1.ศึกษาวิธีการออกกำลังกายที่มีประสิ

1.ศึกษาวิธีการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพรูปแบบที่หลากหลาย 2.ศึกษาทัศนคติของนักเรียนต่อการออกกำลังกาย ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ต่อผู้ที่สนในเรื่องการออกกำลังกาย โดยใช้ประชากรและกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนสมุทรปราการ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1.แผ่นป้ายความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการออกกำลังกาย ประโยชน์ของการออกกำลังกาย 2.แบบสอบถามเรื่องการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x ̅) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (s.d.)
ผลการศึกษาพบว่าโดยภาพรวมของการศึกษาเรื่อง “การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ” อยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅=4.7 , S.D.=0.44)เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าอันดับสูงสุดคือได้เรียนรู้เทคนิคการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆที่หลากหลายขึ้นและได้เรียนรู้ประโยชน์ของการออกกำลังกาย (x ̅=4.8 , S.D.=0.4) อันดับรองลงมาคือนักเรียนเข้าใจเนื้อหาเกี่ยวกับการออกและนักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ (x ̅=4.7 , S.D.=0.46) และอันดับท้ายสุดคือสื่อในการนำเสนอมีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย(x ̅=4.5 , S.D.=0.5)

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

1. Study how to exercise effective 2 formats.Study of students' attitude towards exercise to benefit the society. To those who were interested in exercise. The population was taught 2 semester academic year, 1 2557The instruments used in the study were 1.The plate knowledge about the exercise. The benefits of exercise. 2. The questionnaire about health education And the statistical analysis of percentage, mean (x ̅) and standard deviation (S.D.)
.The results showed that the overall education. "Exercise for health." at the highest level (x, ̅ = 4.7 S.D. = 0.44) when considering each aspect, it was found that the top is to learn the exercise in various forms, diverse and learned the benefits of exercise (x, ̅ = 4.8 S.D. = 0.4) the second was students understand the content of the issue and students can bring knowledge to use (x, ̅ = 4.7 S.D. = 0.46). Rank and lastly media presentation are interesting easy to understand (x, ̅ = 4.5 S.D. = 0.5)
.