ด้วยพระนามของ อัลลอฮฺลมหายใจสุดท้าย

ด้วยพระนามของ อัลลอฮฺ
ลมหายใจสุดท้ายของท่านร่อซูลุลลอฮ์...

ดวงอาทิตย์เริ่มสูงขื้น แต่ประตูบ้านของท่านรอซูลุลลอฮ์ยังคงปิดอยู่ ท่านร่อซูลุลลอฮ์กำลังนอนด้วยความอ่อนเพลียซึ่งสังเกตุได้จากคิ้วของท่าน ที่นอนของท่านซึ่งเป็นเสื่อที่ทำจากก้านใบอินทผลัมก็เริ่มเปียกด้วยเหงื่อที่ไหลออกมาจากร่างของท่าน ในขณะนั้นก็ได้มีเสียงเรียกจากนอกประตูบ้าน "ฉันเข้าไปได้มั๊ย" แต่ท่านหญิงฟาติมะห์ก็ไม่ยินยอมให้เข้ามา "ต้องขอมาอัฟด้วย พ่อของฉันกำลังป่วย" ท่านหญิงฟาติมะห์ได้กล่าวพร้อมกับปิดประตูและกลับมาอยู่เคียงข้างท่านร่อซูลุลลอฮ์ตามเดิม ซึ่งท่านร่อซูลก็ได้ลืมตาและถามท่านหญิงฟาติมะห์ว่า "ใครมาหรอ ลูก?" ท่านหญิงฟาติมะห์ก็ได้กล่าวตอบอย่างอ่อนโยนแก่ท่านร่อซูล "ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะท่านพ่อ และรู้สึกว่าฉันเพิ่งจะเคยเห็นนี่ล่ะ" ท่านร่อซูลจึงได้จ้องมองหน้าบุตรีของท่านด้วยแววตาแห่งความห่วงใยเหมือนกับจะไม่ได้มองหน้าของบุตรีของท่านอีกต่อไปแล้ว และท่านร่อซูลก็ได้กล่าวกับท่านหญิงฟาติมะห์ว่า "ลูกรู้มั๊ย..ชายผู้นั้น ความจริงแล้ว เขาคือผู้ที่จะมาลบล้างความสุขอันชั่วคราวทั้งหลาย เขาคือผู้ที่จะพรัดพรากจากการพบกันในดุนยา เขาคือ ท่านมลาอิกัลเมาต์นั่นเอง" ท่านหญิงฟาติมะห์ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ ทันใดนั้นมลาอิกัลเมาต์ก็ได้เข้ามาใกล้ชิดตัวของท่านร่อซูลุลลอฮ์ แต่ท่านร่อซูลก็ได้ถาม มลาอิกัลเมาต์ว่า "ทำไม ญิบรีลไม่มาด้วยล่ะ?" หลังจากนั้นมลาอิกัต ญิลรีลก็ได้ถูกเชิญมาด้วย ซึ่งความจริงแล้ว มลาอิกัตญิบรีลเตรียมพร้อมก่อนหน้านี้แล้วเพื่อที่จะรับวิญญานของผู้ที่เป็นที่รักยิ่งของอัลลอฮ์
ท่านร่อซูลได้ถามญิบรีลด้วยน้ำเสียงที่อ่อนเพลีย "ญิบรีล.. ได้โปรดบอกฉันหน่อยว่า ฉันมีสิทธิอะไรบ้างเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักต์ของอัลลอฮ์" ญิบรีลก็จึงได้ตอบว่า "บรรดาประตูในฟาฟ้าทั้งหลายก็จะถูกเปิดออก บรรดามลาอิกัตทั้งหลายกำลังเฝ้าคอยดวงวิญญานของท่าน สวรรค์ทั้งหมดได้ถูกเปิดกว้างเพื่อรอคอยการมาของท่าน" คำตอบของญิบรีลก็ไม่ได้ทำให้ท่าร่อซูลหมดความกังวลแต่อย่างใด ญิบรีลก็จึงได้ถามท่านร่อซูลุลลอฮ์ว่า "โอ้ท่านร่อซุลุลลอฮ์ ท่านยังไม่รู้สึกสบายใจกับข่าวนั้นหรือ?" ท่านร่อซูลก็จึงได้ถามญิบรีลอีกว่า "แล้วอุมัตของฉันล่ะ พวกเขาจะมีชะตากรรมอย่างไรบ้าง?" ญิบรีลก็ได้ตอบว่า "ท่านไม่ต้องห่วงหรอก โอ้ร่อซูลุลลอฮ์ ฉันได้ยินอัลลอฮ์ทรงตรัสแก่ฉันว่า "ข้าห้ามมิให้ผู้ใดเข้าสวรรค์ ยกเว้นอุมัตของมูฮำมัดเท่านั้นที่จะเข้าไปได้" เวลาก็ใกล้เข้ามาเต็มที มลาอิกัตอิสรออีลทำหน้าที่ดึงวิญญานของท่านร่อซูลุลลอฮ์ด้วยความนิ่มนวล ทันใดนั้นร่างของร่อซูลุลลอฮ์ก็เต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลออกมา และท่านร่อซูลก็ได้พูดกับญิบรีลด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "โอ้ญิบรีล ช่างเจ็บปวดเหลือเกินขณะวิญญานจะออกจากร่าง (ซะการ่อตุลเมาต์) " ท่านหญิงฟาติมะห์ถึงกับหลับตา ท่านอาลีซึ่งอยู่เคียงข้างในเวลานั้นก็ก้มหน้าลง ญิบรีลก็ได้ผินหน้าออกไป ทันใดนั้น.. ท่านร่อซูลก็ได้เอ่ยกับญิบรีลอีกว่า "หน้าของฉันมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรอ จึงทำให้ท่านถึงกับต้องผินหน้าออกไป โอ้ญิบรีล?" ญิบรีลก้ได้ตอบกับท่านร่อซูลว่า "จะมีใครกล้ามองใบหน้าของผู้ที่เป็นรักยิ่งของอัลลอฮ์ ซึ่งกำลังถูกดึงวิญญานออกด้วยความเจ็บปวด" ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดอันแสนทรมานของท่านร่อซูลุลลอฮ์ "โอ้อัลลอฮ์ ความตายนี่ช่างเจ็บปวดและทรมานเหลือเกิน ขอให้ความเจ็บปวดนี้ให้ถูกกับฉันคนเดียว อย่าให้อุมัตของฉันต้องเจ็บปวดแบบนี้เลย" จากนั้น ร่างของร่อซูลุลลอฮ์ ก็เริ่มเย็นลง เท้าและมือก็หยุดนิ่ง หน้าอกของท่านร่อซูลก็หยุดการเคลื่อนไหว ริมฝีปากของท่านขยับเหมือนกับจะกระซิบบอกอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นท่านอาลีก็ได้เอาหูเข้าไปชิดเพื่อฟังท่านร่อซูล ซึ่งได้สั่งเสียไว้ว่า "จงรักษาการละหมาดและดูแลรักษาบรรดาผู้ที่อ่อนแอในหมู่พวกเท่าน" ด้านนอกประตู ก็ได้ยินเสียงโห่ร้อง เหล่าบรรดาซอฮาบะห์ต่างได้กอดกันด้วยน้ำตานองหน้า ท่านหญิงฟาติมะห์ก็ได้เอามือปิดหน้า และท่านอาลีก็ได้เอาหูเข้ามาใกล้ชิดกับริมฝีปากของท่านร่อซูลุลลอฮ์อีกครั้ง และคำพูดสุดท้ายที่ออกจากปากของท่านร่อซูลุลลอฮ์ในเวลานั้นก็คื
อ "อุมมาตี อุมมาตี อุมมาตี.. ประชาชาติของฉัน ประชาชาติของฉัน ประชาชาติของฉัน"

ผลลัพธ์ (มาเลย์) 1:

Dengan nama AllahLona Xu Lu nafas terakhir...ดวงอาทิตย์เริ่มสูงขื้น แต่ประตูบ้านของท่านรอซูลุลลอฮ์ยังคงปิดอยู่ ท่านร่อซูลุลลอฮ์กำลังนอนด้วยความอ่อนเพลียซึ่งสังเกตุได้จากคิ้วของท่าน ที่นอนของท่านซึ่งเป็นเสื่อที่ทำจากก้านใบอินทผลัมก็เริ่มเปียกด้วยเหงื่อที่ไหลออกมาจากร่างของท่าน ในขณะนั้นก็ได้มีเสียงเรียกจากนอกประตูบ้าน "ฉันเข้าไปได้มั๊ย" แต่ท่านหญิงฟาติมะห์ก็ไม่ยินยอมให้เข้ามา "ต้องขอมาอัฟด้วย พ่อของฉันกำลังป่วย" ท่านหญิงฟาติมะห์ได้กล่าวพร้อมกับปิดประตูและกลับมาอยู่เคียงข้างท่านร่อซูลุลลอฮ์ตามเดิม ซึ่งท่านร่อซูลก็ได้ลืมตาและถามท่านหญิงฟาติมะห์ว่า "ใครมาหรอ ลูก?" ท่านหญิงฟาติมะห์ก็ได้กล่าวตอบอย่างอ่อนโยนแก่ท่านร่อซูล "ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะท่านพ่อ และรู้สึกว่าฉันเพิ่งจะเคยเห็นนี่ล่ะ" ท่านร่อซูลจึงได้จ้องมองหน้าบุตรีของท่านด้วยแววตาแห่งความห่วงใยเหมือนกับจะไม่ได้มองหน้าของบุตรีของท่านอีกต่อไปแล้ว และท่านร่อซูลก็ได้กล่าวกับท่านหญิงฟาติมะห์ว่า "ลูกรู้มั๊ย..ชายผู้นั้น ความจริงแล้ว เขาคือผู้ที่จะมาลบล้างความสุขอันชั่วคราวทั้งหลาย เขาคือผู้ที่จะพรัดพรากจากการพบกันในดุนยา เขาคือ ท่านมลาอิกัลเมาต์นั่นเอง" ท่านหญิงฟาติมะห์ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ ทันใดนั้นมลาอิกัลเมาต์ก็ได้เข้ามาใกล้ชิดตัวของท่านร่อซูลุลลอฮ์ แต่ท่านร่อซูลก็ได้ถาม มลาอิกัลเมาต์ว่า "ทำไม ญิบรีลไม่มาด้วยล่ะ?" หลังจากนั้นมลาอิกัต ญิลรีลก็ได้ถูกเชิญมาด้วย ซึ่งความจริงแล้ว มลาอิกัตญิบรีลเตรียมพร้อมก่อนหน้านี้แล้วเพื่อที่จะรับวิญญานของผู้ที่เป็นที่รักยิ่งของอัลลอฮ์ท่านร่อซูลได้ถามญิบรีลด้วยน้ำเสียงที่อ่อนเพลีย "ญิบรีล.. ได้โปรดบอกฉันหน่อยว่า ฉันมีสิทธิอะไรบ้างเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักต์ของอัลลอฮ์" ญิบรีลก็จึงได้ตอบว่า "บรรดาประตูในฟาฟ้าทั้งหลายก็จะถูกเปิดออก บรรดามลาอิกัตทั้งหลายกำลังเฝ้าคอยดวงวิญญานของท่าน สวรรค์ทั้งหมดได้ถูกเปิดกว้างเพื่อรอคอยการมาของท่าน" คำตอบของญิบรีลก็ไม่ได้ทำให้ท่าร่อซูลหมดความกังวลแต่อย่างใด ญิบรีลก็จึงได้ถามท่านร่อซูลุลลอฮ์ว่า "โอ้ท่านร่อซุลุลลอฮ์ ท่านยังไม่รู้สึกสบายใจกับข่าวนั้นหรือ?" ท่านร่อซูลก็จึงได้ถามญิบรีลอีกว่า "แล้วอุมัตของฉันล่ะ พวกเขาจะมีชะตากรรมอย่างไรบ้าง?" ญิบรีลก็ได้ตอบว่า "ท่านไม่ต้องห่วงหรอก โอ้ร่อซูลุลลอฮ์ ฉันได้ยินอัลลอฮ์ทรงตรัสแก่ฉันว่า "ข้าห้ามมิให้ผู้ใดเข้าสวรรค์ ยกเว้นอุมัตของมูฮำมัดเท่านั้นที่จะเข้าไปได้" เวลาก็ใกล้เข้ามาเต็มที มลาอิกัตอิสรออีลทำหน้าที่ดึงวิญญานของท่านร่อซูลุลลอฮ์ด้วยความนิ่มนวล ทันใดนั้นร่างของร่อซูลุลลอฮ์ก็เต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลออกมา และท่านร่อซูลก็ได้พูดกับญิบรีลด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "โอ้ญิบรีล ช่างเจ็บปวดเหลือเกินขณะวิญญานจะออกจากร่าง (ซะการ่อตุลเมาต์) " ท่านหญิงฟาติมะห์ถึงกับหลับตา ท่านอาลีซึ่งอยู่เคียงข้างในเวลานั้นก็ก้มหน้าลง ญิบรีลก็ได้ผินหน้าออกไป ทันใดนั้น.. ท่านร่อซูลก็ได้เอ่ยกับญิบรีลอีกว่า "หน้าของฉันมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรอ จึงทำให้ท่านถึงกับต้องผินหน้าออกไป โอ้ญิบรีล?" ญิบรีลก้ได้ตอบกับท่านร่อซูลว่า "จะมีใครกล้ามองใบหน้าของผู้ที่เป็นรักยิ่งของอัลลอฮ์ ซึ่งกำลังถูกดึงวิญญานออกด้วยความเจ็บปวด" ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดอันแสนทรมานของท่านร่อซูลุลลอฮ์ "โอ้อัลลอฮ์ ความตายนี่ช่างเจ็บปวดและทรมานเหลือเกิน ขอให้ความเจ็บปวดนี้ให้ถูกกับฉันคนเดียว อย่าให้อุมัตของฉันต้องเจ็บปวดแบบนี้เลย" จากนั้น ร่างของร่อซูลุลลอฮ์ ก็เริ่มเย็นลง เท้าและมือก็หยุดนิ่ง หน้าอกของท่านร่อซูลก็หยุดการเคลื่อนไหว ริมฝีปากของท่านขยับเหมือนกับจะกระซิบบอกอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นท่านอาลีก็ได้เอาหูเข้าไปชิดเพื่อฟังท่านร่อซูล ซึ่งได้สั่งเสียไว้ว่า "จงรักษาการละหมาดและดูแลรักษาบรรดาผู้ที่อ่อนแอในหมู่พวกเท่าน" ด้านนอกประตู ก็ได้ยินเสียงโห่ร้อง เหล่าบรรดาซอฮาบะห์ต่างได้กอดกันด้วยน้ำตานองหน้า ท่านหญิงฟาติมะห์ก็ได้เอามือปิดหน้า และท่านอาลีก็ได้เอาหูเข้ามาใกล้ชิดกับริมฝีปากของท่านร่อซูลุลลอฮ์อีกครั้ง และคำพูดสุดท้ายที่ออกจากปากของท่านร่อซูลุลลอฮ์ในเวลานั้นก็คื"Osama Osama Osama mamati mamati mamati... Negara saya, bangsa saya, negara saya."

ผลลัพธ์ (มาเลย์) 2:

Dengan nama Allah
nafas terakhir Rasulullah ...

matahari mula takungan yang lebih tinggi. Tetapi pintu Rasulullah masih ditutup. Beliau Rasulullah berbaring dengan keletihan, yang boleh diiktiraf dari dahinya. Katil anda adalah tikar yang diperbuat daripada daun sawit basah dengan peluh yang mengalir keluar dari badan anda. Semasa di sana, beliau telah dipanggil dari luar pintu. "Saya tidak boleh tahu," tetapi Lady Fatima Mahdi tidak izin akan datang. "Kami perlu datang dengan ia. Bapa saya sakit, "Lady Fatima Mahdi berkata dengan pintu tertutup dan bahagian belakang Rasul Allah seperti yang asal. Anda rasul adalah melakukan dan bertanya Lady Fatima Mahdi, "Siapakah kamu?" Lady Fatima Mahdi katanya menjawab sedikit kepadamu seorang Rasul. "Saya tidak tahu bapa saya. Dan merasakan bahawa saya baru sahaja dilihat di sini? "Suruhan sudah merenung di hadapan anak perempuan anda dengan mata yang menjadi perhatian tidak akan kelihatan seperti wajah anak anda lagi. Dan Allah berfirman kepada Lady Fatima Mahdi berkata. "Saya tahu .. Malah, beliau adalah orang yang dapat mengalahkan mereka keseronokan sementara. Beliau adalah berlepas dari Pradhan bertemu secara peribadi, dia diperdayakan MLA Donegal Mount Isa sendiri "Lady of Fatima Mahdi untuk menahan air mata. Tiba-tiba MLA Donegal Mount Isa datang lebih dekat kepada Rasul kamu Allah. Tetapi Rasul bertanya. MLA Donegal Mount Isa, "Mengapa Gabriel tidak datang dengan saya?" MLA Bugatti. Reel Wanita telah dijemput untuk datang oleh. Malah, MLA Bugatti Gabriel disediakan sebelum ini agar mendapat semangat kekasih Allah
semoga Allah meminta Gabriel, dalam nada keletihan, "Gabriel .. Sila beritahu saya Apa yang saya ada di hadapan untuk tetamu Allah, "Gabriel menjawab bahawa ia adalah. "Mereka pintu di langit Farmington telah dibuka. The MLA yang sedang menunggu untuk semangat Bugatti rakyat. Semua syurga telah dibuka untuk menunggu kedatangan "Jawapannya Gabriel tidak membuat Tha Rasulullah bimbang sama sekali. Gabriel juga telah bertanya kepada Rasulullah saw bersabda. "Oh, tunggu Zeus Luke Allah. Adakah anda tidak berasa selesa dengan berita itu? "Dia kemudian bertanya kepada Rasul Gabriel berkata. "Kemudian Omar adalah saya. Nasib mereka akan menjadi seperti? "Jibril berkata. "Anda tidak perlu bimbang Oh Rasulullah saw. Saya mendengar Allah berkata kepada saya. "Saya tidak akan masuk syurga. Kecuali Muhammad Omar ฮ m terikat hanya mempunyai "masa menghampiri penuh. MLA Paradise Bani Israel berfungsi untuk menarik semangat Rasulullah saw dengan rahmat. Tiba-tiba, badan Rasulullah saw penuh dengan peluh yang mengalir keluar. Dan Allah berkata kepada Jibril dengan suara yang lembut, "Oh, ia menyakitkan jadi sementara Gabriel semangat untuk meninggalkan badan. (Zakat bersisik Mount Messenger) "Lady Fatima Mahdi dengan mata tertutup. Ali, yang sebelah menyebelah pada satu masa, kemudian tunduk. Gabriel telah berpaling tiba-tiba .. saya nyatakan kepadamu seorang rasul Gabriel berkata. "Ia jahat, maka saya melakukannya. Jadi, anda mempunyai untuk berubah, wahai Jibril? "Saya menjawab dengan utusan Gabriel. "Siapa yang akan berani untuk melihat wajah-wajah kekasih Allah. Yang sedang semangat menarik diri dalam kesakitan, "tiba-tiba mendengar menjerit kesakitan terletak penyeksaan Rasulullah saw:" Ya Allah, kematian begitu menyakitkan dan menyeksakan. sangat Mari kesakitan ini untuk bersendirian dengan saya. Jangan biarkan Omar menyakiti saya cara ini, "draf Rasulullah saw. Ia mula sejuk Kaki dan tangan ia terhenti Bust Rasul kamu berhenti bergerak. Seperti yang anda menggerakkan bibir anda untuk membisikkan sesuatu. Tiba-tiba Ali mempunyai telinga untuk mendengar rapat dengan Rasul. Yang mendakwa bahawa "Jaga solat dan yang lemah di antara mereka sebagai" pintu luar kedengaran menjerit. Ini adalah perisian Sabah dgn suara sedih memeluk antara satu sama lain. Lady Fatima Mahdi ditangguhkan. Ali mengambil telinganya dan lebih dekat dengan bibir Rasulullah saw lagi. Dan kata-kata terakhir dari mulut Rasulullah saw pada masa itu adalah separa sedar
yang "Umma Umma Mati Mati Mati Um .. orang saya. umat-Ku Umat-Ku "