ตอนฉันอายุ 3 ขวบ ฉันได้เข้าโรงเรียนเป็นครั้งแรก ฉันเข้าเรียนที่โรงเรีย การแปล - ตอนฉันอายุ 3 ขวบ ฉันได้เข้าโรงเรียนเป็นครั้งแรก ฉันเข้าเรียนที่โรงเรีย อังกฤษ วิธีการพูด

ตอนฉันอายุ 3 ขวบ ฉันได้เข้าโรงเรียน

ตอนฉันอายุ 3 ขวบ ฉันได้เข้าโรงเรียนเป็นครั้งแรก ฉันเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมอนุบาลหรือศูนย์เด็กเล็ก ฉันเจอเพื่อนวัยเดียวกันมากมาย ชีวิตที่เคยอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ต้องกลายมาเป็นภาระหนักของคุณครู ฉันพอจำได้ว่าตอนนั้นฉันร้องไห้วิ่งจะกลับบ้าน แต่ออกไม่ได้เพราะประตูหน้าโรงเรียนปิด นั่งรอพ่อมารับกลับบ้านอย่างน่าสงสาร ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา 12.00น. ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียน แต่วันช่วงพักกลางวันรับประทานอาหาร ช่วงบ่ายโมงคุณครูก็จะให้นอนกลางวันเด็กต้องนอนทุกคน พอเลิกเรียนพ่อก็จะมารับกลับบ้านก่อนกลับถึงบ้านต้องแวะร้านค้าเพื่อที่จะซื้อขนมกลับไปกินบ้านทุกวัน นี่เป็นช่วงชีวิตที่ยังเป็นเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่ง พออายุ 4 ขวบ ฉันได้เข้าเรียนที่โรงเรียนประถมเป็นครั้งแรกเรียนชั้นอนุบาล1 ตอนฉันเรียนอนุบาลฉันเป็นเด็กที่ซนและดื้อมาก มีเพื่อนเยอะตั้งแต่เด็กเลย การใช้ชีวิตเป็นเด็กช่างมีความสุขเหลือเกินเพราะได้นอนกลางวันพอตื่นก็ได้ดื่มนม มีอยู่ครั้งหนึ่งฉันนอนกลางวันอยู่ดีๆดันฉี่ราดเพื่อนที่นอนข้างๆด้วยกัน พอฉันตื่นก็ได้แต่ร้องไห้เพราะเพื่อนล้อทำให้ฉันขาดเรียนเป็นเวลา3วัน ช่วงเวลาที่ฉันเรียนอนุบาลทั้งหมด 3 ปี หลังจากนั้นคุณครูก็ให้เลื่อนชั้นขึ้น ป.1 ฉันดีใจรีบเก็บกระเป๋าหนังสือวิ่งแซงหน้าเพื่อนไปถึงห้องก่อนใคร ตอนที่ฉันเรียนอยู่ประถมฉันได้เข้าร่วมกิจกรรมมากมาย ตอนเรียน ป.2 ได้ไปแข่งกรีฑาที่อำเภอแต่จำไม่ได้ว่าอยู่ไม้ไหน แต่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่2 ตอนเรียนอยู่ชั้น ป.4 ได้ไปแข่งขันทักษะคณิตศาสตร์ ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าได้รางวัลอะไรไหม แต่ฉันเป็นคนที่เรียนคณิตศาสตร์ไม่เก่ง ทำให้ตอนแข่งนั้นกดดันมาก แต่โชคดีที่มีเพื่อนเก่งคณิตศาสตร์เข้าแข่งขันด้วย ช่วงที่เรียน ป.5 ได้เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลเคยแข่งชนะมา 4 ครั้ง พอถึงช่วงเวลาเรียน ป.6 เป็นช่วงที่ต้องตั้งเรียนเป็นพิเศษ เพราะต้องสอบเข้าโรงเรียนมัธยม ตอนนั้นพ่อส่งฉันไปเรียนพิเศษกับคุณครูที่อาสามาสอนในหมู่บ้าน หลังจากนั้นพ่อก็พาฉันไปทำเรื่องสมัครสอบเข้าโรงเรียนมัธยม ผลออกมาปรากฏว่าสอบได้จึงทำเรื่องมอบตัวกับทางโรงเรียน พอถึงเปิดเทอมวันแรกรู้สึกตื่นเต้นมากได้ใส่ชุดนักเรียนใหม่ รองเท้าใหม่ กระเป๋าใหม่ เจอเพื่อนใหม่ ฉันเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1/6 มีนักเรียนทั้งหมด 38 คน หลังจากนั้นก็ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนในห้อง เพื่อนต่างก็มีนิสัยที่ต่างกัน ชีวิตมัธยมกับประถมมันช่างต่างมันเหลือเกิน มัธยมต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น มีกิจกรรมให้ทำมากมาย พอขึ้นมัธยมปลายฉันก็เข้าเรียนต่อที่เรียนเดิม แต่ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ที่เยอะกว่าเดิม ตอนแรกเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 พอเรียนได้เทอมหนึ่ง ก็เลือกสายที่ตัวเองชอบและถนัดที่สุด มีสายวิทย์-คณิตและสายศิลป์-ภาษา ฉันก็ได้เลือกสายศิลป์-ภาษา เพราะฉันไม่ชอบเรียนคณิตศาสตร์มันทำให้ฉันปวดหัวเหลือเกิน การเรียนมัธยมปลายถือว่ายากขึ้นมาในอีกระดับหนึ่ง แต่ความรู้กว้างไกล ฉันชอบเวลาที่อาจารย์สั่งงานแล้วให้ไปคนคว้าเอง เพราะมันจะทำให้ฉันสามารถช่วยตัวเองได้ พอมาถึงจุดๆหนึ่งซึ่งเป็นการเรียนปีสุดท้ายของมัธยม ในช่วงนี้เป็นช่วงที่วุ่นวายเหลือเกิน ใกล้จะสอบทั้งโอเน็ท เอเน็ท Get-Pat แถมยังมีสอบโควต้ามหาลัยอีก ฉันได้โควตารับตรงของมหาลัยราชภัฎมหาสารคาม เป็นอันติดแล้วทางมหาลัยได้ส่งหนังสือมาทางโรงเรียนให้ไปสอบสัมภาษณ์และสอบปฎิบัติ คณะที่ฉันเลือก 1. นิติศาสตร์ 2. รัฐศาสตร์ 3. ครุศาสตร์ ฉันตั้งใจว่าวินาทีแรกที่ลุ้นผลสอบ อยากสอบติดคณะนิติศาสตร์ เพราะญาติฝ่ายพ่อเรียนกฎหมายกันหมดเลย แต่ผลสอบออกมาปรากฏว่าติดคณะครุศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ แรกๆฉันคิดว่าจะไม่เรียนด้วยซ้ำอาจจะสอบเลือกคณะใหม่ แต่พ่อกับแม่อยากให้เรียนเพราะท่านอยากให้เป็นข้าราชการ ฉันเลยตัดสินใจที่จะเรียนคณะนี้ และแล้วก็ได้ย่างก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัย ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และตอนอยู่ตอนอยู่ปี1 ได้ใส่ชุดนักศึกษาใหม่กับรองเท้าผ้าใบสีขาว ใช้กระเป๋าที่มหาลัยแจกให้ รวบผมให้เรียบร้อยแต่งตัวเป็นเพรชชี่น่ารักที่สุด
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ตอนฉันอายุ 3 ขวบฉันได้เข้าโรงเรียนเป็นครั้งแรกฉันเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมอนุบาลหรือศูนย์เด็กเล็กฉันเจอเพื่อนวัยเดียวกันมากมายชีวิตที่เคยอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ต้องกลายมาเป็นภาระหนักของคุณครูฉันพอจำได้ว่าตอนนั้นฉันร้องไห้วิ่งจะกลับบ้านแต่ออกไม่ได้เพราะประตูหน้าโรงเรียนปิดนั่งรอพ่อมารับกลับบ้านอย่างน่าสงสารซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา 12.00น ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนแต่วันช่วงพักกลางวันรับประทานอาหารช่วงบ่ายโมงคุณครูก็จะให้นอนกลางวันเด็กต้องนอนทุกคนพอเลิกเรียนพ่อก็จะมารับกลับบ้านก่อนกลับถึงบ้านต้องแวะร้านค้าเพื่อที่จะซื้อขนมกลับไปกินบ้านทุกวันนี่เป็นช่วงชีวิตที่ยังเป็นเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่งพออายุ 4 ขวบ ฉันได้เข้าเรียนที่โรงเรียนประถมเป็นครั้งแรกเรียนชั้นอนุบาล1 ตอนฉันเรียนอนุบาลฉันเป็นเด็กที่ซนและดื้อมากมีเพื่อนเยอะตั้งแต่เด็กเลยการใช้ชีวิตเป็นเด็กช่างมีความสุขเหลือเกินเพราะได้นอนกลางวันพอตื่นก็ได้ดื่มนมมีอยู่ครั้งหนึ่งฉันนอนกลางวันอยู่ดีๆดันฉี่ราดเพื่อนที่นอนข้างๆด้วยกัน พอฉันตื่นก็ได้แต่ร้องไห้เพราะเพื่อนล้อทำให้ฉันขาดเรียนเป็นเวลา3วัน ช่วงเวลาที่ฉันเรียนอนุบาลทั้งหมด 3 ปีหลังจากนั้นคุณครูก็ให้เลื่อนชั้นขึ้น ป.1 ฉันดีใจรีบเก็บกระเป๋าหนังสือวิ่งแซงหน้าเพื่อนไปถึงห้องก่อนใครตอนที่ฉันเรียนอยู่ประถมฉันได้เข้าร่วมกิจกรรมมากมายตอนเรียน ป.2 ได้ไปแข่งกรีฑาที่อำเภอแต่จำไม่ได้ว่าอยู่ไม้ไหน แต่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่2 ตอนเรียนอยู่ชั้น ป.4 ได้ไปแข่งขันทักษะคณิตศาสตร์ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าได้รางวัลอะไรไหมแต่ฉันเป็นคนที่เรียนคณิตศาสตร์ไม่เก่งทำให้ตอนแข่งนั้นกดดันมากแต่โชคดีที่มีเพื่อนเก่งคณิตศาสตร์เข้าแข่งขันด้วยช่วงที่เรียน ป.5 ได้เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลเคยแข่งชนะมา 4 ครั้งพอถึงช่วงเวลาเรียน ป.6 เป็นช่วงที่ต้องตั้งเรียนเป็นพิเศษเพราะต้องสอบเข้าโรงเรียนมัธยมตอนนั้นพ่อส่งฉันไปเรียนพิเศษกับคุณครูที่อาสามาสอนในหมู่บ้านหลังจากนั้นพ่อก็พาฉันไปทำเรื่องสมัครสอบเข้าโรงเรียนมัธยมผลออกมาปรากฏว่าสอบได้จึงทำเรื่องมอบตัวกับทางโรงเรียนพอถึงเปิดเทอมวันแรกรู้สึกตื่นเต้นมากได้ใส่ชุดนักเรียนใหม่รองเท้าใหม่กระเป๋าใหม่เจอเพื่อนใหม่ฉันเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1/6 มีนักเรียนทั้งหมด 38 คนหลังจากนั้นก็ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนในห้องเพื่อนต่างก็มีนิสัยที่ต่างกันชีวิตมัธยมกับประถมมันช่างต่างมันเหลือเกินมัธยมต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นมีกิจกรรมให้ทำมากมายพอขึ้นมัธยมปลายฉันก็เข้าเรียนต่อที่เรียนเดิมแต่ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ที่เยอะกว่าเดิมตอนแรกเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 พอเรียนได้เทอมหนึ่งก็เลือกสายที่ตัวเองชอบและถนัดที่สุดมีสายวิทยฉันก็ได้เลือกสายศิลป์-ภาษาภาษาโทรศัพท์คณิตและสายศิลป์เพราะฉันไม่ชอบเรียนคณิตศาสตร์มันทำให้ฉันปวดหัวเหลือเกินการเรียนมัธยมปลายถือว่ายากขึ้นมาในอีกระดับหนึ่งแต่ความรู้กว้างไกลฉันชอบเวลาที่อาจารย์สั่งงานแล้วให้ไปคนคว้าเองเพราะมันจะทำให้ฉันสามารถช่วยตัวเองได้พอมาถึงจุดๆหนึ่งซึ่งเป็นการเรียนปีสุดท้ายของมัธยมในช่วงนี้เป็นช่วงที่วุ่นวายเหลือเกินใกล้จะสอบทั้งโอเน็ทเอเน็ทแถมยังมีสอบโควต้ามหาลัยอีกรับแพทฉันได้โควตารับตรงของมหาลัยราชภัฎมหาสารคามเป็นอันติดแล้วทางมหาลัยได้ส่งหนังสือมาทางโรงเรียนให้ไปสอบสัมภาษณ์และสอบปฎิบัติคณะที่ฉันเลือก 1 นิติศาสตร์ 2 รัฐศาสตร์ 3 ครุศาสตร์ฉันตั้งใจว่าวินาทีแรกที่ลุ้นผลสอบอยากสอบติดคณะนิติศาสตร์เพราะญาติฝ่ายพ่อเรียนกฎหมายกันหมดเลยแต่ผลสอบออกมาปรากฏว่าติดคณะครุศาสตร์สาขาวิชาภาษาอังกฤษแรกๆฉันคิดว่าจะไม่เรียนด้วยซ้ำอาจจะสอบเลือกคณะใหม่แต่พ่อกับแม่อยากให้เรียนเพราะท่านอยากให้เป็นข้าราชการฉันเลยตัดสินใจที่จะเรียนคณะนี้และแล้วก็ได้ย่างก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัยก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และตอนอยู่ตอนอยู่ปี1 ได้ใส่ชุดนักศึกษาใหม่กับรองเท้าผ้าใบสีขาวใช้กระเป๋าที่มหาลัยแจกให้รวบผมให้เรียบร้อยแต่งตัวเป็นเพรชชี่น่ารักที่สุด
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ตอนฉันอายุ 3 ขวบฉันได้เข้าโรงเรียนเป็นครั้งแรก ฉันเจอเพื่อนวัยเดียวกันมากมาย ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา 12.00 น ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียน พออายุ 4 ขวบ มีเพื่อนเยอะตั้งแต่เด็กเลย ช่วงเวลาที่ฉันเรียนอนุบาลทั้งหมด 3 ปี ป 1. ตอนเรียนป 2. แต่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ตอนเรียนอยู่ชั้นป. 4 ได้ไปแข่งขันทักษะคณิตศาสตร์ ทำให้ตอนแข่งนั้นกดดันมาก ช่วงที่เรียนป 5. 4 ครั้งพอถึงช่วงเวลาเรียนป. 6 เป็นช่วงที่ต้องตั้งเรียนเป็นพิเศษเพราะต้องสอบเข้าโรงเรียนมัธยม รองเท้าใหม่กระเป๋าใหม่เจอเพื่อนใหม่ฉันเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1/6 มีนักเรียนทั้งหมด 38 คน เพื่อนต่างก็มีนิสัยที่ต่างกัน มัธยมต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นมีกิจกรรมให้ทำมากมาย 4/3 พอเรียนได้เทอมหนึ่ง มีสายวิทย์ - คณิตและสายศิลป์ - ภาษาฉันก็ได้เลือกสายศิลป์ - ภาษา แต่ความรู้กว้างไกล ใกล้จะสอบทั้งโอเน็ทเอเน็ทรับแพทแถมยังมีสอบโควต้ามหาลัยอีก คณะที่ฉันเลือก 1. นิติศาสตร์รัฐศาสตร์ 2. 3. ครุศาสตร์ฉันตั้งใจว่าวินาทีแรกที่ลุ้นผลสอบอยากสอบติดคณะนิติศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ฉันเลยตัดสินใจที่จะเรียนคณะนี้ และตอนอยู่ตอนอยู่ปี 1 ใช้กระเป๋าที่มหาลัยแจกให้
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ตอนฉันอายุ 3 ขวบฉันได้เข้าโรงเรียนเป็นครั้งแรกฉันเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมอนุบาลหรือศูนย์เด็กเล็กฉันเจอเพื่อนวัยเดียวกันมากมายชีวิตที่เคยอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ต้องกลายมาเป็นภาระหนักของคุณครูแต่ออกไม่ได้เพราะประตูหน้าโรงเรียนปิดนั่งรอพ่อมารับกลับบ้านอย่างน่าสงสารซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา 1200 น .ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนแต่วันช่วงพักกลางวันรับประทานอาหารช่วงบ่ายโมงคุณครูก็จะให้นอนกลางวันเด็กต้องนอนทุกคนนี่เป็นช่วงชีวิตที่ยังเป็นเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่งพออายุ 4 ขวบฉันได้เข้าเรียนที่โรงเรียนประถมเป็นครั้งแรกเรียนชั้นอนุบาล 1 ตอนฉันเรียนอนุบาลฉันเป็นเด็กที่ซนและดื้อมากมีเพื่อนเยอะตั้งแต่เด็กเลยมีอยู่ครั้งหนึ่งฉันนอนกลางวันอยู่ดีๆดันฉี่ราดเพื่อนที่นอนข้างๆด้วยกันพอฉันตื่นก็ได้แต่ร้องไห้เพราะเพื่อนล้อทำให้ฉันขาดเรียนเป็นเวลา 3 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าช่วงเวลาที่ฉันเรียนอนุบาลทั้งหมด 3 .ป .1 ฉันดีใจรีบเก็บกระเป๋าหนังสือวิ่งแซงหน้าเพื่อนไปถึงห้องก่อนใครตอนที่ฉันเรียนอยู่ประถมฉันได้เข้าร่วมกิจกรรมมากมายตอนเรียนป .2 ได้ไปแข่งกรีฑาที่อำเภอแต่จำไม่ได้ว่าอยู่ไม้ไหนแต่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ตอนเรียนอยู่ชั้นป .4 ได้ไปแข่งขันทักษะคณิตศาสตร์ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าได้รางวัลอะไรไหมแต่ฉันเป็นคนที่เรียนคณิตศาสตร์ไม่เก่งทำให้ตอนแข่งนั้นกดดันมากแต่โชคดีที่มีเพื่อนเก่งคณิตศาสตร์เข้าแข่งขันด้วยช่วงที่เรียนป .5 ได้เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลเคยแข่งชนะมา 4 ครั้งพอถึงช่วงเวลาเรียนป .6 เป็นช่วงที่ต้องตั้งเรียนเป็นพิเศษเพราะต้องสอบเข้าโรงเรียนมัธยมตอนนั้นพ่อส่งฉันไปเรียนพิเศษกับคุณครูที่อาสามาสอนในหมู่บ้านหลังจากนั้นพ่อก็พาฉันไปทำเรื่องสมัครสอบเข้าโรงเรียนมัธยมพอถึงเปิดเทอมวันแรกรู้สึกตื่นเต้นมากได้ใส่ชุดนักเรียนใหม่รองเท้าใหม่กระเป๋าใหม่เจอเพื่อนใหม่ฉันเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 / 6 มีนักเรียนทั้งหมด 38 คนหลังจากนั้นก็ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนในห้องชีวิตมัธยมกับประถมมันช่างต่างมันเหลือเกินมัธยมต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นมีกิจกรรมให้ทำมากมายพอขึ้นมัธยมปลายฉันก็เข้าเรียนต่อที่เรียนเดิมแต่ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ที่เยอะกว่าเดิม4 / 3 พอเรียนได้เทอมหนึ่งก็เลือกสายที่ตัวเองชอบและถนัดที่สุดมีสายวิทย์ - คณิตและสายศิลป์ - ภาษาฉันก็ได้เลือกสายศิลป์ - ภาษาเพราะฉันไม่ชอบเรียนคณิตศาสตร์มันทำให้ฉันปวดหัวเหลือเกินแต่ความรู้กว้างไกลฉันชอบเวลาที่อาจารย์สั่งงานแล้วให้ไปคนคว้าเองเพราะมันจะทำให้ฉันสามารถช่วยตัวเองได้พอมาถึงจุดๆหนึ่งซึ่งเป็นการเรียนปีสุดท้ายของมัธยมในช่วงนี้เป็นช่วงที่วุ่นวายเหลือเกินเอเน็ทได้รับแพทแถมยังมีสอบโควต้ามหาลัยอีกฉันได้โควตารับตรงของมหาลัยราชภัฎมหาสารคามเป็นอันติดแล้วทางมหาลัยได้ส่งหนังสือมาทางโรงเรียนให้ไปสอบสัมภาษณ์และสอบปฎิบัติคณะที่ฉันเลือก 1นิติศาสตร์ 2 รัฐศาสตร์ 3ครุศาสตร์ฉันตั้งใจว่าวินาทีแรกที่ลุ้นผลสอบอยากสอบติดคณะนิติศาสตร์เพราะญาติฝ่ายพ่อเรียนกฎหมายกันหมดเลยแต่ผลสอบออกมาปรากฏว่าติดคณะครุศาสตร์สาขาวิชาภาษาอังกฤษแต่พ่อกับแม่อยากให้เรียนเพราะท่านอยากให้เป็นข้าราชการฉันเลยตัดสินใจที่จะเรียนคณะนี้และแล้วก็ได้ย่างก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัยก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและตอนอยู่ตอนอยู่ปี 1ใช้กระเป๋าที่มหาลัยแจกให้รวบผมให้เรียบร้อยแต่งตัวเป็นเพรชชี่น่ารักที่สุด
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: