Problems of des garden taAn important problem in philosophy is the lack of a clear answer, of course, that which corresponds to the mathematical sciences, and tak is like this due to the lack of a stable basis for the philosophy and method of the fault. How right it is that ta garden des khikhot the way maths, especially of geometry.เดส์การ์ตส์เชื่อมั่นว่า ความจริงหรือความรู้ทางปรัชญานั้นจะเข้าถึงได้ด้วยเหตุผล ซึ่งต้องสร้างขึ้นเป็นระบบ การศึกษาปรัชญาเป็นการศึกษาเพื่อให้เกิดความรอบรู้และสติปัญญา จะทำให้เรามีความคิดที่รอบคอบและมีความรู้ที่สมบรูณ์เกี่ยวกับสรรพสิ่ง คำว่าปรัชญา เดส์การ์ตส์ หมายความถึง อภิปรัชญาและฟิสิกส์ หรือปรัชญาธรรมชาติ อภิปรัชญาศึกษาความคิดที่ชัดแจ้ง เกี่ยวกับ จิตหรือตัวตน สำหรับฟิสิกส์นั้นศึกษาเพื่อหาหลักการที่จะอธิบายเรื่องวัตถุศึกษาโครงสร้างของโลกและธรรมชาติของสิ่งต่างๆ เขาเปรียบเทียบว่าปรัชญาเหมือนกับต้นไม้ อภิปรัชญาเปรียบได้กับราก ฟิสิกส์เปรียบเหมือนลำต้น เดส์การ์ตส์เน้นความสำคัญของวิธีการ และอภิปรัชญามากกว่าจริยศาสตร์ ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างรากและลำต้นที่แข็งแรงก่อนHow des garden taDes and his methods start ta garden, with the idea that they need to find a starting point for all new. Without the trust of the older philosophers To access the explicit knowledge is informing our thoughts must clearly inform the preliminary round a. Garden naturally believed ta des spirit of our powers or performance of two is ash chat well and the reason Semitic ninnai.Garden des ta brought the way geometry is used in the method of education philosophy. The term Semitic ta chat well as mean troubling des intellectual activity of the mind to make the mind itself understand anything explicitly in the.How to garden des ninnai ta explained that "to infer from the fact that we knew, certainly" Herpes Simplex or point a proposal of how the experience acquired by ninnai sensory. Garden des ta think knowledge, senses that the suspect may be fraudulent. Garden des ta does not provide vital knowledge derived from sensory experience.The question-how to"I think, therefore I exist" (I think, therefore I m)เดส์การ์ตส์ใช้การสงสัยเป็นจุดเริ่มต้นในการหาความรู้ที่แน่นอนทุกสิ่งทุกอย่างสงสัยได้ทั้งสิ้น สิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราจินตนาการ ความสงสัย (doubt) นั่นเองเป็นสิ่งที่มีอยู่อย่างแน่นอน เราสงสัยต่อสิ่งใดๆ เท่ากับเป็นการยืนยันว่าความสงสัยของเรามีอยู่เกิดความสงสัยก็คือเราเกิดความคิด ความคิดก็ต้องมีผู้คิด แสดงว่าผู้คิดต้องมีอยู่ จึงสรุปได้ว่าเมื่อ “ข้าพเจ้าคิดดังนั้นข้าพเจ้าจึงมีอยู่” (I think, therefore I m) ข้อความนี้เป็นความจริงที่ชัดเจนและแน่นอน คือเป็นมูลบทสำหรับนำไปพิสูจน์ความจริงอื่นๆ ต่อไปเดส์การ์ตส์แบ่งความคิดออกเป็น 3 ประเภท คือ ความคิดที่ได้จากประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส เป็นความคิดที่ไม่ชัดเจน น่าสงสัย ความคิดที่เกิดจากจินตนาการ ไม่ชัดเจนและน่าสงสัยเช่นกัน ความคิดที่ติดอยู่ในจิตตั้งแต่เกิด เป็นสิ่งที่จิตรู้ได้เองมีความชัดเจนในตัวและมีความแน่นอนมาตรการตัดสินความจริง (Criterion of Truth)เดส์การ์ตส์อธิบายว่า สิ่งที่แจ่มแจ้งนั้น หมายถึงสิ่งซึ่งปรากฏอย่างชัดแจ้งต่อจิต และสิ่งที่ชัดเจน คือ สิ่งที่แน่นอนและแตกต่างจากสิ่งอื่นๆ ทั้งหมด นี่เป็นมาตราการตัดสินความจริงของเดส์การ์ตส์การพิสูจน์ความมีอยู่ของพระเจ้าเริ่มต้นจากการสำรวจความคิดต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในจิตของเรามีอยู่สามประเภทคือ ความคิดที่ติดตัวมาแต่เกิด ความคิดที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง และความคิดที่ได้มาจากวัตถุภายนอก ความคิดทั้งหลายนั้นย่อมมีสาเหตุที่ทำให้เกิด การคิดเกี่ยวกับพระเจ้านั้น เราจะคิดถึงพระองค์ในลักษณะเป็นสาร พระเจ้าเป็นสารที่ไร้ขอบเขตไม่สมบูรณ์เท่าพระเจ้า จึงเป็นไปไม่ได้ที่ความคิดเกี่ยวกับพระเจ้าที่สมบูรณ์จะมาจากจินของเราเองที่ไม่สมบูรณ์ การคิดถึงสิ่งสมบูรณ์ย่อมมาจากสาเหตุที่สมบูรณ์กว่า นั่นคือมาจากพระเจ้านั่นเอง พระเจ้าจึงเป็นสาเหตุแห่งความคิดนี้ พระเจ้ามีอยู่จริง และเนื่องจากพระเจ้าเป็นอมตะมีอำนาจสูงสุด เป็นสัพพัญญู มีความดีสูงสุดความมีอยู่ของโลกภายนอกเข้าได้ยืนยันแล้วว่า ตัวเราในฐานะที่เป็นสิ่งที่คิดและเป็นสิ่งที่ไม่กินที่ มีอยู่จริง และตัวเราก็สามารถมีความคิดที่ชัดเจน แจ่มแจ้งเกี่ยวกับร่างกายเราเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่คิดและเป็นสิ่งกินที่ ดังนั้นร่างกายของเราจึงต้องมีอยู่จริง ถ้าเราคิดว่าวัตถุภายนอกตัวเราเป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้างมาเพื่อหลอกลวงเรา ไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่จริง ความคิดเช่นนี้ก็น่าจะผิด เพราะพระเจ้ามีแต่ความดี จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะหลอกลวงเรา เมื่อเรารับรู้และเกิดความคิดเกี่ยวกับวัตถุนอกตัวเราอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ก็แสดงว่าต้องมีวัตถุที่เป็นสาเหตุแห่งการรับรู้หรือสาเหตุแห่งความคิดของเรา โลกของวัตถุภายนอกจึงมีอยู่อย่างเป็นอิสระจากจิตของเราแน่นอนปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างจิตกับร่างจิตกับร่างกายเป็นสารสองอย่างที่แตกต่างกัน จิตเป็นสิ่งไม่กินที่ สามารถคิดได้ มีความรู้สึก ร่างกายเป็นสิ่งกินที่ ไม่มีความรู้สึกนึกคิด ทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน สาเหตุทางร่างกายนอกจากจะมีผลกระทบต่อปรากฏการณ์ทางร่างกายด้วยกันแล้ว ยังมีผลกระทบต่อปรากฏการณ์ทางร่างกายด้วย คือ ทั้งจิตและร่างกายต่างก็ส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน จุดที่ทำให้จิตกับร่างกายมีความสัมพันธ์กันหรือส่งผลกระทบถึงกันได้คือต่อมในสมองที่เรียกว่า pineal gland การอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างจิตกับร่างกายในลักษณะนี้เรียกว่าทฤษฎีกริยานิยม ซึ่งเป็นความคิดแบบทวินิยม
การแปล กรุณารอสักครู่..
