ไมเคิล ฟาราเดย์ เกิดที่นิวอิงตัน เซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ ในครอบครัวที่ม การแปล - ไมเคิล ฟาราเดย์ เกิดที่นิวอิงตัน เซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ ในครอบครัวที่ม อังกฤษ วิธีการพูด

ไมเคิล ฟาราเดย์ เกิดที่นิวอิงตัน เซ

ไมเคิล ฟาราเดย์ เกิดที่นิวอิงตัน เซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน เป็นบุตรคนที่ 3 จากจำนวน 10 บิดาของเขาชื่อเจมส์เป็นช่างตีเหล็ก เขาเริ่มทำงานเมื่ออายุ 13 ปี โดยการเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์และฝึกงาน แผนกเย็บปกและซ่อมหนังสือ เขายังเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ศึกษาหาความรู้โดยเฉพาะเรื่องของไฟฟ้า เขาพยายามหาโอกาสไปฟังการบรรยายทางวิทยาศาสตร์ตามสถานที่ต่าง ๆ เสมอ และจะมีการจดบันทึกไว้อย่างละเอียดและเข้าเล่มเก็บไว้ มีครั้งหนึ่งในปี 1812 มีลูกค้าซ่อมหนังสือเห็นว่าเขาสนใจเรื่องการบรรยายของนักวิทยาศาสตร์ จึงได้มอบบัตรในการฟังการบรรยายวิทยาศาสตร์ของ ฮัมฟรี เดวี จัดบรรยายที่ราชสมาคม เขาจดรายละเอียดการบรรยาย วาดรูปประกอบ เรียบเรียงอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นเขาจึงไปสมัครเป็นผู้ช่วยเดวี่ โดยนำหนังสือเล่มนี้ไปด้วย ทำให้เดวี่ประทับใจ รับเขาทำงาน
เขาทำงานทุกอย่างในการเป็นผู้ช่วยเดวี่ ตั้งแต่ภารโรง เลขา ด้วยเงินที่ได้รับสัปดาห์ละ 25 ชิลลิง ซึ่งน้อยกว่าทำงานที่ร้านหนังสือ แต่เขาพอใจกับงานและคอยสังเกตการทดลองของเดวี่ อย่างสนใจ เขามีโอกาสได้ตามเดวี่ไปสถานที่ต่าง ๆ ในยุโรป ทำให้เขาได้รู้จักกับคนสำคัญและนักวิทยาศาสตร์ เช่น อองแปร์ วอลตา หลังจากติดตามเดวี่มา 2 ปี ก็เดินทางกลับอังกฤษและได้เงินเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 30 ชิลลิง นอกจากนี้เขายังเขียนบทความและรายงานทางวิทยาศาสตร์ ทำให้เขามีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และริเริ่มจัดตั้ง City Plilosophical Society ซึ่งเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนพบปะคุยกันของบรรดาผู้ที่สนใจวิทยาศาสตร์ เขาเริ่มสนใจวิชาเคมีในช่วงนี้ ต่อมาปลายปี 1820 เขาแต่งงานกับ ซาราห์ เบอร์นาด ลูกสาวช่างเงิน
เขาเริ่มสนใจเกี่ยวกับเรื่องแม่เหล็กไฟฟ้า เขาทดลองเรื่อง อำนาจแม่เหล็กให้เป็นพลังงานไฟฟ้าอยู่หลายครั้ง จนการทดลองหนึ่ง เขาพันขดลวด 2 ขดในวงแหวนอันเดียวกัน โดยต่อปลายทั้งสองของขดลวดหนึ่งเข้ากับ กัลวานอมิเตอร์ และต่อขดลวดที่เหลือกับแหล่งจ่ายไฟและปิดเปิดสวิตซ์ให้กระแสไฟฟ้าผ่านเข้าในขดลวด เขาสังเกตเห็นว่า กัลวานอมิเตอร์ ที่ต่อกับอีกขดหนึ่งนั้นขยับ แสดงว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลในขดที่ 2 ทั้งที่ไม่ได้จ่ายไฟเข้าขดนั้นเลย จากการทดลองนี้เขาพัฒนาเป็นหม้อแปลงไฟฟ้าในเวลาต่อมา เขายังค้นพบเส้นแรงแม่เหล็กจากการ ทดลองเทผงตะไบเหล็ก ลงบนกระดาษที่อยู่บนแม่เหล็ก
ในปี 1823 เขาค้นพบวิธีการทำเหล็กกล้ามีความแข็งแรงทนทานมากกว่าเดิมและไม่เป็นสนิม โดยใช้เหล็ก + นิเกลเรียกว่า เหล็กสเตนเลส (Stainless Steel) ต่อมาในปี 1825 เขาพบ สารประกอบเบนซีน พบการทำให้คลอรีนเป็นของเหลว เขาเป็นคนบัญญัติศัพท์เกี่ยวกับการแยกสารละลายด้วยไฟฟ้าหลาย ๆ คำ
ฟาราเดย์ได้ทดลองใช้ลวดขดเป็นวงหลายรอบแบบที่เราเรียกว่าคอยด์ โดยต่อปลายทั้งสองของขดลวดเข้ากับ กัลวานอมิเตอร์ และทดลองสอดแท่งแม่เหล็กเข้าไปในระหว่างขดลวด พบว่า กัลวานอมิเตอร์กระดิกไปข้างหนึ่ง และพอแม่เหล็กหยุดนิ่ง เข็มก็เบนกลับที่เดิม พอเขาดึงแท่งแม่เหล็กออก เข็มก็เบนไปอีกทางหนึ่ง ตรงข้ามกับตอนแรก แล้วหยุดนิ่ง เขาพบว่า ไฟฟ้าเกิดจากการที่เส้นแรงแม่เหล็กตัดกับขดลวด เขาจึงเรียกกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นว่า กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ (Induced current) ซึ่งเขาพบว่ากระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำจะเกิดก็ต่อเมื่อมีการเคลื่อนที่ตัดกันของสนามแม่เหล็กกับขดลวดเท่านั้น ถ้าหยุดเคลื่อนที่กระแสไฟฟ้าก็หายไป เขาจึงมีแนวคิดที่จะให้กระแสไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลา จึงหมุนขดลวดตัดกับสนามแม่เหล็กตลอดเวลา เกิดสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่าไดนาโมในเวลาต่อมา ที่ถือว่าเป็นเครื่องแรกของโลกที่ไม่ต้องใช้ปฏิกิริยาทางเคมีเหมือนเดิม
เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ ประจำวิชาเคมีแห่งราชสมาคม ในปี ค.ศ. 1833 ในช่วงหลังเขาสนใจในเรื่องแสง และศึกษาค้นคว้าตลอดมา เขาล้มป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมในบั้นปลาย ของชีวิต และถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ.1867 ที่แฮมป์ตันคอร์ท อายุได้ 75 ปี [1]
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Michael Faraday Born in new วอิง tons. Surrey, England In families with children who are poor at 3 from the number 10 his father James name is blacksmith. He began working at the age of 13 years as a newspaper boy and apprentice. Sewing Department protect and repair books He also likes to read people. Study of knowledge, particularly of electricity He is trying to find an opportunity to listen to lectures by various scientific and will be noted in detail, and the book store. There was at one time in the year 1812 saw the books that he is a customer repair for lectures of scientists had handed the card to listen to lectures of science. Free v-held Hamra de lecture Royal Society They write detailed lecture drawing consists of smooth, clean, and then he became an Assistant to Dewi by this book. Make the impression he Dewi work.He worked as an Assistant in the Dewi since Secretariat with money received maintenance worker per week, which is less than the 25 shilling is working at the bookstore, but he was satisfied with the work and observe the trials of Dewi official interest. He had the chance, according to Dewi to different places in Europe. He got to know people and scientists, such as on water days after ngapae by Dewi came 2 years, returned to England and had more money as 30 shilling per week. He also wrote scientific articles and reports, making him increasingly famous, and initiated the establishment of a Plilosophical Society where City exchanges meet to talk of those who are interested in science. He began to interest us in this range per year 1820 he married Sarah. Manado Harbour The daughter of silver artisansHe starts to crush on electromagnetic His experimental subject. Magnetic power, as power is several times until one of the trial. 2 coil windings in his thousand rings. By the end of the two coils per one meter to the Gulf. And the rest of the coils on the power supply and turn off the switch, electricity through the coils. He noticed that the Gulf meter. That's a move to another coil. There is electricity flowing in the coil, which both don't have 2 power supply into a coil. From this he developed a transformer. He also found a strong linear magnetic powder from pouring a RASP, steel. Paper on the magneticIn 1823, he discovered how to make steel is more durable and rust using steel + stainless steel lariak said, the new gate (Stainless Steel) later in the year 1825, he found benzene compounds. Found to chlorine. He is words on a separate solution with multiple words power.ฟาราเดย์ได้ทดลองใช้ลวดขดเป็นวงหลายรอบแบบที่เราเรียกว่าคอยด์ โดยต่อปลายทั้งสองของขดลวดเข้ากับ กัลวานอมิเตอร์ และทดลองสอดแท่งแม่เหล็กเข้าไปในระหว่างขดลวด พบว่า กัลวานอมิเตอร์กระดิกไปข้างหนึ่ง และพอแม่เหล็กหยุดนิ่ง เข็มก็เบนกลับที่เดิม พอเขาดึงแท่งแม่เหล็กออก เข็มก็เบนไปอีกทางหนึ่ง ตรงข้ามกับตอนแรก แล้วหยุดนิ่ง เขาพบว่า ไฟฟ้าเกิดจากการที่เส้นแรงแม่เหล็กตัดกับขดลวด เขาจึงเรียกกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นว่า กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ (Induced current) ซึ่งเขาพบว่ากระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำจะเกิดก็ต่อเมื่อมีการเคลื่อนที่ตัดกันของสนามแม่เหล็กกับขดลวดเท่านั้น ถ้าหยุดเคลื่อนที่กระแสไฟฟ้าก็หายไป เขาจึงมีแนวคิดที่จะให้กระแสไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลา จึงหมุนขดลวดตัดกับสนามแม่เหล็กตลอดเวลา เกิดสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่าไดนาโมในเวลาต่อมา ที่ถือว่าเป็นเครื่องแรกของโลกที่ไม่ต้องใช้ปฏิกิริยาทางเคมีเหมือนเดิมHe was appointed as Professor of chemistry in the Association ID in 1833 after he is interested in the subject and research. He fell ill a memory in the end of life, and die when the August 25 1867 Hampton Court age 75 years [1].
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
Michael Faraday was born in New England tonnes Surrey, England in a poor family. A third child from the number 10, his father was a blacksmith named James. He started working at the age of 13 years by a newspaper delivery boy and apprentice. The front cover and repairing sewing book He also likes to read books. In particular, the study of electricity. He tried to find a scientific lecture on various locations and always will be carefully recorded and stored Binding. Once, in 1812 and has customers in repairing books that he cared about the lectures of scientists. The card delivers a lecture on the science of Humphry Davy lecture at the Royal Society. He detailed lecture notes compiled orderly assembly drawing. He then applied for an assistant Davy. By bringing this book to. Davy makes impression He gets
everything he worked as an assistant to Davy. The caretaker secretary with money earned 25 shillings a week, which is less than work at a bookstore. But he was satisfied with the work and observe the trials of Davy to do him a chance by Davy to various locations in Europe, he was introduced to key people and scientists like Aung Perle Volta after tracking Davy came. 2 years, it returned to England and has an additional 30 shillings a week, he also wrote articles and scientific reports. Made his reputation growing and City Plilosophical Society initiative, which is the talk of the exchange to meet those who are interested in science. He became interested in chemistry in the later end of the year 1820, he married Sarah Bernard daughter silversmith,
he began focusing on electromagnetic fields. He Experiments Magnetism into electrical energy at times. It was one of his winding two coils in the same ring. By the end of the two coils, one with. The meter galvanometer And the stent is left with the power supply and switch off the electrical current through the coil. He noted that The meter galvanometer One coil is connected to another move. Show that electric current flowing in the second coil, the coil is not the power it has. From these experiments, he developed a transformer at a later time. He also discovered the magnetic field lines from. Try pouring iron filings On paper, the magnet
in 1823, he discovered a way of making steel is durable than the original and does not corrode the iron + nickel-called steel stainless (Stainless Steel) later in the year. in 1825 he found benzene compounds To make liquid chlorine is found He coined the term several separate electrolytic solution
, Faraday's experiments using wire coil around the way we look at that. By the end of the two coils with. The meter galvanometer Trial inserted into the magnet and coil galvanometer found the meter to one side wiggle. Once stationary magnet Ben was back on the needle He pulled out a bar magnet Spike was diverted to the other one. As opposed to the first stop, he found that electricity caused by the magnetic field lines intersect the coil. He called electric current that happening. Induced current (Induced current), which he found that the induced current is caused when there is a contrasting movement of the magnetic coil only. If stopped the electricity was gone. He got the idea to make electricity constantly flowing. Turn the coil to the magnetic field at any time. The invention, called a dynamo at a later time. Which is considered the world's first chemical reaction that does not require the same
, he was appointed a professor. The Royal Society of Chemistry in 1833 after he was interested in the glow. And study all the time He fell ill with Alzheimer's disease in later life and passed away on August 25, 1867 at Hampton Court at the age of 75 years [1].
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ฟาราเดย์ได้ทดลองใช้ลวดขดเป็นวงหลายรอบแบบที่เราเรียกว่าคอยด์โดยต่อปลายทั้งสองของขดลวดเข้ากับกัลวานอมิเตอร์และทดลองสอดแท่งแม่เหล็กเข้าไปในระหว่างขดลวดพบว่ากัลวานอมิเตอร์กระดิกไปข้างหนึ่งเข็มก็เบนกลับที่เดิมพอเขาดึงแท่งแม่เหล็กออกเข็มก็เบนไปอีกทางหนึ่งตรงข้ามกับตอนแรกแล้วหยุดนิ่งเขาพบว่าไฟฟ้าเกิดจากการที่เส้นแรงแม่เหล็กตัดกับขดลวดเขาจึงเรียกกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นว่าMichael Faraday's new based on tons of Surrey, England, in a poor family is the son of Man 3 from the 10 his father James is a blacksmith. He started work at the age of 13 years.Sewing department covers and repair the book. He is also the people like reading. The knowledge, especially about electricity. He tried to find the chance to listen to a lecture on science places.Once in 1812 customers repair books that he is interested in the lecture of scientists. Gave the cards in the science of listening to lectures Humphry Davy organized lectures at the Royal Society, he notes the lecture illustration.He then enrolled as an assistant Davie. The book does Davy impressed, he works!He worked as an assistant to everything in Davie. Since the janitor, secretary, with the money received 25 shilling a week. Which is less than the work at the bookstore. But he was satisfied with the job and observe the experiment of Davy mindfully.. in Europe, he met with important and scientists such as Aung, Pere Volta หลังจากติดตาม Davey to 2 years. Go back to England and more money is 30 shilling a week.Make him famous increased gradually, and initialization City Plilosophical Society where exchange as art talk of those interested in science. He became interested in chemistry during the late 1820 later married to Sarah.The daughter silversmith
.He started to care about electromagnetic his experiment. Magnetic power into electrical energy many times until the experiment, he 2 coil winding ring one. On both ends of the coil one matchAnd the rest with closed coil power supply and switch to electricity through into the coil, he noticed that the galvanometer, connected to another one coil that move. The current flowing in the coil 2 without power to the coil that.He also discovered the magnetic lines of force from experiment pouring iron filings on paper on magnetic
.In 1823 he discovered how to make steel strength than the original rust by using steel nickel steel, stainless steel, called. (Stainless Steel) later in the year 1825 he found compounds benzene, found the chlorine liquid.Other words
.Faraday were using wire coil many around we call waiting. On both ends of the coil with galvanometer. Insert a bar magnet into and experiment showed that during coil galvanometer moves to one side.The needle will turn back when he pulls out the needle bar magnet will turn to the other one, opposite at first, then stops. He found that electricity is caused by the magnetic lines cut with the coil. He called the electricity generated.(Induced current), which he found that the induced current is born when the displacement of the field more with contrasting magnetic coil. If stopped electricity disappeared. He came up with the idea of giving power to flow all the time.He was appointed as professor. In the chemistry of the Royal Society in London.The invention called the dynamo at a later time. Considered the world's first without using a chemical reaction the same
.1833 period after he interested in light and study all the time. He fell ill with amnesia ในบั้นปลาย of life and death on 25 August. In 1867 at the Hampton Court was 75 years [1]
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: