5. การเตรียมเส้นพุ่ง 5.1 การค้นเส้นพุ่ง ใช้โฮงมัดหมี่แบบโบราณที่เป็นไม การแปล - 5. การเตรียมเส้นพุ่ง 5.1 การค้นเส้นพุ่ง ใช้โฮงมัดหมี่แบบโบราณที่เป็นไม อังกฤษ วิธีการพูด

5. การเตรียมเส้นพุ่ง 5.1 การค้นเส้น

5. การเตรียมเส้นพุ่ง

5.1 การค้นเส้นพุ่ง

ใช้โฮงมัดหมี่แบบโบราณที่เป็นไม้มีหลัก 2 หลัก ขนาดของโฮงหมี่ หน้ากว้างของผืนผ้า และขนาดของฟืมทอผ้า จะมีความสัมพันธ์กัน นำเส้นไหมที่ลอกกาวแล้ว มาค้นเส้นพุ่ง การค้นแต่ละลายจะมีจำนวนลำไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับลาย เช่น ลายหมี่ข้อโบราณ ที่กำลังจะกล่าวในรายละเอียด ประกอบด้วยลายต่างๆ คือ ลายหมากจับ ลายขอ ลายขาเปีย ลายปราสาท จะมีจำนวนลำเท่ากับ 41 แต่ละลำมี 4 เส้น ทำการค้นเส้นพุ่งโดยการค้น 2 รอบต่อลำ แต่ละลำทำไพคั่นไว้โดยไพที่บริเวณกึ่งกลางของโฮงหมี่ เมื่อค้นเส้นพุ่งไปจนลำสุดท้าย คือลำที่ 41 ก็ให้ทำการค้นหมี่ย้อนถอยจากลำที่ 40 กลับมาสุดที่ลำที่ 1 การค้นครบ 1 รอบ คือ เท่ากับ 1 ขีน ในลายหมี่ข้อโบราณนี้ ทำการค้นหมี่ประมาณ 7 ขีน ทอผ้าได้ 1 ผืน ขนาดเส้นไหมที่ใช้คือ 150/200 ดีเนียร์ หรือประมาณเส้นไหมหนึ่ง(น้อย) ที่เกษตรกรสาวได้

เนื่องจากจำนวนขีนจะเปลี่ยนไปตามขนาดของเส้นไหมที่ใช้ ดังเช่นลายหมี่ข้อโบราณที่กล่าวมาแล้วใช้ขนาดเส้นไหม 150/200 ดีเนียร์ ค้นเส้นพุ่ง 7 ขีน ได้ผ้าไหม 1 ผืน หากใช้เส้นไหมขนาดเล็กกว่าจำนวนขีนก็จะเพิ่มขึ้น และหากเส้นไหมที่ใช้ขนาดใหญ่กว่าจำนวนขีนก็จะลดลง ทั้งนี้เนื่องจากขนาดของเส้นไหมจะมีความสัมพันธ์กับความยาวของของเส้นไหมโดยตรง เมื่อทำการค้นหมี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว มัดหัวหมี่ทั้ง 2 ด้านตามลำที่ทำไพไว้ เพื่อเป็นการแบ่งเรียงเส้นไหมแต่ละลำให้เป็นระเบียบและให้ลายที่มัดไว้ต่อเนื่องและถูกต้อง

5.2 การมัดลวดลาย

ทำการมัดลายตามที่ออกแบบไว้ ส่วนใหญ่ลวดลายมัดหมี่โบราณจะประกอบด้วย 2 สีหลัก คือสีแดงและสีขาว แต่จะมีการเพิ่มสีสันในกระบวนการทอด้วยการทอสอดเส้นไหมแบบค้ำเพลาในการคั่นลวดลายบนผืนผ้า ปัจจุบันการมัดลายหมี่จะใช้เชือกฟาง เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และลดต้นทุนการผลิต

ในสมัยโบราณการทำผ้าไหมมัดหมี่จะมีความพิถีพิถันและเป็นธรรมชาติจริงๆ การมัดลายจะใช้เชือกจากกาบต้นกล้วยพันธุ์พื้นบ้าน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า พันธุ์กล้วยนวล ลักษณะพิเศษ คือโคนลำต้นใหญ่ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดไม่สามารถขยายพันธุ์ด้วยหน่อได้ ปัจจุบันยังคงมีตามหมู่บ้านที่มีการทอผ้า

ในสมัยโบราณผู้ทอผ้าไหมมัดหมี่ จะต้องทำเชือกกล้วยนวลโดยการนำเอากาบของต้นมาลอกแต่ส่วนที่เป็นเปลือกด้านนอก ทำการฉีกเป็นเส้นเล็ก นำไปตากแดดจนแห้งเชือกกล้วยที่ได้มีความเหนียวมาก จึงทำให้นำมามัดลายหมี่ได้ การมัดลายเริ่มต้นด้วยการมัดเก็บสีขาว ด้วยลวดลายหมากจับ ซึ่งเป็นที่นิยมมากเพราะเป็นลวดลายเล็กๆ จากนั้นจึงมัดลายหมี่ข้อเป็นระยะๆ มัดลายขอ ตามด้วยลายขาเปีย และลายปราสาทหรือเรียกอีกชื่อว่าลายเสา รวมเป็น 5 ลาย ซึ่งในการมัดลายสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การมัดลายทุกลายในหัวหมี่เดียวกัน หรือทำการมัดแยกแต่ละลายในแต่ละหัวหมี่ก็ได้ แล้วมาต่อลายในขั้นตอนการทอผ้า

5.3 การย้อมสีหัวหมี่ที่มัดลายเรียบร้อยแล้ว

นำหัวหมี่ที่มัดลายไปย้อมสีด้วยสีแดงจากครั่งที่ได้เตรียมไว้แล้ว โดยทำการย้อมเย็นก่อนเพื่อให้น้ำสีแทรกซึมเข้าไปในเส้นไหมอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งหัวหมี่ แล้วนำไปตั้งเตาเพิ่มความร้อนให้น้ำย้อมสีจนกระทั่ง 90 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที แล้วจึงมาล้างสีด้วยน้ำสะอาดจนน้ำที่ใช้ล้างสีใส ไม่มีสีเจือปนอยู่ บีบให้แห้ง นำไปตากผึ่งให้แห้ง ทำการแกะเชือกมัดลายออก ก็จะได้ลวดลายมัดหมี่จำนวน 2 สี คือ สีแดง กับ สีขาว

5.4 การปั่นเส้นไหมจากเข้าหลอด

ให้นำหัวหมี่ที่แกะเชือดฟางออกเรียบร้อยแล้วใส่ในกง ทำการกรอเส้นไหมเข้าอัก จากนั้นจึงทำการปั่นเส้นไหมจากอักเข้าหลอดด้วยไน นำหลอดเส้นไหมไปร้อยเรียงใส่ในเชือดตามลำดับเพื่อให้การเรียงลวดลายถูกต้อง


0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
5. to prepare the line fling 5.1 search line fling ใช้โฮงมัดหมี่แบบโบราณที่เป็นไม้มีหลัก 2 หลัก ขนาดของโฮงหมี่ หน้ากว้างของผืนผ้า และขนาดของฟืมทอผ้า จะมีความสัมพันธ์กัน นำเส้นไหมที่ลอกกาวแล้ว มาค้นเส้นพุ่ง การค้นแต่ละลายจะมีจำนวนลำไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับลาย เช่น ลายหมี่ข้อโบราณ ที่กำลังจะกล่าวในรายละเอียด ประกอบด้วยลายต่างๆ คือ ลายหมากจับ ลายขอ ลายขาเปีย ลายปราสาท จะมีจำนวนลำเท่ากับ 41 แต่ละลำมี 4 เส้น ทำการค้นเส้นพุ่งโดยการค้น 2 รอบต่อลำ แต่ละลำทำไพคั่นไว้โดยไพที่บริเวณกึ่งกลางของโฮงหมี่ เมื่อค้นเส้นพุ่งไปจนลำสุดท้าย คือลำที่ 41 ก็ให้ทำการค้นหมี่ย้อนถอยจากลำที่ 40 กลับมาสุดที่ลำที่ 1 การค้นครบ 1 รอบ คือ เท่ากับ 1 ขีน ในลายหมี่ข้อโบราณนี้ ทำการค้นหมี่ประมาณ 7 ขีน ทอผ้าได้ 1 ผืน ขนาดเส้นไหมที่ใช้คือ 150/200 ดีเนียร์ หรือประมาณเส้นไหมหนึ่ง(น้อย) ที่เกษตรกรสาวได้ เนื่องจากจำนวนขีนจะเปลี่ยนไปตามขนาดของเส้นไหมที่ใช้ ดังเช่นลายหมี่ข้อโบราณที่กล่าวมาแล้วใช้ขนาดเส้นไหม 150/200 ดีเนียร์ ค้นเส้นพุ่ง 7 ขีน ได้ผ้าไหม 1 ผืน หากใช้เส้นไหมขนาดเล็กกว่าจำนวนขีนก็จะเพิ่มขึ้น และหากเส้นไหมที่ใช้ขนาดใหญ่กว่าจำนวนขีนก็จะลดลง ทั้งนี้เนื่องจากขนาดของเส้นไหมจะมีความสัมพันธ์กับความยาวของของเส้นไหมโดยตรง เมื่อทำการค้นหมี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว มัดหัวหมี่ทั้ง 2 ด้านตามลำที่ทำไพไว้ เพื่อเป็นการแบ่งเรียงเส้นไหมแต่ละลำให้เป็นระเบียบและให้ลายที่มัดไว้ต่อเนื่องและถูกต้อง5.2 การมัดลวดลาย
ทำการมัดลายตามที่ออกแบบไว้ ส่วนใหญ่ลวดลายมัดหมี่โบราณจะประกอบด้วย 2 สีหลัก คือสีแดงและสีขาว แต่จะมีการเพิ่มสีสันในกระบวนการทอด้วยการทอสอดเส้นไหมแบบค้ำเพลาในการคั่นลวดลายบนผืนผ้า ปัจจุบันการมัดลายหมี่จะใช้เชือกฟาง เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และลดต้นทุนการผลิต

ในสมัยโบราณการทำผ้าไหมมัดหมี่จะมีความพิถีพิถันและเป็นธรรมชาติจริงๆ การมัดลายจะใช้เชือกจากกาบต้นกล้วยพันธุ์พื้นบ้าน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า พันธุ์กล้วยนวล ลักษณะพิเศษ คือโคนลำต้นใหญ่ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดไม่สามารถขยายพันธุ์ด้วยหน่อได้ ปัจจุบันยังคงมีตามหมู่บ้านที่มีการทอผ้า

ในสมัยโบราณผู้ทอผ้าไหมมัดหมี่ จะต้องทำเชือกกล้วยนวลโดยการนำเอากาบของต้นมาลอกแต่ส่วนที่เป็นเปลือกด้านนอก ทำการฉีกเป็นเส้นเล็ก นำไปตากแดดจนแห้งเชือกกล้วยที่ได้มีความเหนียวมาก จึงทำให้นำมามัดลายหมี่ได้ การมัดลายเริ่มต้นด้วยการมัดเก็บสีขาว ด้วยลวดลายหมากจับ ซึ่งเป็นที่นิยมมากเพราะเป็นลวดลายเล็กๆ จากนั้นจึงมัดลายหมี่ข้อเป็นระยะๆ มัดลายขอ ตามด้วยลายขาเปีย และลายปราสาทหรือเรียกอีกชื่อว่าลายเสา รวมเป็น 5 ลาย ซึ่งในการมัดลายสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การมัดลายทุกลายในหัวหมี่เดียวกัน หรือทำการมัดแยกแต่ละลายในแต่ละหัวหมี่ก็ได้ แล้วมาต่อลายในขั้นตอนการทอผ้า

5.3 การย้อมสีหัวหมี่ที่มัดลายเรียบร้อยแล้ว

นำหัวหมี่ที่มัดลายไปย้อมสีด้วยสีแดงจากครั่งที่ได้เตรียมไว้แล้ว โดยทำการย้อมเย็นก่อนเพื่อให้น้ำสีแทรกซึมเข้าไปในเส้นไหมอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งหัวหมี่ แล้วนำไปตั้งเตาเพิ่มความร้อนให้น้ำย้อมสีจนกระทั่ง 90 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที แล้วจึงมาล้างสีด้วยน้ำสะอาดจนน้ำที่ใช้ล้างสีใส ไม่มีสีเจือปนอยู่ บีบให้แห้ง นำไปตากผึ่งให้แห้ง ทำการแกะเชือกมัดลายออก ก็จะได้ลวดลายมัดหมี่จำนวน 2 สี คือ สีแดง กับ สีขาว

5.4 การปั่นเส้นไหมจากเข้าหลอด

ให้นำหัวหมี่ที่แกะเชือดฟางออกเรียบร้อยแล้วใส่ในกง ทำการกรอเส้นไหมเข้าอัก จากนั้นจึงทำการปั่นเส้นไหมจากอักเข้าหลอดด้วยไน นำหลอดเส้นไหมไปร้อยเรียงใส่ในเชือดตามลำดับเพื่อให้การเรียงลวดลายถูกต้อง


การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: