เราชื่อแบงค์ผงชูรสฆ่าคน ไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการเลยแม้แต่นิดเดียวเพื่อ การแปล - เราชื่อแบงค์ผงชูรสฆ่าคน ไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการเลยแม้แต่นิดเดียวเพื่อ อังกฤษ วิธีการพูด

เราชื่อแบงค์ผงชูรสฆ่าคน ไม่มีประโยช

เราชื่อแบงค์ผงชูรสฆ่าคน ไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการเลยแม้แต่นิดเดียว

เพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า ในการผลิตผงชูรสทั้งแบบก้อนและแบบผลในประเทศไทยใช้แป้งมันสำปะหลังและกากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลัก
แต่แหล่งข่าวที่ผมรู้จักยืนยันว่ามันมีอะไรแปลกๆ มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่มาจากกระดูกสัตว์ อย่างกระดูกวัว กระดูกควาย โซดาไฟ และปุ๋ยยูเรีย ก็คิดดูเองสิว่าทำไมของเหลวที่เกิดจากกระบวนการผลิต ทำไมยังสามารถนำไปขายให้เกษตรกรไปเป็นปุ๋ยน้ำ รดไร่นาจนพืชขึ้นเขียวขจี (แต่กลายพันธุ์ด้วยหรือเปล่าไม่รับรองนะ) ก็ลองสังเกตุดูสิว่าคนงานในโรงงาน และชุุมชนที่อาศัยอยู่รอบๆ โรงงานผลิตผงชูรสถึงมีอาการอิดโรย ป่วยกระเสาะ กระแสะกันทั้งชุมชน เพื่อนๆ ผมที่อยู่โรงงานผลิตผลชูรส เขายังไม่กินผงชูรสเลย แต่ถ้าเขาจะนำผลชูรสผสมน้ำอุ่นแล้วไปขัดห้องน้ำ ขัดหม้อ ที่มีเขม่าดำ ขัดหัวเข็มขัดทองเหลือง ขัดสร้อยเงิน แช่เหรียญเก่า หรือแช่พระกรุ ก็ไม่แน่เพราะผมเคยลองขัดดูแล้วเวิร์กมากๆ ถ้าไม่เชื่อท่านผู้อ่านลองดูเองนะครับ

จริงๆ แล้วผงชูรส ไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการเลยแม้แต่นิดเดียว “ผงชูรส มีประโยชน์เพียงทำให้อาการมีรสชาติโดยรวมดีขึ้น ต้องใส่ในปริมาณเหมาะสม ”

อันตรายของผงชูรสถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ

1).พิษภัยและอันตรายที่เกิดจากเกลือโซเดียม กล่าวคือผงชูรสมีโซเดียมที่มาจากโซดาไฟ เป็นองค์ประกอบสำคัญเช่นเดียวกับเกลือแกง แต่อันตรายมากกว่าเกลืองแกงตรงที่ว่าเกลือแกงใช้เพียงนิดเดียวก็รู้สึกว่ามีรสเค็ม แต่ผงชูรสใส่มากเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกตัวว่ามีปริมาณโซเดียมมากเท่าไหร่ เพราะไม่มีรสเค้าให้รู้สึก หรือพูดอีกนัยหนึ่งผลชูรสมีพิษแฝงในเรื่องโซเดียว ซึ่งมีพิษภัยอันตรายดังนี้

1.1) ทำให้ภูมิต้านทานหรือภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์ลดลง ถึงแม้ผลชูรสจะไม่ทำให้ใครเป็นเอดส์ แต่มันทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง ยิ่งถ้าคนป่วยเป็นเอดส์มาทานอาหารทีาใส่ผงชูรสยิ่งทำให้ตายเร็วกว่าที่ควรเป็นครับ

1.2) ทำให้เกิดการคลั่งในสมองเด็ก ซึ่งเมื่องเด็กโตขึ้นจะเป็นคนปัญญาอ่อน ในปัจจุบันมีเด็นปัญญาอ่อนเพ่ิมมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่มีผงชุรสแพร่หลายในประเทศไทย ผงชูรสทำให้เด็กทารกเกิดอาการชักโคม่า ซึ่งบางครั้งแพทย์ไม่รู้สามเหตุ อาจทำให้รักษาผิดพลาดเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยังเป็นภัยต่อหญิงมีครรภ์ ทำให้ร่างกายบอมและยังมีพิษภัยต่อทารกในครรภ์และทารกแรกเกิดด้วย

1.3) ผงชูรสเป็นอันตรายต่อผู้เจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ อาทิ เช่น โรคไต ความดันสูง และโรคหัวใจเป็นต้น

2.)พิษภัยและอันตรายที่เกิดจากตัวผงชูรสแท้ ส่งผลดังนี้

2.1)ทำให้เกิดอาการแพ้ผงชูรส ซึ่งจะมีอาการชา และร้อนวูบวาบที่ปาก ลิ้น ใบหน้า โหนกแก้วต้นคอ หน้าอก บางคนมีผื่นแดงเกิดขึ้นตามตัว แน่นหน้าอก หัวใจเต้นช้าลง หายใจไม่สะดวก เป็นต้น จนเป็นที่รู้จักและขนานนามโรคแพ้ผงชูรสในภัตตาคารจีน

2.2)ทำลายสมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตและระบบสืบพันธุ์ของร่างกาย ทำให้เจริญเติบโตช้า ปัญญาอ่อน ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ เป็นหมัน อวัยวะสืบพันธุ์เล็กลง ทั้งในเรื่องของขนาดและน้ำหนัก

2.3)ทำลายระบบประสาทตา สายตาเสียหรือเกิดตาบอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัตว์ทดลอง ยิ่งอายุน้อย จะยิ่งเกิดผลร้ายมาก

2.4)ทำลายกระดูกและไขกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่ผลิตเม็ดเลือดแดงในร่างกาย ทำให้โลหิตจากได้

2.5)ทำให้วิตามินในร้างกายลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินบี 6 แก้โรคแพ้ผงชูรสได้

2.6)เกิดโรคมะเร็ง

2.7)ทำลายระบบประสาทส่วนกลางทำให้เป็นโรคประสาทได้ง่ายขึ้น

2.8)เปลี่ยนแปลงโครโมโซม ทำให้ผิดปกติ ปากแหว่ง หูแหว่ง และจมูกวิ่น แขนขาพิการ เป็นต้น

แต่ถึงเห็นพิาภัยขนาดนี้ประชาชนตาดำๆ อย่างเราคงจะหลีกเลี่ยงผลชูรสได้ยาก เพราะตั้งแต่ภัตตาคารใหญ่ๆ จนไปถึงร้านข้างถนนยังขาดความรู้เรื่องโทษจากผงชูรส เรามาเริ่มต้นจากบ้านของเรา และช่วยกันรณรงค์เรื่องพิษภัยของผงชูรสกันดีกว่าค่ะ

ขอบคุณที่มากจาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
คอลัมม์ ภาคภูมิ ชวนคิด
ดร.ภาคภูมิ เตชสกุลฤทธิ์
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
เราชื่อแบงค์ผงชูรสฆ่าคน ไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการเลยแม้แต่นิดเดียวเพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า ในการผลิตผงชูรสทั้งแบบก้อนและแบบผลในประเทศไทยใช้แป้งมันสำปะหลังและกากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลัก แต่แหล่งข่าวที่ผมรู้จักยืนยันว่ามันมีอะไรแปลกๆ มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่มาจากกระดูกสัตว์ อย่างกระดูกวัว กระดูกควาย โซดาไฟ และปุ๋ยยูเรีย ก็คิดดูเองสิว่าทำไมของเหลวที่เกิดจากกระบวนการผลิต ทำไมยังสามารถนำไปขายให้เกษตรกรไปเป็นปุ๋ยน้ำ รดไร่นาจนพืชขึ้นเขียวขจี (แต่กลายพันธุ์ด้วยหรือเปล่าไม่รับรองนะ) ก็ลองสังเกตุดูสิว่าคนงานในโรงงาน และชุุมชนที่อาศัยอยู่รอบๆ โรงงานผลิตผงชูรสถึงมีอาการอิดโรย ป่วยกระเสาะ กระแสะกันทั้งชุมชน เพื่อนๆ ผมที่อยู่โรงงานผลิตผลชูรส เขายังไม่กินผงชูรสเลย แต่ถ้าเขาจะนำผลชูรสผสมน้ำอุ่นแล้วไปขัดห้องน้ำ ขัดหม้อ ที่มีเขม่าดำ ขัดหัวเข็มขัดทองเหลือง ขัดสร้อยเงิน แช่เหรียญเก่า หรือแช่พระกรุ ก็ไม่แน่เพราะผมเคยลองขัดดูแล้วเวิร์กมากๆ ถ้าไม่เชื่อท่านผู้อ่านลองดูเองนะครับจริงๆ แล้วผงชูรส ไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการเลยแม้แต่นิดเดียว “ผงชูรส มีประโยชน์เพียงทำให้อาการมีรสชาติโดยรวมดีขึ้น ต้องใส่ในปริมาณเหมาะสม ”อันตรายของผงชูรสถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ1).พิษภัยและอันตรายที่เกิดจากเกลือโซเดียม กล่าวคือผงชูรสมีโซเดียมที่มาจากโซดาไฟ เป็นองค์ประกอบสำคัญเช่นเดียวกับเกลือแกง แต่อันตรายมากกว่าเกลืองแกงตรงที่ว่าเกลือแกงใช้เพียงนิดเดียวก็รู้สึกว่ามีรสเค็ม แต่ผงชูรสใส่มากเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกตัวว่ามีปริมาณโซเดียมมากเท่าไหร่ เพราะไม่มีรสเค้าให้รู้สึก หรือพูดอีกนัยหนึ่งผลชูรสมีพิษแฝงในเรื่องโซเดียว ซึ่งมีพิษภัยอันตรายดังนี้
1.1) ทำให้ภูมิต้านทานหรือภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์ลดลง ถึงแม้ผลชูรสจะไม่ทำให้ใครเป็นเอดส์ แต่มันทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง ยิ่งถ้าคนป่วยเป็นเอดส์มาทานอาหารทีาใส่ผงชูรสยิ่งทำให้ตายเร็วกว่าที่ควรเป็นครับ

1.2) ทำให้เกิดการคลั่งในสมองเด็ก ซึ่งเมื่องเด็กโตขึ้นจะเป็นคนปัญญาอ่อน ในปัจจุบันมีเด็นปัญญาอ่อนเพ่ิมมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่มีผงชุรสแพร่หลายในประเทศไทย ผงชูรสทำให้เด็กทารกเกิดอาการชักโคม่า ซึ่งบางครั้งแพทย์ไม่รู้สามเหตุ อาจทำให้รักษาผิดพลาดเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยังเป็นภัยต่อหญิงมีครรภ์ ทำให้ร่างกายบอมและยังมีพิษภัยต่อทารกในครรภ์และทารกแรกเกิดด้วย

1.3) ผงชูรสเป็นอันตรายต่อผู้เจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ อาทิ เช่น โรคไต ความดันสูง และโรคหัวใจเป็นต้น

2.)พิษภัยและอันตรายที่เกิดจากตัวผงชูรสแท้ ส่งผลดังนี้

2.1)ทำให้เกิดอาการแพ้ผงชูรส ซึ่งจะมีอาการชา และร้อนวูบวาบที่ปาก ลิ้น ใบหน้า โหนกแก้วต้นคอ หน้าอก บางคนมีผื่นแดงเกิดขึ้นตามตัว แน่นหน้าอก หัวใจเต้นช้าลง หายใจไม่สะดวก เป็นต้น จนเป็นที่รู้จักและขนานนามโรคแพ้ผงชูรสในภัตตาคารจีน

2.2)ทำลายสมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตและระบบสืบพันธุ์ของร่างกาย ทำให้เจริญเติบโตช้า ปัญญาอ่อน ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ เป็นหมัน อวัยวะสืบพันธุ์เล็กลง ทั้งในเรื่องของขนาดและน้ำหนัก

2.3)ทำลายระบบประสาทตา สายตาเสียหรือเกิดตาบอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัตว์ทดลอง ยิ่งอายุน้อย จะยิ่งเกิดผลร้ายมาก

2.4)ทำลายกระดูกและไขกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่ผลิตเม็ดเลือดแดงในร่างกาย ทำให้โลหิตจากได้

2.5)ทำให้วิตามินในร้างกายลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินบี 6 แก้โรคแพ้ผงชูรสได้

2.6)เกิดโรคมะเร็ง

2.7)ทำลายระบบประสาทส่วนกลางทำให้เป็นโรคประสาทได้ง่ายขึ้น

2.8)เปลี่ยนแปลงโครโมโซม ทำให้ผิดปกติ ปากแหว่ง หูแหว่ง และจมูกวิ่น แขนขาพิการ เป็นต้น

แต่ถึงเห็นพิาภัยขนาดนี้ประชาชนตาดำๆ อย่างเราคงจะหลีกเลี่ยงผลชูรสได้ยาก เพราะตั้งแต่ภัตตาคารใหญ่ๆ จนไปถึงร้านข้างถนนยังขาดความรู้เรื่องโทษจากผงชูรส เรามาเริ่มต้นจากบ้านของเรา และช่วยกันรณรงค์เรื่องพิษภัยของผงชูรสกันดีกว่าค่ะ

ขอบคุณที่มากจาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
คอลัมม์ ภาคภูมิ ชวนคิด
ดร.ภาคภูมิ เตชสกุลฤทธิ์
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เราชื่อแบงค์ผงชูรสฆ่าคน ไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการเลยแม้แต่นิดเดียว

เพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า ในการผลิตผงชูรสทั้งแบบก้อนและแบบผลในประเทศไทยใช้แป้งมันสำปะหลังและกากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลัก
แต่แหล่งข่าวที่ผมรู้จักยืนยันว่ามันมีอะไรแปลกๆ มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่มาจากกระดูกสัตว์ อย่างกระดูกวัว กระดูกควาย โซดาไฟ และปุ๋ยยูเรีย ก็คิดดูเองสิว่าทำไมของเหลวที่เกิดจากกระบวนการผลิต ทำไมยังสามารถนำไปขายให้เกษตรกรไปเป็นปุ๋ยน้ำ รดไร่นาจนพืชขึ้นเขียวขจี (แต่กลายพันธุ์ด้วยหรือเปล่าไม่รับรองนะ) ก็ลองสังเกตุดูสิว่าคนงานในโรงงาน และชุุมชนที่อาศัยอยู่รอบๆ โรงงานผลิตผงชูรสถึงมีอาการอิดโรย ป่วยกระเสาะ กระแสะกันทั้งชุมชน เพื่อนๆ ผมที่อยู่โรงงานผลิตผลชูรส เขายังไม่กินผงชูรสเลย แต่ถ้าเขาจะนำผลชูรสผสมน้ำอุ่นแล้วไปขัดห้องน้ำ ขัดหม้อ ที่มีเขม่าดำ ขัดหัวเข็มขัดทองเหลือง ขัดสร้อยเงิน แช่เหรียญเก่า หรือแช่พระกรุ ก็ไม่แน่เพราะผมเคยลองขัดดูแล้วเวิร์กมากๆ ถ้าไม่เชื่อท่านผู้อ่านลองดูเองนะครับ

จริงๆ แล้วผงชูรส ไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการเลยแม้แต่นิดเดียว “ผงชูรส มีประโยชน์เพียงทำให้อาการมีรสชาติโดยรวมดีขึ้น ต้องใส่ในปริมาณเหมาะสม ”

อันตรายของผงชูรสถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ

1).พิษภัยและอันตรายที่เกิดจากเกลือโซเดียม กล่าวคือผงชูรสมีโซเดียมที่มาจากโซดาไฟ เป็นองค์ประกอบสำคัญเช่นเดียวกับเกลือแกง แต่อันตรายมากกว่าเกลืองแกงตรงที่ว่าเกลือแกงใช้เพียงนิดเดียวก็รู้สึกว่ามีรสเค็ม แต่ผงชูรสใส่มากเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกตัวว่ามีปริมาณโซเดียมมากเท่าไหร่ เพราะไม่มีรสเค้าให้รู้สึก หรือพูดอีกนัยหนึ่งผลชูรสมีพิษแฝงในเรื่องโซเดียว ซึ่งมีพิษภัยอันตรายดังนี้

1.1) ทำให้ภูมิต้านทานหรือภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์ลดลง ถึงแม้ผลชูรสจะไม่ทำให้ใครเป็นเอดส์ แต่มันทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง ยิ่งถ้าคนป่วยเป็นเอดส์มาทานอาหารทีาใส่ผงชูรสยิ่งทำให้ตายเร็วกว่าที่ควรเป็นครับ

1.2) ทำให้เกิดการคลั่งในสมองเด็ก ซึ่งเมื่องเด็กโตขึ้นจะเป็นคนปัญญาอ่อน ในปัจจุบันมีเด็นปัญญาอ่อนเพ่ิมมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่มีผงชุรสแพร่หลายในประเทศไทย ผงชูรสทำให้เด็กทารกเกิดอาการชักโคม่า ซึ่งบางครั้งแพทย์ไม่รู้สามเหตุ อาจทำให้รักษาผิดพลาดเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยังเป็นภัยต่อหญิงมีครรภ์ ทำให้ร่างกายบอมและยังมีพิษภัยต่อทารกในครรภ์และทารกแรกเกิดด้วย

1.3) ผงชูรสเป็นอันตรายต่อผู้เจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ อาทิ เช่น โรคไต ความดันสูง และโรคหัวใจเป็นต้น

2.)พิษภัยและอันตรายที่เกิดจากตัวผงชูรสแท้ ส่งผลดังนี้

2.1)ทำให้เกิดอาการแพ้ผงชูรส ซึ่งจะมีอาการชา และร้อนวูบวาบที่ปาก ลิ้น ใบหน้า โหนกแก้วต้นคอ หน้าอก บางคนมีผื่นแดงเกิดขึ้นตามตัว แน่นหน้าอก หัวใจเต้นช้าลง หายใจไม่สะดวก เป็นต้น จนเป็นที่รู้จักและขนานนามโรคแพ้ผงชูรสในภัตตาคารจีน

2.2)ทำลายสมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตและระบบสืบพันธุ์ของร่างกาย ทำให้เจริญเติบโตช้า ปัญญาอ่อน ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ เป็นหมัน อวัยวะสืบพันธุ์เล็กลง ทั้งในเรื่องของขนาดและน้ำหนัก

2.3)ทำลายระบบประสาทตา สายตาเสียหรือเกิดตาบอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัตว์ทดลอง ยิ่งอายุน้อย จะยิ่งเกิดผลร้ายมาก

2.4)ทำลายกระดูกและไขกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่ผลิตเม็ดเลือดแดงในร่างกาย ทำให้โลหิตจากได้

2.5)ทำให้วิตามินในร้างกายลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินบี 6 แก้โรคแพ้ผงชูรสได้

2.6)เกิดโรคมะเร็ง

2.7)ทำลายระบบประสาทส่วนกลางทำให้เป็นโรคประสาทได้ง่ายขึ้น

2.8)เปลี่ยนแปลงโครโมโซม ทำให้ผิดปกติ ปากแหว่ง หูแหว่ง และจมูกวิ่น แขนขาพิการ เป็นต้น

แต่ถึงเห็นพิาภัยขนาดนี้ประชาชนตาดำๆ อย่างเราคงจะหลีกเลี่ยงผลชูรสได้ยาก เพราะตั้งแต่ภัตตาคารใหญ่ๆ จนไปถึงร้านข้างถนนยังขาดความรู้เรื่องโทษจากผงชูรส เรามาเริ่มต้นจากบ้านของเรา และช่วยกันรณรงค์เรื่องพิษภัยของผงชูรสกันดีกว่าค่ะ

ขอบคุณที่มากจาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
คอลัมม์ ภาคภูมิ ชวนคิด
ดร.ภาคภูมิ เตชสกุลฤทธิ์
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: