นวัตกรรมยานยนต์ ตั้งแต่รถยนต์คันแรก

นวัตกรรมยานยนต์
ตั้งแต่รถยนต์คันแรก ออกสู่สายตาสาธารณชนเมื่อกว่า 1 ศตวรรษที่ผ่านมา วิวัฒนาการของรถยนต์ ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมามากมาย  เริ่มต้นจากพาหนะหรูหราสำหรับชนชั้นสูง มาสู่ปัจจัยที่ห้าซึ่งแทบจะขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน   จากการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอะทะด้อยประสิทธิภาพ สู่เครื่องยนต์ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงทรงสมรรถนะ  และจากจุดซึ่งความสนใจมุ่งอยู่กับการเป็นเพียงยานพาหนะ ที่ช่วยให้คนเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าการเดิน  สู่การคำนึงถึงความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม เมื่อรถยนต์ยังเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำ การมุ่งความสนใจไปที่กลไกการขับเคลื่อน  ดูจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด  แต่เมื่อความเร็วของรถยนต์เพิ่มมากขึ้น  ผู้คนก็เริ่มตระหนักว่า  อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น อาจจะคร่าชีวิตผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้  การสำรวจตรวจตราถึงความปลอดภัย ในการขับขี่ยวดยานชนิดนี้จึงเริ่มขึ้นอุปกรณ์นิรภัยชิ้นแรก
ปี ค.ศ. 1959  อุปกรณ์นิรภัยชิ้นสำคัญชิ้นแรก ได้รับการคิดค้นขึ้นโดย วิศวกรอากาศยานชาวสวีเดน Nils Bohlinซึ่งทำงานให้กับบริษัท วอลโว่  Bohlinได้สังเกตว่า  การจะยึดให้ร่างกายผู้ขับขี่ติดอยู่กับที่นั่ง ในขณะที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุ  จำเป็นต้องมีสายรัดที่บริเวณหน้าอก 1 เส้น และที่หน้าตักอีก 1 เส้น  แต่จุดสำคัญคือ ต้องให้ใช้งานได้สะดวกและควรควบคุมด้วยมือเพียงข้างเดียว  แนวคิดทั้งหมดที่กล่าวมา  กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเข็มขัดนิรภัย แบบ 3 จุด ซึ่งได้รับการติตตั้งในรถยนต์ วอลโว่ 544 ซีดาน เป็นรุ่นแรก 
แม้ในระยะต้นๆ  อุปกรณ์ชิ้นนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ไม่ต่างกับการประดิษฐ์คิดค้นใหม่ๆอีกหลายชิ้น  แต่วอลโว่ก็ยังเดินหน้ากับโครงการต่อไป มีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์วอลโว่ ที่จำหน่ายในประเทศสวีเดนทุกคัน จนกระทั่งปี 1963 จึงเริ่มติดตั้งกับรถยนต์ที่ส่งไปขายยังต่างประเทศ ถัดจากนั้นอีก 3 ปี ในปี 1966 วอลโว่ ซึ่งทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมาตลอด จึงเผยแพร่รายงานชิ้นสำคัญ คือ "รายงานอุบัติเหตุ 28,000 ราย" (28,000 accident  report)  ซึ่งกล่าวว่าเข็มขัดนิรภัย ได้ช่วยชีวิตผู้คนไว้หลายพันชีวิต และรายงานนี้ก็ได้กลายเป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้สหรัฐอเมริกา ผ่านกฏหมายบังคับใช้เข็มขัดนิรภัย ในปี 1968 ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ต่อต้นทศวรรษ 1970 นั้นเอง ที่ถุงลมนิรภัย ได้เริ่มเปิดตัวขึ้น มีการติดตั้งถุงลมนิรภัย ในรถรุ่นสูงๆของจีเอ็ม ที่วางขายในสหรัฐอเมริกา และในช่วงไล่เลี่ยกัน ฟอร์ดก็เริ่มติดตั้งในรถยนต์ของตนเอง
 
แต่ชะตากรรมของถุงลมนิรภัย แทบจะเป็นคนละเรื่องกับความสำเร็จของเข็มขัดนิรภัย ตั้งแต่เริ่มมีการแนะนำถุงลมนิรภัย ก็มีผู้คาดการณ์ถึงปัญหาที่จะเกิดตามมา   Lee Iacocca  อดีตเจ้านายใหญ่ของไครสเลอร์ เคยกล่าวไว้ในปี 1984 ว่า ถุงลมนิรภัยนั้น "ก่อปัญหาที่หนักหนากว่าตัวปัญหาเองเสียอีก" (solution being worse than the problem) อย่างไรก็ตาม การพัฒนาก็ยังดำเนินต่อไป ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องการให้ ถุงลมนิรภัย เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่สุดอีกชิ้นหนึ่ง  และแม้จะมีข้อมูลชี้ว่า มีผู้เสียชีวิตจากการทำงานของถุงลมนิรภัย ผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายก็เห็นพ้องต้องกันว่า มีผู้รอดชีวิตจากถุงลมนิรภัยในอัตราส่วนที่สูงกว่ามาก และควรดำเนินการพัฒนาต่อไป ในยุคที่อุปกรณ์อิเลคโทรนิคต่างๆ มีผลอย่างมากกับเทคโนโลยียานยนต์  อุปกรณ์นิรภัยทั้งสองชิ้นนี้ ก็อยู่ในข่ายการพัฒนาเพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงเหล่านี้เช่นกัน  สำหรับเข็มขัดนิรภัยที่ผ่านการพิสูจน์มายาวนานถึง 40 ปี รูปร่างหน้าตาแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากต้นแบบเดิม  การนำอุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์เข้ามาเสริม มีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้นไปอีก แต่ยังคงพื้นฐานการทำงานที่เรียบง่ายของเข็มขัดนิรภัยไว้ ซึ่งวิถีทางนี้คงจะเทียบเคียงได้กับ วิวัฒนาการของเครื่องยนต์ ที่หลักการพื้นฐานในการทำงานตั้งแต่เริ่มออกแบบ  ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และเครื่องยนต์เบนซิน ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน  อุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์ที่เพิ่มเติมเข้ามา เพียงช่วยเสริมประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เท่านั้น ส่วนถุงลมนิรภัยนั้น มีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์ต่างๆ  เข้ามาแก้ปัญหาข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น เพื่อให้ถุงลมนิรภัย บรรลุวัตถุประสงค์ ในการรักษาชีวิตผู้อยู่ในรถได้โดยสมบูรณ์ โดยไม่ก่อผลข้างเคียงที่อาจถึงแก่ชีวิตได้  และในอีกไม่นานนี้ ถุงลมนิรภัยยุคใหม่ จะมาแทนที่ถุงลมนิรภัยแบบปัจจุบันโดยสมบูรณ์นอกจากการพัฒนาด้านความปลอดภัย  การคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ก็กลายเป็นเงื่อนไขอย่างหนึ่ง ที่ผู้ผลิตรถยนต์ต้องเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงปลายทศวรรษ 1990 นี้ กับกระแสการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมซึ่งก่อตัวอย่างรุนแรง รถยนต์กลายเป็นเป้าโจมตีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการทำงานของเครื่องยนต์ ต้องใช้การสันดาปเชื้อเพลิง ซึ่งมักจะมีสิ่งตกค้างจากการเผาไหม้ออกไปล่องลอยอยู่ในอากาศ  ทำให้เกิดมลภาวะขึ้น การเคลื่อนไหวขององค์กรที่ดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ตลาดรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ ต้องให้ความสนใจ  ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม นำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ เพื่อทำให้รถยนต์ ผลิตมลภาวะในระดับต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  เป็นจุดกำเนิดของรถยนต์มลภาวะต่ำ อันได้แก่  LEV (Low Emission Vehicle), ULEV (Ultra Low Emission Vehicle) และ ZEV (Zero Emission Vehicle) ทั้ง LEV และ ULEV สามารถผ่านขั้นตอนการพัฒนา จนออกจำหน่ายได้ ในระดับที่คุ้มค่าต่อการลงทุนแล้ว  แต่ ZEV ยังต้องเผชิญปัญหาในแง่การผลิต ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า หรือรถยนต์ขับเคลื่อนด้วย ไฮโดรเจน ที่จะต้องตอบโจทย์ซึ่งทยอยเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย  จนดูเหมือนว่า  คงยังไม่เห็น ZEV ในท้องถนนได้ในเร็ววันนี้ เส้นทางการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์  ยังจะต้องดำเนินต่อเนื่องไป เพื่อให้ได้รถยนต์ที่ไม่ใช่เพียงแค่พาหนะขับเคลื่อนที่รวดเร็ว ทรงพลัง  แต่ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร  ตลอดไปจนถึง ความปลอดภัยของผู้ที่อยู่ภายนอกรถยนต์  ซึ่งหมายรวมไปถึงสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเราอีกด้วย

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Automotive innovation. Since the car first released to the public eye more than a century ago, when 1. The evolution of the car through the paces of a lot of major changes coming. Starting from luxury vehicle for people to come to the fifth factor which is almost indispensable in everyday life. From the spectacular (tm) engine-driven bad performance. To the engine packed with high-tech performance and shape from the point where the attention is focused is the only vehicle that helps people move faster than a walk to observe the safety and the environment. When the car is still moving with low speeds. The attention to driving mechanism is the most important, but the speed of the car. People began to realize that the accident occurred may be to take a life, the rider and passenger. A survey to monitor security. In this type of driving safety devices first.In 1959, the first important piece of safety equipment, has been invented by the people of Sweden, aircraft engineer. Nils Bohlin who work for the company, noting that the Volvo Bohlin. will give the rider attached to the seat while the car accident occurred. It is necessary to have the chest strap, 1-wire, 1-wire, and an important point but natak is available and should be controlled by only one side. All of these concepts became the starting point of a 3-point safety belt which has been equipped with flawless car Volvo 544 c Board as the first version. Even in this piece of equipment will be numerous critics very much. Not involve invented new pieces. But Volvo still further ahead with the project. With the installation of seat belts in cars, Volvo cars, sold in the country every year, until Sweden 1963 started to sell the cars sent to abroad. The next three years, in the year 1966 Volvo that collect data from accidents that have occurred. Therefore, publication of the piece is "accident report 28000" (28000 accident report), which says that seat belts have helped thousands of people's life is life. And this report, it has become an important information that makes the United States through the law enforcement safety belt in 1968, in the late 1960s early 1970s-1990s continued it own airbags opening. Airbags are installed in the vehicles of GM that placed high sales in the United States and just about. Ford began installing in person his or her own car. แต่ชะตากรรมของถุงลมนิรภัย แทบจะเป็นคนละเรื่องกับความสำเร็จของเข็มขัดนิรภัย ตั้งแต่เริ่มมีการแนะนำถุงลมนิรภัย ก็มีผู้คาดการณ์ถึงปัญหาที่จะเกิดตามมา Lee Iacocca อดีตเจ้านายใหญ่ของไครสเลอร์ เคยกล่าวไว้ในปี 1984 ว่า ถุงลมนิรภัยนั้น "ก่อปัญหาที่หนักหนากว่าตัวปัญหาเองเสียอีก" (solution being worse than the problem) อย่างไรก็ตาม การพัฒนาก็ยังดำเนินต่อไป ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องการให้ ถุงลมนิรภัย เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่สุดอีกชิ้นหนึ่ง และแม้จะมีข้อมูลชี้ว่า มีผู้เสียชีวิตจากการทำงานของถุงลมนิรภัย ผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายก็เห็นพ้องต้องกันว่า มีผู้รอดชีวิตจากถุงลมนิรภัยในอัตราส่วนที่สูงกว่ามาก และควรดำเนินการพัฒนาต่อไป ในยุคที่อุปกรณ์อิเลคโทรนิคต่างๆ มีผลอย่างมากกับเทคโนโลยียานยนต์ อุปกรณ์นิรภัยทั้งสองชิ้นนี้ ก็อยู่ในข่ายการพัฒนาเพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงเหล่านี้เช่นกัน สำหรับเข็มขัดนิรภัยที่ผ่านการพิสูจน์มายาวนานถึง 40 ปี รูปร่างหน้าตาแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากต้นแบบเดิม การนำอุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์เข้ามาเสริม มีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้นไปอีก แต่ยังคงพื้นฐานการทำงานที่เรียบง่ายของเข็มขัดนิรภัยไว้ ซึ่งวิถีทางนี้คงจะเทียบเคียงได้กับ วิวัฒนาการของเครื่องยนต์ ที่หลักการพื้นฐานในการทำงานตั้งแต่เริ่มออกแบบ ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และเครื่องยนต์เบนซิน ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน อุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์ที่เพิ่มเติมเข้ามา เพียงช่วยเสริมประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เท่านั้น ส่วนถุงลมนิรภัยนั้น มีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์ต่างๆ เข้ามาแก้ปัญหาข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น เพื่อให้ถุงลมนิรภัย บรรลุวัตถุประสงค์ ในการรักษาชีวิตผู้อยู่ในรถได้โดยสมบูรณ์ โดยไม่ก่อผลข้างเคียงที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ และในอีกไม่นานนี้ ถุงลมนิรภัยยุคใหม่ จะมาแทนที่ถุงลมนิรภัยแบบปัจจุบันโดยสมบูรณ์นอกจากการพัฒนาด้านความปลอดภัย การคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ก็กลายเป็นเงื่อนไขอย่างหนึ่ง ที่ผู้ผลิตรถยนต์ต้องเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงปลายทศวรรษ 1990 นี้ กับกระแสการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมซึ่งก่อตัวอย่างรุนแรง รถยนต์กลายเป็นเป้าโจมตีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการทำงานของเครื่องยนต์ ต้องใช้การสันดาปเชื้อเพลิง ซึ่งมักจะมีสิ่งตกค้างจากการเผาไหม้ออกไปล่องลอยอยู่ในอากาศ ทำให้เกิดมลภาวะขึ้น การเคลื่อนไหวขององค์กรที่ดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ตลาดรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ ต้องให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม นำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ เพื่อทำให้รถยนต์ ผลิตมลภาวะในระดับต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เป็นจุดกำเนิดของรถยนต์มลภาวะต่ำ อันได้แก่ LEV (Low Emission Vehicle), ULEV (Ultra Low Emission Vehicle) และ ZEV (Zero Emission Vehicle) ทั้ง LEV และ ULEV สามารถผ่านขั้นตอนการพัฒนา จนออกจำหน่ายได้ ในระดับที่คุ้มค่าต่อการลงทุนแล้ว แต่ ZEV ยังต้องเผชิญปัญหาในแง่การผลิต ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า หรือรถยนต์ขับเคลื่อนด้วย ไฮโดรเจน ที่จะต้องตอบโจทย์ซึ่งทยอยเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย จนดูเหมือนว่า คงยังไม่เห็น ZEV ในท้องถนนได้ในเร็ววันนี้ เส้นทางการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ ยังจะต้องดำเนินต่อเนื่องไป เพื่อให้ได้รถยนต์ที่ไม่ใช่เพียงแค่พาหนะขับเคลื่อนที่รวดเร็ว ทรงพลัง แต่ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตลอดไปจนถึง ความปลอดภัยของผู้ที่อยู่ภายนอกรถยนต์ ซึ่งหมายรวมไปถึงสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเราอีกด้วย

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Automotive innovation
since the first car. Released to the public when more than one century ago. Evolution of the Car Stepping through many significant changes. Starting from luxury vehicles for the elite. Up to a factor of five, which is almost indispensable in everyday life. The engine-driven gross inefficiency. The engine is packed with high-tech style performance. And from which point the attention focused on becoming a vehicle. Allowing people moving faster than walking. To safety and the environment. When the vehicle is moving at low speed. The focus on the driving mechanism. See it as a top priority But when the car's speed increases. People began to realize that Accident Maybe killing the driver and passengers. The safety inspection The drivers of these safety devices first began
in 1959 in the first major piece of safety equipment. Was invented by Aircraft engineer Nils Bohlin, who works for the Swedish company Volvo, Bohlin has noticed that. The body will be taken to a rider attached to the seat. While car accidents Require a chest strap on one line and the other one lap, but the important point is. Must be easy to use and should be controlled with one hand. All of the above concept Became the starting point of the three-point safety belt, which has been in the car is equipped with Volvo 544 sedan, the first model 
even in early stage. The device is being criticized. No different to invent several new pieces. But Volvo also forward to the next project. With the installation of seat belts in cars Volvo. Supplied in Sweden every year until 1963 to begin to install on cars exported to foreign countries. Next, another three years, in 1966 Volvo, which collected data from accident happened along. The published report is "28,000 Accident Report" (28,000 accident report), which said seat belt. You can save people thousands of lives. And this report has become more critical to the United States. Through Law enforcement seat belt in 1968. In late 1960 to early 1970 that the airbag. Has launched more Are equipped with airbags. In the advanced version of GM. Sold in the US During the same Ford began installing in their own cars , but the fate of the airbag. It is a different story with the success of the seat belt. Since the introduction of airbags. It is expected the problem to be caused by former boss Lee Iacocca of Chrysler. Once said in 1984 that the airbag. "The problem was more serious than the problem itself" (solution being worse than the problem)? Anyway. The development is still ongoing. The aim is to let airbags save lives is the most complete one another. And even with that information. The death toll from the operation of the airbag. Car manufacturers have also agreed that. A survivor of an air bag in a ratio much higher. And should continue to develop further. In the electrode device in Nick. Have a dramatic effect on automotive technology. The two pieces of safety equipment It is in connection with the further development of these high-tech as well. For safety belt that has been proven to last up to 40 years looks almost unchanged from the original master. Bringing the device electrode Knicks added. The goal is to increase the performance, giving rise to another. But still the basic functionality of a simple seat belt on. Which way would be comparable. Evolution engines The basic principle in the work from the initial design. Both diesel engines And gasoline engines Remain to the present Equipment electrode Knicks added. Only enhances the efficiency of the engine only. Then the airbag It is necessary to use various electrode Knicks. To solve problems, defects occur. The airbags Achieve objectives To preserve the life of the car completely. Without causing side effects that can be fatal. And soon Airbag new era To replace its current form by the airbag in addition to the issue of safety. Taking into account the impact on the environment. Became one condition The car manufacturer faced In particular, in late 1990, with a steady stream of Environmental Protection, which produces violence. Cars became the target of the attack is inevitable. Because the engine A fuel combustion Which are often the residue from burning out floating in the air. Causing more pollution The movement of organizations that care for the environment. Especially in the US One of the world car market Car manufacturers Need attention Whether willingly or not. Bring new technologies into use. To make car Produce pollution levels as low as possible. The origin of low-pollution cars, including LEV (Low Emission Vehicle), ULEV (Ultra Low Emission Vehicle) and ZEV (Zero Emission Vehicle) both LEV and ULEV to the development stage. Until sold out A worthwhile investment, but ZEV is also facing problems in terms of production. Whether it is cars powered by electricity. Or hydrogen-powered cars must meet which occurs gradually by many. It seems that I have not seen the ZEV on the road soon. The development of technology You must continue. To get a car that not only drives fast, powerful vehicles, but must also take into account the safety of the driver and passenger to the safety of those who live outside the car. Which incorporates the environment around us.
 

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Innovative automotive
.Since the first car out into the public eye when more than a century ago. 1 evolution of car, through important changes a lot. Starting from the luxury vehicles for the elite.From the engine bulky inefficient. The engine is crowded with high technology is performance. And from the points which attention focus with a vehicle.To consider the safety and the environment. When the vehicle is moving with speed is low. The focus driving mechanism moves. Will is the most important. But when the speed of the cars is increasing.The accident might kill the driver and passenger can. Survey on safety. In this type of vehicle driving began the first piece of protective equipment
.The year 20011959. An important piece of protective equipment the first piece was invented by the Swedish aircraft engineers Nils Bohlinซึ่ง work for the company, Volvo. Bohlin noticed. Are based on the driver body stuck sitting.Need to have the chest straps that 1 lines, and in another 1 lines. But the point is To provide convenient use and should control on one hand. The concept of all of the above. Become the beginning of seat belts, a 3 points.Volvo 544 Zidane is the first version.
.Even the term. This piece of equipment will be criticized greatly. As a new invention several pieces. But the Volvo still go ahead with the project. Installation of seat belts in cars, Volvo