A. Jane seas – "okfaem" Report about whether the rich world's Millionaire University 62, the first property is equal to half the population of the world's total. With the call for urgent measures to deal with the likely population, only 1% of the world population, the world's other property, more than 99% of the total. In the published report came out Monday, one day before (15) or turn the world meeting. Ilocos Hotel MIMOZA. Forum (w, e, f) at Washington's town of Switzerland. Charitable Foundation, the hotel once indicates that inequality rises, there are people in the world to run wild just 62 people who occupy the wealth equals half the world's population-total assets (in that it is the poor) is a number that changes very much. Compared to the five years before it must be used with a maximum of 388 people, rich people will have assets equal to half of the world's population. The report, titled "the Fortune with an Ilocos 1% also indicate that women are affected by inequality of this world are not appropriate as low income workers, mainly women workers worldwide are. In addition, the world's richest people, with assets of more than 62 half the world population is still poor. The hotel once that is up to 53 people are women, only 9 people emphasize that women are not appropriate, even at the highest level. All the wealth of the Cathedral, the hotel once calculated would be a person from the list would be 62 billion magazine Forbes. To reiterate that even though the leader of the hotel once the world speak together with the need to deal with inequality. But the gap between the rich and the secret world population get wider in the past 12 months, the forecast added that once their ok prior to the annual meeting at Washington's 2015 that the richest 1% of the world population, world population is more than the rest of the property, it becomes the truth, and in the past year, which is faster than the projected one-year assignments. แม้จำนวนผู้ที่ยากจนที่สุดลดลงครึ่งหนึ่งระหว่างปี 1990-2010 แต่รายได้เฉลี่ยประจำปีของประชากรโลก 10% ที่เป็นคนจนที่สุดเพิ่มขึ้นไม่ถึงปีละ 3 ดอลลาร์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของศตวรรษ หรือเท่ากับว่ารายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นไม่ถึงปีละ 1 เซนต์ นอกจากนั้น ขณะที่ทรัพย์สินของคนจนที่สุดลดลงถึง 41% ระหว่างปี 2010-2015 แต่ทรัพย์สินของคนรวยที่สุด 62 คนกลับเพิ่มขึ้น 500,000 ล้านดอลลาร์ เป็น 1.76 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน อนึ่ง ในงานประชุม เวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัม ที่ดาวอส ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันเสาร์ (23) จะมีประมุขและรัฐบาลกว่า 40 ประเทศ ตลอดจนถึงผู้นำธุรกิจและสังคมราว 2,500 คนเข้าร่วม วินนี ไบอันนิมา ผู้อำนวยการบริหารระหว่างประเทศของออกซ์แฟม ที่จะร่วมประชุมดาวอสด้วยนั้น เตือนว่า ความกังวลของผู้นำโลกเกี่ยวกับวิกฤตความเหลื่อมล้ำที่ลุกลาม ไม่ได้กลายเป็นมาตรการที่เป็นรูปธรรมใดๆ ส่งผลให้โลกมีความเหลื่อมล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ งานประชุมดาวอสมีขึ้นท่ามกลางความกังวลว่า ความปั่นป่วนในตลาดเงินที่ประเดิมกันตั้งแต่ต้นปีอาจเป็นบทโหมโรงวิกฤตโลกรอบใหม่ และครั้งนี้จุดเริ่มต้นจะมาจากประเทศตลาดเกิดใหม่ ออกซ์แฟมแนะนำแนวทาง 3 ขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ ได้แก่ การปราบปรามการเลี่ยงภาษี การลงทุนเพิ่มในบริการสาธารณะ กับการขึ้นค่าแรงสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ โดยเป้าหมายสำคัญอันดับแรกคือการปิดฉากยุคของแหล่งหลบภาษีที่ศูนย์การเงินออฟชอร์ใช้มากขึ้นเพื่อเลี่ยงภาษี รวมถึงปล้นทรัพยากรอันมีค่าของภาครัฐที่จำเป็นในการต่อสู้กับความยากจนและความเหลื่อมล้ำ รายงานระบุว่า เศรษฐีทั่วโลกเปิดบัญชีต่างแดนรวมมูลค่า 7.6 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้รัฐขาดรายได้จากการจัดเก็บภาษีถึงปีละ 190,000 ล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกัน มีการประเมินว่า 30% ของสินทรัพย์ทางการเงินทั้งหมดของชาวแอฟริกันฝากอยู่นอกประเทศ ทำให้ทางการขาดรายได้จากภาษีถึงปีละ 14,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากพอช่วยชีวิตเด็ก 4 ล้านคน และว่าจ้างครูเพื่อให้เด็กแอฟริกันทุกคนได้เล่าเรียน การเก็บภาษีได้ในระดับที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ หากผู้นำโลกต้องการบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ในการขจัดความยากจนรุนแรงให้ได้ภายในปี 2030ไบอันนิมา ท้าทายผู้เข้าร่วมประชุมดาวอสให้ร่วมมือเพื่อยุติยุคของแหล่งหลบภาษี ซึ่งกระตุ้นความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และขัดขวางไม่ให้คนนับล้านดึงตัวเองหลุดพ้นจากความยากจน
การแปล กรุณารอสักครู่..