็นตัวแทนของห้องเรียนอยู่เสมอ บางครั้งก็ได้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันคัดลายมือ ปั้นดินน้ำมัน ได้ที่ 1 และ ได้ที่ 2 ช่วงเวลาอยู่ที่โรงเรียนก็จะเล่นกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนานจนได้บาดแผลกลับบ้านอยู่ทุกวัน ส่วนมากจะเป็นที่หัวเข่าทั้ง 2 ข้าง และช่วงประมาณชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้มีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นกับฉัน 2 เหตุการณ์ เรื่องแรกคือขับรถจักรยานยนต์ล้มขาบวมมาก ต้องนอนพักอยู่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์ ต่อมาก้างปลาได้ติดคอ ตอนนั้นเหมือนหายใจไม่ค่อยออกคิดว่าตัวเองต้องตายแล้ว แต่พ่อกับแม่ได้พาไปหายาย ใช้เท้าเขี่ยให้ตามที่โบราณเล่ากันมา คนที่เกิดเอาเท้าออกมาก่อนจะสามารถเขี่ยก้างปลาได้ ยายได้เขี่ยให้ฉันก็รู้สึกดีขึ้น แต่เพราะยังมีบาดแผลที่ก้างตำ ฉันเจ็บมากประมาณ 1 สัปดาห์ รับประทานอาหารไม่ได้น้ำหนักลดถึง 5 กิโลกรัม จนแม่ต้องพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลบรบือ หมอได้ให้ยามาทานก่อนเพื่อรักษาบาดแผลและนัดวันถ้าไม่หายให้มาเอกซเรย์ว่ายังมีก้างปลาหลงเหลืออยู่ แต่ไม่ถึงวันนัดฉันจึงหาย แต่หลังจากก้างปลาติดคอครั้งนั้นแล้ว ทำให้คอฉันมีปัญหาตลอด ทำให้คออักเสมออยู่เสมอ พอใกล้จะสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นช่วงที่ต้องสอบเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ฉันและเพื่อนๆ ได้ไปสอบเข้าโรงเรียนบรบือวิทยาคม ในตัวเมือง ทั้งสอบและหยิบฉลากแต่ก็ไม่ได้ ฉันรู้สึกเสียใจมาก แต่พ่อกับแม่คอยอยู่ข้างๆ และปลอบใจฉันเสมอ ฉันจึงตัดสินใจไปสมัครเรียนโรงเรียนใกล้ๆบ้าน คือโรงเรียนโนนราษีวิทยา สอบเลือกห้องฉันได้อยู่ห้อง 2 รุ่นฉันมีทั้งหมด 3 ห้องเรียน พ่อจึงบอกให้ตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้ ถ้าขออะไรก็จะตามใจเสมอ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ฉันได้เรียนห้อง 2 และพยายามตั้งใจเรียนและขยันให้มากกว่าเดิม จนในที่สุดชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3 ฉันจึงได้อยู่ห้อง 1 เด็กห้อง 1 เป็นเด็กนักเรียนที่มีเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไปและประพฤติตัวดี ทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจขึ้นมานิดหนึ่ง ชีวิตในช่วงมัธยมต้นเป็นชีวิตที่สนุกสนานมากสำ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
At my thachiwoprawat Pregnant mother during the period of treatment nine months when the Sun in the morning on the day of Tuesday, July 13 at 2536 was lovely. Eyes eyes similar to a foreign shape skinny world view, eyes open.ชีวิตในวัยเด็กของข้าพเจ้าก็เหมือนเด็กบ้านนอกทั่วๆไป ฉันชื่อ นางสาวอังสุดา แก้วคำโฮง เกิดที่เมืองมหาสารคาม ในสถานที่ๆสวยงาม ชื่อเล่นอัง เกิดวันอังคาร ที่ 13 เดือนกรกฎาคม พ.ศ 2536 ปัจจุบันอายุ 22 ปี ชอบการ์ตูนโดราเอม่อนแต่จะชอบสีชมพูและสีม่วง เพราะทำให้ฉันรู้สึกนุ่มนวลอ่อนหวาน อบอุ่นและมีพลัง อาหารโปรดของฉัน คือ ส้มตำ ไก่ย่างข้าวเหนียวหมูปิ้ง ฉันเกิดที่สถานีอนามัยโนนทอง จ.มหาสารคาม แรกเกิดฉันมีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม 8 ขีด มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน รวมทั้งตัวฉันเอง พี่สาวของฉันห่างกันกับฉัน 2 ปี ชื่อนางสาวสินจัย แก้วคำโฮง อายุ 26 ปี พี่สาวได้แต่งงานมีลูกสาว 1 คน ฉันจึงรักหลานสาวคนแรกของครอบครัวมาก และพี่สาวคนที่ 2 ชื่อนางสาวอุษา แก้วคำโอง อายุ 24 ปี แต่งงานแล้ว ยังไม่มีลูก และตัวดิฉันเองกำลังศึกษา ส่วนพ่อของฉันชื่อนายเกรียงไกร แก้วคำโอง อายุ 52 ปี แม่ของฉันMrs. Chawannut name. 42-year-old stripper, glass a home my family farming occupation in my family are warmly love each other, help each other. Everyone will pay attention to each other will always exist, but it is my personal habits are relatively young, but the mind itself, which is a removal daughter little people. Everyone in the House until the next round, so the habit of always wanting what they want. I completely with her Consultants talk with you all and have to date. Later, I began to study at the school before kindergarten. (ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก) จากนั้นก็เข้าศึกษาต่ออนุบาลที่โรงเรียนบ้านหนองทุ่ม ซึ่งตอนนั้นฉันยังจำได้พอเข้าศึกษาอนุบาลวันแรก ฉันร้องตามแม่มากทั้งวันจนแม่มารับกลับบ้านตอนเย็น ส่วนกิจวัตรประจำวันในตอนเป็นเด็กอนุบาลก็จะซนและเอาแต่ใจตัวเอง ขี้งอลมาก เช้ามาก็ต้องสะพายกระเป๋าสีม่วงกับปิ่นโตและกระบอกน้ำสีม่วงทั้งหมด ไปโรงเรียนจะมีพ่อคอยรับ-ส่ง อยู่ตลอด กิจกรรมการเรียนการสอนส่วนมากครูจะให้ปั้นดินน้ำมัน ระบายสี หัดเขียน ก-ฮ ฟังครูเล่านิทานก่อนนอน และในระหว่างช่วงไปโรงเรียนก็มีการออกกำลังกายในตอนเช้าหลังจากเข้าแถวเสร็จ ดื่มนมเป็นธรรมดาของเด็กเล็กที่จะได้รับนมเป็นเครื่องดื่มตอนกลางวัน และวันนั้นก็เกิดขึ้น ข้าพเจ้าได้รับนมกล่องใหญ่มาก แต่ไม่รู้ว่าตัวเองดื่มนมท่าไหนกัน จึงสำลักออกมาทั้งปาก ทั้งจมูก คิดว่าคงจะตายให้ได้แล้วล่ะมั่ง ตั้งแต่นั้นมาข้าพเจ้าก็ไม่แตะต้องนมอีกเลย ได้กลิ่นนมทีไรเหมือนจะอ้วกออกมาทุกครั้ง มากสุดดื่มได้แค่นมเปรี้ยวและนมถั่วเหลืองเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเองตัวเล็ก ไม่สูงอยากที่ตั้งใจ ทั้งที่ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าไม่ดื่มนม ก็พยายามเล่นกีฬาแบบยืดตัว เช่น บาสเก็ตบอลแทน แต่มันก็ไม่ช่วยอะไร นึกโทษตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้ พอบ่ายสามโมงครึ่งก็นั่งรอพ่อมารับ พอเห็นของเล่นที่อยากได้ก็จะบอกพ่อกับแม่ซื้อให้ ถ้าไม่ซื้อให้ก็จะร้องไห้ ตะโกนเสียงดัง จนกว่าพ่อกับแม่จะซื้อให้ เป็นต้น เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พ่อกับแม่ลืมข้าพเจ้าไว้ที่โรงเรียน ไม่มารับกลับบ้านเหมือนทุกๆ วัน เคยคิดว่า ลูกทั้งคนนะ ลืมได้ยังไงกัน ลืมแบบนึกไม่ออกด้วย ดูเหมือนว่าตอนนั้น ข้าพเจ้าดูจะไม่ทุกข์ร้อนเลยที่พ่อกับแม่ยังไม่มารับ จนกระทั่งคุณครูเดินมาถามว่า ยังไม่มีคนมารับหรอ คุณครูก็เลยอาสาพามาส่ง โดยอาศัยความจำของเด็กตัวเล็กๆ ไม่น่าเชื่อว่าข้าพเจ้าจะพาคุณครูมาถึงบ้านได้ ข้าพเจ้าจำความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้เลย แอบคิดว่า จำได้ยังไงกัน บ้านกับโรงเรียนอยู่ห่างกันตั้งเยอะ และตอนนั้นข้าพเจ้าก็เรียนอยู่แค่ชั้นอนุบาล 1 คุณครูชมข้าพเจ้าใหญ่ และพ่อกับแม่ก็นึกขึ้นได้ว่าลืมข้าพเจ้าเมื่อตอนเห็นหน้า พออายุย่างเข้า 7 ขวบได้เข้าศึกษาต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเดิมเนื่องจากใกล้บ้านและฉันได้ศึกษาโรงเรียนบ้านหนองทุ่มจนสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในช่วงเด็กประถมฉันจะชอบเขียนคัดลายมือ เขียนเรียงความวันพ่อและวันแม่ และเป็นตัวแทนของห้องเรียนอยู่เสมอ บางครั้งก็ได้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันคัดลายมือ ปั้นดินน้ำมัน ได้ที่ 1 และ ได้ที่ 2 ช่วงเวลาอยู่ที่โรงเรียนก็จะเล่นกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนานจนได้บาดแผลกลับบ้านอยู่ทุกวัน ส่วนมากจะเป็นที่หัวเข่าทั้ง 2 ข้าง และช่วงประมาณชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้มีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นกับฉัน 2 เหตุการณ์ เรื่องแรกคือขับรถจักรยานยนต์ล้มขาบวมมาก ต้องนอนพักอยู่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์ ต่อมาก้างปลาได้ติดคอ ตอนนั้นเหมือนหายใจไม่ค่อยออกคิดว่าตัวเองต้องตายแล้ว แต่พ่อกับแม่ได้พาไปหายาย ใช้เท้าเขี่ยให้ตามที่โบราณเล่ากันมา คนที่เกิดเอาเท้าออกมาก่อนจะสามารถเขี่ยก้างปลาได้ ยายได้เขี่ยให้ฉันก็รู้สึกดีขึ้น แต่เพราะยังมีบาดแผลที่ก้างตำ ฉันเจ็บมากประมาณ 1 สัปดาห์ รับประทานอาหารไม่ได้น้ำหนักลดถึง 5 กิโลกรัม จนแม่ต้องพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลบรบือ หมอได้ให้ยามาทานก่อนเพื่อรักษาบาดแผลและนัดวันถ้าไม่หายให้มาเอกซเรย์ว่ายังมีก้างปลาหลงเหลืออยู่ แต่ไม่ถึงวันนัดฉันจึงหาย แต่หลังจากก้างปลาติดคอครั้งนั้นแล้ว ทำให้คอฉันมีปัญหาตลอด ทำให้คออักเสมออยู่เสมอ พอใกล้จะสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นช่วงที่ต้องสอบเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ฉันและเพื่อนๆ ได้ไปสอบเข้าโรงเรียนบรบือวิทยาคม ในตัวเมือง ทั้งสอบและหยิบฉลากแต่ก็ไม่ได้ ฉันรู้สึกเสียใจมาก แต่พ่อกับแม่คอยอยู่ข้างๆ และปลอบใจฉันเสมอ ฉันจึงตัดสินใจไปสมัครเรียนโรงเรียนใกล้ๆบ้าน คือโรงเรียนโนนราษีวิทยา สอบเลือกห้องฉันได้อยู่ห้อง 2 รุ่นฉันมีทั้งหมด 3 ห้องเรียน พ่อจึงบอกให้ตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้ ถ้าขออะไรก็จะตามใจเสมอ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ฉันได้เรียนห้อง 2 และพยายามตั้งใจเรียนและขยันให้มากกว่าเดิม จนในที่สุดชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3 ฉันจึงได้อยู่ห้อง 1 เด็กห้อง 1 เป็นเด็กนักเรียนที่มีเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไปและประพฤติตัวดี ทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจขึ้นมานิดหนึ่ง ชีวิตในช่วงมัธยมต้นเป็นชีวิตที่สนุกสนานมากสำ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
My "biographies
pregnant women during the period of treatment 9 months when the sun in the morning on Tuesday, July 13 2536 with a lovely boy. Big eyes, the eyes similar to foreigners, slim eye opener world
.Early life of I like a rustic general. My name is Miss ang the glass word Hong was born in Mueang Maha Sarakham in beautiful locations. English nickname, Tuesday, July 13 B.Professor 2536 present age 22 years. Like the cartoon Doraemon, but, like pink and purple. Because it makes me feel sweet soft, warm and powerful, my favorite food is fried ไก่ย่ between earth and water. I was born at health centers in non gold.)Maha Sarakham. First I have 1 kg weight 8 stroke are all brothers 3 people, including myself, my sister and me 2 years apart, named Miss sinjai Glass words Hong age 26 years. My sister married a daughter 1 people.And the sister of the 2 name is Miss USA, glass คำโอง age 24 years married, no children, and ตัวดิ I own are studied. The Father your name "glorious glass คำโอง age 52 years. My mother
.Her name ชวัล nuch glass word Hong age 42 years. My family occupation is farming. In my family is a warm, loving, and help each other, everyone will keep all put together will worry about always.Which is the youngest daughter, everyone in the house is fine, like a habit. You do whatever you want. I'll close with you, talk with you everyday. About mom will teach and arguments.
.(the child development center). Then entering kindergarten school ban Nong PM. At that time, I remember when studying in kindergarten the first day. I sing along with me all day until you get back home in the evening.Shit งอล. Breakfast is the bag purple and purple water cylinder with pin. Go to school have a father to transfer all the activities and most of the teachers are clay oil paint wrote - HondaDuring the school and have exercise in the morning after the line is completed. Drink milk natural for young children to get milk is a drink during the day, and that day happen. I have milk is very big.The choke out the mouth and nose. Think it must die now? Since then, I didn't touch the milk again. Smell the milk I like to throw up all the time. Most can only curd and soy milk.Not tall to intended, though I think if you don't drink milk. Try playing a stretch, such as basketball, but it didn't help. I blame myself to นถึ down today. After three o'clock half just waiting for you to pick it up.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: