เรื่อง กระจงเจ้าปัญญา บ่ายวันหนึ่งอากาศร้อนอบอ้าวกระจงเจ้าปัญญาตัวหนึ่ การแปล - เรื่อง กระจงเจ้าปัญญา บ่ายวันหนึ่งอากาศร้อนอบอ้าวกระจงเจ้าปัญญาตัวหนึ่ ไทย วิธีการพูด

เรื่อง กระจงเจ้าปัญญา บ่ายวันหนึ่งอ

เรื่อง กระจงเจ้าปัญญา

บ่ายวันหนึ่งอากาศร้อนอบอ้าวกระจงเจ้าปัญญาตัวหนึ่งกำลังกินน้ำใสในทะเลสาบกลางป่าอยู่ขณะกำลัง กินน้ำเพลิน เสือโคร่งตัวหนึ่งเดินผ่านมาเมื่อเห็นกระจงเข้า เสือโคร่งก็หยุดแล้วหัวเราะด้วยสำเนียงที่สำแดงความชั่วร้ายคำรามออกมาว่า "โอ้โฮ้! เจ้ากระจงน้อยช่างเป็นอาหารโอชามื้อนี้ของข้าเสียนี่กระไรเร็วเข้า มาให้ข้ากินเสียดี ๆ ข้ายังไม่มีอะไรใส่ท้องมาเลยทั้งวัน"

"นี่ท่านไม่มีอะไรจะกินมาทั้งวันทีเดียวรึ" กระจงถามแกล้งทำเป็นเสียใจด้วยกับเสือโคร่ง แต่แท้ที่จริงตัวมันเองกำลังสั่นพั่บ ๆ ด้วยความเสียวสยองเมื่อแลเห็นขากรรไกรอันกว้างใหญ่ และฟันอันแหลมเปี๊ยบขาวราวกับงาช้างของเจ้าเสือตัวร้าย

แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องพยายามให้ดีที่สุดที่จะไม่แสดงให้เสือรู้ว่าตนกลัว ยังคงพูดต่อไปว่า"โธ่เอ้ย! คุณเสือนี่น่าสงสารจริง ๆ นะ ข้าพเจ้าอยากให้ท่านได้ลิ้มรสอาหารดีๆ แต่ข้าพเจ้าไม่คิดว่าสัตว์กระจ้อยร่อยอย่างข้าพเจ้านี้จะเป็นอาหารที่ท่านจะกินได้อิ่มให้สมกับที่ทนหิวมาได้หรอก"

"แต่ข้ากำลังหิวนะโว้ย" เสือคำรามตวาดลั่น อย่างอดทนไม่ไหว

"นึกออกแล้ว" กระจงร้องออกมา ภายในใจก็คิดวางแผน

"ไอ้ที่จะทำให้ท่านหายหิว นั่นมันต้องเนื้อคนถึงจะสมอยาก"

"คนน่ะมันเป็นยังไง เจ้ากระจง"

"นี่ท่านไม่รู้เอาเทียวหรือว่า คนนั้นคืออะไร" กระจงอุทาน ทำเป็นแปลกใจ

"เออ ข้าไม่คิดว่าข้ารู้" เสือตอบ ชักจะสนใจอยากรู้ขึ้นมา

"ไหนบอกข้าหน่อยซิ เจ้ากระจงว่าคนน่ะคืออะไร"

"ก็ได้" กระจงว่า ดีใจที่เจ้าเสือร้ายตกหลุมพรางของตัว "คนก็คือสัตว์ชนิดหนึ่ง มีขาสองขา แต่ทว่าเป็นสัตว์ที่มีอำนาจใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก"

"จริงรึ อำนาจมากยิ่งกว่าข้าอีกรึ" เสือถาม ชักจะขัดใจขึ้นมาแล้ว "จริงแน่ แต่ถ้าท่านไวพอ ท่านโดดเข้าตะปบมันไว้ ท่านก็กินมันได้สบาย" "เออดี แต่ถ้าข้าหาคนกินไม่ได้ล่ะ เจ้าก็ต้องเป็นอาหารของข้านา มาต่อรองกันแบบนี้ดีไหมล่ะ" "ตกลง" กระจงร้องตอบอย่างพอใจ

"แล้วข้าจะไปหาคนได้ที่ไหนล่ะ พามาให้ข้าดูเดี๋ยวนี้ซี เพราะว่าข้าหิวเต็มทนแล้วนะ ถ้าเจ้าไม่รีบไปหามาข้าจะต้องกินเจ้าเสียเดี๋ยวนี้ล่ะ" "ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ท่านเสือโคร่งผู้ยิ่งใหญ่" กระจงตอบ "มา ไปด้วยกันที่ริมถนนใหญ่ บางทีเราจะได้เห็นคนผ่านมาสักคนหนึ่ง"

แล้วกระจงก็พาเสือโคร่งไปริมถนนใหญ่ ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้คอยเวลาที่คนจะเดินผ่านมา ไม่ช้าก็มีเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งเดินกลับจากโรงเรียน เด็กคนนั้นมัวแต่พะวงอยู่กับการบ้านเสียจนไม่ทันสังเกตว่ามีสัตว์สองตัวกำลังแอบดูตนอยู่ "นี่น่ะหรือคน" เสือโคร่งถาม "โธ่เอ๋ย! แน่เสียยิ่งกว่าแน่ ข้าต้องมีอำนาจมากกว่าไอ้ตัวนี้แน่ ๆ" มันพูดอย่างเยาะ ๆ

"บ๊ะ! ก็นั่นมันคนเสียเมื่อไหร่เล่า" เจ้ากระจงตอบ "นั่นมันเป็นแต่เพียงสิ่งที่กำลังจะเติบโตเป็นคนขึ้นมาต่างหาก ยังอีกหลายปีนัก อีกตั้ง 20 ปีหรืออาจจะมากกว่านั้นอีก แต่กว่าจะถึงเวลานั้นท่านก็ตายไปไหนๆแล้ว"

ต่อมามีชายชราคนหนึ่งเดินกระย่องกระแย่งมาตามถนนแก่คร่ำเสียเคราขาวโพลนเหมือนหิมะ ถือไม้เท้าไว้ช่วยยันกายมาตลอดทาง "ไอ้นี่กระมังคือคนอย่างที่เจ้าว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันผอมโทรม เพราะอยู่มานมนานหลายปีเต็มที เจ้าจะเล่นโกงข้าอีกละซิ" เสือชักโมโห "ไม่ใช่! ไม่ใช่! นี่ก็ไม่ใช่คน มันเป็นเดนคนต่างหาก เสือดีดีอย่างท่าน คงไม่อยากกินเดนของใครแน่ ๆ หรือว่าอยากลอง" "ฮ้าย! ไม่มีวันเสียละ แต่ข้าก็ไม่อยากคอยอีกต่อไปแล้วนา" "จุ๊! จุ๊! นั่นไง คนจริงๆ มาแล้ว" กระจงบอก เมื่อเห็นนายพรานอ้วนพลุ้ยคนหนึ่งแบกปืนก้าวฉับ ๆ มาตามถนน

"ดูซิรูปร่างอ้วน ๆ อย่างนั้นแหละ เนื้อมากดีพิลึกเทียว แก้มสองข้างก็แดงเรื่อแสดงว่ามีเลือดฝาดไม่ใช่น้อย ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าท่านได้ลิ้มรสคน ๆ นั้นแล้วล่ะก็คงไม่ต้องการกินข้าพเจ้าอีกแน่เทียวหรือว่าไง" "เห็นจะเอาแน่! เจ้ากระจงเอ๋ย เอาแน่! คอยดูข้านะ" ว่าแล้วเสือโคร่งก็กระโจนเข้าใส่พรานผู้นั้น แต่นายพรานกลับไวทายาด เขาส่องไรเฟิลยิงโป้งถูกเสือโคร่งตายคาที่

ดังนั้น เจ้ากระจงดีใจนักหนาที่รอดตัวมาได้แต่ก็เหน็ดเหนื่อยจากการผจญภัยเหลือกำลังจึงกลับไปทะเลสาบเพื่อจะกินน้ำ กำลังกินเพลิน ๆ ฉับพลันก็รู้สึกว่าขาข้างหนึ่งของมันถูกงับมันกำลังจะอ้าปากร้องโอดโอย นัยน์ตาก็เหลือบเห็นไอ้ตัวที่งับขาของมันเข้า เจ้ากระจงรีบกล้ำกลืนความเจ็บปวดเอาไว้เริ่มใช้ความคิดด่วนจี๋

มันก็คือจระเข้ศัตรูใหญ่อีกตัวหนึ่งของเจ้ากระจง จระเข้ชังน้ำหน้าเจ้ากระจงนัก เพราะมันแสนกลสิ้นดี เจ้ากระจงก็แสนจะเกลียดเจ้าจระเข้ เพราะทำให้มันต้องขวัญหนีดีฝ่อทุกที ที่มันอยากกินน้ำในทะเลสาบ

คราวนี้มันยิ่งเคียดแค้นมากยิ่งกว่าทุกคราว แต่มันก็ซ่อนความรู้สึกไว้ได้ ทำเป็นส่งเสียงหัวเราะพูดออกมาอย่างเย้ย ๆ ว่า " พุทโธ่! พุทถังเอ๋ย! นายจระเข้ผู้น่าสมเพช เมื่อไหร่หนอท่านจะได้เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างขาของกระจงกับท่อนไม้เสียทีนะ ก็ไอ้ที่ท่านคาบเอาไว้เสียจนแน่นนั่นน่ะมันท่อนไม้เก่า ๆ ธรรมดา ๆ แท้ ๆ ทีเดียว"

แต่จระเข้คุ้นกับเล่ห์เหลี่ยมของเจ้ากระจงเสียแล้ว จึงตอบว่า "อย่ามาหลอกต้มข้าอีกเลย ข้ารู้หรอกน่าว่าข้ากำลังคาบขาของเจ้าอยู่ ข้าไม่มีวันปล่อยหรอก จนกว่าจะกินเจ้าหมดทั้งตัวเสียก่อน"

"แต่ข้าไม่ได้หลอกท่านนะ" กระจงตอบ " ถ้าท่านคิดว่าข้ากำลังใส่กลอยู่ล่ะก็ดูซิว่า นี่มันอะไร" ว่าแล้วเจ้ากระจงก็ยกขาอีกข้างหนึ่งของมันขึ้นกวัดแกว่งอยู่ตรงหน้าจระเข้

เท่านั้นเองจระเข้หน้าโง่ก็หลงคำเจ้ากระจง รีบปล่อยขาข้างที่กำลังคาบอยู่มันไล่งับขาอีกข้างหนึ่งที่แกว่งอยู่ไปมา แต่เจ้ากระจงรอโอกาสนี้อยู่แล้ว มันโจนแผล็วออกไปทันที พอแน่ใจว่าจระเข้เอื้อมไม่ถึงแล้ว มันก็หันมาพูดกับจระเข้ว่า

"แกน่ะมันโง่เสียยิ่งกว่าลาอีก แม้แต่ขาของข้ากับท่อนไม้เก่า ๆ ต่างกันอย่างไรแกก็ยังไม่รู้เลย โธ่เอ้ย! แล้วกระจงก็วิ่งหนีลิ่ว ๆ ไป ปล่อยให้จระเข้มุดน้ำทะเลสาบลงไปตามเดิมแค้นเคืองเสียนี้กระไรที่มาแพ้เสียเชิงเชาว์เจ้ากระจงได้

ทันใด กระจงก็มาพบหอยทากเข้าตัวหนึ่ง มันดีใจนักที่ได้พบเพราะมันชอบคุยโม้กับหอยทาก คราวนี้ก็ตั้งใจจะมาโวด้วยอีกมันท้าวิ่งแข่งกับหอยทาก แต่ก็ต้องแปลกใจที่หอยทากรับคำท้าและยิ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
เรื่องกระจงเจ้าปัญญา บ่ายวันหนึ่งอากาศร้อนอบอ้าวกระจงเจ้าปัญญาตัวหนึ่งกำลังกินน้ำใสในทะเลสาบกลางป่าอยู่ขณะกำลังกินน้ำเพลินเสือโคร่งตัวหนึ่งเดินผ่านมาเมื่อเห็นกระจงเข้าเสือโคร่งก็หยุดแล้วหัวเราะด้วยสำเนียงที่สำแดงความชั่วร้ายคำรามออกมาว่า "โอ้โฮ้ เจ้ากระจงน้อยช่างเป็นอาหารโอชามื้อนี้ของข้าเสียนี่กระไรเร็วเข้ามาให้ข้ากินเสียดีๆ ข้ายังไม่มีอะไรใส่ท้องมาเลยทั้งวัน" "นี่ท่านไม่มีอะไรจะกินมาทั้งวันทีเดียวรึ" กระจงถามแกล้งทำเป็นเสียใจด้วยกับเสือโคร่งแต่แท้ที่จริงตัวมันเองกำลังสั่นพั่บๆ ด้วยความเสียวสยองเมื่อแลเห็นขากรรไกรอันกว้างใหญ่และฟันอันแหลมเปี๊ยบขาวราวกับงาช้างของเจ้าเสือตัวร้าย แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องพยายามให้ดีที่สุดที่จะไม่แสดงให้เสือรู้ว่าตนกลัวยังคงพูดต่อไปว่า "โธ่เอ้ย คุณเสือนี่น่าสงสารจริงๆ นะข้าพเจ้าอยากให้ท่านได้ลิ้มรสอาหารดี ๆ แต่ข้าพเจ้าไม่คิดว่าสัตว์กระจ้อยร่อยอย่างข้าพเจ้านี้จะเป็นอาหารที่ท่านจะกินได้อิ่มให้สมกับที่ทนหิวมาได้หรอก" "แต่ข้ากำลังหิวนะโว้ย" เสือคำรามตวาดลั่นอย่างอดทนไม่ไหว "นึกออกแล้ว" กระจงร้องออกมาภายในใจก็คิดวางแผน "ไอ้ที่จะทำให้ท่านหายหิวนั่นมันต้องเนื้อคนถึงจะสมอยาก" "คนน่ะมันเป็นยังไงเจ้ากระจง" "นี่ท่านไม่รู้เอาเทียวหรือว่าคนนั้นคืออะไร" กระจงอุทานทำเป็นแปลกใจ "เออข้าไม่คิดว่าข้ารู้" เสือตอบชักจะสนใจอยากรู้ขึ้นมา "ไหนบอกข้าหน่อยซิเจ้ากระจงว่าคนน่ะคืออะไร" "ก็ได้" กระจงว่าดีใจที่เจ้าเสือร้ายตกหลุมพรางของตัว "คนก็คือสัตว์ชนิดหนึ่งมีขาสองขาแต่ทว่าเป็นสัตว์ที่มีอำนาจใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก" กระจงร้องตอบอย่างพอใจ "จริงรึอำนาจมากยิ่งกว่าข้าอีกรึ" เสือถามชักจะขัดใจขึ้นมาแล้ว "จริงแน่แต่ถ้าท่านไวพอท่านโดดเข้าตะปบมันไว้ท่านก็กินมันได้สบาย" "เออดีแต่ถ้าข้าหาคนกินไม่ได้ล่ะเจ้าก็ต้องเป็นอาหารของข้านามาต่อรองกันแบบนี้ดีไหมล่ะ" "ตกลง" "แล้วข้าจะไปหาคนได้ที่ไหนล่ะพามาให้ข้าดูเดี๋ยวนี้ซีเพราะว่าข้าหิวเต็มทนแล้วนะถ้าเจ้าไม่รีบไปหามาข้าจะต้องกินเจ้าเสียเดี๋ยวนี้ล่ะ" "ใจเย็นๆ ไว้ก่อนท่านเสือโคร่งผู้ยิ่งใหญ่" กระจงตอบ "มาไปด้วยกันที่ริมถนนใหญ่บางทีเราจะได้เห็นคนผ่านมาสักคนหนึ่ง" แล้วกระจงก็พาเสือโคร่งไปริมถนนใหญ่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้คอยเวลาที่คนจะเดินผ่านมาไม่ช้าก็มีเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งเดินกลับจากโรงเรียนเด็กคนนั้นมัวแต่พะวงอยู่กับการบ้านเสียจนไม่ทันสังเกตว่ามีสัตว์สองตัวกำลังแอบดูตนอยู่ "นี่น่ะหรือคน" เสือโคร่งถาม "โธ่เอ๋ย ๆ มันพูดอย่างเยาะแน่เสียยิ่งกว่าแน่ข้าต้องมีอำนาจมากกว่าไอ้ตัวนี้แน่ๆ" "บ๊ะ ก็นั่นมันคนเสียเมื่อไหร่เล่า"เจ้ากระจงตอบ"นั่นมันเป็นแต่เพียงสิ่งที่กำลังจะเติบโตเป็นคนขึ้นมาต่างหากยังอีกหลายปีนักอีกตั้ง 20 ปีหรืออาจจะมากกว่านั้นอีกแต่กว่าจะถึงเวลานั้นท่านก็ตายไปไหนๆแล้ว" ต่อมามีชายชราคนหนึ่งเดินกระย่องกระแย่งมาตามถนนแก่คร่ำเสียเคราขาวโพลนเหมือนหิมะถือไม้เท้าไว้ช่วยยันกายมาตลอดทาง "ไอ้นี่กระมังคือคนอย่างที่เจ้าว่าไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันผอมโทรมเพราะอยู่มานมนานหลายปีเต็มทีเจ้าจะเล่นโกงข้าอีกละซิ" เสือชักโมโห "ไม่ใช่ ไม่ใช่ นี่ก็ไม่ใช่คนมันเป็นเดนคนต่างหากเสือดีดีอย่างท่านคงไม่อยากกินเดนของใครแน่ๆ หรือว่าอยากลอง""ฮ้าย ไม่มีวันเสียละแต่ข้าก็ไม่อยากคอยอีกต่อไปแล้วนา""จุ๊ จุ๊ นั่นไงคนจริง ๆ มาแล้ว"กระจงบอกเมื่อเห็นนายพรานอ้วนพลุ้ยคนหนึ่งแบกปืนก้าวฉับๆ มาตามถนน "ดูซิรูปร่างอ้วนๆ อย่างนั้นแหละเนื้อมากดีพิลึกเทียวแก้มสองข้างก็แดงเรื่อแสดงว่ามีเลือดฝาดไม่ใช่น้อยข้าพเจ้าคิดว่าถ้าท่านได้ลิ้มรสคนๆ นั้นแล้วล่ะก็คงไม่ต้องการกินข้าพเจ้าอีกแน่เทียวหรือว่าไง" "เห็นจะเอาแน่ เจ้ากระจงเอ๋ยเอาแน่ คอยดูข้านะ"ว่าแล้วเสือโคร่งก็กระโจนเข้าใส่พรานผู้นั้นแต่นายพรานกลับไวทายาดเขาส่องไรเฟิลยิงโป้งถูกเสือโคร่งตายคาที่ ดังนั้นเจ้ากระจงดีใจนักหนาที่รอดตัวมาได้แต่ก็เหน็ดเหนื่อยจากการผจญภัยเหลือกำลังจึงกลับไปทะเลสาบเพื่อจะกินน้ำกำลังกินเพลินๆ ฉับพลันก็รู้สึกว่าขาข้างหนึ่งของมันถูกงับมันกำลังจะอ้าปากร้องโอดโอยนัยน์ตาก็เหลือบเห็นไอ้ตัวที่งับขาของมันเข้าเจ้ากระจงรีบกล้ำกลืนความเจ็บปวดเอาไว้เริ่มใช้ความคิดด่วนจี๋ มันก็คือจระเข้ศัตรูใหญ่อีกตัวหนึ่งของเจ้ากระจงจระเข้ชังน้ำหน้าเจ้ากระจงนักเพราะมันแสนกลสิ้นดีเจ้ากระจงก็แสนจะเกลียดเจ้าจระเข้เพราะทำให้มันต้องขวัญหนีดีฝ่อทุกทีที่มันอยากกินน้ำในทะเลสาบ ๆ คราวนี้มันยิ่งเคียดแค้นมากยิ่งกว่าทุกคราวแต่มันก็ซ่อนความรู้สึกไว้ได้ทำเป็นส่งเสียงหัวเราะพูดออกมาอย่างเย้ยว่า "พุทโธ่ พุทถังเอ๋ย นายจระเข้ผู้น่าสมเพชเมื่อไหร่หนอท่านจะได้เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างขาของกระจงกับท่อนไม้เสียทีนะก็ไอ้ที่ท่านคาบเอาไว้เสียจนแน่นนั่นน่ะมันท่อนไม้เก่าๆ ธรรมดาๆ แท้ๆ ทีเดียว" แต่จระเข้คุ้นกับเล่ห์เหลี่ยมของเจ้ากระจงเสียแล้วจึงตอบว่า "อย่ามาหลอกต้มข้าอีกเลยข้ารู้หรอกน่าว่าข้ากำลังคาบขาของเจ้าอยู่ข้าไม่มีวันปล่อยหรอกจนกว่าจะกินเจ้าหมดทั้งตัวเสียก่อน" "แต่ข้าไม่ได้หลอกท่านนะ" กระจงตอบ "ถ้าท่านคิดว่าข้ากำลังใส่กลอยู่ล่ะก็ดูซิว่านี่มันอะไร" ว่าแล้วเจ้ากระจงก็ยกขาอีกข้างหนึ่งของมันขึ้นกวัดแกว่งอยู่ตรงหน้าจระเข้ เท่านั้นเองจระเข้หน้าโง่ก็หลงคำเจ้ากระจงรีบปล่อยขาข้างที่กำลังคาบอยู่มันไล่งับขาอีกข้างหนึ่งที่แกว่งอยู่ไปมาแต่เจ้ากระจงรอโอกาสนี้อยู่แล้วมันโจนแผล็วออกไปทันทีพอแน่ใจว่าจระเข้เอื้อมไม่ถึงแล้วมันก็หันมาพูดกับจระเข้ว่า "แกน่ะมันโง่เสียยิ่งกว่าลาอีกแม้แต่ขาของข้ากับท่อนไม้เก่าๆ ต่างกันอย่างไรแกก็ยังไม่รู้เลยโธ่เอ้ย แล้วกระจงก็วิ่งหนีลิ่วๆ ไปปล่อยให้จระเข้มุดน้ำทะเลสาบลงไปตามเดิมแค้นเคืองเสียนี้กระไรที่มาแพ้เสียเชิงเชาว์เจ้ากระจงได้ ทันใดกระจงก็มาพบหอยทากเข้าตัวหนึ่งมันดีใจนักที่ได้พบเพราะมันชอบคุยโม้กับหอยทากคราวนี้ก็ตั้งใจจะมาโวด้วยอีกมันท้าวิ่งแข่งกับหอยทากแต่ก็ต้องแปลกใจที่หอยทากรับคำท้าและยิ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เรื่อง กินน้ำเพลิน "โอ้โฮ้! มาให้ข้ากินเสียดี ๆ ๆ ยังคงพูดต่อไปว่า "โธ่เอ้ย! คุณเสือนี่น่าสงสารจริง ๆ นะ เสือคำรามตวาดลั่นอย่างอดทนไม่ไหว"นึกออกแล้ว" กระจงร้องออกมา คนนั้นคืออะไร "กระจงอุทานทำเป็นแปลกใจ"เออข้าไม่คิดว่าข้ารู้" เสือตอบ เจ้ากระจงว่าคนน่ะคืออะไร " "ก็ได้" กระจงว่า "คนก็คือสัตว์ชนิดหนึ่งมีขาสองขา อำนาจมากยิ่งกว่าข้าอีกรึ "เสือถามชักจะขัดใจขึ้นมาแล้ว" จริงแน่ แต่ถ้าท่านไวพอท่านโดดเข้าตะปบมันไว้ท่านก็กินมันได้สบาย "" เออดี แต่ถ้าข้าหาคนกินไม่ได้ล่ะเจ้า ก็ต้องเป็นอาหารของข้านามาต่อรองกันแบบนี้ดีไหมล่ะ "" ตกลง " พามาให้ข้าดูเดี๋ยวนี้ซีเพราะว่าข้าหิวเต็มทนแล้วนะ "ใจเย็น ๆ ไว้ก่อนท่านเสือโคร่งผู้ยิ่งใหญ่" กระจงตอบ "มาไปด้วยกันที่ริมถนนใหญ่ "นี่น่ะหรือคน" เสือโคร่งถาม "โธ่เอ๋ย! แน่เสียยิ่งกว่าแน่ข้าต้องมีอำนาจมากกว่าไอ้ตัวนี้แน่ ๆ "มันพูดอย่างเยาะ ๆ"บ๊ะ! ก็นั่นมันคนเสียเมื่อไหร่เล่า "เจ้ากระจงตอบ ยังอีกหลายปีนักอีกตั้ง 20 ปีหรืออาจจะมากกว่านั้นอีก ถือไม้เท้าไว้ช่วยยันกายมาตลอดทาง "ไอ้นี่กระมังคือคนอย่างที่เจ้าว่าไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันผอมโทรมเพราะอยู่มานมนานหลายปีเต็มทีเจ้าจะเล่นโกงข้าอีกละซิ" เสือชักโมโห "ไม่ใช่! ไม่ใช่! นี่ก็ไม่ใช่คนมันเป็นเดนคนต่างหากเสือดีดีอย่างท่านคงไม่อยากกินเดนของใครแน่ ๆ หรือว่าอยากลอง "" ฮ้าย! ไม่มีวันเสียละ แต่ข้าก็ไม่อยากคอยอีกต่อไปแล้วนา "" จุ๊! จุ๊! นั่นไงคนจริงๆมาแล้ว "กระจงบอก ๆ มาตามถนน"ดูซิรูปร่างอ้วน ๆ อย่างนั้นแหละเนื้อมากดีพิลึกเทียว ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าท่านได้ลิ้มรสคน ๆ "เห็นจะเอาแน่! เจ้ากระจงเอ๋ยเอาแน่! คอยดูข้านะ" แต่นายพรานกลับไวทายาด กำลังกินเพลิน ๆ จระเข้ชังน้ำหน้าเจ้ากระจงนักเพราะมันแสนกลสิ้นดีเจ้ากระจงก็แสนจะเกลียดเจ้าจระเข้ แต่มันก็ซ่อนความรู้สึกไว้ได้ ๆ ว่า "พุทโธ่! พุทถังเอ๋ย! นายจระเข้ผู้น่าสมเพช ๆ ธรรมดา ๆ แท้ ๆ จึงตอบว่า "อย่ามาหลอกต้มข้าอีกเลย ข้าไม่มีวันปล่อยหรอก กระจงตอบ " นี่มันอะไร " แต่เจ้ากระจงรอโอกาสนี้อยู่แล้วมันโจนแผล็วออกไปทันทีพอแน่ใจว่าจระเข้เอื้อมไม่ถึงแล้ว แม้แต่ขาของข้ากับท่อนไม้เก่า ๆ ต่างกันอย่างไรแกก็ยังไม่รู้เลยโธ่เอ้ย! แล้วกระจงก็วิ่งหนีลิ่ว ๆ ไป กระจงก็มาพบหอยทากเข้าตัวหนึ่ง

















































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
เรื่องกระจงเจ้าปัญญา

บ่ายวันหนึ่งอากาศร้อนอบอ้าวกระจงเจ้าปัญญาตัวหนึ่งกำลังกินน้ำใสในทะเลสาบกลางป่าอยู่ขณะกำลังกินน้ำเพลินเสือโคร่งตัวหนึ่งเดินผ่านมาเมื่อเห็นกระจงเข้า" โอ้โฮ้ !เจ้ากระจงน้อยช่างเป็นอาหารโอชามื้อนี้ของข้าเสียนี่กระไรเร็วเข้ามาให้ข้ากินเสียดีจะข้ายังไม่มีอะไรใส่ท้องมาเลยทั้งวัน "

" นี่ท่านไม่มีอะไรจะกินมาทั้งวันทีเดียวรึ " กระจงถามแกล้งทำเป็นเสียใจด้วยกับเสือโคร่งแต่แท้ที่จริงตัวมันเองกำลังสั่นพั่บจะด้วยความเสียวสยองเมื่อแลเห็นขากรรไกรอันกว้างใหญ่
Put ก็ต้องพยายามให้ดีที่สุดที่จะไม่แสดงให้เสือรู้ว่าตนกลัวยังคงพูดต่อไปว่า " โธ่เอ้ย !คุณเสือนี่น่าสงสารจริงจะนะข้าพเจ้าอยากให้ท่านได้ลิ้มรสอาหารดีๆแต่ข้าพเจ้าไม่คิดว่าสัตว์กระจ้อยร่อยอย่างข้าพเจ้านี้จะเป็นอาหารที่ท่านจะกินได้อิ่มให้สมกับที่ทนหิวมาได้หรอก "

" แต่ข้ากำลังหิวนะโว้ย " เสือคำรามตวาดลั่นอย่างอดทนไม่ไหว

" นึกออกแล้ว " กระจงร้องออกมาภายในใจก็คิดวางแผน

" ไอ้ที่จะทำให้ท่านหายหิวนั่นมันต้องเนื้อคนถึงจะสมอยาก "

" คนน่ะมันเป็นยังไงเจ้ากระจง "

" นี่ท่านไม่รู้เอาเทียวหรือว่าคนนั้นคืออะไร " กระจงอุทานทำเป็นแปลกใจ

" เออข้าไม่คิดว่าข้ารู้ " เสือตอบชักจะสนใจอยากรู้ขึ้นมา

" ไหนบอกข้าหน่อยซิเจ้ากระจงว่าคนน่ะคืออะไร "

" ก็ได้ " กระจงว่าดีใจที่เจ้าเสือร้ายตกหลุมพรางของตัว " คนก็คือสัตว์ชนิดหนึ่งมีขาสองขาแต่ทว่าเป็นสัตว์ที่มีอำนาจใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก "

" จริงรึอำนาจมากยิ่งกว่าข้าอีกรึ " เสือถามชักจะขัดใจขึ้นมาแล้ว " จริงแน่แต่ถ้าท่านไวพอท่านโดดเข้าตะปบมันไว้ท่านก็กินมันได้สบาย " เออดีแต่ถ้าข้าหาคนกินไม่ได้ล่ะเจ้าก็ต้องเป็นอาหารของข้านา" ตกลง " กระจงร้องตอบอย่างพอใจ

" แล้วข้าจะไปหาคนได้ที่ไหนล่ะพามาให้ข้าดูเดี๋ยวนี้ซีเพราะว่าข้าหิวเต็มทนแล้วนะถ้าเจ้าไม่รีบไปหามาข้าจะต้องกินเจ้าเสียเดี๋ยวนี้ล่ะ " ใจเย็นจะไว้ก่อนท่านเสือโคร่งผู้ยิ่งใหญ่ " กระจงตอบ " มา"
บางทีเราจะได้เห็นคนผ่านมาสักคนหนึ่ง
แล้วกระจงก็พาเสือโคร่งไปริมถนนใหญ่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้คอยเวลาที่คนจะเดินผ่านมาไม่ช้าก็มีเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งเดินกลับจากโรงเรียน" นี่น่ะหรือคน " เสือโคร่งถาม " โธ่เอ๋ย !แน่เสียยิ่งกว่าแน่ข้าต้องมีอำนาจมากกว่าไอ้ตัวนี้แน่ " มันพูดอย่างเยาะจะไม่มี

" บ๊ะ !ก็นั่นมันคนเสียเมื่อไหร่เล่า " เจ้ากระจงตอบ " นั่นมันเป็นแต่เพียงสิ่งที่กำลังจะเติบโตเป็นคนขึ้นมาต่างหากยังอีกหลายปีนักอีกตั้ง 20 ปีหรืออาจจะมากกว่านั้นอีกแต่กว่าจะถึงเวลานั้นท่านก็ตายไปไหนๆแล้ว "

ต่อมามีชายชราคนหนึ่งเดินกระย่องกระแย่งมาตามถนนแก่คร่ำเสียเคราขาวโพลนเหมือนหิมะถือไม้เท้าไว้ช่วยยันกายมาตลอดทาง " ไอ้นี่กระมังคือคนอย่างที่เจ้าว่าไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันผอมโทรมเจ้าจะเล่นโกงข้าอีกละซิ " เสือชักโมโห " ไม่ใช่ !ไม่ใช่ ! นี่ก็ไม่ใช่คนมันเป็นเดนคนต่างหากเสือดีดีอย่างท่านคงไม่อยากกินเดนของใครแน่จะหรือว่าอยากลอง " ฮ้าย ! ไม่มีวันเสียละแต่ข้าก็ไม่อยากคอยอีกต่อไปแล้วนา " จุ๊ ! จุ๊ !นั่นไงคนจริงๆมาแล้ว " กระจงบอกเมื่อเห็นนายพรานอ้วนพลุ้ยคนหนึ่งแบกปืนก้าวฉับจะมาตามถนน

" ดูซิรูปร่างอ้วนจะอย่างนั้นแหละเนื้อมากดีพิลึกเทียวแก้มสองข้างก็แดงเรื่อแสดงว่ามีเลือดฝาดไม่ใช่น้อยข้าพเจ้าคิดว่าถ้าท่านได้ลิ้มรสคนจะนั้นแล้วล่ะก็คงไม่ต้องการกินข้าพเจ้าอีกแน่เทียวหรือว่าไง "เจ้ากระจงเอ๋ยเอาแน่ ! คอยดูข้านะ " ว่าแล้วเสือโคร่งก็กระโจนเข้าใส่พรานผู้นั้นแต่นายพรานกลับไวทายาดเขาส่องไรเฟิลยิงโป้งถูกเสือโคร่งตายคาที่

ดังนั้นเจ้ากระจงดีใจนักหนาที่รอดตัวมาได้แต่ก็เหน็ดเหนื่อยจากการผจญภัยเหลือกำลังจึงกลับไปทะเลสาบเพื่อจะกินน้ำกำลังกินเพลินจะฉับพลันก็รู้สึกว่าขาข้างหนึ่งของมันถูกงับมันกำลังจะอ้าปากร้องโอดโอยเจ้ากระจงรีบกล้ำกลืนความเจ็บปวดเอาไว้เริ่มใช้ความคิดด่วนจี๋

มันก็คือจระเข้ศัตรูใหญ่อีกตัวหนึ่งของเจ้ากระจงจระเข้ชังน้ำหน้าเจ้ากระจงนักเพราะมันแสนกลสิ้นดีเจ้ากระจงก็แสนจะเกลียดเจ้าจระเข้เพราะทำให้มันต้องขวัญหนีดีฝ่อทุกทีที่มันอยากกินน้ำในทะเลสาบ

คราวนี้มันยิ่งเคียดแค้นมากยิ่งกว่าทุกคราวแต่มันก็ซ่อนความรู้สึกไว้ได้ทำเป็นส่งเสียงหัวเราะพูดออกมาอย่างเย้ยจะว่า " พุทโธ่ ! พุทถังเอ๋ย !นายจระเข้ผู้น่าสมเพชเมื่อไหร่หนอท่านจะได้เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างขาของกระจงกับท่อนไม้เสียทีนะก็ไอ้ที่ท่านคาบเอาไว้เสียจนแน่นนั่นน่ะมันท่อนไม้เก่าจะธรรมดาจะไม่มีแท้ทีเดียว "

แต่จระเข้คุ้นกับเล่ห์เหลี่ยมของเจ้ากระจงเสียแล้วจึงตอบว่า " อย่ามาหลอกต้มข้าอีกเลยข้ารู้หรอกน่าว่าข้ากำลังคาบขาของเจ้าอยู่ข้าไม่มีวันปล่อยหรอกจนกว่าจะกินเจ้าหมดทั้งตัวเสียก่อน "

" แต่ข้าไม่ได้หลอกท่านนะ " กระจงตอบ " ถ้าท่านคิดว่าข้ากำลังใส่กลอยู่ล่ะก็ดูซิว่านี่มันอะไร " ว่าแล้วเจ้ากระจงก็ยกขาอีกข้างหนึ่งของมันขึ้นกวัดแกว่งอยู่ตรงหน้าจระเข้

เท่านั้นเองจระเข้หน้าโง่ก็หลงคำเจ้ากระจงรีบปล่อยขาข้างที่กำลังคาบอยู่มันไล่งับขาอีกข้างหนึ่งที่แกว่งอยู่ไปมาแต่เจ้ากระจงรอโอกาสนี้อยู่แล้วมันโจนแผล็วออกไปทันทีพอแน่ใจว่าจระเข้เอื้อมไม่ถึงแล้ว
" แกน่ะมันโง่เสียยิ่งกว่าลาอีกแม้แต่ขาของข้ากับท่อนไม้เก่าจะต่างกันอย่างไรแกก็ยังไม่รู้เลยโธ่เอ้ย !แล้วกระจงก็วิ่งหนีลิ่วจะไปปล่อยให้จระเข้มุดน้ำทะเลสาบลงไปตามเดิมแค้นเคืองเสียนี้กระไรที่มาแพ้เสียเชิงเชาว์เจ้ากระจงได้

ทันใดกระจงก็มาพบหอยทากเข้าตัวหนึ่งมันดีใจนักที่ได้พบเพราะมันชอบคุยโม้กับหอยทากคราวนี้ก็ตั้งใจจะมาโวด้วยอีกมันท้าวิ่งแข่งกับหอยทากแต่ก็ต้องแปลกใจที่หอยทากรับคำท้าและยิ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: