เครื่องจักสานย่านลิเภา เป็นเครื่องจ

เครื่องจักสานย่านลิเภา เป็นเครื่องจักสานประเภทหนึ่ง ที่สานด้วยย่านลิเภา ซึ่งเป็นพืชตระกูลเฟิร์น หรือ เถาวัลย์ชนิดหนึ่ง (ภาษาท้องถิ่นภาคใต้เรียกเถาวัลย์ว่า “ย่าน”) มีคุณสมบัติที่ดี คือ ลำต้นเหนียว ชาวบ้านจึงนำมา จักสานเป็นภาชนะเครื่องใช้ต่างๆ แหล่งผลิตที่สำคัญ ของเครื่องจักสานย่านลิเภาอยู่ที่บ้านหมน ตำบลท่าเรือ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช และกลายเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น รวมถึงทำให้เศรษฐกิจของภูมิภาคดีขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่เป็นหัตถกรรมชั้นสูง และมีราคาค่อนข้างแพง

ประวัติความเป็นมาและที่อยู่ของย่านลิเภา
เครื่องจักสานย่านลิเภา จัดว่าเป็นงานฝีมือชั้นเยี่ยมของชาวภาคใต้ โดยเฉพาะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ถือเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียง ในงานหัตถกรรมชนิดนี้มากที่สุด มีกำเนิดจากการจักสานย่านลิเภา เป็นข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้าน ที่มีเอกลักษณ์สืบทอดจากบรรพบุรุษหลายร้อยปี จนกระทั่งเป็นที่รู้จักของคนเมืองเหลวง เมื่อเจ้านายจากหัวเมืองใต้ นำขึ้นมาถวายในราชสำนัก และเผยแพร่ในหมู่เจ้านาย มาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จนในปี พ.ศ.2513 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริ ให้สอนการสานย่านลิเภาในโครงการศิลปาชีพ มีการพัฒนารูปแบบได้อย่างสวยงามประณีต เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และทั่วประเทศ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวของย่านลิเภา ที่มองๆ ดูก็คล้ายๆ กับเถาวัลย์นั้น จะมีความเหนียว ทนทานอายุใช้งานมากเป็นร้อยๆ ปี คงทนมากกว่าผักตบชวา หรือหวาย แต่กว่าที่เราจะได้ลิเภาจากป่ามา 1เส้นนั้น จะต้องอาศัยทั้งความชำนาญ และประสบการณ์ในการมองหา แยกให้ออกว่าต้นไหน คือ หญ้า หรือต้นไหน คือ ลิเภากันแน่

สถานที่ที่พบย่านลิเภาได้ง่ายมีมากทางภาคใต้ คือจังหวัดนครศรีฯ สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส เป็นต้น

ย่านลิเภาเป็นพืชล้มลุกในตระกูลเฟิร์น แบ่งได้เป็น 3 ชนิด
1) ย่านลิเภาเขา คล้ายกับต้นหวาย ลำต้นใหญ่ มักใช้มัดสิ่งของ
2) ย่านลิเภาหยอง ใบหยิก ลำต้นเล็ก ไม่นิยมนำมาแปรรูป
3) ย่านลิเภาที่ขึ้นอยู่ตามป่าละเมาะหรือชายป่า ลำต้นเรียวงาม เปลือกเหนียวมี 2 แบบ คือ ลำต้นสีดำและลำต้นสีน้ำตาล โดยทั่วไปลำต้นสีน้ำตาลจะมีความยาวและลำต้นที่โตกว่า และจะมีคุณสมบัติที่เหนียวกว่า

วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำเครื่องจักรสานย่านลิเภา
วัสดุ

ลิเภา มี 2 ชนิด คือ สีน้ำตาลและสีดำ โดยสีน้ำตาลมี 2 โทน คือน้ำตาลอมแดง และน้ำตาลอมเหลือง
ลาน มีสีขาวใช้ประกอบในการทำลวดลาย
หวาย ใช้ประกอบเป็นหูหิ้วหรือขอบโครง
ไม้ไผ่ ใช้ทำซี่กระเป๋า ซึ่งจะใช้เป็นเส้นยึดให้เกิดลวดลาย
ไม้เนื้ออ่อน ใช้ขึ้นรูปทรงกระเป๋าหรือผลิตภัณฑ์
อุปกรณ์

มีด ใช้ในการขูดเส้นลิเภาเพื่อให้ได้ตามความต้องการ
เหล็กแหลมหรือเข็ม ใช้เจาะรูที่โครงกระเป๋าเพื่อเสียบไม้ไผ่ และช่วยในการจัดลาย
แผ่นโลหะเจาะรู้ ใช้ในการขูดเกลาให้ย่านลิเภาและไม้ไผ่ที่ใช้ในการทำผลิตภัณฑ์ มีขนาดเท่ากัน
ปลอกนิ้ว ทำด้วยผ้าหนาๆ ใช้สวมนิ้วเวลาขูดย่านลิเภา
กาวลาเท็กซ์ ใช้ทาส้นลิเภาให้ยึดติดกับโครงแบบที่จะทำ หรือใช้ยึดส่วนประกอบของกระเป๋า

ขั้นตอนและวิธีการทำหัตถกรรมย่านลิเภา
ขั้นทำโครง
1. โครงแบบเสียบซี่ ใช้กับไม้ไผ่ที่นำมาเสียบให้ขนานกัน

ขั้นเตรียมย่านลิเภา
1. การปอก เพื่อเอาเปลือกมาทำย่านลิเภา
2. การชักเลียด เพื่อให้ได้ขนาดย่านลิเภาที่เท่ากัน
3. การขูด เพื่อให้ย่านลิเภามีความมันและเหนียว
4. การสาน นำไปขัดกับโครงเพื่อขึ้นลาย

ผลิตภัณฑ์ ที่เกิดจากย่านลิเภา
มี 2 แบบ
1. แบบทึบ ใช้เพียงย่านลิเภาและหวาย
2. แบบโปร่ง ใช้วิธีการเดียวกับการทอผ้า

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Machine woven yanliphao woven type which is distributed by yanliphao which is a type of plant, or vine fern family (the local language in the South called the "neighborhood" vine) qualify the sticky stems. Villagers brought a woven container, various appliances, major producers of woven yanliphao home mon t. port, Amphoe mueang, Nakhon SI thammarat, and became famous in the current goods both at home and abroad can build careers. Generate income for the local people, including making the economy of the region better, since high handicraft product is relatively expensive, and there is a price.The history and the address of the yanliphaoเครื่องจักสานย่านลิเภา จัดว่าเป็นงานฝีมือชั้นเยี่ยมของชาวภาคใต้ โดยเฉพาะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ถือเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียง ในงานหัตถกรรมชนิดนี้มากที่สุด มีกำเนิดจากการจักสานย่านลิเภา เป็นข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้าน ที่มีเอกลักษณ์สืบทอดจากบรรพบุรุษหลายร้อยปี จนกระทั่งเป็นที่รู้จักของคนเมืองเหลวง เมื่อเจ้านายจากหัวเมืองใต้ นำขึ้นมาถวายในราชสำนัก และเผยแพร่ในหมู่เจ้านาย มาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จนในปี พ.ศ.2513 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริ ให้สอนการสานย่านลิเภาในโครงการศิลปาชีพ มีการพัฒนารูปแบบได้อย่างสวยงามประณีต เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และทั่วประเทศ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวของย่านลิเภา ที่มองๆ ดูก็คล้ายๆ กับเถาวัลย์นั้น จะมีความเหนียว ทนทานอายุใช้งานมากเป็นร้อยๆ ปี คงทนมากกว่าผักตบชวา หรือหวาย แต่กว่าที่เราจะได้ลิเภาจากป่ามา 1เส้นนั้น จะต้องอาศัยทั้งความชำนาญ และประสบการณ์ในการมองหา แยกให้ออกว่าต้นไหน คือ หญ้า หรือต้นไหน คือ ลิเภากันแน่สถานที่ที่พบย่านลิเภาได้ง่ายมีมากทางภาคใต้ คือจังหวัดนครศรีฯ สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส เป็นต้นย่านลิเภาเป็นพืชล้มลุกในตระกูลเฟิร์น แบ่งได้เป็น 3 ชนิด1) ย่านลิเภาเขา คล้ายกับต้นหวาย ลำต้นใหญ่ มักใช้มัดสิ่งของ2) ย่านลิเภาหยอง ใบหยิก ลำต้นเล็ก ไม่นิยมนำมาแปรรูป3) ย่านลิเภาที่ขึ้นอยู่ตามป่าละเมาะหรือชายป่า ลำต้นเรียวงาม เปลือกเหนียวมี 2 แบบ คือ ลำต้นสีดำและลำต้นสีน้ำตาล โดยทั่วไปลำต้นสีน้ำตาลจะมีความยาวและลำต้นที่โตกว่า และจะมีคุณสมบัติที่เหนียวกว่าวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำเครื่องจักรสานย่านลิเภาวัสดุลิเภา มี 2 ชนิด คือ สีน้ำตาลและสีดำ โดยสีน้ำตาลมี 2 โทน คือน้ำตาลอมแดง และน้ำตาลอมเหลืองลาน มีสีขาวใช้ประกอบในการทำลวดลายหวาย ใช้ประกอบเป็นหูหิ้วหรือขอบโครงไม้ไผ่ ใช้ทำซี่กระเป๋า ซึ่งจะใช้เป็นเส้นยึดให้เกิดลวดลายไม้เนื้ออ่อน ใช้ขึ้นรูปทรงกระเป๋าหรือผลิตภัณฑ์อุปกรณ์มีด ใช้ในการขูดเส้นลิเภาเพื่อให้ได้ตามความต้องการเหล็กแหลมหรือเข็ม ใช้เจาะรูที่โครงกระเป๋าเพื่อเสียบไม้ไผ่ และช่วยในการจัดลายแผ่นโลหะเจาะรู้ ใช้ในการขูดเกลาให้ย่านลิเภาและไม้ไผ่ที่ใช้ในการทำผลิตภัณฑ์ มีขนาดเท่ากันปลอกนิ้ว ทำด้วยผ้าหนาๆ ใช้สวมนิ้วเวลาขูดย่านลิเภา
กาวลาเท็กซ์ ใช้ทาส้นลิเภาให้ยึดติดกับโครงแบบที่จะทำ หรือใช้ยึดส่วนประกอบของกระเป๋า

ขั้นตอนและวิธีการทำหัตถกรรมย่านลิเภา
ขั้นทำโครง
1. โครงแบบเสียบซี่ ใช้กับไม้ไผ่ที่นำมาเสียบให้ขนานกัน

ขั้นเตรียมย่านลิเภา
1. การปอก เพื่อเอาเปลือกมาทำย่านลิเภา
2. การชักเลียด เพื่อให้ได้ขนาดย่านลิเภาที่เท่ากัน
3. การขูด เพื่อให้ย่านลิเภามีความมันและเหนียว
4. การสาน นำไปขัดกับโครงเพื่อขึ้นลาย

ผลิตภัณฑ์ ที่เกิดจากย่านลิเภา
มี 2 แบบ
1. แบบทึบ ใช้เพียงย่านลิเภาและหวาย
2. แบบโปร่ง ใช้วิธีการเดียวกับการทอผ้า

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Wicker lygodium A wicker type The woven lygodium This is a type of vine plants or ferns. (Localized for South Vine called the "district") has great features is a trunk sticky villagers are taken. Woven vessels appliances The main source of production Lygodium of basketry at home for the harbor district, Muang Nakhon Si Thammarat. And became famous today. Both domestic and foreign Can create jobs and income for local people. The economy of the region better. Because the product is a noble craft. And is rather expensive and the history of lygodium wicker lygodium. Classified as exceptional craftsmanship of the South. Especially the province A reputable source In crafting the most of this kind. The origin of the wicker lygodium A local appliance The unique legacy of hundreds of years. The city is known for holding liquid. When the boss from southern districts Offering taken up at the court. And published in the boss Since the early Rattanakosin period until the year 2513, Her Majesty Queen Sirikit. His Majesty Lygodium project to teach weaving handcrafts. The model was finely developed. Popular extensive local, regional and nationwide. The unique properties of the Magๆ lygodium view is similar to the vine. Is tough A lifetime of a hundred years or more durable, water hyacinth, rattan, but more than that we will have one line Liepa from the wild will require both skill. And experience in looking for I was beginning to separate out the grass or trees where Liepa is exactly the place to find lygodium easily with the South. Is Nakhon Si Satun, Songkhla, Yala, Pattani, Narathiwat, etc. lygodium is a biennial plant family of ferns can be divided into three types : 1) lygodium he resembles a wicker trunk, often tied things 2) lygodium shredded leaves, curly stems, smaller, less popular processed. 3) lygodium that depend on the forest or scrubland. Slender trunk There are two types of clay, bark, stems, black and brown trunk. Basically brown trunk to trunk length and older. And will feature a more ductile material. Equipment used in the weaving machines lygodium material Liepa has two kinds of brown and black. The two-tone brown with a reddish brown. And drab courtyard White is used in the pattern rattan. Used as handles or edges frame bamboo. Use a pocket comb Which will serve as the anchor for the pattern of softwood. The shape pocket or products and knives. Liepa used to scrape line to meet demand spike or needle. Use the bags to plug holes in bamboo frame. And helped to organize the pattern sheet metal. Used to scrape the planing lygodium and bamboo are used to make products. The same size Thimble Made with thick cloth Use a finger to scrape the lygodium latex adhesive. Apply attaches to the heel Liepa configured to do so. Or bags used to hold the components of the process and how to make handicrafts lygodium the project first. Easy configuration plug Use a bamboo skewer to be parallel preparation lygodium one. Stripping to remove the peel to make lygodium 2. Convulsions Iliad lygodium size equal to 3. Scraping, so oily and sticky lygodium 4. Contrary to the weave pattern frame for the product. Lygodium caused by a second series of opaque 1. Use only lygodium and rattan 2. Transparent using the same method of weaving.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Wicker wicker lipao is one type, weave with lipao, which is พืชตระกูล fern or trailing arbutus. (southern dialect called vine. ");" good property is stem sticky.Woven into a container vessels, important sources of basketwork lipao's home, bring Harbour District District, Nakhon Si Thammarat province. And become a famous products at present. Both at home and abroad.Revenue to the local people, including the regional economy better. Because the product is a advanced craft and are quite expensive
.
the history and that of lipao
.Basketwork lipao. He is exquisite craftsmanship of the south. Specifically, Nakhon Si Thammarat province. Is a reputable sources In crafting this kind most. The origins of lipao wicker.With its unique inherited from their ancestors for hundreds of years. Until the city is known for its liquid. When the boss from the cities south brought unto the boss, and published in ตั้งแต่สมัย early Rattanakosin. Until the year B.