การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนา

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งทางราง โดยเน้นที่การพัฒนารถไฟทางคู่รวม
8 เส้นทาง แบ่งเป็นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานรถไฟเป็นรถไฟทางคู่โดยใช้รางขนาด 1 เมตร ในเส้นทางรถไฟเดิมในช่วงที่มีปัญหาการคับคั่งของการเดินรถไฟ เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าและการขนส่งผู้โดยสารได้รวดเร็วขึ้น โดยได้เห็นชอบให้มีการเร่งดำเนินการโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางระยะทางรวม 887 กิโลเมตร วงเงิน 127,472 ล้านบาท ได้แก่
เส้นทางที่ 1 ชุมทางจิระ - ขอนแก่น
เส้นทางที่ 2 ประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร
เส้นทางที่ 3 นครปฐม - หัวหิน
เส้นทางที่ 4 มาบกะเบา - นครราชสีมา
เส้นทางที่ 5 ลพบุรี - ปากน้ำโพ วงเงิน
เส้นทางที่ 6 หัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์
โดยจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 และจะสามารถแก้ปัญหาการเดินรถไฟที่คับคั่งในปัจจุบันเนื่องจากจะสามารถเพิ่มจำนวนการเดินรถได้จาก 268 เที่ยวต่อวัน เป็น 800 เที่ยวต่อวัน
ส่วนอีก 2 เส้นทาง คือ โครงการวางมาตรฐานการเดินรถทางรางใหม่สำหรับอนาคต โดยสร้างรถไฟทางคู่ขนาด 1.435 เมตร 2 เส้นทาง ได้แก่
เส้นทางที่ 7 คือ หนองคาย - นครราชสีมา - ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 737 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 8 คือ เชียงของ - เด่นชัย - บ้านภาชี ระยะทาง 655 กิโลเมตร
ประโยชน์ที่จะได้รับ
- โครงข่ายรถไฟครอบคลุมขึ้นอีก 6 จังหวัด ทางคู่เพิ่มขึ้นอีก 1,300 กิโลเมตร
- เพิ่มความเร็วในการเดินรถ (รถสินค้าจาก 29 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็น 600 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ
รถด่วนพิเศษจาก 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็น 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง)
- เพิ่มน้ำหนักลงเพลาทำให้สามารถเพิ่มการขนส่งได้ร้อยละ 25 ต่อขบวน
- สัดส่วนการขนส่งทางรถไฟในประเทศจะเพิ่มขึ้นจากเดิม ร้อยละ 1.5 เป็นร้อยละ 5 ในปี 2553
- ประชาชนเข้าถึงรถไฟได้ง่ายขึ้น การเดินทางและขนส่งด้วยรถไฟตรงเวลาและปลอดภัยมากขึ้น
- โครงข่ายของไทยสามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและจีนตอนใต้ได้มากยิ่งขึ้น
ข้อดี-ข้อเสีย ของของการพัฒนาระบบรถไฟรางคู่
ข้อดี
1.การพัฒนาระบบรางคู่จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งผลในการเพิ่มความสามารถในการรองรับปริมาณการขนส่งสินค้า ผู้โดยสารได้มากขึ้น การขนส่งทางรถไฟใช้พลังงานประหยัดกว่าการขนส่งทางรถยนต์ ทำให้ลดต้นทุนการขนส่ง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการค้า
2.การดำเนินการพัฒนารางคู่จะส่งเสริมภาพรวมของลอจิสติกส์ โดยจะใช้เวลาการขนส่งทางรางลดลง และมีความเร็วของรถไฟคงที่ไม่ต้องชะลอบริเวณจุดตัดของทางรถไฟกับทางรถยนต์ (เนื่องจากจะทำทางข้าม/ทางลอด)
3.ช่วยส่งเสริมความน่าเชื่อถือในการให้บริการของการรถไฟแห่งประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยจะทำให้การขนส่งรวดเร็ว และตรงเวลา
ข้อเสีย
1.ส่งสินค้าได้จำกัดเพียงสถานที่ที่มีสถานีรถไฟถึงเท่านั้น
2.การขนถ่ายสินค้าไม่สะดวกเพราะหากต้องการกระจายสินค้าไปยังสถานที่ที่ไม่มีสถานีรถไฟต้องทำการเปลี่ยนการเดินทาง
3.ปัญหาคอรัปชั่นในการดำเนินโครงการ
4.ความล่าช้าในการจัดสร้างทำให้เกิดความสูญเสียต่อระบบเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Infrastructure development, transportation trough with an emphasis on the development of railways to double total. 8 path divided into improving railway infrastructure and train as a pair by using 1 m size table in the old railway routes, there are traffic problems at the time of the train for use in cargo and passenger transport, faster. With the approval, the project is to accelerate the train to double total distance 6 km route 887 million 127472 limits are as follows: The path that Djibouti is Junction 1-Khon Kaen. Prachuap khiri Khan-Chumphon route 2 Route 3 Nakhon Pathom-Hua Hin Route 4 map light shift-Nakhon Ratchasima เส้นทางที่ 5 ลพบุรี - ปากน้ำโพ วงเงิน เส้นทางที่ 6 หัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ โดยจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 และจะสามารถแก้ปัญหาการเดินรถไฟที่คับคั่งในปัจจุบันเนื่องจากจะสามารถเพิ่มจำนวนการเดินรถได้จาก 268 เที่ยวต่อวัน เป็น 800 เที่ยวต่อวัน ส่วนอีก 2 เส้นทาง คือ โครงการวางมาตรฐานการเดินรถทางรางใหม่สำหรับอนาคต โดยสร้างรถไฟทางคู่ขนาด 1.435 เมตร 2 เส้นทาง ได้แก่เส้นทางที่ 7 คือ หนองคาย - นครราชสีมา - ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 737 กิโลเมตร เส้นทางที่ 8 คือ เชียงของ - เด่นชัย - บ้านภาชี ระยะทาง 655 กิโลเมตร ประโยชน์ที่จะได้รับ- โครงข่ายรถไฟครอบคลุมขึ้นอีก 6 จังหวัด ทางคู่เพิ่มขึ้นอีก 1,300 กิโลเมตร- เพิ่มความเร็วในการเดินรถ (รถสินค้าจาก 29 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็น 600 กิโลเมตร/ชั่วโมง และรถด่วนพิเศษจาก 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็น 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง)- เพิ่มน้ำหนักลงเพลาทำให้สามารถเพิ่มการขนส่งได้ร้อยละ 25 ต่อขบวน- สัดส่วนการขนส่งทางรถไฟในประเทศจะเพิ่มขึ้นจากเดิม ร้อยละ 1.5 เป็นร้อยละ 5 ในปี 2553- ประชาชนเข้าถึงรถไฟได้ง่ายขึ้น การเดินทางและขนส่งด้วยรถไฟตรงเวลาและปลอดภัยมากขึ้น- โครงข่ายของไทยสามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและจีนตอนใต้ได้มากยิ่งขึ้นข้อดี-ข้อเสีย ของของการพัฒนาระบบรถไฟรางคู่ข้อดี1.การพัฒนาระบบรางคู่จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งผลในการเพิ่มความสามารถในการรองรับปริมาณการขนส่งสินค้า ผู้โดยสารได้มากขึ้น การขนส่งทางรถไฟใช้พลังงานประหยัดกว่าการขนส่งทางรถยนต์ ทำให้ลดต้นทุนการขนส่ง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการค้า2.การดำเนินการพัฒนารางคู่จะส่งเสริมภาพรวมของลอจิสติกส์ โดยจะใช้เวลาการขนส่งทางรางลดลง และมีความเร็วของรถไฟคงที่ไม่ต้องชะลอบริเวณจุดตัดของทางรถไฟกับทางรถยนต์ (เนื่องจากจะทำทางข้าม/ทางลอด)3.ช่วยส่งเสริมความน่าเชื่อถือในการให้บริการของการรถไฟแห่งประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยจะทำให้การขนส่งรวดเร็ว และตรงเวลาข้อเสีย1.ส่งสินค้าได้จำกัดเพียงสถานที่ที่มีสถานีรถไฟถึงเท่านั้น2.การขนถ่ายสินค้าไม่สะดวกเพราะหากต้องการกระจายสินค้าไปยังสถานที่ที่ไม่มีสถานีรถไฟต้องทำการเปลี่ยนการเดินทาง3.ปัญหาคอรัปชั่นในการดำเนินโครงการ4.ความล่าช้าในการจัดสร้างทำให้เกิดความสูญเสียต่อระบบเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The development of transportation infrastructure in grid. Emphasis on the development of the double-track railway combined
.8 path divided into infrastructure improvements train is a double-track railway using the table size 1 meters. In the original train routes in the problems of congestion of a train. For use on freight and passenger transport faster.6 route distances include 887 km limit, 127472 million, including
Route 1 junction JIRA - Khon Kaen
Route 2 Khan - Chumphon
path 3 Nakhon Pathom - Hua Hin.
4 path on the light shift - Nakhon Ratchasima
route 5 lop Buri - 2003 limit
.The route 6 hin - Khan
to be completed within the year by 2563 and can solve the problem of walking trains at present because it can increase the busiest bus from 268 per day. A 800 trips per day
.The other 2 route is to standardize the rail project car trips for the future by creating new double-track railway size 1.435 meters 2 routes, including route 7
. Nong Khai - Nakhon Ratchasima - Laem Chabang Port distances 737 km
.