หนึ่งในพล็อตหนังคลาสสิกของโลกก็คือ พล็อตที่ว่าด้วย “ตัวละครวัยรุ่นธรรม การแปล - หนึ่งในพล็อตหนังคลาสสิกของโลกก็คือ พล็อตที่ว่าด้วย “ตัวละครวัยรุ่นธรรม อังกฤษ วิธีการพูด

หนึ่งในพล็อตหนังคลาสสิกของโลกก็คือ

หนึ่งในพล็อตหนังคลาสสิกของโลกก็คือ พล็อตที่ว่าด้วย “ตัวละครวัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่ง หนักไปในทางเก็บตัวและไม่มีใครคบ ต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ ซึ่งที่นั่นเขาพยายามปรับตัวให้เข้ากับสังคมรอบตัว แม้จะดูลำบากในช่วงแรก แต่ไม่นานเขาก็จะได้พบเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทและค่อยๆ เปลี่ยนตัวเขาให้กลายเป็นคนใหม่” นี่เป็นพล็อตที่ถูกเล่าซ้ำมาแล้วหลายครั้ง จนเกือบจะเรียกได้ว่าเชย และทำให้ The Perks of Being a Wallflower ที่เลือกจะเล่าเรื่องด้วยพล็อตแบบนี้อีกครั้ง จึงดูไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่เมื่อแรกเห็น จนกระทั่งเมื่อได้ชมก็จะพบว่า ดอกไม้ดอกนี้มีดีกว่าที่คิด และมันสามารถเล่าเรื่องพล็อตเชยๆ ได้มีสเน่ห์ได้อย่าง “ประหลาด”





The Perks of Being a Wallflower เป็นเรื่องของชาลี (โลแกน เลอร์แมน) เด็กหนุ่มที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวและมีปัญหาในการเข้าสังคม นอกจากคนในครอบครัวแล้วเขาไม่มีเพื่อนเลย เปรียบเสมือนดอกไม้ในซอกกำแพงที่ไม่มีใครสนใจแม้ว่ามันจะสวยเพียงไรแต่ก็มักถูกมองผ่าน เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อชาลีเข้าเรียนชั้นไฮสคูล ที่ซึ่งเขาตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ว่าจะหาเพื่อนให้ได้ แต่เส้นทางที่วาดไว้ก็ดูจะผ่านไปอย่างทุลักทุเล เขากลายเป็นคนไม่มีที่ยืนในสังคมโรงเรียน ถ้าหากว่าเขาไม่ได้รู้จักกับรุ่นพี่อย่างแซม (เอ็มมา วัตสัน) และแพทริค (เอสร่า มิลเลอร์) ที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเขา และเปลี่ยนตัวเขาไปทีละนิดในทางที่ดี แต่มิตรภาพที่แน่นแฟ้นนี้ก็กำลังถูกสั่นคลอนด้วยความหลังอันเจ็บปวดของชาลีและเพื่อนๆ รวมไปถึงกับการที่เขาไม่ได้คิดกับแซมแค่เพื่อนอีกต่อไป



จะเห็นได้ว่า The Perks of Being Wallflower เจริญรอยตามพล็อตคลาสิกที่ว่าไว้แทบทุกอย่าง แต่จุดที่ทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังแนวเดียวกันอีกหลายพันเรื่องก็คือ การเล่าเรื่องที่มีสเน่ห์ ละมุนละไม และไม่เร่งหรือพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อบีบคั้นอารมณ์มากเกินไปแทรกด้วยมุขตลกและบทเพลงอยู่เป็นระยะแม้จะดูเหมือนเอื่อยๆเรื่อยๆแต่มันกลายมาเป็นความโดดเด่นที่ส่งอารมณ์ของตัวละครไปจนถึงจุดพีคท้ายเรื่องได้อย่างงดงามเสมือนดอกไม้ริมกำแพงที่ค่อยๆผลิบาน จากที่ไม่ค่อยมีใครสนใจรู้ตัวอีกทีมันก็เป็นดอกไม้ที่เข้ามาจับใจเราไปแล้ว



สิ่งที่ทำ The Perks of Being Wallflower ทำให้เรารู้ก็คือ การที่ใครสักคนจะกลายเป็นคนที่แปลกแยกในสังคม อาจไม่ใช่ความตั้งใจของเขา แต่เป็นเพราะสิ่งที่เขาเคยเผชิญมากในอดีต แต่ละคนล้วนแต่มีปัญหาส่วนตัวที่เราเก็บซ่อนไว้ด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะยอมรับและจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้มากแค่ไหน ชาลีคือคนที่มีปัญหาเช่นนั้น ความทรงจำในวัยเยาว์ที่มีต่อการจากไปของป้าเฮเลนซึ่งเป็นป้าของเขา ได้ทำให้เขากลายเป็นคนโดดเดี่ยวและไม่เข้าสังคม บ่อยครั้งที่เขามักจะเห็นภาพหลอนของป้าเฮเลนเป็นระยะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขายังไม่สามารถหลุดจากปัญหาดังกล่าวได้ มันอาจดูเป็นเรื่องเล็กในสายตาคนอื่น แต่สำหรับเขามันคือกำแพงขนาดใหญ่ในชีวิต การเข้ามาของแซมและแพทริคได้เข้ามาช่วยกร่อนทลายกำแพงในใจของเขา และเปลี่ยนให้เขากลายเป็นคนใหม่ พร้อมๆ กับที่ชาลีเองก็เริ่มเรียนรู้ว่าแซมและแพทริครวมไปถึงเพื่อนในกลุ่มเขาล้วนแต่เคยผ่านสิ่งเลวร้ายมาด้วยกันทั้งสิ้น ชาลีจึงไม่ใช่แต่คนที่คอยรับความช่วยเหลือแต่ขณะเดียวกับเขาก็ช่วยเหลือเพื่อนๆ ด้วย ซึ่งมันสะท้อนให้คนดูอย่างเรารู้สึกถึงคำว่า “มิตรภาพ” แต่มิตรภาพในเรื่องนี้ก็ได้เก่งกาจถึงขนาดที่ว่าแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง ชาลีและเพื่อนๆ อาจเพียงช่วยกันเปิดทางให้เท่านั้น แต่ต้นเหตุของปัญหาจริงๆ เจ้าตัวต้องเป็นคนที่แก้เอง สิ่งที่ชาลีได้เรียนรู้จากการเป็นเพื่อนกับแพทริคกับแซม จึงไม่ใช่เพียงแค่การเปิดตัวเองสู่สังคมเท่านั้น แต่คือความกล้าที่จะหันมาเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเอง



ความโดดเด่นอีกอย่างของหนังเรื่องนี้ คือการเล่าเรื่องเกี่ยวกับ “ปัญหา” ที่ตัวละคนแต่คนเคยเผชิญ ในขณะที่หนังเรื่องอื่นมักจะเล่าปัญหาของแต่ละคนออกมาโดยตรง แต่เรื่องนี้กลับเลือกที่จะเล่าอย่างอ้อมๆ ผ่านภาพ flash-back หรือคำบอกจากเล่าจากคนอื่น โดยเหลือพื้นที่ให้เราปะติดปะต่อเรื่องราวหนหลังเอาเอง สิ่งที่เกิดขึ้นคือในขณะที่เราไม่รู้ว่าปัญหาที่แท้จริงเหล่านี้คืออะไร แต่เราเริ่มรับรู้ได้ว่า ปัญหาที่แต่ละคนเคยเผชิญมัน “ต้องยิ่งใหญ่และเลวร้าย” มากแน่ๆ แต่ในขณะเดียวกันเราก็จะไม่รู้สึกดราม่าฟูมฟายกับปัญหาเหล่านั้นอย่างเกินเหตุ เพราะสิ่งที่หนังต้องการสื่อก็คือ “ไม่ว่าคุณจะเคยเจออะไรมาในอดีต สิ่งสำคัญคือปัจจุบัน” จุดนี้ทำให้หนังเรื่องนี้โดนใจใครหลายคน เพราะแม้เราจะไม่เคยมีหรือมีชีวิตเหมือนกับชาลีหรือตัวละครอื่นในเรื่อง แต่เราก็สามารถซึมซับความรู้สึกและมีอารมณ์ร่วมไปกับหนังได้ไม่ยาก



ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเหล่านักแสดงที่เรียกได้ว่า เพราะถ้าไม่มีพวกเขาก็คงไม่อินกันขนาดนี้ โดยเฉพาะ 3 นักแสดงหลัก โลแกน เลอร์แมนเล่นได้แนบเนียนกับบทชาลีที่ถ่ายทอดของการเป็นคนไม่โดดเด่นในสังคมแต่ก็แฝงไปด้วยความน่ารักเหมือนดอกไม้ริมกำแพงตามชื่อเีรื่อง โดยเฉพาะในซีนอารมณ์ที่ตีบทแตกกระจุย ขณะที่บทแซมของเอมม่า วัตสัน ก็ทำให้เราลืมเฮอร์ไมโอนี่ถือไม้กายสิทธ์ไปเลย กับภาพลักษณ์กับวัยรุ่นสาวที่ดูภายนอกเหมือนจะเปรี้ยวและแรงแต่ก็ซ่อนไว้บางอย่างภายใน แต่ที่ขโมยซีนสุดๆ หนีพ้นเอสร่า มิลเลอร์ในบทแพทริค ที่เป็นมากกว่าัตัวสร้างสีสัน เพราะทำให้เราสามารถทั้งหัวเราะ เศร้า สงสาร และตกใจไปกับทุกครั้งที่ออกมา ที่น่าสนใจในขณะที่นักแสดงแต่ละคนต่างอายุ 20 ขึ้น แต่กลับสมบทเด็กไฮสคูลได้อย่างไม่ขัดเขิน และช่วยเติมเติมความสมบูรณ์ให้หนังเรื่องนี้



ถ้าจะให้พูดถึงความรู้สึกที่มีต่อ The Perks of Being a Wallflower ก็คงบอกได้ว่า นี่ไม่ใช่หนักเรียกน้ำตาที่ดราม่าเข้าเส้น แล้วก็ไม่ใช่หนังฟีลกู้ดที่โลกสวยไปทั้งเรื่อง แต่มันเป็นหนังที่ดูแล้วไม่ฟูมฟมาย แต่ทำให้น้ำ “รื้น” อยู่ในดวงตาได้ เพราะ “จี๊ด” เข้าไปถึงหัวใจ โดยเฉพาะใครเหงาหรือเคยเหงาจะยิ่งจี๊ดเป็นทวีคูณ อาจฟังดูเว่อร์ไปบ้าง แต่คุณต้องลองพิสูจน์เอง
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
One of the world's classic movie, the plot is a plot on "the marvelous one teen character hard to thangkep and" nobody wants to live in a new environment in which they were trying to adapt to the surrounding society. But not long ago he would have found another friend group became close friends, and gradually. Change him into a new man, "he said. This is a plot that has been repeated over and over, then several times until he was almost called Chuck, and The Perks of Being a Wallflower. It is interesting to see how much less when I first saw it when they finally visit this flower was found to have a better idea and it could have been the plot story perfectly charming choei "freak"
.




The Perks of Being a Wallflower is the story of Charlie (Logan Lerman) The young man is very lonely, and there is a problem in society. In addition to the family, he has no friends at all. The story begins when Charlie attend classes at haisakhun, where he set a State itself to find a friend, but the path is drawn over a difficult manner. " He became a person does not have a stand in the school community. (Emma Watson), and phaetrik (s value Miller) who became his close friends and change his view gradually in a way that is better, but the friendship continues, it is wobbly with pain and after Charlie and friends.


Can be seen that The Perks of Being Wallflower classic plot development on the footprints that have almost everything, but the point that makes this movie different from thousands of other same concept it is. The story with the charming lamoon Lamai And do not rush or try to create a situation for too many emotional affliction with a joke or gag is inserted into a song, and even seems to slowly but gradually it became a prominent character's emotions sent to p for khathai point, FDA.Confused with the spring flowers on the virtual wall, gradually sliding. From that rarely have anyone interested in realizing the other one at a time, it was the flowers that come in a charm to it
.


What do The Perks of Being a Wallflower, we know that somebody will become dissimilar societies may not be his intention, but because what he ever confronted in the past. Depending on whether we will accept and deal with those issues much. Charlie is a guy who has a problem like that. Memories of the young towards the Auntie Helen who was his aunt. Often, he will always be hallucinations of aunt Helen is a term which suggests that he is still not out of it. It may look small in the eyes of others, but for him it is a huge obstacle in life. And change, he made new ones. At the same time as Charlie himself began to learn that Sam and a group of friends to reach khruam trips, he enlisted, but bad things have come together, all. With which it is reflected in the people view, we feel the word "friendship" but friendship in this regard, it has to maneuver that resolve all matters. Charlie and friends may just help each other allowing only causing the issue! What Charlie has to learn from being a friend with a Tre khakap Sam. It is not just open yourself to the society only. But it is the courage to come face to face with his own past.
.


Another prominence of this movie is a story about "a problem" that the total number of employees, but the men had confronted. While other movie will often tell each person's issues directly, but this story came out to tell, om pictures. Or a story told by someone from the rest of the area, we have to put together a story that after removal. What happens is that at the moment we don't know the real problem they are anything but we recognize that the problems that each person had to confront it. Most certainly, but at the same time, we would not know to wear out those problems easily to froth drama why because what the movie conveys is that "regardless of whether you have ever come across anything in the past, it is important that today," he said. Because even if we will never have or with life is the same as the other characters or Charlie's but we were able to absorb feelings and emotions are combined with leather and helpful
.


That is not to mention the actors, they are not known because there is no they are not the same size, this particular 3 main actors Logan. In particular, the differing provisions krachui hit the emotional scene. While that chapter of Sam em Mar Watson It makes us forget her body is Obama not to stick to the image with the supernatural teen girls that look like external will sour and strong, but some hidden within. Escape out of the ACE hotel. The phaetrik chapter in Miller is more than constructor color because we can both laugh. Sad pity, and to panic every time it came out that interest as a performer but at the age of 20. And to help fulfill the integrity, this movie
.


If you are talking about feeling The Perks of Being a Wallflower, a probably indicate that this is not a hard call at water line, travel, drama, not feel the stunning world of leather to recover the entire story, but it's not the movies but the water famai fum "ruen" Because "gnathostoma spinigerum" to reach the heart, especially the who am lonely, or ever can am lonely gnathostoma spinigerum multiple woe may sound to some, but you have to try and prove myself
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
หนึ่งในพล็อตหนังคลาสสิกของโลกก็คือ พล็อตที่ว่าด้วย “ตัวละครวัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่ง หนักไปในทางเก็บตัวและไม่มีใครคบ ต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ ซึ่งที่นั่นเขาพยายามปรับตัวให้เข้ากับสังคมรอบตัว แม้จะดูลำบากในช่วงแรก แต่ไม่นานเขาก็จะได้พบเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทและค่อยๆ เปลี่ยนตัวเขาให้กลายเป็นคนใหม่” นี่เป็นพล็อตที่ถูกเล่าซ้ำมาแล้วหลายครั้ง จนเกือบจะเรียกได้ว่าเชย และทำให้ The Perks of Being a Wallflower ที่เลือกจะเล่าเรื่องด้วยพล็อตแบบนี้อีกครั้ง จึงดูไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่เมื่อแรกเห็น จนกระทั่งเมื่อได้ชมก็จะพบว่า ดอกไม้ดอกนี้มีดีกว่าที่คิด และมันสามารถเล่าเรื่องพล็อตเชยๆ ได้มีสเน่ห์ได้อย่าง “ประหลาด”





The Perks of Being a Wallflower เป็นเรื่องของชาลี (โลแกน เลอร์แมน) เด็กหนุ่มที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวและมีปัญหาในการเข้าสังคม นอกจากคนในครอบครัวแล้วเขาไม่มีเพื่อนเลย เปรียบเสมือนดอกไม้ในซอกกำแพงที่ไม่มีใครสนใจแม้ว่ามันจะสวยเพียงไรแต่ก็มักถูกมองผ่าน เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อชาลีเข้าเรียนชั้นไฮสคูล ที่ซึ่งเขาตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ว่าจะหาเพื่อนให้ได้ แต่เส้นทางที่วาดไว้ก็ดูจะผ่านไปอย่างทุลักทุเล เขากลายเป็นคนไม่มีที่ยืนในสังคมโรงเรียน ถ้าหากว่าเขาไม่ได้รู้จักกับรุ่นพี่อย่างแซม (เอ็มมา วัตสัน) และแพทริค (เอสร่า มิลเลอร์) ที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเขา และเปลี่ยนตัวเขาไปทีละนิดในทางที่ดี แต่มิตรภาพที่แน่นแฟ้นนี้ก็กำลังถูกสั่นคลอนด้วยความหลังอันเจ็บปวดของชาลีและเพื่อนๆ รวมไปถึงกับการที่เขาไม่ได้คิดกับแซมแค่เพื่อนอีกต่อไป



จะเห็นได้ว่า The Perks of Being Wallflower เจริญรอยตามพล็อตคลาสิกที่ว่าไว้แทบทุกอย่าง แต่จุดที่ทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังแนวเดียวกันอีกหลายพันเรื่องก็คือ การเล่าเรื่องที่มีสเน่ห์ ละมุนละไม และไม่เร่งหรือพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อบีบคั้นอารมณ์มากเกินไปแทรกด้วยมุขตลกและบทเพลงอยู่เป็นระยะแม้จะดูเหมือนเอื่อยๆเรื่อยๆแต่มันกลายมาเป็นความโดดเด่นที่ส่งอารมณ์ของตัวละครไปจนถึงจุดพีคท้ายเรื่องได้อย่างงดงามเสมือนดอกไม้ริมกำแพงที่ค่อยๆผลิบาน จากที่ไม่ค่อยมีใครสนใจรู้ตัวอีกทีมันก็เป็นดอกไม้ที่เข้ามาจับใจเราไปแล้ว



สิ่งที่ทำ The Perks of Being Wallflower ทำให้เรารู้ก็คือ การที่ใครสักคนจะกลายเป็นคนที่แปลกแยกในสังคม อาจไม่ใช่ความตั้งใจของเขา แต่เป็นเพราะสิ่งที่เขาเคยเผชิญมากในอดีต แต่ละคนล้วนแต่มีปัญหาส่วนตัวที่เราเก็บซ่อนไว้ด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะยอมรับและจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้มากแค่ไหน ชาลีคือคนที่มีปัญหาเช่นนั้น ความทรงจำในวัยเยาว์ที่มีต่อการจากไปของป้าเฮเลนซึ่งเป็นป้าของเขา ได้ทำให้เขากลายเป็นคนโดดเดี่ยวและไม่เข้าสังคม บ่อยครั้งที่เขามักจะเห็นภาพหลอนของป้าเฮเลนเป็นระยะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขายังไม่สามารถหลุดจากปัญหาดังกล่าวได้ มันอาจดูเป็นเรื่องเล็กในสายตาคนอื่น แต่สำหรับเขามันคือกำแพงขนาดใหญ่ในชีวิต การเข้ามาของแซมและแพทริคได้เข้ามาช่วยกร่อนทลายกำแพงในใจของเขา และเปลี่ยนให้เขากลายเป็นคนใหม่ พร้อมๆ กับที่ชาลีเองก็เริ่มเรียนรู้ว่าแซมและแพทริครวมไปถึงเพื่อนในกลุ่มเขาล้วนแต่เคยผ่านสิ่งเลวร้ายมาด้วยกันทั้งสิ้น ชาลีจึงไม่ใช่แต่คนที่คอยรับความช่วยเหลือแต่ขณะเดียวกับเขาก็ช่วยเหลือเพื่อนๆ ด้วย ซึ่งมันสะท้อนให้คนดูอย่างเรารู้สึกถึงคำว่า “มิตรภาพ” แต่มิตรภาพในเรื่องนี้ก็ได้เก่งกาจถึงขนาดที่ว่าแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง ชาลีและเพื่อนๆ อาจเพียงช่วยกันเปิดทางให้เท่านั้น แต่ต้นเหตุของปัญหาจริงๆ เจ้าตัวต้องเป็นคนที่แก้เอง สิ่งที่ชาลีได้เรียนรู้จากการเป็นเพื่อนกับแพทริคกับแซม จึงไม่ใช่เพียงแค่การเปิดตัวเองสู่สังคมเท่านั้น แต่คือความกล้าที่จะหันมาเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเอง



ความโดดเด่นอีกอย่างของหนังเรื่องนี้ คือการเล่าเรื่องเกี่ยวกับ “ปัญหา” ที่ตัวละคนแต่คนเคยเผชิญ ในขณะที่หนังเรื่องอื่นมักจะเล่าปัญหาของแต่ละคนออกมาโดยตรง แต่เรื่องนี้กลับเลือกที่จะเล่าอย่างอ้อมๆ ผ่านภาพ flash-back หรือคำบอกจากเล่าจากคนอื่น โดยเหลือพื้นที่ให้เราปะติดปะต่อเรื่องราวหนหลังเอาเอง สิ่งที่เกิดขึ้นคือในขณะที่เราไม่รู้ว่าปัญหาที่แท้จริงเหล่านี้คืออะไร แต่เราเริ่มรับรู้ได้ว่า ปัญหาที่แต่ละคนเคยเผชิญมัน “ต้องยิ่งใหญ่และเลวร้าย” มากแน่ๆ แต่ในขณะเดียวกันเราก็จะไม่รู้สึกดราม่าฟูมฟายกับปัญหาเหล่านั้นอย่างเกินเหตุ เพราะสิ่งที่หนังต้องการสื่อก็คือ “ไม่ว่าคุณจะเคยเจออะไรมาในอดีต สิ่งสำคัญคือปัจจุบัน” จุดนี้ทำให้หนังเรื่องนี้โดนใจใครหลายคน เพราะแม้เราจะไม่เคยมีหรือมีชีวิตเหมือนกับชาลีหรือตัวละครอื่นในเรื่อง แต่เราก็สามารถซึมซับความรู้สึกและมีอารมณ์ร่วมไปกับหนังได้ไม่ยาก



ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเหล่านักแสดงที่เรียกได้ว่า เพราะถ้าไม่มีพวกเขาก็คงไม่อินกันขนาดนี้ โดยเฉพาะ 3 นักแสดงหลัก โลแกน เลอร์แมนเล่นได้แนบเนียนกับบทชาลีที่ถ่ายทอดของการเป็นคนไม่โดดเด่นในสังคมแต่ก็แฝงไปด้วยความน่ารักเหมือนดอกไม้ริมกำแพงตามชื่อเีรื่อง โดยเฉพาะในซีนอารมณ์ที่ตีบทแตกกระจุย ขณะที่บทแซมของเอมม่า วัตสัน ก็ทำให้เราลืมเฮอร์ไมโอนี่ถือไม้กายสิทธ์ไปเลย กับภาพลักษณ์กับวัยรุ่นสาวที่ดูภายนอกเหมือนจะเปรี้ยวและแรงแต่ก็ซ่อนไว้บางอย่างภายใน แต่ที่ขโมยซีนสุดๆ หนีพ้นเอสร่า มิลเลอร์ในบทแพทริค ที่เป็นมากกว่าัตัวสร้างสีสัน เพราะทำให้เราสามารถทั้งหัวเราะ เศร้า สงสาร และตกใจไปกับทุกครั้งที่ออกมา ที่น่าสนใจในขณะที่นักแสดงแต่ละคนต่างอายุ 20 ขึ้น แต่กลับสมบทเด็กไฮสคูลได้อย่างไม่ขัดเขิน และช่วยเติมเติมความสมบูรณ์ให้หนังเรื่องนี้



ถ้าจะให้พูดถึงความรู้สึกที่มีต่อ The Perks of Being a Wallflower ก็คงบอกได้ว่า นี่ไม่ใช่หนักเรียกน้ำตาที่ดราม่าเข้าเส้น แล้วก็ไม่ใช่หนังฟีลกู้ดที่โลกสวยไปทั้งเรื่อง แต่มันเป็นหนังที่ดูแล้วไม่ฟูมฟมาย แต่ทำให้น้ำ “รื้น” อยู่ในดวงตาได้ เพราะ “จี๊ด” เข้าไปถึงหัวใจ โดยเฉพาะใครเหงาหรือเคยเหงาจะยิ่งจี๊ดเป็นทวีคูณ อาจฟังดูเว่อร์ไปบ้าง แต่คุณต้องลองพิสูจน์เอง
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
One of the world's classic movie plot is the plot that with "teenage characters is a simple, heavy in the way collect and get ostracized. To live in a new environment. There, he tried to adapt to the society around them.But he'll soon meet one group became close friends, and gradually. Replaced him and become a new person. " This is a plot that was repeated several times, until almost be called a rustic and make The Perks of Being a Wallflower.Look so much less attractive at first sight. The visit will find it. This flower is better than you think. And it can tell the story plot, charming old-fashioned. "Weird"
.




.The Perks of Being a Wallflower's Charlie (Logan Lerman) boy that alone and the problem in the society. In addition to the family, he has no friends.The story begins when Charlie attend high school. Where he set himself to find friends with aspiration. But the path drawn seems to be passed at the tangle. He became no standing in society school.(Emma Watson) and Patrick (Ezra Miller), who became a close friend of his , and replaced him bit by bit, in a good way. But the friendship stably this was shaken with painful after the Charlie and friends.


.It can be seen that the The Perks of Being Wallflower to pursue a lot classic that almost everything. But the point that this movie is different from the same movie again thousands of is to tell the story with a charming, softAnd do not accelerate or trying situation to emotional too many jokes and songs are periodically interrupted by even seem to slowly passive but it became a prominent send temperament of the drama to the point of peak at the end.The beautiful flowers along the wall virtual gradually blossomed.From rarely interested the next thing you know, it is a flower in catching us
.


.What do The Perks of Being Wallflower make us know is When someone becomes the alienation in society. May not his intention. But because of what he ever faced so much in the past.Depends on whether we accept and deal with those issues much. Charlie is the one with the problem so. The memories of childhood with the passing of Aunt Helen which is his aunt.Often, he often see hallucinations of Aunt Helen periodically. Which shows that he is not out of the problem. It may seem a little in the eyes of others. But for him it was a large wall in life.And change to become new, along with Charley started to learn that Sam and Patrick to friends in the group, he is ever went through together at all.With which it reflects the way we feel the word "friendship", but friendship in this is strange to the extent that they solve anything. Charlie and friends may only help pave the way only, but the cause of the problem.What Charlie learned from friends with Patrick with Sam. It was not just to open itself to the society. But is the courage to turn to face my past!


.Distinguished in this movie. Is a story about "problems" that the individual but people ever face. While other movies often tell of the people out directly. But it chose to tell indirectly through the image.Or word from his people. The remaining area, we put it all together in the past it. What happens is that while we don't know what the real problem of these is, but we know that the problem that each person ever faced it.A lot. But at the same time, we will not feel drama tearfully to those problems as feats. Because the media is movies like "Wherever you will ever see anything in the past, the most important thing is the present."Because even if we never had or live like Charlie or other characters in the story. But we can absorb the feelings and empathy with the movie easy
.


.Not to mention is not the actor called. Because if not they would not eat that much, especially 3 main actors, Logan.Especially in the scene of emotional acting apart while the sam of Emma Watson. It makes us forget Hermione transfer, holding the wand. With the image with teenage girls that look like sour and external force but also some hidden inside.Escape the Ezra Miller in the Patrick is more colorful builder Because we can laugh, sad, pathetic and shocked with every time out. Interesting as actors, each age 20.And to help fill the perfection to this movie!


.If to talk about feelings The Perks of Being a Wallflower would say that this is not a hard call tears ที่ดรา MA line. And it's not a good movie feel beautiful world to throughout the story. But it is a movie that doesn't fume of my but make water. "To be chastened."Because of the "girl" to the heart. Specifically, lonely or never lonely are more airplay doubly may sound exaggerated, but you have to prove it!
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: