พระราชวังบางปะอิน : เกาะบางอออินเป็นถิ่นวัง กษัตริย์ครั้งครองกรุงศรีอย การแปล - พระราชวังบางปะอิน : เกาะบางอออินเป็นถิ่นวัง กษัตริย์ครั้งครองกรุงศรีอย อังกฤษ วิธีการพูด

พระราชวังบางปะอิน : เกาะบางอออินเป็

พระราชวังบางปะอิน : เกาะบางอออินเป็นถิ่นวัง กษัตริย์ครั้งครองกรุงศรีอยุธยา

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเมืองเก่าที่เคยเป็นเมืองหลวงของไทยมาแต่สมัยโบราณ … เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวของเมืองนี้ คนส่วนมากจึงมักจะนึกถึง “กรุงเก่า” ขึ้นมาในมโนภาพ

ดินแดนอยุธยานั้นนอกจากจะเป็นราชธานีเก่าแก่อันสำคัญของไทยแล้ว ยังเป็น “มรดกโลก” ที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามเก่าแก่และโบราณสถานที่น่าสนใจมากมาย

อันที่จริงแล้วอยุธยาไม่ใช่มีดีเฉพาะพื้นที่มรดกโลกเท่านั้น หากแต่อยุธยายังมีของดีที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ที่โดดเด่นหนึ่งในนั้นก็คือ“พระราชวังบางปะอิน” ที่สวยงามน่าชมมาก

สำหรับความเป็นมาของพระราชวังบางปะอินนั้น ตามตำนานได้กล่าวไว้พอสรุปความได้ว่า...เมื่อครั้งที่สมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จประพาสล่องแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเรือเกิดล่มที่บริเวณเกาะบ้านเลนอยุธยา

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้พระเอกาทศรถฯได้พบกับ “อิน” หญิงสาวชาวบ้าน ที่พอพบพาก็ถูกตาต้องใจและมีสัมพันธ์กันจนให้กำเนิดพระราชโอรส ที่ภายหลังขึ้นครองราชย์ทรงพระนามว่า“สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง”

ในปี พ.ศ. 2175 พระเจ้าปราสาททอง หรือ สมเด็จพระศรีสรรเพ็ชรญ์ที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นในบริเวณที่เสด็จพระราชสมภพ แล้วพระราชทานชื่อว่า “วัดชุมพลนิกายาราม” นอกจากนี้ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ขุดสระขนาดใหญ่ขึ้นทางทิศใต้ของวัด พร้อมทั้งสร้างพระราชวังขึ้นที่เกาะบางปะอิน และสร้างพระที่นั่งขึ้นองค์หนึ่ง พระราชทานนามว่า “พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์” 

นับแต่นั้นมาพระราชวังแห่งนี้ ได้กลายเป็นที่เสด็จประพาสเพื่อความสำราญของพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงศรีอยุธยาเรื่อยมา ก่อนจะถูกทิ้งร้างหลังเสียกรุงฯ และมีการย้ายราชธานีมายังกรุงธนบุรี และกรุงเทพมหานครตามลำดับ

พระราชวังบางปะอินได้เลือนรางไปจากความทรงจำของคนทั้งหลาย… จนถึงปลายสมัยรัชกาลที่ 1 พระราชวังแห่งนี้ได้หวนกลับมาฟื้นความทรงจำของผู้คนอีกครั้ง เมื่อสุนทรภู่ ได้ตามเสด็จรัชกาลที่ 1 ไปนมัสการพระพุทธบาท ที่สระบุรี ได้ผ่านพระราชวังบางปะอิน จึงได้ประพันธ์กลอนถึงพระราชวังบางปะอิน ใน “นิราศพระบาท” ไว้ดังนี้

รำพึงพายตามสายกระแสเชียว

ยิ่งแสนเปลี่ยวเปล่าในฤทัยถวิล

อีกครู่หนึ่งก็มาถึงบางเกาะอิน

กระแสสินธุ์สายชลเป็นวนวัง

อันเท็จจริงสิ่งนี้ไม่รู้แน่

ได้ยินแต่ยุบลในหนหลัง

ว่าที่เกาะบางอออินเป็นถิ่นวัง

กษัตริย์ครั้งครองกรุงศรีอยุธยา

จากนั้นในยุครัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้เสด็จประพาสผ่านเกาะบางปะอิน ทรงทอดพระเนตรเห็นความร่มเย็นของหมู่ไม้ และทอดพระเนตรเห็นพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ก่อสร้างเป็นเครื่องไม้ที่เหลือแต่โครง ส่วนเดครื่องบนจมอยู่ใต้พื้นดิน ทรงทราบว่าเคยเป็นเขตพระราชวังเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นที่ต้องพระราชหฤทัยจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างพระที่นั่งขึ้น และเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรม

ต่อมาในรัชสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้บูรณะพระราชวังบางปะอิน และสร้างพระที่นั่งและตำหนักต่างๆขึ้นเป็นการถาวร … ทรงโปรดเกล้าฯให้บูรณะวัดชุมพลนิกายาราม และเสด็จมาฉลองพระอารามแห่งนี้ด้วย รวมถึงทรงแปรพระราชฐานไปประทับแรมที่พระราชวังบางปะอินอยู่เนืองๆ พระราชวังแห่งนี้จึงเป็นพระราชฐานที่ประทับของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เฉกเช่นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเรื่อยมา จวบจนถึงสมัยรัชกาลปัจจุบัน

ด้วยความงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย พระราชวังบางปะอินจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ …ฉันจึงถือโอกาสนำทุกท่านไปเดินช้าๆเที่ยวชมพระราชวังบางปะอิน รวมถึงเล่าเรื่องราวต่างๆอันเป็นภูมิหลังที่น่าสนใจของแต่ละสถานที่ในอีกหลายวันข้างหน้าค่ะ

เขตพระราชฐานชั้นนอก

หอเหมมณเฑียรเทวราช

หอเหมมณเฑียรเทวราช เป็นที่ประดิษฐานเทวรูปพระเจ้าปราสาททอง มีรูปทรงคล้ายพระปรางค์แบบขอมขนาดเล็ก … พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ริมสระน้ำ

การสร้างหอเหมมณเฑียรเทวราชครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเนื่องจากเหตุการณ์เรือประเทียบล่มเมื่อปี พ.ศ. 2423 เป็นเหตุให้สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์สวรรคตกลางแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมพระราชธิดา รัชกาลที่ 5 ทรงวิตกว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ซึ่งเสด็จมาในขบวนเรือด้วยจะได้รับอันตราย จึงทรงบนว่า ถ้าสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศทรงปลอดภัยจากเหตุการณ์ครั้งนี้จะสร้างศาลใหม่ถวาย เมื่อทรงทราบว่าพระโอรสปลอดภัย จึงโปรดเกล้าฯให้ก่อสร้างจนแล้วเสร็จ

กระโจมแตร

กระโจมแตร ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ รูปทรงแปดเหลี่ยม สร้างตามสถาปัตยกรรมของประเทศสเปน ใช้สำหรับทหารเป่าแตรถวายพระเกียรติ์ในคราวเสด็จพระราชดำเนิน

ปัจจุบันเป็นจุดชมทัศนียภาพที่งดงามจุดหนึ่งของพระราชวังบางปะอิน

พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์

พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์หนึ่งในสัญลักษณ์ของพระราชวังบางปะอิน ที่ประณีตงดงามด้วยสถาปัตยกรรมไทยทรงปราสาทโถง องค์เล็ก สร้างด้วยเครื่องไม้ในแบบปราสาททรงจตุรมุข หลังคาซ้อนชั้นแบบไทยประเพณี มีจัตุรมุขยื่นทั้ง 4 ด้าน หลังคามีเครื่องยอดเป็นทรงปราสาท ประดับด้วยครุฑยุดนาคทั้ง 4 มุม บริเวณหน้าบันทั้ง 4ด้านของจตุรมุขเป็นรูปตราอาร์มหรือตราแผ่นดิน

พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ มีสถาปัตยกรรมที่จำลองแบบมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาทในพระบรมมหาราชวัง นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความงดงามเป็นเลิศในแบบไทยที่ยังเหลือไม่มากในปัจจุบัน … ภายในพระที่นั่งประดิษฐานพระบรมรูปหล่อสัมฤทธิ์ของรัชกาลที่ 5

สะพานตุ๊กตา

จากกระโจมแตรมีสะพานไป 2 ทางซ้าย-ขวา หากเดินไปทางซ้ายอันเป็นถนนนารายณ์ … จะเป็นสะพานตุ๊กตา ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเลียนแบบสะพานข้ามแม่น้ำไทเบอร์ ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี

บนราวสะพานทั้งสองข้างประดับตกแต่งด้วยตุ๊กตาปูนปั้น รูปเทพต่างๆของกรีก โดยทรงสั่งเข้ามาจากยุโรป … ณ จุดนั้สามารถมองเห็นสถาปัตยกรรมของพระที่นั่งองค์ต่างๆ ในเขตพระราชฐา
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
พระราชวังบางปะอิน : เกาะบางอออินเป็นถิ่นวัง กษัตริย์ครั้งครองกรุงศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเมืองเก่าที่เคยเป็นเมืองหลวงของไทยมาแต่สมัยโบราณ … เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวของเมืองนี้ คนส่วนมากจึงมักจะนึกถึง “กรุงเก่า” ขึ้นมาในมโนภาพดินแดนอยุธยานั้นนอกจากจะเป็นราชธานีเก่าแก่อันสำคัญของไทยแล้ว ยังเป็น “มรดกโลก” ที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามเก่าแก่และโบราณสถานที่น่าสนใจมากมายอันที่จริงแล้วอยุธยาไม่ใช่มีดีเฉพาะพื้นที่มรดกโลกเท่านั้น หากแต่อยุธยายังมีของดีที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ที่โดดเด่นหนึ่งในนั้นก็คือ“พระราชวังบางปะอิน” ที่สวยงามน่าชมมากสำหรับความเป็นมาของพระราชวังบางปะอินนั้น ตามตำนานได้กล่าวไว้พอสรุปความได้ว่า...เมื่อครั้งที่สมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จประพาสล่องแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเรือเกิดล่มที่บริเวณเกาะบ้านเลนอยุธยาเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้พระเอกาทศรถฯได้พบกับ “อิน” หญิงสาวชาวบ้าน ที่พอพบพาก็ถูกตาต้องใจและมีสัมพันธ์กันจนให้กำเนิดพระราชโอรส ที่ภายหลังขึ้นครองราชย์ทรงพระนามว่า“สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง”
ในปี พ.ศ. 2175 พระเจ้าปราสาททอง หรือ สมเด็จพระศรีสรรเพ็ชรญ์ที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นในบริเวณที่เสด็จพระราชสมภพ แล้วพระราชทานชื่อว่า “วัดชุมพลนิกายาราม” นอกจากนี้ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ขุดสระขนาดใหญ่ขึ้นทางทิศใต้ของวัด พร้อมทั้งสร้างพระราชวังขึ้นที่เกาะบางปะอิน และสร้างพระที่นั่งขึ้นองค์หนึ่ง พระราชทานนามว่า “พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์” 

นับแต่นั้นมาพระราชวังแห่งนี้ ได้กลายเป็นที่เสด็จประพาสเพื่อความสำราญของพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงศรีอยุธยาเรื่อยมา ก่อนจะถูกทิ้งร้างหลังเสียกรุงฯ และมีการย้ายราชธานีมายังกรุงธนบุรี และกรุงเทพมหานครตามลำดับ

พระราชวังบางปะอินได้เลือนรางไปจากความทรงจำของคนทั้งหลาย… จนถึงปลายสมัยรัชกาลที่ 1 พระราชวังแห่งนี้ได้หวนกลับมาฟื้นความทรงจำของผู้คนอีกครั้ง เมื่อสุนทรภู่ ได้ตามเสด็จรัชกาลที่ 1 ไปนมัสการพระพุทธบาท ที่สระบุรี ได้ผ่านพระราชวังบางปะอิน จึงได้ประพันธ์กลอนถึงพระราชวังบางปะอิน ใน “นิราศพระบาท” ไว้ดังนี้

รำพึงพายตามสายกระแสเชียว

ยิ่งแสนเปลี่ยวเปล่าในฤทัยถวิล

อีกครู่หนึ่งก็มาถึงบางเกาะอิน

กระแสสินธุ์สายชลเป็นวนวัง

อันเท็จจริงสิ่งนี้ไม่รู้แน่

ได้ยินแต่ยุบลในหนหลัง

ว่าที่เกาะบางอออินเป็นถิ่นวัง

กษัตริย์ครั้งครองกรุงศรีอยุธยา

จากนั้นในยุครัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้เสด็จประพาสผ่านเกาะบางปะอิน ทรงทอดพระเนตรเห็นความร่มเย็นของหมู่ไม้ และทอดพระเนตรเห็นพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ก่อสร้างเป็นเครื่องไม้ที่เหลือแต่โครง ส่วนเดครื่องบนจมอยู่ใต้พื้นดิน ทรงทราบว่าเคยเป็นเขตพระราชวังเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นที่ต้องพระราชหฤทัยจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างพระที่นั่งขึ้น และเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรม

ต่อมาในรัชสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้บูรณะพระราชวังบางปะอิน และสร้างพระที่นั่งและตำหนักต่างๆขึ้นเป็นการถาวร … ทรงโปรดเกล้าฯให้บูรณะวัดชุมพลนิกายาราม และเสด็จมาฉลองพระอารามแห่งนี้ด้วย รวมถึงทรงแปรพระราชฐานไปประทับแรมที่พระราชวังบางปะอินอยู่เนืองๆ พระราชวังแห่งนี้จึงเป็นพระราชฐานที่ประทับของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เฉกเช่นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเรื่อยมา จวบจนถึงสมัยรัชกาลปัจจุบัน

ด้วยความงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย พระราชวังบางปะอินจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ …ฉันจึงถือโอกาสนำทุกท่านไปเดินช้าๆเที่ยวชมพระราชวังบางปะอิน รวมถึงเล่าเรื่องราวต่างๆอันเป็นภูมิหลังที่น่าสนใจของแต่ละสถานที่ในอีกหลายวันข้างหน้าค่ะ

เขตพระราชฐานชั้นนอก

หอเหมมณเฑียรเทวราช

หอเหมมณเฑียรเทวราช เป็นที่ประดิษฐานเทวรูปพระเจ้าปราสาททอง มีรูปทรงคล้ายพระปรางค์แบบขอมขนาดเล็ก … พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ริมสระน้ำ

การสร้างหอเหมมณเฑียรเทวราชครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเนื่องจากเหตุการณ์เรือประเทียบล่มเมื่อปี พ.ศ. 2423 เป็นเหตุให้สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์สวรรคตกลางแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมพระราชธิดา รัชกาลที่ 5 ทรงวิตกว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ซึ่งเสด็จมาในขบวนเรือด้วยจะได้รับอันตราย จึงทรงบนว่า ถ้าสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศทรงปลอดภัยจากเหตุการณ์ครั้งนี้จะสร้างศาลใหม่ถวาย เมื่อทรงทราบว่าพระโอรสปลอดภัย จึงโปรดเกล้าฯให้ก่อสร้างจนแล้วเสร็จ

กระโจมแตร

กระโจมแตร ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ รูปทรงแปดเหลี่ยม สร้างตามสถาปัตยกรรมของประเทศสเปน ใช้สำหรับทหารเป่าแตรถวายพระเกียรติ์ในคราวเสด็จพระราชดำเนิน

ปัจจุบันเป็นจุดชมทัศนียภาพที่งดงามจุดหนึ่งของพระราชวังบางปะอิน

พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์

พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์หนึ่งในสัญลักษณ์ของพระราชวังบางปะอิน ที่ประณีตงดงามด้วยสถาปัตยกรรมไทยทรงปราสาทโถง องค์เล็ก สร้างด้วยเครื่องไม้ในแบบปราสาททรงจตุรมุข หลังคาซ้อนชั้นแบบไทยประเพณี มีจัตุรมุขยื่นทั้ง 4 ด้าน หลังคามีเครื่องยอดเป็นทรงปราสาท ประดับด้วยครุฑยุดนาคทั้ง 4 มุม บริเวณหน้าบันทั้ง 4ด้านของจตุรมุขเป็นรูปตราอาร์มหรือตราแผ่นดิน

พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ มีสถาปัตยกรรมที่จำลองแบบมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาทในพระบรมมหาราชวัง นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความงดงามเป็นเลิศในแบบไทยที่ยังเหลือไม่มากในปัจจุบัน … ภายในพระที่นั่งประดิษฐานพระบรมรูปหล่อสัมฤทธิ์ของรัชกาลที่ 5

สะพานตุ๊กตา

จากกระโจมแตรมีสะพานไป 2 ทางซ้าย-ขวา หากเดินไปทางซ้ายอันเป็นถนนนารายณ์ … จะเป็นสะพานตุ๊กตา ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเลียนแบบสะพานข้ามแม่น้ำไทเบอร์ ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี

บนราวสะพานทั้งสองข้างประดับตกแต่งด้วยตุ๊กตาปูนปั้น รูปเทพต่างๆของกรีก โดยทรงสั่งเข้ามาจากยุโรป … ณ จุดนั้สามารถมองเห็นสถาปัตยกรรมของพระที่นั่งองค์ต่างๆ ในเขตพระราชฐา
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Bang pa-in Royal Palace): "some islands at the local feed is palace. Once the king of Ayutthaya.Ayutthaya. Is an old city that was the capital market, but the ancient "..." when talking about the attractions of this city. Most people tend to think of as the "old" and "up in the afterimage.The Ayutthaya as an ancient capital an important industry. Also as the "World Heritage" as full of ancient temples, ancient, and many interestingActually, not only has good Ayutthaya world heritage area. But also of Ayutthaya more interesting things. Prominent one was "bang pa-in royal palace." "beautiful to see.For the history of the bang pa-in royal palace. According to legend, said when the conclusion that... When District came aboard on the Chao Phraya River And the boat was capsized the Island House Lane.This situation makes พระเอกาทศรถ has met "" in "" young people. At once I find take's eye and related to give birth to son Later the throne name "King savang vatthana."In the 1930s. "2175 พระเจ้าปราสาททอง or King ศรีสร) Petch, that" 5. Please graciously. To build a temple in the area was born. Then king named as "temple assembly Arnica Yara", he also graciously pleased to dig a pond size larger south of the temple. And built a palace on the PA And build up your throne. The name "royal throne because his" history ".Since then this palace. Became came aboard to pleasures of king of Ayutthaya and beyond. Before it was abandoned after the was. And have moved the capital to Thonburi and Bangkok, respectively.Bang pa-in Royal Palace has faded from the memory of men... "Until the end of the reign of King palace." 1 this return to regain memories of people again. When the metamorphosis, accompanied king "1" to worship the Buddha, Saraburi through Mwai Kibaki is the sector.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: