ประเพณีบุญบั้งไฟ ประวัติความเป็นมาข

ประเพณีบุญบั้งไฟ ประวัติความเป็นมาของบุญบั้งไฟ
ภาพงานบุญบั้งไฟ


ประเพณีบุญบั้งไฟ

ประวัติความเป็นมาของบุญบั้งไฟ

ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีหนึ่งของภาคอีสานของไทยรวมไปถึงลาว โดยมีตำนานมาจากนิทานพื้นบ้านของภาคอีสานเรื่องพระยาคันคาก เรื่องผาแดงนางไอ่ ซึ่งในนิทางพื้นบ้านดังกล่าวได้กล่าวถึง การที่ชาวบ้านได้จัดงานบุญบั้งไฟขึ้นเพื่อเป็นการบูชา พระยาแถน หรือเทพวัสสกาลเทพบุตร ซึ่ง ชาวบ้านมีความเชื่อว่า พระยาแถนมีหน้าที่คอยดูแลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล และมีความชื่นชอบไฟเป็นอย่างมาก หากหมู่บ้านใดไม่จัดทำการจัดงานบุญบั้งไฟบูชา ฝนก็จะไม่ตกถูกต้องตามฤดูกาล อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติกับหมู่บ้านได้ ช่วงเวลาของประเพณีบุญบั้งไฟคือเดือนหกหรือพฤษภาคมของทุกปี- wikipedia

ประเพณีบุญบั้งไฟมีมาแต่ครั้งไหนยังหาหลักฐานที่แน่ชัด มีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับความเป็นมาของประเพณีบุญบั้งไฟในแง่ต่างๆ ไว้ดังนี้

ความเชื่อของชาวบ้านกับประเพณีบุญบั้งไฟ


ชาวบ้านเชื่อว่ามีโลกมนุษย์ โลกเทวดา และโลกเทวดา มนุษย์อยู่ใต้อิทธิพลของเทวดา การรำผีฟ้าเป็นตัวอย่างที่แสดงออกทางด้านการนับถือเทวดา และเรียกเทวดาว่า “แถน” เมื่อถือว่ามีแถนก็ถือว่า ฝน ฟ้า ลม เป็นอิทธิพลของแถน หากทำให้แถนโปรดปราน มนุษย์ก็จะมีความสุข ดังนั้นจึงมีพิธีบูชาแถน การจุดบั้งไฟก็อาจเป็นอีกวิธีหนึ่งที่แสดงความเคารพหรือส่งสัญญาณความภักดีไปยังแถน ชาวอีสานจำนวนมากเชื่อว่าการจุดบั้งไฟเป็นการขอฝนจากพญาแถน และมีนิทานปรัมปราเช่นนี้อยู่ทั่วไป แต่ความเชื่อนี้ยังไม่พบหลักฐานที่แน่นอน นอกจากนี้ในวรรณกรรมอีสานยังมีความเชื่ออย่างหนึ่งคือ เรื่องพญาคันคาก หรือคางคก พญาคันคากได้รบกับพญาแถนจนชนะแล้วให้พญาแถนบันดาลฝนลงมาตกยังโลกมนุษย์


งานแห่บั้งไฟ ประเพณีบุญบั้งไฟ
ความหมายของบั้งไฟ

คำว่า “บั้งไฟ” ในภาษาถิ่นอีสานมักจะสับสนกับคำว่า “บ้องไฟ” แต่ที่ถูกนั้นควรเรียกว่า”บั้งไฟ”ดังที่ เจริญชัย ดงไพโรจน์ ได้อธิบายความแตกต่างของคำทั้งสองไว้ว่า บั้งหมายถึง สิ่งที่เป็นกระบอก เช่น บั้งทิง สำหรับใส่น้ำดื่ม หรือบั้งข้าวหลาม เป็นต้น

การเอาหมื่อใส่กระบอกบั้งไฟ

ส่วนคำว่า บ้อง หมายถึง สิ่งของใดๆ ก็ได้ที่มี 2 ชิ้น มาสวมหรือประกอบเข้ากันได้ ส่วนนอกเรียกว่า บ้อง ส่วนในหรือสิ่งที่เอาไปสอดใสจะเป็นสิ่งใดก็ได้ เช่น บ้องมีด บ้องขวาน บ้องเสียม บ้องวัว บ้องควาย ดังนั้น คำว่า บั้งไฟ ในภาษาถิ่นอีสานจึงเรียกว่า บั้งไฟ ซึ่งหมายถึงดอกไม้ไฟชนิดหนึ่ง มีหางยาวเอาดินประสิวมาคั่วกับถ่านไม้ตำให้เข้ากันจนละเอียดเรียกว่า หมื่อ (ดินปืน) และเอาหมื่อนั้นใส่กระบอกไม้ไผ่ตำให้แน่นเจาะรูตอนท้ายของบั้งไฟ เอาไผ่ท่อนอื่นมัดติดกับกระบอกให้ใส่หมื่อโดยรอบ เอาไม้ไผ่ยาวลำหนึ่งมามัดประกบต่อออกไปเป็นหางยาว สำหรับใช้ถ่วงหัวให้สมดุลกัน เรียกว่า “บั้งไฟ” ในทัศนะของผู้วิจัย บั้งไฟ คือการนำเอากระบอกไม้ไผ่ เลาเหล็ก ท่อเอสลอน หรือเลาไม้อย่างใดอย่างหนึ่งมาบรรจุหมื่อ (ดินปืน) ตามอัตราส่วนที่ช่างกำหนดไว้แล้วประกอบท่อนหัวและท่อนหางเป็นรูปต่างๆ ตามที่ต้องการ เพื่อนำไปจุดพุ่งขึ้นสู่อากาศ จะมีควันและเสียงดัง บั้งไฟมีหลายประเภท ตามจุดมุ่งหมายของประโยชน์ในการใช้สอย
ประเพณีบุญบั้งไฟ

ในทางศาสนาพุทธกับประเพณีบุญบั้งไฟ

มีการฉลองและบูชาในวันวิสาขบูชากลางเดือนหก มีการทำดอกไม้ไฟในแบบต่างๆ ทั้งไฟน้ำมัน ไฟธูปเทียนและดินประสิว มีการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา


บั้งไฟขนาดเล็ก
ประเพณีบุญบั้งไฟ

ส่วนประกอบของบั้งไฟ


1. เลาบั้งไฟ เลาบั้งไฟคือส่วนประกิบที่ทำหน้าที่บรรจุดินปืน มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกกลมยาว มีความยาวประมาณ 1.5 - 7 เมตร ทำด้วยลำไม้ไผ่เล้วใช้ร้วไม้ไผ่ (ตอก) ปิดเป็นเกลียวเชือกพันรอบเลาบั้งไฟอีกครั้งหนึ่งให้แน่น และใช้ดินปืนที่ชาวบ้านเรียกว่า"หมือ" อัดให้แน่นลงไปในเลาบั้งไฟ ด้วยวิธีใช้สากตำแล้วเจาะรูสายชนวน เสร็จแล้วนำเลาบั้งไฟ ไปมัดเข้ากับส่วนหางบั้งไฟ ในสมัดต่อมานิยมนำวัสดุอื่นมาใช้เป็นเลาบั้งไฟแทนไม้ไผ่ ได้แก่ ท่อเหล็ก ท่อพลาสติก เป็นต้น เรียกว่าเลาเหล็กซึ่งสามารถอัดดินปืนได้แน่นและมีประสิทธิภาพในการยิงได้สูงกว่า


2. หางบั้งไฟ หางบั้งไฟถือเป็นส่วนสำคัญทำหน้าที่คล้ายหางเสือ ของเรือคือสร้างความสมดุลย์ให้กับบั้งไฟคอยบังคับทิศทางบั้งไฟให้ยิงขึ้นไปในทิศทางตรงและสูง บั้งไฟแบบเดิมนั้น ทำจากไม้ไผ่ทั้งลำ ต่อมาพัฒนาเป็นหางท่อนเหล็กและหางท่อนไม้ไผ่ติดกันหางท่อนเหล็กมีลักษณะเป็นท่อนกลม ทรงกระบอกมีความยาวประมาณ 8-12 เมตร ทำหน้าท่เป็นคานงัดยกลำตัวบั้งไฟชูโด่งชี้เอียงไปข้างหน้าทำมุมประมาณ 30-40 องศากับพื้นดิน โดยบั้งไฟจะยื่นไปข้างหน้ายาวประมาณ 7-8 เมตร ปลายหางด้านหนึ่งตั้งอยู่บนฐานที่ตั้งบั้งไฟ

3. ลูกบั้งไฟ เป็นลำไม้ไผ่ที่นำมาประกอบเลาบั้งไฟโดยมัดรอบลำบั้งไฟ บั้งไฟลำหนึ่งจะประกอบด้วยลูกบั้งไฟประมาณ 8-15 ลูก ขึ้นอยู่กับขนาดของบั้งไฟ เดิมลูกบั้งไฟมีแปดลูกมีชื่อเรียกเรียงตามลำดับคู่ขนาดใหญ่ไปหาคู่ที่มีขนาดเล็กกว่าได้แก่ ลูกโอ้ ลูกกลาง ลูกนางและลูกก้อย ลูกบั้งไฟช่วยให้รูปทรงของบั้งไฟกลมเรียวสวยงาม นอกจากนี้ลูกบั้งไฟยังเป็นพื้นผิวรองรับการเอ้หรือการตกแต่งลวดลายปะติดกระดาษ


ประเพณีบุญบั้งไฟ

ประเพณีบุญบั้งไฟ


ลายบั้งไฟ : ใช้ลายศิลปไทย คือ ลายกนก อันเป็นลายพื้นฐานในการลับลายบั้งไฟ โดยช่างจะนิยมใช้กระดาษดังโกทองด้านเป็นพื้นและสีเม็ดมะขามเป็นตัวสับลาย เพื่อให้ลายเด่นชัดในการตกแต่งเพื่อให้ความสวยงาม

ตัวบั้งไฟ : มีลูกโอ้จะใช้ลายประจำยาม ลายหน้าเทพพนม ลายหน้ากาล ลูกเอ้ใช้ลายประจำยาม ก้ามปูเปลว และลายหน้ากระดาน ฯลฯ

กรวยเชิง : เป็นลวดลายไทยที่เขียนอยู่เชิงยาบที่ประดับพริ้วลงมาจากช่วงตัวบั้งไฟ

ยาบ : เป็นผ้าประดับใต้เลาบั้งไฟ จะสับลายใดขึ้นอยู่กับช่างบั้งไฟนั้น เช่น ลายก้านขูดลายก้าน
ดอกใบเทศ

ตัวพระนาง : เป็นรูปลักษณ์สื่อถึงผาแดงนางไอ่ หรือตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ พระลักษณ์ พระราม เป็นต้น

กระรอกเผือก : ท้าวพังคี แปลงร่างมาเพื่อให้นางไอ่หลงใหล

ปล้องคาด : ลายรักร้อย ลายลูกพัดใบเทศ ลายลูกพัดขอสร้อย เป็นต้น

เกริน : เป็นส่วนที่ยื่นออกสองข้างของบุษบก เป็นรูปรอนเบ็ดลายกนก สำหรับตั้งฉ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

จรวดเทศกาลประวัติของจรวดภาพจรวด จรวดเทศกาลประวัติของจรวด จรวดเทศกาลประเพณีเป็นหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยรวมถึงประเทศลาวที่มีตำนานมาจากนิทานพื้นบ้านของชื่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือพระยารถยนต์ราคา. Ai ซึ่งนางผาแดง . เรื่องพื้นดินบ้านใหม่เป็นที่กล่าวถึงชาวบ้านจัดจรวดขึ้นไปนมัสการ. A: พระเจ้าฟ้าหรือเอลฟ์พระยา lathepbut ที่ชาวบ้านเชื่อว่าเจ้าชายมีหน้าที่ที่จะให้เอลฟ์ของฝนขึ้นอยู่กับฤดูกาลและมีไฟไหม้ เป็นอย่างมากขอบคุณ. ถ้าหมู่บ้านไม่ได้เตรียมความพร้อมเพื่อบูชาจรวดเทศกาล. ฝนตกก็จะไม่ถูกต้องตามฤดูกาลอาจก่อให้เกิดภัยพิบัติไปยังหมู่บ้าน. ระยะเวลาของเทศกาลจรวดเป็นเดือนหกหรือพฤษภาคม ของทุกปีวิกิพีเดีย. จรวดเทศกาลที่กำลังจะมา แต่การที่จะหาหลักฐานที่ชัดเจน. มีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับประวัติของจรวดเทศกาลในแง่ที่แตกต่างกัน. ความเชื่อของชาวบ้านที่มีจรวดเทศกาลชาวบ้านเชื่อว่ามนุษย์ โลก. รุ่น Earth Angel รุ่น Earth Angel และมนุษย์อยู่ภายใต้อิทธิพลของเทวดา. ramphi คือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นนับถือแองเจิลแองเจิลและเรียกว่า "เอลฟ์" เป็นเอลฟ์ได้รับการพิจารณาเมื่อมีการพิจารณาว่าเป็นอิทธิพลของฝนลม, ท้องฟ้า. ถ้าพวกเอลฟ์ทำให้ชอบ. มันจะเป็นคนมีความสุขและดังนั้นจึงมีพิธีนมัสการเอลฟ์. บั้งไฟอาจชี้เป็นวิธีที่จะแสดงความเคารพหรือความจงรักภักดีต่อสัญญาณท้องฟ้าอีก. ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายคนเชื่อว่าจุด คือการได้รับบั้งไฟพญาแถนและจากที่นั่นเป็นตำนานนี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ความเชื่อนี้ยังไม่พบหลักฐานที่แน่นอน. นอกจากนี้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีความเชื่อมั่นในวรรณคดีเป็นงูหรือคางคกราคาเรื่องรถยนต์. พญาขาในการต่อสู้กับ รถยนต์งูจนกระทั่งเอลฟ์เอลฟ์งูแล้วชนะแรงบันดาลใจจากฝนตกลงสู่พื้นดิน "บั้งไฟ" ในภาษาถิ่นอีสานมักจะสับสนกับ คำว่า "บ้องไฟ" เจริญชัยดงไพโรจน์ บั้งหมายถึงสิ่งที่เป็นกระบอกเช่น บั้งทิงสำหรับใส่น้ำดื่มหรือบั้งข้าวหลาม บ้องหมายถึงสิ่งของใด ๆ ก็ได้ที่ มี 2 ชิ้นมาสวมหรือประกอบเข้ากันได้ ส่วนนอกเรียกว่าบ้อง เช่นบ้องมีดบ้องขวานบ้องเสีย มบ้องวัวบ้องควายดังนั้นคำว่าบั้งไฟในภาษาถิ่นอีสานจึงเรียกว่าบั้งไฟซึ่งหมายถึงดอกไม้ไฟชนิดหนึ่ง หมื่อ (ดินปืน) สำหรับใช้ถ่วงหัวให้สมดุลกันเรียก ว่า "บั้งไฟ" ในทัศนะของผู้วิจัยบั้งไฟคือการนำ เอากระบอกไม้ไผ่เลาเหล็กท่อเอสลอน (ดินปืน) ตามที่ต้องการเพื่อนำไปจุดพุ่ง ขึ้นสู่อากาศจะมีควันและเสียงดังบั้งไฟมีหลายประเภท มีการทำดอกไม้ไฟในแบบต่างๆทั้ง ไฟน้ำมันไฟธูปเทียนและดินประสิวมีการทำทานรักษาศีล เลาบั้งไฟ มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกกลมยาว มีความยาวประมาณ 1.5-7 เมตรทำด้วยลำไม้ไผ่เล้วใช้ ร้วไม้ไผ่ (ตอก) อัดให้แน่นลงไปในเลาบั้งไฟ ด้วยวิธีใช้สากตำแล้วเจาะรูสายชนวนเสร็จแล้วนำเลาบั้งไฟไปมัดเข้ากับส่วนหางบั้งไฟ ได้แก่ ท่อเหล็กท่อพลาสติกเป็นต้น หางบั้งไฟ บั้งไฟแบบเดิมนั้นทำจากไม้ไผ่ทั้ง ลำ ทรงกระบอกมีความยาวประมาณ 8-12 เมตร 30-40 องศากับพื้นดิน 7-8 เมตร ลูกบั้งไฟ 8-15 ลูกขึ้นอยู่กับขนาดของบั้งไฟ ลูกโอ้ลูกกลางลูกนางและลูก ก้อย : ใช้ลายศิลปไทยคือลายกนก : โอ้ที่คุณลูกมีจะใช้ลายประจำยามลายเทพพนมลายหน้า: ภาพประกอบหน้า: ภาพประกอบกาลเป็นที่คุณลูกเอ้ใช้ลายประจำยามก้ามปูเปลวและลายหน้ากระดาน ฯลฯกรวยเชิง: : เป็นผ้าประดับใต้เลาบั้งไฟ เช่น : รูปลักษณ์เป็นสื่อถึงผาแดงคุณนางไอ่หรือคุณตัวละครในห้างหุ้นส่วนจำกัดเรื่องรามเกียรติ์ที่คุณพระลักษณ์พระรามเป็นต้นกระรอกเผือก: ท้าวพังคี : ร้อยรักลายลายที่คุณลูกพัดคุณใบเทศลายที่คุณลูกพัดขอสร้อยเป็นต้นเกริน: เป็นส่วนที่ยื่นออกสองข้างของ บุษบกเป็นรูปรอนเบ็ดลายกนกสำหรับตั้งฉ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Kark . ที่ชื่นชอบ หากหมู่บ้านไม่ได้ให้บูชาจัดจรวด ฝนจะไม่ตกอยู่ในฤดูกาลของ พวกเขา - กิพีคุณวิคุณบุญบั้งไฟยังคงเป็นมี แองเจิล Rm ผ "เอลฟ์" มีวรรณกรรมที่หนึ่ง. งูหรือคางคกพญา Kark Kark Carnival. คุณบุญบั้งไฟหมายของจรวด, คำว่า "จรวด" ในภาษาอีสานมักจะสับสนกับคำ ว่า "บ้องไฟ" แต่ที่มันควรจะเรียกว่า "บั้งไฟ" ๆ take- จนถึงส่วนที่เหลือ (ดินปืน) ยอดเงินที่เรียกว่า "บั้งไฟ" (ดินปืน) 1.5-7 (ค้อน) "มือ" แน่นเป็น เหล็ก, พลาสติก, ฯลฯ ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็น 8-12 ที่มุมประมาณ 30-40 7-8 8-15 ๆ ลูก ๆ ของฉัน, เด็กและลูกชายคนเล็กของเธอ. บั้งไฟ โอ้มีรูปแบบ Prahmyam กรงเล็บ รูปแบบไทยถูกเขียนในแง่ที่ ประดับ Yap สตรีมลงมิ่งจากเนชั่ช่วงจรวดเห่า: Ramil Ramil ขูดเครื่องเทศ, คุณใบดอกไม้ร่างกายของเพลงเธอ: ฯลฯเผือกกระรอก: เต่าปาง Kee ดังนั้นขอสร้อยคอKarin: F เป็น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

ซินเจียงประวัติศาสตร์ของจรวดรูปภาพจรวดขนาดใหญ่เทศกาลซินเจียงประวัติความเป็นมาของจรวดซินเจียง เป็นประเพณีหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยและลาว ตำนานจากนิทานพื้นบ้านของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของพระยาคันที่หน้าผาสีแดงซึ่งในนิทางผู้พื้นบ้านดังกล่าวได้กล่าวถึง ชาวบ้านมีจรวดขึ้นเพื่อเป็นการเสียสละของเอลฟ์หรือวัสดุที่แองเจิล Skan คนที่มีความเชื่อ เจ้าชายแห่งเอลฟ์มีการดูแลของฝนเป็นไปตามฤดูกาล มีความรักในการดับเพลิงและอย่างมาก ถ้าไม่ได้ดำเนินการให้บริการจรวดเหตุการณ์หมู่บ้านใด ๆ ฝนจะไม่ตกอยู่ในฤดูกาลที่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติไปยังหมู่บ้าน เวลาของซินเจียงเป็นหกเดือนหรือเดือนพฤษภาคมของทุกปี - วิกิพีเดียซินเจียงมี แต่ยังคงเป็นหลักฐานจริง สมมติฐานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของซินเจียงในข้อตกลงดังกล่าวดังต่อไปนี้ชาวบ้านไปซินเจียงคนเชื่อว่าเทวดาแผ่นดินโลกเทวดาและโลกมนุษย์ภายใต้อิทธิพลของทูตสวรรค์ ในการสื่อสารเช่นแสดงความเคารพเพื่อเทวดาและแองเจิลกล่าวว่า "เอลฟ์" เมื่อพิจารณากับแถนก็ถือว่าฝนฟ้าลมเป็นอิทธิพลของเอลฟ์ ถ้าเอลฟ์เป็นที่โปรดปราน มนุษย์ "มีความสุขดังนั้นแองเจิล. จุดระเบิดจรวดอาจจะเป็นวิธีการที่จะแสดงความเคารพหรือความจงรักภักดีต่อเอลฟ์อีก. หลายคนเชื่อว่าจรวดจุดระเบิดภาคตะวันออกเฉียงเหนือฝนจากทูตสวรรค์. และตำนานเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ. แต่ความเชื่อนี้เป็น หลักฐานไม่. นอกจากนี้ในความเชื่อวรรณกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างใดอย่างหนึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับคันหรือคางคก. the คันคาเมื่อเทียบกับทูตสวรรค์ที่จะชนะและแองเจิลที่จะสร้างแรงบันดาลใจฝนทั้งหมดนอกจากนี้ยังโลกมนุษย์ขบวนพาเหรดของจรวดซินเจียงความหมายของการจุดบั้งไฟคำว่า "จรวด" ผลมักจะสับสนกับคำว่า "กิโยติน" แต่มันควรจะเรียกว่า "บั้งไฟ" เป็นที่น่าพอใจชัยดงประกายอธิบายความแตกต่างของทั้งสอง. เชฟรอนหมายถึงสิ่งที่เป็นทรงกระบอกเช่นบั้ง Ting สำหรับการป้อนข้อมูล ของการดื่มน้ำ