การแต่งกายโดยทั่วไปในอดีตของไทย ทั้งชายและหญิงมีลักษะเด่น 3 ประการ คือ การแปล - การแต่งกายโดยทั่วไปในอดีตของไทย ทั้งชายและหญิงมีลักษะเด่น 3 ประการ คือ อังกฤษ วิธีการพูด

การแต่งกายโดยทั่วไปในอดีตของไทย ทั้

การแต่งกายโดยทั่วไปในอดีตของไทย ทั้งชายและหญิงมีลักษะเด่น 3 ประการ คือ
1. เพื่อการใช้ประโยชน์
เครื่องนุ่งห่มของไทยนับตั้งแต่อดีต เน้นการใช้ประโยชน์ ทั้งในด้านความเหมาะสม การประหยัด และความคล่องตัว ดังเช่น สมัยอยุธยา สตรีไทย ตามปกตินิยมแต่งกายที่แสดงถึง ความนุ่มนวล สวยงามตามแบบฉบับหญิงไทย แต่ครั้นปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเกิดศึกสงครามกับพม่า สตรีไทยต้องออกศึกเยี่ยงกับชายไทย การแต่งกายจึงเปลี่ยน ไปเพื่อให้เหมาะสมกับบทบาทใหม่ที่เพิ่มขึ้น เช่น การห่มผ้าตะแบงมานเพื่อให้รัดกุม ไม่รุ่มร่าม คล่องตัวในการเคลื่อนไหวเวลาออกรบ
2. เพื่อความสวยงาม
การแต่งกายของสตรีไทยในอดีตบ่งบอกถึงวัฒนธรรมไทยและมีอัตลักษณะหรือแสดงความเป็นตัวตนที่ชัด เจน คือ ความละเอียดอ่อน การแต่งกายในสมัยรัตนโกสินทร์ช่วงรัชกาลที่ 1-3 สตรีนิยมนุ่งผ้าจีบและห่มสไบเฉียง ต่อมาช่วงรัชกาลที่ 4-5 นิยมนุ่งผ้าโจงกระเบนห่มสไบทับเสื้อแขนกระบอก สมัยรัชกาลที่ 6 นุ่งโจงกระเบนและนุ่งซิ่นก็มี แต่ในสมัยรัชกาลที่ 7 นุ่งซิ่นกันอย่างแพร่หลาย และใส่เสื้อตัวยาวไม่นิยมโจงกระเบนเท่าใดนัก สมัยรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถได้ทรงออกแบบเครื่องแต่งกายที่ประยุกต์มาจากโบราณ แต่ยังคงแสดงออกถึงความเป็นไทย และทรงพระราชทานนามว่า “ชุดไทยพระราชนิยม”
3. เพื่อความเป็นสวัสดิมงคล
ตามความเชื่อเรื่องการเลือกสีสันของเสื้อผ้า เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลแก่ชีวิต หรือการเลือกใช้สีตามวัน สีเข้ม เช่น สีดำ ไม่นิยมใช้ในงานมงคล แต่นิยมใช้สีที่สดใสแทน หรือการเลือกใช้สีสดและเข้มสลับกัน เช่น ห่มผ้าท่อนบนสีหนึ่ง และนุ่งผ้าท่อนล่างอีกสีหนึ่ง
วิธีการนุ่งห่มผ้าของไทยแสดงให้เห็นถึงการใช้ประโยชน์ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ในเชิง การออกแบบ นั่นก็คือ การนุ่งโจมกระเบนและห่มสไบ หรือห่มผ้าแถบคาดอก ผ้าที่มาใช้ในนุ่งโจงกระเบนและ ห่มสไบ หรือผ้าแถบก็ดี คือ การใช้ผ้าเพียงหนึ่งหรือสองผืนเท่านั้น ไม่มีการตัดเย็บใดๆ เลย ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผืนหนึ่งปกปิดท่อนล่าง เรียกว่า “โจง” และผ้าอีกผืนหนึ่งห่มคาดอก ก็กลายเป็นเครื่องแต่งกายที่รัดกุมปกปิด ส่วนบนของร่างกาย
วิธีการนุ่งผ้าแบบจีบหน้านาง
1. นุ่งจีบหางหงษ์ เป็นการนุ่งที่ใช้ในพิธีการหรือใช้นุ่งสำหรับตัวพระในการรำละคร
• จับชายผ้าทั้งสองข้างหน้า
• จับจีบทบเข้าหาตัว
• ตลบลอดหว่างขาไปเหน็บไว้ที่เอวด้านหลัง ดึงผ้าด้านหลังให้สูงรั้งขึ้น
• แล้วปล่อยจีบให้ห้อยลงระดับเข่า
• มัดรอบเอวด้วยผ้าหรือเข็มขัด
2. นุ่งจีบ ใช้นุ่งทั่วไป หรือเมื่อต้องการความเป็นพิธีการ หรือไปงานต่างๆ
• จับชายผ้าด้านหน้าให้เท่ากันแล้วทบเป็นจีบเข้าหาตัวหลายๆ ชั้น
• ตลบลอดหว่างขาไปเหน็บไว้ที่เอวด้านหลัง ให้ความยาวโจงกระเบน อยู่ระดับคลุมเข่า มัดรอบเอวด้วยผ้าหรือเข็มขัด
3. นุ่งหยักรั้ง เป็นการนุ่งเมื่อเวลาต้องการ ความคล่องตัว หรือเวลาทำงาน
• นุ่งแบบโจงกระเบน โดยม้วนชายผ้าทั้งสองข้างหน้าเข้าหาตัวเหมือนงวงช้าง
• ตลบลวดหว่างขาไปเหน็บ ไว้ที่เอวด้านหลัง ให้ความยาวระดับสั้นเหนือเข่า มัดรอบเอวด้วยผ้าหรือเข็มขัด

แฟชั่นผ้าไทย
ฉบับนี้ขอแนะนำการแต่งชุดไทยประยุกต์ สำหรับสาวที่ไม่มีหน้าท้องสามารถนำผ้ามานุ่ง โดยไม่ต้องตัดชุดไทยและไม่ดูเชยที่ต้องใส่ชุดไทยไปงานสำหรับชุดแนวนี้ไม่ขอแนะนำให้ใช้งานวัดนะคะจะดูไม่เหมาะ หากมีงานไทยเช่น งานสงกรานต์ หรือลอยกระทงหรือแม้แต่งานแฟนซีเราก็นำมาประยุกต์ใช้ได้ เพียงคุณซื้อผ้าไทยจะเป็นผ้าโขมพัตร์หรือผ้าไหมลายสวยๆทั้งผืนประมาณสามเมตร และพับจีบหน้านาง แล้วนำมาพนุ่งให้เป็นผ้าถุงจีบหน้านางที่น้องปลาแสดงแบบให้นี้ เราใช้ผ้าโขมพัตร์ และพันออกด้วยผ้าฝ้ายซึ่งเป็นผ้าพันคอที่เราใช้สำหรับหน้าหนาวนี้ค่ะ ก็ดูเปรี้ยวเก๋ไก๋แล้วห้อย

0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
The General, dressed in the past of Thai Both men and women are prominent laksa is 3.1. in order to take advantageThai's apparel since the past. Emphasis on the utilization of appropriate saving and streamlined like Ayutthaya period. Thai women. As usual, favorite dress that shows a beautiful softness typical Thai women, but after the late Ayutthaya period caused war with Burma. Thai ladies prefer exemplary battle with Thai men. The dress was altered to suit the new roles that increase, such as strong tabaengman cloth so that the blanket. Rumram no flexibility in time-motion battle.2. so beautifulDress of the women, Thai culture, Thai history and the indication at the identity or appearance that is clear. Jane is a delicate. Dress code during the reign of the old 1-3 feminism and wear a shawl-clad. Later, during the reign of the 4-5 favorite to wear a shawl blanket fabric loincloth over panties khaenkrabok. The reign of 6 wear loincloth and wear a skirt, but in the reign of 7 wear skirt widely and wears a long loincloth is much appreciated. The reign of H.R.H. King Phra Borommarachininat 9 he designed costumes that come from the ancient but still expressing a Thai, and granted the name "Royal Thai favorite series."3. good fortune to dimongkhonAccording to the belief of selected stories the clothes to make dimongkhon good fortune in life or choose dark colors such as black, Not commonly used in weddings, but the bright colors used instead or use fresh colors and dark, alternately clad fabric pieces on one color and wear another bikini.How to apparel fabric of Thai demonstrate utilization combined with creativity in design, that is, to wear a shawl or blanket and Stingray attacks clad clothing is expected to strip out. The fabric used in a loincloth and a shawl or blanket to wear clothes well, bar is to use one or two pieces of fabric only. There are no any sewing as a rectangle. One piece cover the bottom called "to pull up" and other pieces of fabric, one clad chest was expected to become a strong cover up dress. The upper part of the body.How to wear a pleated cloth in front of her.1. wear a pleated tail Hong is the ceremonial dress or wear for a God in the dance drama.• Catch the front two fabrics.• Hold the pleats into the compound for a• Go to throw a stick between the legs, get through the waist behind. Pull the fabric on the back of high times.• Then release the pleats, hanging onto the knee level.• Mud cloth or waist belt.2. wear pleated dress in General, or to a clearance or to various tasks.• Holding the cloth in front of the same compound, already is looking to flirt with the multiple layers.• Go to throw a stick between the legs, get through the waist at the back, the length of the loincloth is covered with mud knee, waist level, or belt.3. wear a curly brace to wear when the time requires flexibility and working hours.• Wear a loincloth, roll the cloth on both sides toward the trunk of an elephant-like.• Stick to the legs to flip back the wire between the rear waist to knee length short levels with a bundle of fabric above the waist or belt.Thai silk fashionIn this Edition, we recommend to set up Thai application. For a woman with no clothes to wear can also be applied to abdomen. Without breaking the Thai outfit and not look like a bumpkin who must wear Thai dress for this trend to not recommend attending temple fairs are not suitable. If you have a job like Loy krathong Festival, or Thai, or even a fancy job we applied. All you need to buy Thai fabric is linen, silk or pretty phat stripe three folded both plots approximately pleat in front of her, and brought her face to phanung pleated bags at his fish laid out,. We used linen and cotton with phat thousand which is a scarf that we used for this scene was winter chic, hanging.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
การแต่งกายโดยทั่วไปในอดีตของไทย ทั้งชายและหญิงมีลักษะเด่น 3 ประการ คือ
1. เพื่อการใช้ประโยชน์
เครื่องนุ่งห่มของไทยนับตั้งแต่อดีต เน้นการใช้ประโยชน์ ทั้งในด้านความเหมาะสม การประหยัด และความคล่องตัว ดังเช่น สมัยอยุธยา สตรีไทย ตามปกตินิยมแต่งกายที่แสดงถึง ความนุ่มนวล สวยงามตามแบบฉบับหญิงไทย แต่ครั้นปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเกิดศึกสงครามกับพม่า สตรีไทยต้องออกศึกเยี่ยงกับชายไทย การแต่งกายจึงเปลี่ยน ไปเพื่อให้เหมาะสมกับบทบาทใหม่ที่เพิ่มขึ้น เช่น การห่มผ้าตะแบงมานเพื่อให้รัดกุม ไม่รุ่มร่าม คล่องตัวในการเคลื่อนไหวเวลาออกรบ
2. เพื่อความสวยงาม
การแต่งกายของสตรีไทยในอดีตบ่งบอกถึงวัฒนธรรมไทยและมีอัตลักษณะหรือแสดงความเป็นตัวตนที่ชัด เจน คือ ความละเอียดอ่อน การแต่งกายในสมัยรัตนโกสินทร์ช่วงรัชกาลที่ 1-3 สตรีนิยมนุ่งผ้าจีบและห่มสไบเฉียง ต่อมาช่วงรัชกาลที่ 4-5 นิยมนุ่งผ้าโจงกระเบนห่มสไบทับเสื้อแขนกระบอก สมัยรัชกาลที่ 6 นุ่งโจงกระเบนและนุ่งซิ่นก็มี แต่ในสมัยรัชกาลที่ 7 นุ่งซิ่นกันอย่างแพร่หลาย และใส่เสื้อตัวยาวไม่นิยมโจงกระเบนเท่าใดนัก สมัยรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถได้ทรงออกแบบเครื่องแต่งกายที่ประยุกต์มาจากโบราณ แต่ยังคงแสดงออกถึงความเป็นไทย และทรงพระราชทานนามว่า “ชุดไทยพระราชนิยม”
3. เพื่อความเป็นสวัสดิมงคล
ตามความเชื่อเรื่องการเลือกสีสันของเสื้อผ้า เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลแก่ชีวิต หรือการเลือกใช้สีตามวัน สีเข้ม เช่น สีดำ ไม่นิยมใช้ในงานมงคล แต่นิยมใช้สีที่สดใสแทน หรือการเลือกใช้สีสดและเข้มสลับกัน เช่น ห่มผ้าท่อนบนสีหนึ่ง และนุ่งผ้าท่อนล่างอีกสีหนึ่ง
วิธีการนุ่งห่มผ้าของไทยแสดงให้เห็นถึงการใช้ประโยชน์ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ในเชิง การออกแบบ นั่นก็คือ การนุ่งโจมกระเบนและห่มสไบ หรือห่มผ้าแถบคาดอก ผ้าที่มาใช้ในนุ่งโจงกระเบนและ ห่มสไบ หรือผ้าแถบก็ดี คือ การใช้ผ้าเพียงหนึ่งหรือสองผืนเท่านั้น ไม่มีการตัดเย็บใดๆ เลย ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผืนหนึ่งปกปิดท่อนล่าง เรียกว่า “โจง” และผ้าอีกผืนหนึ่งห่มคาดอก ก็กลายเป็นเครื่องแต่งกายที่รัดกุมปกปิด ส่วนบนของร่างกาย
วิธีการนุ่งผ้าแบบจีบหน้านาง
1. นุ่งจีบหางหงษ์ เป็นการนุ่งที่ใช้ในพิธีการหรือใช้นุ่งสำหรับตัวพระในการรำละคร
• จับชายผ้าทั้งสองข้างหน้า
• จับจีบทบเข้าหาตัว
• ตลบลอดหว่างขาไปเหน็บไว้ที่เอวด้านหลัง ดึงผ้าด้านหลังให้สูงรั้งขึ้น
• แล้วปล่อยจีบให้ห้อยลงระดับเข่า
• มัดรอบเอวด้วยผ้าหรือเข็มขัด
2. นุ่งจีบ ใช้นุ่งทั่วไป หรือเมื่อต้องการความเป็นพิธีการ หรือไปงานต่างๆ
• จับชายผ้าด้านหน้าให้เท่ากันแล้วทบเป็นจีบเข้าหาตัวหลายๆ ชั้น
• ตลบลอดหว่างขาไปเหน็บไว้ที่เอวด้านหลัง ให้ความยาวโจงกระเบน อยู่ระดับคลุมเข่า มัดรอบเอวด้วยผ้าหรือเข็มขัด
3. นุ่งหยักรั้ง เป็นการนุ่งเมื่อเวลาต้องการ ความคล่องตัว หรือเวลาทำงาน
• นุ่งแบบโจงกระเบน โดยม้วนชายผ้าทั้งสองข้างหน้าเข้าหาตัวเหมือนงวงช้าง
• ตลบลวดหว่างขาไปเหน็บ ไว้ที่เอวด้านหลัง ให้ความยาวระดับสั้นเหนือเข่า มัดรอบเอวด้วยผ้าหรือเข็มขัด

แฟชั่นผ้าไทย
ฉบับนี้ขอแนะนำการแต่งชุดไทยประยุกต์ สำหรับสาวที่ไม่มีหน้าท้องสามารถนำผ้ามานุ่ง โดยไม่ต้องตัดชุดไทยและไม่ดูเชยที่ต้องใส่ชุดไทยไปงานสำหรับชุดแนวนี้ไม่ขอแนะนำให้ใช้งานวัดนะคะจะดูไม่เหมาะ หากมีงานไทยเช่น งานสงกรานต์ หรือลอยกระทงหรือแม้แต่งานแฟนซีเราก็นำมาประยุกต์ใช้ได้ เพียงคุณซื้อผ้าไทยจะเป็นผ้าโขมพัตร์หรือผ้าไหมลายสวยๆทั้งผืนประมาณสามเมตร และพับจีบหน้านาง แล้วนำมาพนุ่งให้เป็นผ้าถุงจีบหน้านางที่น้องปลาแสดงแบบให้นี้ เราใช้ผ้าโขมพัตร์ และพันออกด้วยผ้าฝ้ายซึ่งเป็นผ้าพันคอที่เราใช้สำหรับหน้าหนาวนี้ค่ะ ก็ดูเปรี้ยวเก๋ไก๋แล้วห้อย

การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
In general, former Thai dress Both men and women are crashing cost dominant 3 factors is to use 1.

.Thai apparel from the past emphasis on utilization and suitability, saving and agility as period. Thai women normally dress that represents a popular soft, beautiful typical Thai woman.Thai women must stand as a man with the Thai dress is changed. Go to fit the new role that increased, such as blankets, so strong. ไม่รุ louver low draft, flexible movement in time of war!2. So beautiful!The dress of women in culture and identity indicative or show a clear identity, Jane is delicate. The dress in the Rattanakosin period reign 1-3 feminism output data and clad replacement of industrial equipment.4-5 blanket shawl over popular นุ่งผ้าโจงกระเบน sleeve cylinder, the reign of 6 to throw away and dress the resin it is there, but in the reign of 7 wear resin widely. And the clothes are no longer popular loincloth much 9 reign.But still expresses the ideas and the royal name "Thai dress chvostek's sign"
.3. For an offering
.According to the beliefs of the color of the clothes. For an offering to the life, or to choose the color day dark, such as black, is not commonly used in the ceremony, but the use of bright colors, or choose to use vivid and intense alternately. Such asWear the cloth and lower half another color
.How was clothed in Thailand shows use. Combined with the creative thinking in design, that is, the attire and attack ray cloth or fabric blankets blankets, fabrics for use in expected to throw away. Blanket cloth or fabric.Silk use only one or two piece only, no sewing, any style is rectangular. The one cover lower part, called the "Hold up" and a piece of fabric with expected. They become strong dress cover.How to wear a skirt pleated her face
1. Wear pleated tail swan. It is used in ceremonial attire or used to wear for the in the dance drama
* Catch a both forward
- plait impact toward
.- a time between a stick at the waist back. Pull the fabric high back brace up
* Then release the pleat hanging down to the knee level
* Tied around the waist with a cloth belt or
2. Wear pleat wear in general, or to a ceremonial or tasks
.- hold a front for the same impact is pleated toward several, I
- a time between a stick back waist length loincloth. The knee-length, tied around the waist with a cloth belt or
3.To wear a wear when need be drawn up high, agility, or working time
- attire to pull up the Ben. By winding a both forward toward a trunk
.- a wire between a tingling on his waist, back, short length above the knee. Tied around the waist with a cloth or fabric fashion belt


.This thesis introduce the dress Thai For girls, no belly can take cloth to wear. Without cutting Thai dress and not too old-fashioned to wear this kind of dress Thai for not recommended Temple it will not look good. If there is a Thai task such asOr festival, or even a fancy we applied. You only buy fabric is fabric linen robe or fabric that beautiful piece about three meters and folded pleat page.We use a cloth, linen robe. And the wind off with cotton, which is a scarf that we use for this winter. Look chic and sour hanging
.
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: