การสร้างเสริมสุขภาพคนวัยชรา ในอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ นางสาวทิต การแปล - การสร้างเสริมสุขภาพคนวัยชรา ในอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ นางสาวทิต อังกฤษ วิธีการพูด

การสร้างเสริมสุขภาพคนวัยชรา ในอำเภอ

การสร้างเสริมสุขภาพคนวัยชรา ในอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
นางสาวทิตยาวดี อินทรางกูร*
รศ.ดร.อัจฉรา ภาณุรัตน์**

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ใช้กระบวนการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการสร้างเสริมสุขภาพคนวัยชราในอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ศึกษาคือบ้านละหานทรายใหม่ ตำบลบ้านลาด อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มตัวอย่างเลือกแบบเจาะจง คือคนวัยชราอายุ 60 ปีขึ้นไป 5 คน ผู้นำชุมชน 5 คน ที่อาศัยในบ้านละหานทรายใหม่ ตำบลบ้านลาด อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ใช้ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพแนวชาติพันธุ์วรรณา ด้วยเทคนิคการสัมภาษณ์เชิงลึก จดบันทึก การสนทนากลุ่ม และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา
ผลการศึกษาพบว่า การสร้างเสริมสุขภาพคนวัยชราไม่เหมาะสมกับวัย เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้านร่างกาย จิตใจได้ง่าย ซึ่งการสร้างเสริมสุขภาพที่เหมาะสมกับคนวัยชราและบริบทต้องเป็นกิจกรรมการดูแลสุขภาพที่สอดแทรกกับการดำเนินชีวิตประจำวันของคนวัยชรา ที่ทำด้วยความสนุก ตระหนักรู้ ทำด้วยตนเอง มีครอบครัว ชุมชนให้การสนับสนุน เช่น รดน้ำต้นไม้ งานอดิเรก ร่วมกิจกรรม ประเพณีในชุมชน เลี้ยงหลาน เป็นต้น ซึ่งเป็นการออกกำลังกายไปในตัว กระตุ้นให้คนวัยชราออกจากบ้านมารวมกลุ่มกันตามธรรมชาติเพื่อพบปะพูดคุยกันในวันสำคัญทางศาสนา งานบุญ งานประเพณีของชุมชน จัดกิจกรรม/ความรู้ในการสร้างเสริมสุขภาพ เน้นการบริโภคอาหาร ให้การตรวจสุขภาพประจำปีเชิงรุก กระตุ้นให้ครอบรัว ชุมชนมีบทบาทสนับสนุนให้คน วัยชราเกิดความตระหนักและดึงศักยภาพตนเองมาใช้ในการสร้างเสริมสุขภาพตนเองให้เหมาะสม
ข้อเสนอแนะ กิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของคนวัยชราควรสอดแทรกเข้ากับวิถีชีวิตประจำวัน กิจกรรม งานบุญ ประเพณี ในชุมชนโดยครอบครัว ชุมชนให้การสนับสนุน และ ควรศึกษาหาแนวทางให้มีการส่งเสริมการดูแลสุขภาพในกลุ่มอื่น เช่น วัยทำงาน เยาวชน ซึงเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ
คำสำคัญ : คนวัยชรา การสร้างเสริมสุขภาพ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
* นักศึกษาหลักสูตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค
** อาจารย์ที่ปรึกษา และประธานหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์
การสร้างเสริมสุขภาพคนวัยชรา ในอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
นางสาวทิตยาวดี อินทรางกูร*
พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลบุรีรัมย์

บทนำ
การเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนโดยรวม โดยเฉพาะบุคคลเมื่อเข้าสู่วัยชราทำให้เกิดความเสื่อมลงทางด้านร่างกาย จิตใจ นำมาซึ่งภาวะเสี่ยงและปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง อัมพฤกษ์/อัมพาต โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ไตวายเรื้อรัง (สำนักงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย. 2552 : 4) ผลตามมาจากการเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยคือ การเกิดภาวะทุพพลภาพของคนวัยชราที่ต้องการดูแล เช่นโรคหลอดเลือดสมอง ทางด้านจิตใจปัญหาที่พบบ่อยได้แก่ การปรับตัว ความเหงา ว้าเหว่ รู้สึกด้อยค่า ครอบครัวให้ความสำคัญน้อยลง คนวัยชราเป็นโสดหรืออยู่คนเดียวหรือถูกทอดทิ้งมากขึ้น การเคารพนับถือผู้สูงวัยลดน้อยลงทำให้เกิดช่องว่างระหว่างวัยคือผู้สูงวัยกับบุตรหลาน การเป็นสังคมคนวัยชราที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ต้องพัฒนาความเข้มแข็งของคนวัยชราในการสร้างเสริมสุขภาพตนเอง ยังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย การกินอยู่ประจำวัน ค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วย ทำให้คนวัยชรามีความต้องการช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจการเงิน การรักษาพยาบาลหรือการดูแลทางด้านสุขภาพ และยังต้องการให้ชุมชนช่วยจัดกิจกรรมการรวมกลุ่มของคนวัยชราเพื่อพบปะสังสรรค์หรือนันทนาการ (มนู วาทิสุนทร. 2545 : 27)
กล่าวได้ว่าการดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของคนไทยในอดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่แก้ปัญหาการเจ็บป่วยโดยการนำความเชื่อเดิมในอดีตที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษมาใช้เป็นการดูแลรักษา ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ฟื้นฟูสภาพจากการเจ็บป่วย โดยการใช้สมุนไพรที่หาได้จากป่า หมอชาวพื้นบ้านในการรักษาพยาบาลดังที่ อัจฉรา ภาณุรัตน์ (2557) ได้เขียนหนังสือทฤษฎีความรู้โลกาภิวัตน์และภูมิปัญญาท้องถิ่น การดูแลสร้างเสริมด้านสุขภาพอนามัยของชนเผ่าในอดีต ส่วนใหญ่เป็นไปตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา เน้นเรื่อง บุญกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพตั้งแต่เกิดจนตาย ดังตัวอย่างของคำสอนที่กล่าวถึงกรรมของมนุษย์กล่าวว่า “ไม่ใช่เราแต่ผู้เดียวเท่านั้นที่มีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใดดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เราจักเป็นผู้รับ ผลของกรรมนั้น สัตว์ทั้งปวงบรรดาที่มี การมา การไป การจุติ การอุบัติ ล้วนมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใดดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น” นั่นหมายถึงการที่คนในชนเผ่าชาติพันธุ์ต่างๆ จะมีสุขภาพดีย่อมเกิดจากการกระทำในการดูแลสุขภาพอย่างดี อย่างระมัดระวังด้วยตนเอง ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ยังต้องมีเผ่าพันธุ์ที่ดี สมบูรณ์แข็งแรง อยู่อาศัยในพื้นที่สิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่งความเชื่อบนพื้นฐานพระพุทธศาสนาเหล่านี้ปรากฏเป็นข้อปฏิบัติอยู่ในชนเผ่าชาติพันธุ์ออสโตรเอเชียติก (อัจฉรา ภาณุรัตน์. 2557 มกราคม : 12)
ในอนุภูมิภาคอุษาคเนย์เกี่ยวกับวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ สุขภาพ การดูแลตนเอง การพึ่งตนเองของคนวัยชราที่มีสุขภาพแข็งแรง มีความเป็นอยู่ที่พึ่งพาธรรมชาติ มีความเชื่อด้านพุทธศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวด้านจิตใจได้มีการสืบทอดมาอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับ ตั้งแต่ก่อน 1,000 ปี ดังปรากฏในภาพจำหลักผนังปราสาทบายน เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ซึ่งสร้างเมื่อสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ดังภาพที่ 1.1 (ก) , 1.1 (ข) และ 1.1 (ค) ตามลำดับ

ก. คนวัยชราทำบุญที่วัด ข. การกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ ค. วิถีการดำรงชีวิต
ภาพที่ 1.1 (ก), (ข), (ค) แสดงภาพจำหลักวิถีชีวิตของคนวัยชรา และวิถีการดำรงชีวิตในสมัยก่อน
ปราสาทบายน เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
ที่มา :
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Health in old age people, ban kruat, buriram. Ms. Thityaodi Inotrangkun * Assoc. Prof. Dr. Atchara Phanurat **Abstract The study used qualitative research process. The purpose is to study the old age person in health promotion, ban kruat, buriram. Study area is home, Lahan Sai. Tambon ban kruat of buriram province, Amphoe ban LAT. A specific selection of samples is people age 60 years of age up to 5 people, 5 community leaders who lived in the home, Lahan Sai. Tambon ban kruat of buriram province, Amphoe ban LAT. Using a qualitative methodology of national guidelines want to. In-depth interview technique. Take notes, and analyze complex data, group chat content. The study found that health promotion people, old age is not appropriate with age. The risk of illness, the body, mind, health promotion, which easily fits with old age and the context must be a health-care activities that integrate with people's daily life at old age with fun awareness know make themselves. Have a family. The community provides support, such as watering plants. Combined hobbies, activities The tradition in the community raising his nephew etc which is an exercise in itself encourage people old age comes bundled out of the House to meet up with natural dialogue for religious and. Boon. The community's traditions. Activities/knowledge in health promotion Focusing on food consumption, annual health check encourages aggressive chiefs covers. The community has a role to encourage people. Old age was aware and self-potential for health promotion ourselves appropriately. Suggestion Health promotion activities of old age people should integrate into their daily lives. His work activity. Customs in the community by supporting communities and families should learn to find ways to promote health care in other groups, such as youth work, age, other groups vulnerable to, affected health care. Keywords: people, old age health------------------------------------------------------------------------------------------------------------* Doctor course student, graduate school of regional development strategy. ** Advisor and chief doctor of philosophy course. Strategic regional development disciplines Surin rajabhat UniversityHealth in old age people, ban kruat, buriram. Ms. Thityaodi Inotrangkun *Professional nursing skills. Buri RAM hospital.Introduction การเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนโดยรวม โดยเฉพาะบุคคลเมื่อเข้าสู่วัยชราทำให้เกิดความเสื่อมลงทางด้านร่างกาย จิตใจ นำมาซึ่งภาวะเสี่ยงและปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง อัมพฤกษ์/อัมพาต โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ไตวายเรื้อรัง (สำนักงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย. 2552 : 4) ผลตามมาจากการเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยคือ การเกิดภาวะทุพพลภาพของคนวัยชราที่ต้องการดูแล เช่นโรคหลอดเลือดสมอง ทางด้านจิตใจปัญหาที่พบบ่อยได้แก่ การปรับตัว ความเหงา ว้าเหว่ รู้สึกด้อยค่า ครอบครัวให้ความสำคัญน้อยลง คนวัยชราเป็นโสดหรืออยู่คนเดียวหรือถูกทอดทิ้งมากขึ้น การเคารพนับถือผู้สูงวัยลดน้อยลงทำให้เกิดช่องว่างระหว่างวัยคือผู้สูงวัยกับบุตรหลาน การเป็นสังคมคนวัยชราที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ต้องพัฒนาความเข้มแข็งของคนวัยชราในการสร้างเสริมสุขภาพตนเอง ยังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย การกินอยู่ประจำวัน ค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วย ทำให้คนวัยชรามีความต้องการช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจการเงิน การรักษาพยาบาลหรือการดูแลทางด้านสุขภาพ และยังต้องการให้ชุมชนช่วยจัดกิจกรรมการรวมกลุ่มของคนวัยชราเพื่อพบปะสังสรรค์หรือนันทนาการ (มนู วาทิสุนทร. 2545 : 27) กล่าวได้ว่าการดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของคนไทยในอดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่แก้ปัญหาการเจ็บป่วยโดยการนำความเชื่อเดิมในอดีตที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษมาใช้เป็นการดูแลรักษา ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ฟื้นฟูสภาพจากการเจ็บป่วย โดยการใช้สมุนไพรที่หาได้จากป่า หมอชาวพื้นบ้านในการรักษาพยาบาลดังที่ อัจฉรา ภาณุรัตน์ (2557) ได้เขียนหนังสือทฤษฎีความรู้โลกาภิวัตน์และภูมิปัญญาท้องถิ่น การดูแลสร้างเสริมด้านสุขภาพอนามัยของชนเผ่าในอดีต ส่วนใหญ่เป็นไปตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา เน้นเรื่อง บุญกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพตั้งแต่เกิดจนตาย ดังตัวอย่างของคำสอนที่กล่าวถึงกรรมของมนุษย์กล่าวว่า “ไม่ใช่เราแต่ผู้เดียวเท่านั้นที่มีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใดดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เราจักเป็นผู้รับ ผลของกรรมนั้น สัตว์ทั้งปวงบรรดาที่มี การมา การไป การจุติ การอุบัติ ล้วนมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใดดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น” นั่นหมายถึงการที่คนในชนเผ่าชาติพันธุ์ต่างๆ จะมีสุขภาพดีย่อมเกิดจากการกระทำในการดูแลสุขภาพอย่างดี อย่างระมัดระวังด้วยตนเอง ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ยังต้องมีเผ่าพันธุ์ที่ดี สมบูรณ์แข็งแรง อยู่อาศัยในพื้นที่สิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่งความเชื่อบนพื้นฐานพระพุทธศาสนาเหล่านี้ปรากฏเป็นข้อปฏิบัติอยู่ในชนเผ่าชาติพันธุ์ออสโตรเอเชียติก (อัจฉรา ภาณุรัตน์. 2557 มกราคม : 12)The Commander of the Southeast region about healthy living to take care of ourselves. The self-reliance of people in old age with a strong health. There is a dependence on nature. Faith in Buddhism is that binding the soul has inherited an ongoing series. Since before the year 1000 main image displayed on the walls, Bayon Siem Reap. Cambodia, which is created when the God image: 7 victory wonman 1.1 1.1 (a), (b) and (c) 1.1, respectively. The graduation ceremony at Wat age people. The right to dignity and things fashioned ข. C. way of life Figure 1.1 (a), (b), (c) displays the main image, the lifestyle of the people in old age, and the way of life in the past. Siem Reap-Angkor Bayon Cambodia Source:
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
การสร้างเสริมสุขภาพคนวัยชรา ในอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
นางสาวทิตยาวดี อินทรางกูร*
รศ.ดร.อัจฉรา ภาณุรัตน์**

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ใช้กระบวนการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการสร้างเสริมสุขภาพคนวัยชราในอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ศึกษาคือบ้านละหานทรายใหม่ ตำบลบ้านลาด อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มตัวอย่างเลือกแบบเจาะจง คือคนวัยชราอายุ 60 ปีขึ้นไป 5 คน ผู้นำชุมชน 5 คน ที่อาศัยในบ้านละหานทรายใหม่ ตำบลบ้านลาด อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ใช้ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพแนวชาติพันธุ์วรรณา ด้วยเทคนิคการสัมภาษณ์เชิงลึก จดบันทึก การสนทนากลุ่ม และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา
ผลการศึกษาพบว่า การสร้างเสริมสุขภาพคนวัยชราไม่เหมาะสมกับวัย เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้านร่างกาย จิตใจได้ง่าย ซึ่งการสร้างเสริมสุขภาพที่เหมาะสมกับคนวัยชราและบริบทต้องเป็นกิจกรรมการดูแลสุขภาพที่สอดแทรกกับการดำเนินชีวิตประจำวันของคนวัยชรา ที่ทำด้วยความสนุก ตระหนักรู้ ทำด้วยตนเอง มีครอบครัว ชุมชนให้การสนับสนุน เช่น รดน้ำต้นไม้ งานอดิเรก ร่วมกิจกรรม ประเพณีในชุมชน เลี้ยงหลาน เป็นต้น ซึ่งเป็นการออกกำลังกายไปในตัว กระตุ้นให้คนวัยชราออกจากบ้านมารวมกลุ่มกันตามธรรมชาติเพื่อพบปะพูดคุยกันในวันสำคัญทางศาสนา งานบุญ งานประเพณีของชุมชน จัดกิจกรรม/ความรู้ในการสร้างเสริมสุขภาพ เน้นการบริโภคอาหาร ให้การตรวจสุขภาพประจำปีเชิงรุก กระตุ้นให้ครอบรัว ชุมชนมีบทบาทสนับสนุนให้คน วัยชราเกิดความตระหนักและดึงศักยภาพตนเองมาใช้ในการสร้างเสริมสุขภาพตนเองให้เหมาะสม
ข้อเสนอแนะ กิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของคนวัยชราควรสอดแทรกเข้ากับวิถีชีวิตประจำวัน กิจกรรม งานบุญ ประเพณี ในชุมชนโดยครอบครัว ชุมชนให้การสนับสนุน และ ควรศึกษาหาแนวทางให้มีการส่งเสริมการดูแลสุขภาพในกลุ่มอื่น เช่น วัยทำงาน เยาวชน ซึงเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ
คำสำคัญ : คนวัยชรา การสร้างเสริมสุขภาพ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
* นักศึกษาหลักสูตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค
** อาจารย์ที่ปรึกษา และประธานหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์
การสร้างเสริมสุขภาพคนวัยชรา ในอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
นางสาวทิตยาวดี อินทรางกูร*
พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลบุรีรัมย์

บทนำ
การเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนโดยรวม โดยเฉพาะบุคคลเมื่อเข้าสู่วัยชราทำให้เกิดความเสื่อมลงทางด้านร่างกาย จิตใจ นำมาซึ่งภาวะเสี่ยงและปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง อัมพฤกษ์/อัมพาต โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ไตวายเรื้อรัง (สำนักงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย. 2552 : 4) ผลตามมาจากการเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยคือ การเกิดภาวะทุพพลภาพของคนวัยชราที่ต้องการดูแล เช่นโรคหลอดเลือดสมอง ทางด้านจิตใจปัญหาที่พบบ่อยได้แก่ การปรับตัว ความเหงา ว้าเหว่ รู้สึกด้อยค่า ครอบครัวให้ความสำคัญน้อยลง คนวัยชราเป็นโสดหรืออยู่คนเดียวหรือถูกทอดทิ้งมากขึ้น การเคารพนับถือผู้สูงวัยลดน้อยลงทำให้เกิดช่องว่างระหว่างวัยคือผู้สูงวัยกับบุตรหลาน การเป็นสังคมคนวัยชราที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ต้องพัฒนาความเข้มแข็งของคนวัยชราในการสร้างเสริมสุขภาพตนเอง ยังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย การกินอยู่ประจำวัน ค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วย ทำให้คนวัยชรามีความต้องการช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจการเงิน การรักษาพยาบาลหรือการดูแลทางด้านสุขภาพ และยังต้องการให้ชุมชนช่วยจัดกิจกรรมการรวมกลุ่มของคนวัยชราเพื่อพบปะสังสรรค์หรือนันทนาการ (มนู วาทิสุนทร. 2545 : 27)
กล่าวได้ว่าการดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของคนไทยในอดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่แก้ปัญหาการเจ็บป่วยโดยการนำความเชื่อเดิมในอดีตที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษมาใช้เป็นการดูแลรักษา ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ฟื้นฟูสภาพจากการเจ็บป่วย โดยการใช้สมุนไพรที่หาได้จากป่า หมอชาวพื้นบ้านในการรักษาพยาบาลดังที่ อัจฉรา ภาณุรัตน์ (2557) ได้เขียนหนังสือทฤษฎีความรู้โลกาภิวัตน์และภูมิปัญญาท้องถิ่น การดูแลสร้างเสริมด้านสุขภาพอนามัยของชนเผ่าในอดีต ส่วนใหญ่เป็นไปตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา เน้นเรื่อง บุญกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพตั้งแต่เกิดจนตาย ดังตัวอย่างของคำสอนที่กล่าวถึงกรรมของมนุษย์กล่าวว่า “ไม่ใช่เราแต่ผู้เดียวเท่านั้นที่มีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใดดีก็ตาม ชั่วก็ตาม เราจักเป็นผู้รับ ผลของกรรมนั้น สัตว์ทั้งปวงบรรดาที่มี การมา การไป การจุติ การอุบัติ ล้วนมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใดดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น” นั่นหมายถึงการที่คนในชนเผ่าชาติพันธุ์ต่างๆ จะมีสุขภาพดีย่อมเกิดจากการกระทำในการดูแลสุขภาพอย่างดี อย่างระมัดระวังด้วยตนเอง ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ยังต้องมีเผ่าพันธุ์ที่ดี สมบูรณ์แข็งแรง อยู่อาศัยในพื้นที่สิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่งความเชื่อบนพื้นฐานพระพุทธศาสนาเหล่านี้ปรากฏเป็นข้อปฏิบัติอยู่ในชนเผ่าชาติพันธุ์ออสโตรเอเชียติก (อัจฉรา ภาณุรัตน์. 2557 มกราคม : 12)
ในอนุภูมิภาคอุษาคเนย์เกี่ยวกับวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ สุขภาพ การดูแลตนเอง การพึ่งตนเองของคนวัยชราที่มีสุขภาพแข็งแรง มีความเป็นอยู่ที่พึ่งพาธรรมชาติ มีความเชื่อด้านพุทธศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวด้านจิตใจได้มีการสืบทอดมาอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับ ตั้งแต่ก่อน 1,000 ปี ดังปรากฏในภาพจำหลักผนังปราสาทบายน เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ซึ่งสร้างเมื่อสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ดังภาพที่ 1.1 (ก) , 1.1 (ข) และ 1.1 (ค) ตามลำดับ

ก. คนวัยชราทำบุญที่วัด ข. การกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ ค. วิถีการดำรงชีวิต
ภาพที่ 1.1 (ก), (ข), (ค) แสดงภาพจำหลักวิถีชีวิตของคนวัยชรา และวิถีการดำรงชีวิตในสมัยก่อน
ปราสาทบายน เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
ที่มา :
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Promoting health in old age, ban kruat District province
miss, long, intra งกูร *
Dr. achara light d * *



. AbstractsThis study used qualitative research process. Objective to study the health promotion of old age in buriram province. The study area ban kruat district is home to Lahan Sai new parish house market. Ban kruat district.The purposive is old age age 60 years 5 people, community leaders 5 people, who lived in homes Lahan Sai New District home market, ban kruat district. Ram Using the method of qualitative the ethnography ethnography.Take notes, focus group discussion and analysis of the data content
.The study found that Promoting health old people not suitable for children Susceptible to illness in body, mind easily.Of fun, aware of self, family, community support, such as crustal these plants, hobbies, activities, traditions in the community. Baby, etc., as an exercise to the body.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: