อิบนุสีนา (Avicenna) ค.ศ.980-1037 นักปรัชญา นักการแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ของชาวมุสลิม รู้จักกันในนาม อัช-ชัยคฺ อัร-ร่ออีส ถือกำเนิดในเมือง อัฟ-ชินะฮฺ ใกล้กับนครบุคอรอ และเสียชีวิตที่นครฮะมะซาน, ศึกษาปรัชญาของอริสโตเติล อย่างลึกซึ้ง และได้รับอิทธิพลจากแนวปรัชญา ของสำนัก นิว พลูติน และมีแนวคิดในปรัชญา เชิงศูฟีย์เป็นของตนเอง ส่วนหนึ่งจากตำราที่เขาแต่งขึ้น และได้รับการตีพิมพ์ในตะวันตก คือ อัล-กอนูน ฟี อัฏฏิบบฺ, อัช-ชิฟาอฺ, อัน-นะญะฮฺ, อัล-อิชารอต วัตตัมบิฮาต, อัล-หุดูด เป็นต้น
อิบนุสีนา เป็นนักปราชญ์ในขั้นพหูสูตร คือรอบรู้ในศาสตร์แขนงต่างๆ เช่น ปรัชญา การแพทย์ ดาราศาสตร์ คำนวณ ธรณีวิทยา เภสัชศาสตร์ ธรรมชาติวิทยา ดนตรี และบทกวี เป็นต้น โดยเฉพาะด้านการแพทย์นั้น ถือว่าอิบนุสีนา เป็นผู้นำของนักการแพทย์ ที่มีความอัจฉริยะและโดดเด่นที่สุด ในยุคกลาง ตำราอัล-กอนูน Canon ของอิบนุสีนา ถูกตีพิมพ์ถึง 16 ครั้ง ในช่วง 30 ปีสุดท้าย จากคริสตศตวรรษที่ 15 วิเลียม ออสเลอร์ นักคิดชาวตะวันตกกล่าวว่า “ตำราอัล-กอนูน ยังคงเป็นไบเบิ้ลทางการแพทย์ ที่ยาวนานที่สุด ในดินแดนตะวันออก”
บรรดามหาวิทยาลัยในยุโรป ถือเอาตำราอัล-กอนูน เป็นตำราพื้นฐานในการสอนแพทย์ศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ หรือสกอตแลนด์ และมหาวิทยาลัยโบโลนญ่า ในอิตาลี ถือเป็น มหาวิทยาลัยแห่งแรก ที่จัดตำราอัล-กอนูน เป็นตำราพื้นฐาน และตำราอ้างอิง อย่างเป็นทางการ ในการสอนแพทย์ศาสตร์ จนกระทั่งหลักสูตรของนักศึกษาแพทย์ ในมหาวิทยาลัย และวิทยาลัยของยุโรป ครึ่งหนึ่ง เอามาจากตำราเล่มนี้ นับแต่ตอนปลายคริสตศตวรรษที่ 15 จนถึงตอนต้นคริสตศตวรรษที่ 17 ทุกวันนี้ ในหอประชุมคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยปารีส ยังคงมีภาพของอิบนุสีนา และอัร-รอซีย์ ขนาดใหญ่ติดอยู่ เพื่อเป็นอนุสรณ์ของบุคคลทั้งสอง
อิบนุสีนา เป็นนักการแพทย์คนแรก ที่ใช้เข็มฉีดยา และการใช้ยาสลบ ในการผ่าตัดคนไข้ และเป็นนักการแพทย์คนแรก ที่ศึกษาอย่างลึกซึ้ง เกี่ยวกับโรคกระเพาะอักเสบ และ ทฤษฎี ในการเกิดโรคมะเร็ง ที่เขาได้อธิบายเอาไว้ ยังคงเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง จริงอยู่ข้อมูลพื้นฐานทางการแพทย์ ของอิบนุสีนา เอามาจากชาวกรีก หากจะเรียกว่า คัดลอกความคิดของนักปราชย์ชาวกรีก ก็คงไม่ผิด ซึ่งไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่กลับเป็นคุณูปการอันใหญ่หลวง ต่อวงการวิชาการของโลก ในยุคกลาง เพราะต้นฉบับภาษากรีก และภาษาละตินเดิม ของชาวกรีกนั้น สูญหายไปหมด จะศึกษาค้นพบได้ จากตำราที่นักปราชญ์มุสลิมอาหรับ ได้ถ่ายภาษาเอาไว้เท่านั้น
โดยการถ่ายทอดของชาวอาหรับมุสลิม ในยุคกลาง ทำให้รู้ว่านักปราชญ์กรีกคนใด กล่าวทฤษฎีของตนเอาไว้ โดยจะไม่มีการแอบอ้าง หรือโมเมชั่นว่า เป็นทฤษฎีที่ชาวอาหรับคิดค้นเอง ซึ่งต่างจากที่ฝรั่ง หรือแม้กระทั่งชาวกรีกเอง ที่มักจะแอบอ้างทฤษฎี ว่า เป็นของตนเองทั้งๆ ที่ลอกทฤษฎีนั้น มาจากชาวอียิปต์ (ไอยคุปต์) โบราณ ที่สำคัญเมื่อชาวอาหรับมุสลิม ในยุคกลาง ถ่ายภาษาจากตำราของชาวกรีก เป็นภาษาอาหรับแล้ว พวกเขาก็อรรถาธิบาย วิพากษ์วิจารณ์ และศึกษาต่อยอด และหักล้างทฤษฎีของชาวกรีก ที่ผิดพลาด และ พิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเป็นระบบ
การปฏิเสธทฤษฎีกายวิภาคของอิบนุสีนา โดยลิโอนาร์โด ดาร์วินชี ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่อิบนุสีนาได้คิดค้น และสร้างคุณูปการ ไว้แก่อารยธรรมของโลก ในยุคกลาง จนเป็นปัจจัยสำคัญ ของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการในยุโรป เป็นสิ่งที่ไร้ค่าแต่อย่างใด และไม่ได้ทำให้ทฤษฎีอื่นๆ ที่อิบนุสีนา ได้คิดค้นเอาไว้ เป็นสิ่งที่ด้อยความน่าเชื่อถือลง
การเขียนตามข้อมูล จากวิกิพิเดียในทำนองนั้น เป็นเรื่องปกติของคน ที่เดินตามก้นฝรั่งตาน้ำข้าว ซึ่งมักจะปฏิเสธความดีความชอบ ของนักปราชญ์ชาติภาษาอื่น โดยเฉพาะมุสลิม และการเผาตำราอัล-กอนูน ของพาราเซลลัส ก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินความคาดหมาย สำหรับพวกฝรั่งที่มีอคติต่อชาวอาหรับมุสลิม ซึ่งมีสถานะเป็นครูของชาวยุโรป และการล้มทฤษฎี ในเรื่องการคค้นพบระบบหมุนเวียนโลหิต ในร่างกายคน ของวิลเลียม ฮาร์วีย์ ก็ไม่มีอะไร มากไปกว่า การหักล้างทฤษฎีหนึ่ง ด้วยอีกทฤษฎีหนึ่ง ซึ่งชาวอาหรับ มุสลิมได้ทำมาก่อนแล้ว และนั่นก็เป็นข้อยืนยันว่า พวกเขา หรือวิลเลียม ฮาร์วีย์ ก็ต้องเคยศึกษาตำราทางการแพทย์ ของอิบนุสีนามาแล้วเช่นกัน หากไม่มีอิบนุสีนา ก็ย่อมไม่มีวิลเลียม ฮาร์วีย์ เช่นกัน และถ้าอิบนุสีนา มิได้นำเสนอทฤษฎีทางกายวิภาคศาสตร์เอาไว้ ในตำราของเขาแล้ว อะไรเล่าจะเป็นแรงบันดาลใจ ให้ลีโอนาโอ อาวินชี หันมาศึกษาอย่างจริงจัง ในศาสตร์แขนงนี้ ในบั้นปลายชีวิตของเขา
โปรดอย่าลืมว่า ข้อมูลในวิกิพีเดียสารานุกรมเสรีนั้น มิใช่ข้อมูลที่ถูกต้องไปเสียทั้งหมด และผู้ที่ให้ข้อมูล ก็ลอกข้อมูล มาจากตำราที่ถูกเขียนขึ้น อีกทอดหนึ่ง และ แน่นอนตำราที่ฝรั่งตะวันตกเขียนขึ้น ก็มักจะไม่ให้ราคากับนักปราชญ์ชาวมุสลิม อยู่แล้ว เรื่องเอาดีใส่ตัว แล้วไม่ยอมรับความดีความชอบของผู้อื่น เป็นสิ่งที่ถูกเจือปน อยู่ในน้ำนมมารดาของพวกเขา เป็นปกติอยู่แล้ว ยกเว้นผู้ที่มีใจเป็นกลาง ซึ่งก็มีน้อยมาก เมื่อเทียบกับชนส่วนใหญ่