เอกภพคนจำนวนมากเข้าใจผิดเกี่ยวกับภา

เอกภพ
คนจำนวนมากเข้าใจผิดเกี่ยวกับภาพของเอกภพที่เราอาศัยอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ Bigbang หลายคนเข้าใจว่า Bigbang คือการระเบิดของอะไรสักอย่างกระจายออกสู่ที่ว่างหรือกระจายออกมาสู่บางสิ่ง ซึ่งมันผิด! พอเข้าใจผิดก็ทำให้เกิดคำถามผิดๆตามมาอีกมากมาย
คำถามคืออะไรทำให้เกิดความเข้าใจผิดนี้
คำตอบคือ กราฟฟิกต่างๆที่ถูกใช้เพื่ออธิบายมักทำให้เกิดความสับสน อีกอย่างหนึ่งคือชื่อ Bigbang นั้นก็สื่อความหมายการกำเนิดของเอกภพได้ไม่ดีเท่าไหร่ด้วย ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 (ราวๆห้าสิบปีก่อน) มีการต่อสู้ระหว่างสองแนวคิดหลักๆที่อธิบายว่าเอกภพเกิดขึ้นมาอย่างไรและเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
1.เอกภพแบบคงที่ (Steady State model) ที่เชื่อว่าเอกภพไม่มีจุดเริ่มต้นหรือจุดจบ
2.ทฤษฎีบิ๊กแบง (Big Bang model) ที่เชื่อว่าเอกภพมีจุดเริ่มต้น
เฟรด ฮอยล์ หนึ่งในผู้นำของแนวคิดเอกภพแบบคงที่เอ่ยคำว่าบิ๊กแบง ขึ้นมาในรายการวิทยุ ซึ่งคำนี้กลายเป็นคำกล่าวที่ติดหูและทุกคนใช้เรียกต่อๆกันมาตลอด
เฟรด ฮอยล์ ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อถือทฤษฎีบิ๊กแบง ที่เชื่อว่าเอกภพกำลังขยายตัวมากกว่า คำถามคือทำไมนักวิทยาศาสตร์เชื่อล่ะ ในปี 1929 เอ็ดวิน ฮับเบิล (Edwin Hubble) ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นว่ากาแล็กซียิ่งอยู่ไกลจากเราออกไปวิ่งหนีออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือกของเราด้วยอัตราเร็วสูง ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเอกภพกำลังขยายตัวอยู่ทำให้กาแล็กซีที่กระจายตัวอยู่บนเอกภพขยายตัววิ่งหนีออกจากกันไปด้วย
เอ็ดวิน ฮับเบิล คนทั่วไปฟังแล้วมักคิดว่าในเมื่อเราอยู่บนโลก และเราเห็นกาแล็กซีไกลๆวิ่งหนีจากเราออกไปก็แปลว่า โลกเราเป็นจุดศูนย์กลางของการขยายตัว หมายความว่าโลกเราน่าจะอยู่เฉยๆไม่ได้วิ่งไปไหน แต่จริงๆแล้วต่อให้เราไปอยู่ในกาแล็กซีอื่นเราก็เห็นแบบเดิมอยู่ดี สิ่งนี้คือความสับสนพื้นฐานเกี่ยวกับทฤษฎีบิ๊กแบง จริงๆ แล้วบิ๊กแบง ไม่ใช่การระเบิดออกมาสู่ที่ว่าง มันไม่ใช่การระเบิดอะไรทั้งสิ้น มันคือการขยายตัวของ space ออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีจุดใดเป็นจุดศูนย์กลางหรือจุดพิเศษ การขยายตัวที่ว่านี้เกิดขึ้นทุกหนทุกแห่งในเอกภพ
รังสีไมโครเวฟพื้นหลัง หลักฐานอื่นที่สนับสนุนว่าบิ๊กแบงเกิดขึ้นจริงคืออะไรนอกจากการเห็นกาแล็กซีวิ่งหนีออกจากกันคำตอบคือ สิ่งที่เรียกว่า รังสีไมโครเวฟพื้นหลัง (cosmic microwave background) ซึ่งเรียกย่อๆว่า ซีเอ็มบี (CMB) นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าเอกภพของเรามีคลื่นไมโครเวฟกระจายตัวอยู่ทั่วไปหมด โดยคลื่นดังกล่าวมีอุณหภูมิ 2.725 เคลวินเท่านั้น ซึ่งนี่คือความร้อนจางๆที่หลงเหลืออยู่จากบิ๊กแบงทำให้เรามองเห็นรังสีไมโครเวฟจากทุกทิศทุกทางด้วยอุณภูมิเท่ากันด้วยความสม่ำเสมอสูงมากๆ จะแตกต่างกันบ้างก็เพียงหนึ่งในหมื่นเท่านั้น นั่นแปลว่าในอดีตที่ผ่านมา space ทั้งหมดเชื่อมต่อกันมาก่อน
แล้วก่อนหน้าบิ๊กแบงล่ะมีอะไร
ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปบ่งชี้ว่าจุดเริ่มต้นของเวลาคือตอนเกิดบิ๊กแบง ซึ่งถ้าเชื่อตามนี้ทุกอย่างก็จบครับ ได้คำตอบเรียบร้อยว่าคำว่าก่อนหน้าบิ๊กแบงนั้นไม่มีความหมายอะไรในเมื่อเวลาเริ่มต้นจากบิ๊กแบง เอาเข้าจริงตอนเกิดบิ๊กแบงก็ไม่มีใครสามารถบอกได้แล้วว่าตอนนั้นเอกภพมีสภาพอย่างไรเพราะเอกภพมีสภาพร้อนและแน่นมากๆ สภาพเอกภพในตอนนั้นมีขนาดเล็กสุดๆซึ่งต้องการทฤษฎีในลักษณะควอนตัมมาอธิบาย แถมมวลสารมากมายขนาดนั้นทำให้เราต้องการทฤษฎีในลักษณะทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปมาอธิบาย แต่ในปัจจุบันเรายังไม่มีทฤษฎีที่มีสมบัติของทฤษฎีที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองนี้รวมกันอยู่
อย่างไรก็ตามนักฟิสิกส์พบว่าหลังจากบิ๊กแบงเกิดขึ้นได้เพียงพริบตา ราวๆ 10−36 วินาที เอกภพเกิดการขยายตัวแบบรุนแรงเป็นพิเศษเรียกว่า อินเฟลชัน (inflation) ซึ่งการขยายตัวอย่างรุนแรงนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆก็หยุดลง หลังจากเกิดบิ๊กแบงไปได้ราวๆ 10−33 วินาที จากนั้นเอกภพก็ขยายตัวต่อมาด้วยอัตราที่ต่ำกว่าตอนเกิดอินเฟลชัน
5 ช่วงสีเทาคือช่วงที่เกิด อินเฟลชัน
อินเฟลชันเป็นแนวคิดที่เกิดมาเพื่อตอบปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นเช่น ปัญหาที่ว่าทำไมเอกภพจึงดูสม่ำเสมอเหมือนกันไปหมดในภาพรวม สังเกตจากรังสีไมโครเวฟพื้นหลังก็พบว่ามันมีความสม่ำเสมอกันอย่างมากจนน่าตกใจทั้งๆที่เอกภพเราใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ รวมทั้งสามารถแก้ปัญหาได้ว่าทำไมทุกวันนี้เราไม่เคยเห็นแม่เหล็กขั้วเดี่ยวๆเลย รายละเอียดของเรื่องอินเฟลชันนั้นขอข้ามไปก่อนนะครับเพราะค่อนข้างเยอะและยืดยาวมาก
ทุกวันนี้นักฟิสิกส์พยายามมองหาว่าหลักฐานสนับสนุนการเกิดอินเฟลชันมากขึ้นๆ เช่น หากเอกภพเกิดการขยายตัวอย่างรุนแรงขนาดนั้นแม้ในช่วงสั้นๆ เราน่าจะตรวจพบคลื่นความโน้มถ่วง (Gravitational wave) ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นบ้าง นักฟิสิกส์หลายคนเชื่อว่าคลื่นความโน้มถ่วงอาจส่งผลต่อรังสีไมโครเวฟพื้นหลังโดยทำให้มันเกิดการโพลาไรส์เล็กน้อย (โพลาไรส์อธิบายง่ายๆได้ว่ามันคือการสั่นของคลื่นในทิศทางบางทิศ ไม่ใช่สั่นแบบมั่วซั่วไปหมดทุกทิศทาง) เรียกแบบเฉพาะว่า B-mode polarization พูดง่ายๆว่ามันน่าจะมีรูปแบบบางอย่างเกิดขึ้นซึ่งถ้าเราตรวจสอบมันได้มันจะน่าทึ่งมากๆเพราะมะนเหมือนเรามองหาหลักฐานของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตอันไกลโพ้น
คำถามต่อมาคือแล้วเราอยู่ที่จุดศูนย์กลางการขยายตัวของเอกภพหรือไม่?
นับตั้งแต่สมัยของโคเปอร์นิคัสเชื่อว่าโลกไม่ใช่ศูนย์กลางที่ทุกสิ่งในเอกภพต้องมาโคจรรอบ เราต้องหมั่นเตือนตัวเองว่าเวลาเรานึกว่าเราเป็นศูนย์กลางของอะไรสักอย่าง บางทีมันอาจไม่ใช่ความจริงแต่เกิดจากขีดจำกัดของการรับรู้และมุมมองของเรา เพื่อให้เข้าใจภาพการขยายตัวของเอกภพ เราอาจต้องลองลดมิติของเอกภพเราลงให้เหลือเพียงสองมิติ โดยมองว่า space ทั้งเอกภพเป็นเหมือนผิวลูกโป่งที่กำลังถูกเป่าจนพองออก ดังนั้นทุกๆจุดบนแผ่นยางจึงยืดตัวออกไปพร้อมๆกันและเท่าๆกันหมด อย่าลืมนะครับว่าเอกภพเราคือผิวลูกโป่ง ดังนั้นด้านนอกลูกโป่ง หรือ ภายในลูกโป่งจึงไม่มีความหมายอะไรเพราะเอกภพเรากระจายอยู่บนผิวลูกโป่ง
แล้วเอกภพมีขอบหรือไม่?
ทฤษฎีทุกวันนี้ของเราบ่งว่าเอกภพไม่มีขอบ เอกภพเราอาจจะมีขนาดใหญ่โตไร้ที่สิ้นสุดหรือมีขนาดจำกัดค่าหนึ่งก็ได้แต่มันต้องไม่มีขอบ เอกภพอาจมีขนาดจำกัดแต่ไม่มีขอบได้นะครับ เปรียบได้กับผิวลูกโป่งเมื่อสักครู่ หากเราเป็นมดที่อยู่บนผิวลูกโป่ง พอเราวิ่งไปเรื่อย

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

The universeMany people misunderstood about the images of the universe in which we live, especially the story of many people understand that Bigbang Bigbang is proof of what a tattoo or ayangkrachai to diversify into something that it's wrong! Enough misunderstanding, caused by incorrect questions more. Question what is the cause of this.The answer is a graphic that is used to describe the often cause confusion is another name for Bigbang is the origin of the universe is not good at. The middle of the 20th century (about fifty years before). There is a battle between two of the major concepts that describe how the universe happen? and how it changes. 1. the universe static (Steady State model), who believes that the universe has no beginning or end. 2. theory of big-brand d (Big Bang model) to believe that the universe has a beginning. Fredric hoi one static universe of the concepts mentioned, the term big brand hotels. In radio, where it becomes a lot and all the people that used to call the next day.Fredric hoi today scientists trust big brands d theory that the universe is expanding, rather than just the question is why did the scientists right now in the year 1929 etwin hub (Edwin Hubble) has proved to the world the more we see that kalaeksi is far from us, it is better to run away from our Milky way way kalaeksi with high speed rate. Make the scientists believe that the universe is expanding is the fragmentation, making kalaeksi on the universe expanded to run away from each other.Etwin hub boen People often think of when we hear on Earth and we see far kalaeksi to run away from us, it means we go out into the center of the expansion. This means that we are thus likely to run to but actually, we go in, we saw the same kalaeksi different anyway. This is the basic confusion about the theory of big brand hotels. Actually, the big brand hotels does not burst into space. It's not proof anything. It is the expansion of space out quickly without any point as a center or a special point. This expansion is happening everywhere in the universe.The microwave background radiation. Other evidence supports that a big brand, what are the physical ngakoet also saw the kalaeksi run away from each other, the answer is something called the microwave background radiation (cosmic microwave background) which is called yo that CD, m b (CMB), the scientists discovered that the universe is wave microwave distribution across the forces. It has a temperature of 2.725 waves by sejours video nathao. Where is this heat on big brand that remains from the ngatham, we see from all the directions all the way microwave radiation with equal temperatures with very high consistency is different, only one in ten thousand only. That means in the past, all the space before.Earlier, the big brands are the ngala.Theory of general relativity indicates that the beginning of time, is now the big brand d occurs. If this is just based on everything lol. Has already said that the answer to the previous big brand nganan not mean anything when the start time from the big brand hotels? Remove the big brand travel actually happened now งก็, no one can tell that the universe is a condition, however, because the universe has a very tight summer conditions. Condition of the universe at the time, it was very small, which in quantum theory explains a lot of the substance, mass plus we need a theory in the theory of general relativity explains, but at present, we still do not have a theory that there are properties of these two great theories. Physics students, however, found that after the big brands only Flash ngakoet. Approximately 10 − 36 The universe has expanded the seconds of violence, specifically referred to the plain form (inflation), serious this expansion occurred just a short period of time, a temporary stop. After the birth of big brand list has approximately 10 − 33. Seconds, then the universe was expanding at a lower rate, with subsequent episodes occur, the plain form collection. 5 grey range is a range that spans the plain form collection.The plain form is a concept that was born to respond to problems that arise, such as the problem that why the universe look the same all over the smooth. Microwave background radiation observed from it find it very consistent thought in spite of the universe we had this as well for your huge size can resolve the problem, that's why today we have not seen a single pole magnet! Details of the request to the plain form before it because it was a somewhat longer and stretch.ทุกวันนี้นักฟิสิกส์พยายามมองหาว่าหลักฐานสนับสนุนการเกิดอินเฟลชันมากขึ้นๆ เช่น หากเอกภพเกิดการขยายตัวอย่างรุนแรงขนาดนั้นแม้ในช่วงสั้นๆ เราน่าจะตรวจพบคลื่นความโน้มถ่วง (Gravitational wave) ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นบ้าง นักฟิสิกส์หลายคนเชื่อว่าคลื่นความโน้มถ่วงอาจส่งผลต่อรังสีไมโครเวฟพื้นหลังโดยทำให้มันเกิดการโพลาไรส์เล็กน้อย (โพลาไรส์อธิบายง่ายๆได้ว่ามันคือการสั่นของคลื่นในทิศทางบางทิศ ไม่ใช่สั่นแบบมั่วซั่วไปหมดทุกทิศทาง) เรียกแบบเฉพาะว่า B-mode polarization พูดง่ายๆว่ามันน่าจะมีรูปแบบบางอย่างเกิดขึ้นซึ่งถ้าเราตรวจสอบมันได้มันจะน่าทึ่งมากๆเพราะมะนเหมือนเรามองหาหลักฐานของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตอันไกลโพ้น The question is, then we are at the center of the expansion of the universe? นับตั้งแต่สมัยของโคเปอร์นิคัสเชื่อว่าโลกไม่ใช่ศูนย์กลางที่ทุกสิ่งในเอกภพต้องมาโคจรรอบ เราต้องหมั่นเตือนตัวเองว่าเวลาเรานึกว่าเราเป็นศูนย์กลางของอะไรสักอย่าง บางทีมันอาจไม่ใช่ความจริงแต่เกิดจากขีดจำกัดของการรับรู้และมุมมองของเรา เพื่อให้เข้าใจภาพการขยายตัวของเอกภพ เราอาจต้องลองลดมิติของเอกภพเราลงให้เหลือเพียงสองมิติ โดยมองว่า space ทั้งเอกภพเป็นเหมือนผิวลูกโป่งที่กำลังถูกเป่าจนพองออก ดังนั้นทุกๆจุดบนแผ่นยางจึงยืดตัวออกไปพร้อมๆกันและเท่าๆกันหมด อย่าลืมนะครับว่าเอกภพเราคือผิวลูกโป่ง ดังนั้นด้านนอกลูกโป่ง หรือ ภายในลูกโป่งจึงไม่มีความหมายอะไรเพราะเอกภพเรากระจายอยู่บนผิวลูกโป่งแล้วเอกภพมีขอบหรือไม่?ทฤษฎีทุกวันนี้ของเราบ่งว่าเอกภพไม่มีขอบ เอกภพเราอาจจะมีขนาดใหญ่โตไร้ที่สิ้นสุดหรือมีขนาดจำกัดค่าหนึ่งก็ได้แต่มันต้องไม่มีขอบ เอกภพอาจมีขนาดจำกัดแต่ไม่มีขอบได้นะครับ เปรียบได้กับผิวลูกโป่งเมื่อสักครู่ หากเราเป็นมดที่อยู่บนผิวลูกโป่ง พอเราวิ่งไปเรื่อย

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Universe
were a lot of misconceptions about the image of the universe in which we live. Especially the many people understand that Bigbang Bigbang is an explosion of something spread out into space, or spread out into something which it wrong! It also raises the question wrongly mistaken by many
the question is, what caused this misunderstanding
is the answer. Ones that are used to describe the often confusing. Another is the name Bigbang then interprets the origin of the universe was not by much. Mid 20th century (around fifty years ago), there was a fight between two concepts that explain how the universe formed and changed how
the universe 1. Static (Steady State model) to believe that the universe has no point. Start or End
2. theoretical Big Bang (Big Bang model) believed that the universe had a beginning,
Fred Hoyle, one of the leaders of the static universe say that the big bang. Up on the radio The statement, which was made ​​into a catchy and everyone used to call each other all
day scientist Fred Hoyle reliable theoretical Big Bang. The belief that the universe is expanding more. The question is why scientists believe it in 1929 Edwin Hubble (Edwin Hubble) has proven to the world that it is far from our galaxy to our Milky Way Galaxy runs away from the high rate. Scientists believe that the universe is expanding, making the galaxy distribution on expanding universe runs away from each other, with
Edwin Hubble, people usually think of when we hear the world. And we see distant galaxies rushing away from us, it means that out. Earth was the center of the expansion. This means that we should not rush to go dormant. But then we go in other galaxies, we see the same anyway. This confusion is based on the theory of Big Bang is really the Big Bang was not an explosion into space. It was not anything explosion It is an expansion of space out quickly without any central point or an extra point. The expansion that is happening everywhere in the universe,
the cosmic microwave background radiation. Other evidence supporting the Big Bang actually happened is nothing to see galaxies rushing away from each other is the answer. UFOs Microwave background radiation (cosmic microwave background), which is referred to as CMG Beach (CMB), scientists discovered that our universe microwave dispersed everywhere. By the wave, with temperatures only 2.725 kelvins. This is the faint remnant heat from the Big Bang we see microwave radiation from all directions with equal temperatures with very high uniformity. Will be somewhat different, it's just one in ten thousand only. That means that in the past, all connected to each other before space
before the Big Bang there was nothing like
general relativity indicates that time is at the beginning of the Big Bang. If you believe everything is finished. The answer has been that the word before the Big Bang, it does not mean anything when the start time of the Big Bang. I actually was born in the Big Bang, no one can say that the universe is a condition, however, because the universe was hot and very tight. Conditions in the universe is so small, that would end in quantum theory to explain. Plus much mass that we need theory in general relativity to explain. But today we have a theory that the great treasure of the theory of the two combinations are
, however, physicists found that after the Big Bang occurred only seconds around 10-36 seconds the universe was born in a violent expansion. known as a reflector in function (inflation) which grew violence occurs only for a short period of time, stopped. After the Big Bang, the universe was about 10-33 seconds, and then it grew later at a lower rate, resulting in steep Fellowes
5. The gray was born. In Flames steep
slope in Flames is a concept born to various problems occurring. The problem of why the universe looks the same to me regularly on the whole. Observations of the cosmic microwave background radiation was discovered that it is highly alarming regularity in spite of our universe immensity of this size. Including the ability to solve problems, that's why today we have not seen yet magnetic monopoles. Details of the matter in Fleury application that would go before me because quite long and very
today, physicists try to find evidence to support the International Fellows more layers, as if the universe was expanding strongly, then even. short We will detect gravitational waves. (Gravitational wave) that occurred during that time. Many physicists believe that gravitational waves could affect the cosmic microwave background radiation, making it the polarizer was little. (Polarization explained simply that it is the direction of vibration in certain directions. Not Stabilization haphazardly in every direction) is known only that the B-mode polarization simply means that it is likely to have some form occurs, if we examine it, it was amazing, because I like you. Look for evidence of a phenomenon that occurred in the distant past,
the question is, then we are at the center of the expansion of the universe or not?
Since the days of Copernicus believed that the Earth was not the center of everything in the universe must. The orbit We need to keep reminding ourselves that we thought we were the center of something. Perhaps it's not true, but the limits of our perception and perspective. To understand the image the expansion of the universe. We may have to consider reducing the dimensions of our universe down to just a two-dimensional space that the universe is like a balloon being blown surface until puffed out. So every point on the sheet is stretched out simultaneously and equally to all. Do not forget that our universe is the balloon surface. The outer balloon within a balloon or it means nothing because our universe balloons scattered on the surface
and edges of the universe is not
theory suggests that the universe has no edge to our today. Our universe may be large or infinite size limit value, but it must not have an edge. The universe may have a size limit, but it has no edge. Comparable to the balloon surface when the moment. If we are ants on the surface of the balloon. When we ran

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Many people misunderstand about universe
of universe in which we live. Especially about Bigbang many people understand Bigbang is the explosion of something spread out into the empty or spread out into something. Which is wrong!When the misunderstanding, it begs the question wrong follow. The question is to cause a misunderstanding this

.The answer is a graphic that is used to explain the often confusing. Another is the name Bigbang that convey the origins of the universe is not good. By mid-century 20 (about fifty years ago).
.1 static universe (Steady State model) believe that the universe has no beginning or end
2. Big Bang Theory (Big Bang model) ที่เชื่อว่า universe have a beginning!Fred Hoyle, one of the leaders of the static universe big bang up saying "on radio. Which word become words of inferiority and everyone always used to call next
.Fred Hoyle. Nowadays, scientists believe, the Big Bang Theory Believe that the universe is expanding. The question is why scientists believe that in 1929 Edwin Hubble (Edwin Hubble).Scientists believe that the universe is expanding the universe galaxies dispersed on expanded run out together!Edwin Hubble, people often think that when we heard on earth. And we see the galaxy away run away from us it means The world we are the center of expansion. Means that the world we should still not running anywhere.This is the confusion based on the big bang theory. Actually, big bang, not the explosion off into space. It's not the explosion anything. It is the expansion of the space.The growth that this happens everywhere in the universe!Cosmic microwave background radiation. Other evidence to support that the big bang happened is in addition to see the galaxy run apart the answer is what is called the cosmic microwave background radiation. (cosmic microwave background), which are short, CM B (CMB).By such wave temperature 2.