ประวัติ เนลสัน มันเดลา รัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่!!
เนลสัน โรลีลาลา แมนเดลา (Nelson Rolihlahla Mandela) หรือที่รู้จักกันในนาม เนลสัน แมนเดลาอดีตผู้นำแอฟริกาใต้ เขานับเป็นรัฐบุรุษของโลก ผู้ที่อุทิศตนที่ต่อสู้เพื่อล้มล้างความเชื่อ ลัทธิการเหยียดผิวและ ผลักดันให้เกิดสันติภาพให้เท่าเทียมกันทั่วโลก ล่าสุดเมื่อ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ที่ผ่านมา เนลสัน แมนเดลา ได้อสัญกรรม (เสียชีวิต) ลงด้วยวัย 95 ปี และเพื่อเป็นเกียรติให้แก่ เนลสัน แมนเดลา วันนี้ทาง สกู๊ปเอ็มไทย จึงขอนำประวัติและ เรื่องราวชีวิตของ เนลสัน แมนเดลา
เนลสัน แมนเดลา เกิดวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 เป็นผู้สืบทายาทสายหนึ่งของราชวงศ์เทมบู ที่ปกครองแคว้นทรานสไก ในจังหวัดอีสเทิร์นแคป ของประเทศแอฟริกาใต้ โดยเขาเกิดที่อึมเวโซ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองอุตาตา ซึ่งเป็นเมื่องหลวงของทรานสไก เดิมแท้จริงแล้ว เนลมัน แมนเดลา มีชื่อจริงว่า โรลีห์ลาห์ลาซึ่งมีควายหมายว่า “เจ้าตัวยุ่ง” แต่ต่อมา มันเดลา ได้เข้าไปศึกษาที่โรงเรียน ครูของเขาได้ตั้งชื่อภาษาอังกฤษให้โดยเรียกว่า “เนลสัน” จึงทำให้ได้ที่มาเป็น เนลสัน แมนเดลา นั้นเอง
เนลสัน แมนเดลา ได้สำเร็จการศึกษาที่มหาวิทยาลัยวิทส์วอเทอแรนด์ ด้านกฎหมายหลักสูตรทางไกลกับมหาวิทยาลัยลอนดอน ซึ่งทำให้ เนลสัน แมนเดลา ได้พบเจอกับผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ได้รับความคิดแบบเสรีนิยม และความคิดต่อสู้เพื่อชาวแอฟริกัน ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเหยียดผิว การถูกกระทำแบบสองมาตรฐาน ซึ่งนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นในการผลักดันให้เขาเริ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเกี่ยวกับการเหยียดผิว
เมื่อปี พ.ศ. 2491 ชัยชนะในการเลืองตั้งตกเป็นของพรรคชาตินิยม ซึ่งสนับสนุนนโยบายการแบ่งแยกสีผิวอย่างรุนแรง ยิ่งทำให้ แมนเดลาเริ่มมีบทบาททางการเมืองมากขึ้น เขาเป็นผู้นำคนสำคัญในการต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว โดยแมนเดลาเริ่มทำการเจรจารต่อต้านรัฐบาลโดยไม่ใช้ความรุนแรง แต่เขาและเพื่อร่วมขบวานการกว่า 150 คน ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2499 ในข้อหากบฏ แต่การไต่สวนคดีมีเวลายาวนานมาก ทำให้คดีสิ้นสุดลงโดยไม่มีความผิด
ต่อมาในปี พ.ศ. 2504 แมนดาลาได้เป็นผู้นำกองกำลังติดอาวุธของเอเอ็นซี ได้เปิดปฏิบัติการวินาศกรรมทางเศรษฐกิจจนกระทั่งถูกจับในที่สุด และเขาถูกแจ้งข้อหาก่อวินาศกรรม และพยายามโค่นล้มรัฐบาลด้วยวิธีการรุนแรง โดยระหว่างการพิจารณาคดีที่เมืองริโวเนีย แมนเดลาได้ประกาศความเชื่อของเขาในเรื่องประชาธิปไตย เสรีภาพ และความเท่าเทียมว่า
“ผมเชิดชูอุดมคติเรื่องสังคมที่เป็นประชาธิปไตยและมีเสรีภาพ ที่ซึ่งคนทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมานฉันท์ และได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน นี่คือสังคมอุดมคติที่ผมปรารถนาจะไปให้ถึง เป็นอุดมคติที่ผมพร้อมจะอุทิศชีวิตให้”