ก๊าซมีเทน (CH4) เกิดขึ้นจากการย่อยส

ก๊าซมีเทน (CH4)

เกิดขึ้นจากการย่อยสลายของซากสิ่งมีชีวิต แม้ว่ามีก๊าซมีเทนอยู่ในอากาศเพียง 1.7 ppm แต่ก๊าซมีเทนมีคุณสมบัติของก๊าซเรือนกระจกสูงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กล่าวคือด้วยปริมาตรที่เท่ากัน ก๊าซมีเทนสามารถดูดกลืนรังสีอินฟราเรดได้ดีกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ก๊าซมีเทนมีปริมาณเพิ่มขึ้นเนื่องจากการทำนาข้าว ปศุสัตว์ และการเผาไหม้มวลชีวภาพ การเผาไหม้เชื้อเพลิงประเภทถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ การเพิ่มขึ้นของก๊าซมีเทนส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาวะเรือนกระจกมากเป็นอันดับ 2 รองจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พลังงานรวมที่เกิดขึ้นโดยเฉลี่ย 0.47 วัตต์/ตารางเมตร

ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O)

ปกติก๊าซชนิดนี้ในธรรมชาติเกิดจากการย่อยสลายซากสิ่งมีชิวิตโดยแบคทีเรีย แต่ที่มีเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน เนื่องมาจากอุตสาหกรรมที่ใช้กรดไนตริกในกระบวนการผลิต เช่น อุตสาหกรรมผลิตเส้นใยไนลอน อุตสาหกรรมเคมีและพลาสติกบางชนิด เป็นต้น ก๊าซไนตรัสออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเพิ่มพลังงานความร้อนสะสมบนพื้นผิวโลกประมาณ 0.14 วัตต์/ตารางเมตร นอกจากนั้นเมื่อก๊าซไนตรัสออกไซด์ลอยขึ้นสู่บรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ มันจะทำปฏิกิริยากับก๊าซโอโซน ทำให้เกราะป้องกันรังสีอัลตราไวโอเล็ตของโลกลดน้อยลง

สารประกอบคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFC)

หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ฟรีออน" (Freon) มิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ มีแหล่งกำเนิดมาจากโรงงานอุตสาหกรรม และอุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และสเปรย์ เป็นต้น

สาร CFC มีองค์ประกอบเป็นคลอรีน ฟลูออไรด์ และโบรมีน ซึ่งมีความสามารถในการทำลายโอโซน ตามปกติสาร CFC ในบริเวณพื้นผิวโลกจะทำปฏิกิริยากับสารอื่น แต่เมื่อมันดูดกลืนรังสีอุลตราไวโอเล็ตในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ โมเลกุลจะแตกตัวให้คลอรีนอะตอมเดี่ยว และทำปฏิกิริยากับก๊าซโอโซน เกิดก๊าซคลอรีนโมโนออกไซด์ (ClO) และก๊าซออกซิเจน หากคลอรีนจำนวน 1 อะตอม ทำลายก๊าซโอโซน 1 โมเลกุล ได้เพียงครั้งเดียว ก็คงไม่เป็นปัญหา แต่ทว่าคลอรีน 1 อะตอม สามารถทำลายก๊าซโอโซน 1 โมเลกุล ได้นับพันครั้ง เนื่องจากเมื่อคลอรีนโมโนออกไซด์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนอะตอมเดี่ยว แล้วเกิดคลอรีนอะตอมเดี่ยวขึ้นอีกครั้ง ปฏิกิริยาลูกโซ่เช่นนี้จึงเป็นการทำลายโอโซนอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันแม้ว่าจะมีการจำกัดการใช้ก๊าซประเภทนี้ให้น้อยลง 40% เมื่อเทียบกับ 10 กว่าปีก่อน แต่ปริมาณสารคลอโรฟลูออโรคาร์บอนที่ยังคงสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศ ยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีพลังงานความร้อนสะสมบนพื้นผิวโลกประมาณ 0.28 วัตต์ต่อตารางเมตร

โอโซน (O3)

เป็นก๊าซที่ประกอบด้วยธาตุออกซิเจนจำนวน 3 โมเลกุล มีอยู่เพียง 0.0008% ในบรรยากาศ โอโซนไม่ใช่ก๊าซที่มีเสถียรภาพสูง มันมีอายุอยู่ในอากาศได้เพียง 20 - 30 สัปดาห์ แล้วสลายตัว โอโซนเกิดจากก๊าซออกซิเจน (O2) ดูดกลืนรังสีอุลตราไวโอเล็ตแล้วแตกตัวเป็นออกซิเจนอะตอมเดี่ยว (O) จากนั้นออกซิเจนอะตอมเดี่ยวรวมตัวกับก๊าซออกซิเจนและโมเลกุลชนิดอื่น (M)ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง แล้วให้ผลผลิตเป็นก๊าซโอโซนออกมา

ก๊าซโอโซนมี 2 บทบาท คือ เป็นทั้งพระเอกและผู้ร้ายในตัวเดียวกัน ขึ้นอยู่ว่ามันวางตัวอยู่ที่ใด

โอโซนในชั้นสตราโตสเฟียร์ (Stratosphere Ozone)

เป็นเกราะป้องกันรังสีอุลตราไวโอเล็ต (UV) ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก ในธรรมชาติโอโซนที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวมีเพียง 10% โอโซนส่วนใหญ่ในชั้นสตราโตสเฟียร์รวมตัวเป็นชั้นบาง ๆ ที่ระยะสูงประมาณ 20 - 30 กิโลเมตร ทำหน้าที่กรองรังสีอุลตราไวโอเล็ตจากดวงอาทิตย์ออกไป 99% ก่อนถึงพื้นโลก หากร่างกายมนุษย์ได้รับรังสีนี้มากเกินไป จะทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ส่วนจุลินทรีย์ขนาดเล็ก อย่างเช่นแบคทีเรียก็จะถูกฆ่าตาย

โอโซนในชั้นโทรโพสเฟียร์

เป็นก๊าซพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และมีคุณสมบัติเป็นก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด โดยดูดกลืนรังสีอินฟราเรด ทำให้เกิดพลังงานความร้อนสะสมบนพื้นผิวโลกประมาณ 2.85 วัตต์/ตารางเมตร โอโซนในชั้นนี้เกิดจากการเผาไหม้มวลชีวภาพและการสันดาปของเครื่องยนต์ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการจราจรติดขัด เครื่องยนต์ เครื่องจักร และโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งปะปนอยู่ในหมอกควัน เมื่อโอโซนอยู่ในบรรยากาศชั้นล่างหรือเหนือพื้นผิว มันจะให้โทษมากกว่าให้คุณ เนื่องจากเป็นพิษต่อร่างกาย ดังนั้นคำพูดที่ว่า "ออกไปสูดโอโซนให้สบายปอด" จึงเป็นความเข้าใจผิด

การลดลงของโอโซน

นักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจพบรูโหว่ขนาดใหญ่ของชั้นโอโซนเหนือทวีปแอนตาร์คติก บริเวณขั้วโลกใต้ เกิดขึ้นจากกระแสลมพัดคลอรีนเข้ามาสะสมในก้อนเมฆในชั้นสตราโตสเฟียร์ในช่วงฤดูหนาวราวเดือนพฤษภาคม - กันยายน (อนึ่งขั้วโลกเหนือไม่มีเมฆในชั้นสตราโตสเฟียร์ เนื่องจากอุณหภูมิไม่ต่ำพอที่จะทำให้เกิดการควบแน่นของไอน้ำในอากาศ) เมื่อถึงเดือนตุลาคม ซึ่งแสงอาทิตย์กระทบเข้ากับก้อนเมฆ ทำให้คลอรีนอะตอมอิสระแยกตัวออกและทำปฏิกิริยากับก๊าซโอโซน ทำให้เกิดรูโหว่ขนาดใหญ่ของชั้นโอโซน เรียกว่า "รูโอโซน"

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Methane gas (CH4) Formed from the digestion of the creature, even if there is gas methane in the air just 1.7 ppm methane gas, but with higher greenhouse gas properties carbon dioxide. That is, with the same volume. The gas methane can absorb infrared radiation than carbon dioxide. Methane gas has increased due to the rice farming. Livestock and burning biomass Category-fuel combustion of coal Oil and natural gas increased methane gas sent directly to greenhouse warming impact ranked secondary 2 from carbon dioxide. Total power that occurred an average of 0.47 w/square meter. The gas nitrous oxide (N2O) Normally this type of gas in nature caused by digestion with debris chips, video, whether bacteria, but has increased in the present due to nucleic acid-based industry, Chennai, click in the manufacturing process, such as the chemical industry, industrial nylon fibre and some types of plastic, etc. The gas nitrous oxide increases the direct impact on the accumulated heat energy on the surface of Earth is about 0.14 Watts/square meter. In addition, when the gas N2O drifting into the atmosphere at class older safia it reacted with ozone makes the Earth's radiation protection armor Viollet ultra reduced. Compound skin full of romance car Bon (CFC) Or also called "fre" (Freon) does not occur naturally, but human artifacts. Born from industrial plants and equipment used in daily life, such as refrigerators. Air conditioners and spray, etc. สาร CFC มีองค์ประกอบเป็นคลอรีน ฟลูออไรด์ และโบรมีน ซึ่งมีความสามารถในการทำลายโอโซน ตามปกติสาร CFC ในบริเวณพื้นผิวโลกจะทำปฏิกิริยากับสารอื่น แต่เมื่อมันดูดกลืนรังสีอุลตราไวโอเล็ตในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ โมเลกุลจะแตกตัวให้คลอรีนอะตอมเดี่ยว และทำปฏิกิริยากับก๊าซโอโซน เกิดก๊าซคลอรีนโมโนออกไซด์ (ClO) และก๊าซออกซิเจน หากคลอรีนจำนวน 1 อะตอม ทำลายก๊าซโอโซน 1 โมเลกุล ได้เพียงครั้งเดียว ก็คงไม่เป็นปัญหา แต่ทว่าคลอรีน 1 อะตอม สามารถทำลายก๊าซโอโซน 1 โมเลกุล ได้นับพันครั้ง เนื่องจากเมื่อคลอรีนโมโนออกไซด์ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนอะตอมเดี่ยว แล้วเกิดคลอรีนอะตอมเดี่ยวขึ้นอีกครั้ง ปฏิกิริยาลูกโซ่เช่นนี้จึงเป็นการทำลายโอโซนอย่างต่อเนื่อง At present, although there are restrictions on the type of gas used, less than 40% compared to 10 years ago, but the quantity of the substance skin full of Sue Carlton, rose still accumulating in the atmosphere. Also, there is the energy that makes the heat accumulation on the surface of Earth is approximately 0.28 Watts per square meter. Ozone (O3) As the gas is composed of molecular oxygen, Thad 3 only 0.0008% in the atmosphere. Ozone is not stable gas high. It is only the age 20-30 weeks and then decay is caused by ozone, oxygen gas (O2) to absorb different colors, Viollet lotra-nest like a single atomic oxygen (O) and then a single atom of oxygen combines with oxygen gas and other types of molecules. (M) that acts as an intermediary, and then outputs the gas ozone. Ozone has 2 roles: as both hero and culprit in the same depending on whether it's rest located? Ozone layer can grow safia (Stratosphere Ozone) Lotra-color nests against Viollet (UV), which are harmful to living organisms on Earth. In the natural ozone that occurs on the surface, only 10% of the ozone layer can mostly grown thin layer including the safia at approximately 20-30 km altitude filters-color nests lotra Viollet from the Sun out to 99% prior to the surface of the Earth. If the human body has been too much of this radiation can cause skin cancer, bacteria, microorganisms, such as small parts, they will be killed. Ozone in the troposphere layer. A toxic gas that is harmful to the body, and there is the most greenhouse gases absorb infrared radiation by causing the accumulated heat energy is on the Earth surface approximately 2.85 Watts/square meter. This layer ozone resulting from biomass combustion, and combustion of the engine. Most occurred from a traffic jam The engine machinery and industrial plants, which mingle in the smog. When the ozone in the atmosphere above the ground or floor surface, it will give you has more cons then pros because it is toxic to the body, so that the words "get comfortable, ozone, a lung" is a misconception. The reduction of ozone Scientists have detected a large patch holes of the ozone layer over the Antarctic continent and motto at the South Pole are caused by wind blowing chlorine into the clouds rolled in at class older safia in winter around the month of may. -September (again, there are no Arctic clouds in layers grown at low temperatures, because safia enough not to cause condensation of water vapour in the air) When it's October which affected solar into the clouds make the chlorine atoms separate independent and react with ozone gas. Cause of large holes in the ozone layer patch Called the "ozone hole"

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Methane (CH4) formed by the decomposition of dead creatures. Although the methane in the air, but only 1.7 ppm of methane is a greenhouse gas than carbon dioxide. Ie, with an equal volume. Methane can absorb infrared radiation than carbon dioxide, methane has increased due to rice, livestock and burning of biomass. Burning fuels, coal, oil and natural gas. The increase in methane directly impact on the greenhouse effect as a 2nd Lieutenant of carbon dioxide. Energy that occurs on average 0.47 W / m nitrous oxide. (N2O) , usually in natural gas from decomposing a Crush by bacteria. But with increasing current. Due to the industrial use of nitric acid in the production process, such as the manufacture of nylon. Chemical and some plastics and nitrous oxide, have a direct impact on the increase in thermal energy deposited on the surface of the Earth about 0.14 W / m. Also, when nitrous oxide rising atmospheric stratosphere photosphere. It will react with ozone. Shield against ultraviolet radiation, making the world less chloro fluoro carbon compounds. (CFC) , also known as "Freon" (Freon) do not occur naturally. But as a human invention The origin of the industry. And devices used in everyday items such as refrigerators, air conditioners and sprays etc. CFC, are composed of chlorine, fluoride and bromine, which is capable of destroying ozone normally the CFC in the earth's surface is made. reactions with other substances But when it absorbs ultraviolet radiation in the atmosphere stratosphere photosphere. Molecules are broken down to a single chlorine atom. And react with ozone Mono chlorine dioxide gas (ClO) and oxygen. If chlorine atoms destroy ozone 1 1 molecule only once. Would not be a problem But one chlorine atom can destroy ozone molecules is 1 thousand. When chlorine dioxide reacts with oxygen mono single atoms. Then a single chlorine atom again. Chain reaction like this, thus damaging the ozone layer continues today, although there is no limit to the type of gas to less 40% compared to 10 years ago, but the amount of chloro fluoro carbon continues to accumulate in. atmosphere Also a source of heat is deposited on the surface is about 0.28 watts per square meter ozone. (O3) is a gas composed of three oxygen molecules in the atmosphere is only about 0.0008% ozone gas is not very stable. It is aged in air at 20 - 30 weeks and then decompose ozone from oxygen (O2) absorbs ultraviolet then decomposes into oxygen single atoms (O), then oxygen single atoms combine with oxygen and. molecular species (M) that acts as an intermediary. Then yield the ozone gas into ozone has two roles, as both hero and villain in one. Is that it rests on the ozone layer in the stratosphere allowed. (Stratosphere Ozone) as a shield against ultraviolet radiation (UV), which is harmful to life on Earth. In nature, ozone is formed on the surface, only 10% ozone mainly in the stratosphere spheres forming a thin layer at a height of 20 - 30 km act filter ultraviolet from the sun. to 99% before reaching the surface. If human exposure, too. To cause skin cancer The micro organisms Such as bacteria will be killed ozone in the Troposphere is a poisonous gas that is harmful to the body. And qualified as the most greenhouse gases. By infrared absorption Cause heat buildup on the surface of the Earth is about 2.85 W / m. The ozone layer is caused by the combustion of biomass and combustion engines. Mainly caused by traffic congestion and industrial engines. Which are present in the smoke. When ozone in the lower atmosphere or above the surface. It does more harm than you. The toxic So the phrase "Go out to a comfortable ozone lung" is misleading Ozone depletion , scientists have detected a large hole in the ozone layer over the Ann Stark Athletic. Antarctica Caused by wind blowing in the deposition of chlorine cloud layer in the stratosphere in the winter lasts from May to September (incidentally, no clouds in the Arctic stratosphere photosphere. The temperature is not low enough to cause condensation of water vapor in the air) on October. The solar effects on clouds. Make free chlorine atoms dissociate and react with ozone. The gaping hole in the ozone layer, called the "ozone hole".

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Methane (CH4)

arise from degradation of dead creatures. Although the methane in the air just 1.7 ppm but possesses higher methane emissions of carbon dioxide. Namely with equal volume Methane carbon dioxide can absorb infrared radiation better

.Methane gas has increased due to rice farming, livestock, and combustion of biomass, the burning of coal, oil, fuel type And natural gas.2 deputy from carbon dioxide. Total energy caused by the average 0.47 watts / square meter

nitrous oxide (N2O)

.Usually this type of gas in nature caused by decomposing life by bacteria. But with the increasing current. Due to the industrial use of nitric acid in the production process such as industrial production nylon fibersEtc. nitrous oxide increases directly affected the heat accumulated on the earth's surface, about 0.