Toyota has been modified from the original large produced imitators of foreign cars as the research and development of the car yourself with trying to resolve the issue, contact Dr. Etwad quality with Demming, a u.s. specialist to help suggest quality control matters by eliminating a bug that was causing the quality control system effectively succeed. Just the first year of operation, it appears that the bug of cars up to 50% reduction. In the original, there are two forms of industrial production. The first format is the format to produce small production of most other forms of manufacturing SMEs is one of the large-capacity or with words that Mass Production. But Toyota's experts have invented a new form of production, which has a manufacturing philosophy that tries to take advantage of time, human resources and productivity, benefit most. At the same time, they are trying to improve the capacity to provide the highest quality products. It is possible to reduce the product's bug can use only half of the plant used, and reduce engineering time into a rumor just a half page. We call this model "production" because it started in a Toyota, Toyota for the first time, but the current production model, this is called "Lean manufacturing" has a good point is that the lower production costs. Labor is less than the quality of the car and lower the bug as a result, Toyota stepped up to the position of world leader in the field of equipment and transactions. The former, however, Toyota has the image as a manufacturer of cheap cars with reliable quality. But there are no cars on the luxury level. The prestige European cars, such as Mercedes, as Deputy-Baynes, BMW, Rose lotroi, or Jaguar Even if the comparative analysis abilities the transaction, and. Toyota does not have a second child, who may be beyond these. In the year 2526 Toyota has decided will produce luxury cars, excellent in the world. Define the vision, that must be a great car in all aspects, whether the speed. Security Cabin comfort. An elegant appearance as well as to sales, customer service, later a very risky decision because the luxury cars will be required to pass holders Germany or British nationality only. บริษัทโตโยต้าได้ปรับปรุงในด้านยนตรกรรมอย่างไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าการลดช่องว่างระหว่างตัวถังจากเดิม 7 มม. ลดลงเหลือเพียง 4 มม. เพื่อให้รถยนต์มีเสียงเงียบลงขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ชิ้นส่วนเครื่องยนต์จะต้องมีความเที่ยงตรงแม่นยำถึงขั้นวัดเป็นไมครอน เพื่อให้มั่นใจถึงสมรรถนะและความเงียบ ผลที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ เมื่อรถยนต์เล็กซัสของโตโยต้าเริ่มผลิตและวางจำหน่ายในปี 2532 วารสารรถยนต์ทุกฉบับได้กล่าวยกย่องชมเชยว่าแล่นได้รวดเร็วกว่าและนุ่มนวลกว่ารถยนต์คู่แข่ง โดยเฉพาะเสียงเครื่องยนต์ที่เงียบมากจนแทบจะรู้ว่ากำลังติดเครื่องหรือไม่ กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของรถยนต์หรูหราราคาแพง โดยได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐฯ เนื่องจากคนสหรัฐฯ จะซื้อรถยนต์เพื่อใช้งาน ไม่ได้ซื้อมาเพื่ออวดความมั่งมี ดังนั้น หากรถยนต์ใดก็ตามที่มีสมรรถนะเป็นเยี่ยมและมีความสบายในห้องโดยสารเหนือกว่าแล้ว รถยนต์แบบนั้นๆ จะขายดีมากในสหรัฐฯ จากผลสำเร็จอันท่วมท้น ทำให้บริษัทโตโยต้าก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากบริษัท GM และบริษัทฟอร์ดเท่านั้น และต่อมาในปี 2546 บริษัทโตโยต้าได้แซงหน้าฟอร์ดกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก กล่าวคือ โตโยต้า (รวมถึงบริษัทในเครือ คือ ฮีโน่และไดฮัทสุ) มียอดผลิตรถยนต์ในปี 2546 จำนวน 6.78 ล้านคัน เฉือนเอาชนะฟอร์ดที่มียอดผลิต 6.72 ล้านคัน แต่ยังตามหลัง GM ค่อนข้างห่าง โดยในปี 2546 บริษัท GM ผลิตรถยนต์ 8.8 ล้านคัน ต่อมาในปี 2547 โตโยต้าเริ่มทิ้งห่างบริษัทฟอร์ด โดยโตโยต้ามียอดผลิตรถยนต์ 7.52 ล้านคัน ขณะที่ฟอร์ดผลิตรถยนต์ 6.8 ล้านคันเท่านั้น ส่วน GM ยังคงครองความยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 1 โดยผลิตรถยนต์ 9.1 ล้านคัน แต่ปัจจุบันความยิ่งใหญ่ของโตโยต้าอยู่ในสภาพไปไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ขณะที่บริษัทคู่แข่งสำคัญ คือ บริษัทจีเอ็มและบริษัทฟอร์ดกำลังเผชิญวิกฤติการณ์ทางการเงินเข้าขั้นโคม่า โดยเฉพาะบริษัท GM ขาดทุนมากถึง 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 160,000 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 แต่บริษัทโตโยต้ากลับมีกำไรมากเป็นประวัติการณ์ สำหรับบริษัท GM ครองตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์อันดับ1 ของโลกติดต่อกันมานานถึง 73 ปี เริ่มมีคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าจะยังคงเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกนานแค่ไหน เนื่องจากถูกท้าทายจากบริษัทโตโยต้าอย่างไม่เคยมีก่อน โดยในปี 2548 คาดว่า GM ผลิตรถยนต์ 9 ล้านคัน ขณะที่โตโยต้าเริ่มไล่ตามมาติดๆ คือ 8.1 ล้านคัน ยิ่งไปกว่านั้น ยอดการจำหน่ายรถยนต์โตโยต้ามีแนวโน้มสูงขึ้นอีกในปี 2549 เนื่องจากเป็นรถยนต์ประหยัดน้ำมัน ทำให้ขายดีในยุคน้ำมันแพง ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงคาดว่าโตโยต้ามีโอกาสสูงที่จะแซงหน้า GM ขึ้นเป็นบริษัทรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลกในช่วง 2 – 3 ปีข้างหน้า สุดท้ายนี้ แม้โตโยต้ากำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง แต่ผู้บริหารของโตโยต้าเองกลับไม่ค่อยสบายใจนัก โดยเมื่อกลางปี 2548 นาย Hiroshi Okuda ผู้บริหารของโตโยต้าได้มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวว่าหากบริษัท GM และฟอร์ดเผชิญวิกฤติถึงขั้นล้มละลายแล้ว จะส่งผลกระทบต่อบริษัทโตโยต้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาให้เหตุผลว่าทั้ง 2 บริษัท เปรียบเสมือนกับเป็นสัญลักษณ์ของภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ดังนั้น หากล้มลงแล้ว จะปลุกกระแสชาตินิยมในหมู่ประชาชนสหรัฐฯ ซึ่งจะกระตุ้นให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้ามาช่วยเหลือโดยใช้มาตรการกีดกันทางการค้าต่อรถยนต์ญี่ปุ่น
เพื่อแก้ไขสถานการณ์ บริษัทโตโยต้าพยายามออมไม้ออมมือ ไม่มุ่งโค่นล้มบริษัท GM และบริษัทฟอร์ดให้เข้าตาจน โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทโตโยต้าได้ให้ความช่วยเหลือแก่ทั้ง 2 บริษัทโดยทางอ้อม โดยได้ประกาศขึ้นราคารถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ หลายครั้ง เพื่อให้รถยนต์โตโยต้ามีราคาแพงยิ่งขึ้น ส่งผลให้ 2 บริษัทสามารถแย่งลูกค้ากลับคืนมาบางส่วน
การแปล กรุณารอสักครู่..
