สาเหตุวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์จุดเริ่มต้นแห่งปัญหาปัญหาวิกฤตการณ์แฮมเบอ การแปล - สาเหตุวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์จุดเริ่มต้นแห่งปัญหาปัญหาวิกฤตการณ์แฮมเบอ อังกฤษ วิธีการพูด

สาเหตุวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์จุดเริ

สาเหตุวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์
จุดเริ่มต้นแห่งปัญหา
ปัญหาวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ ที่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2551 (2008) เนื่องจากความผิดพลาดของสหรัฐอเมริกาในการจัดการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์และการกำกับดูแลกลุ่มวาณิชธนกิจ (investment banker) อย่างไม่รัดกุม จนเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องและคุกคามความมั่นคงของสถาบันการเงิน ซึ่งแตกต่างจากวิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540 ที่มีสาเหตุจากความผิดพลาดในการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของไทยจนมีทุนสำรองระหว่างประเทศไม่เพียงพอ ประกอบกับสถาบันการเงินมีปัญหา
วิกฤตการร์แฮมเบอร์เกอร์เป็นปัญหาที่เกิดจาก “ซับไพรม์”( sub-prime) คือ ลูกหนี้เงินกู้ (ซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์) ที่มีเครดิตต่ำกว่าระดับมาตรฐานที่สถาบันการเงินกำหนดไว้ที่จะปล่อยให้กู้ได้ ซึ่งในกรณีเกิดจาก ปัญหา sub-prime mortgage ในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือสินเชื่อที่ปล่อยให้กู้ให้กับลูกหนี้ที่มีเครดิตทางการเงินต่ำกว่ามาตรฐานโดยใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน จนเกิดปัญหาลุกลามทำให้บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาถึงกับล้มละลายนั้น เนื่องจากลูกหนี้กลุ่ม "ซับไพรม์" นี้สถาบันการเงินทั่วไปจะไม่ปล่อยกู้ จึงมีการตั้งบริษัทอิสระมาปล่อยกู้แทน ส่วนเงินที่บริษัทเหล่านั้นนำมาปล่อยกู้ก็ใช้วิธีออกตราสารหนี้แล้วใช้อสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ค้ำประกันตราสารหนี้อีกที ถ้าเกิดมีปัญหา ลูกหนี้ผิดชำระหนี้ บริษัทเหล่านั้นก็จะขายอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ เพื่อนำเงินไปจ่ายคืนให้คนที่ซื้อตราสารหนี้ ธนาคารยึดทรัพย์ขายทอดตลาด แล้วเอาเงินมาจ่ายให้ผู้ฝากเงิน หลายปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกามีลูกหนี้ซับไพรม์เกิดมากมาย เพราะราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการขายตราสารหนี้ออกไปทั่วโลก พอมาปีที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเริ่มไม่ค่อยดี ลุกหนี้กลุ่มซับไพรม์นี้ เริ่มไม่จ่ายหนี้มากขึ้น ขณะเดียวกันอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริการาคาตก ส่งผลให้บริษัทที่ปล่อยกู้ เงินก็เริ่มขาดมือไม่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้ที่ซื้อตราสารหนี้ ผลที่ตามมาคือกองทุนเฮดจ์ฟันด์ต่างๆ ขาดทุนอย่างมากจากตราสารหนี้ที่ถือไว้ จากกรณีนี้ธนาคารกลางทั้งในสหรัฐอเมริกา(เฟด) อียู และญี่ปุ่น มีการอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาล กว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8 ล้านล้านบาท เพื่อสกัดปัญหาไม่ให้ลุกลามกลายเป็นวิกฤตการเงินระลอกใหม่
สาเหตุวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์
สาเหตุแรก คือ ประเทศสหรัฐอเมริกามีทุนไหลเข้าไปในประเทศมากเกินไปจนล้นออกไปในภาคอสังหาริมทรัพย์ทำให้เกิดฟองสบู่เก็งกำไรกันขึ้น เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐ เป็นเงินสกุลหลักที่เชื่อถือของชาวโลกมายาวนาน และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นสิ่งมีค่าที่ควรใช้เป็นเงินสกุลหลักเพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินสกุลอื่นในการค้าขาย (เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาใหญ่ 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลก) ทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาสามารถพิมพ์พันธบัตรได้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หนุนหลัง ซึ่งต้นเหตุที่ทำให้สหรัฐอเมริกามีเงินทุนไหลเข้ามากและได้มาในราคาต่ำกว่าชาวโลกอื่นๆ ทำให้รัฐบาลของสหรัฐอเมริกาสามารถขาดดุลงบประมาณได้ถึง 1 ใน 3 ของงบประมาณ เพราะส่วนที่ขาดดุลสามารถชดเชย ด้วยการขายตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ (U.S. Treasury bills) ที่ถือกันว่ามั่นคงสูงสุด) และดอลลาร์เหล่านี้ที่ได้มาจากต่างประเทศเนื่องมาจากการขายตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็คือเงินดอลลาร์สหรัฐที่มาจากการพิมพ์ธนบัตรของประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนหน้า โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หนุนหลังและไหลเวียนอยู่ในต่างประเทศ (การบริโภคของคนในประเทศสหรัฐอเมริกาจนขาดดุลการค้าต่างประเทศทุกปีทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐจำนวนมากไหลไปอยู่ในต่างประเทศ) เงินจากต่างประเทศที่ได้รับนี้ก็ไม่มีต้นทุนในการแลกเปลี่ยนข้ามสกุล และที่สำคัญเมื่อสหรัฐอเมริกาจะใช้คืนเงินต้นและดอกเบี้ยก็ทำได้ด้วยการพิมพ์ธนบัตร เงินทุนจากต่างประเทศเหล่านี้เปรียบเสมือนเงินกู้ที่จ่ายในอัตราดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์ และใช้คืนด้วยกระดาษ และเงินเหล่านี้ก็กลายมาเป็นเงินทุนของภาคเอกชนราคาต่ำอีกครั้งโดยไหลมาจากการใช้จ่ายของงบประมาณภาครัฐและการให้กู้ยืมต่างๆแก่เอกชน ทั้งหมดนี้สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเดียวที่ทำได้เพราะดอลลาร์เป็นเงินสกุลหลักของโลก ทำให้ในปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐมีหนี้เนื่องมาจากการกระทำข้างต้น และจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเหตุการณ์สิบเอ็ดกันยายน และการมีทุนมาก คือ สาเหตุที่ทำให้ช่วงเวลา 5-6 ปี ก่อนปี 2550 ผู้คนในประเทศสหรัฐอเมริกากู้เงินผ่อนบ้านกันได้ง่ายมาก จนเกิดการเก็งกำไรจนเป็นฟองสบู่ราคาบ้าน บังคับให้กู้ทั้งที่ไม่สามารถผ่อนส่งได้ แต่ก็ไม่กลัวเพราะมั่นใจว่าราคาบ้านจะสูงขึ้นเรื่อยๆ และกำไรจากราคาบ้านจะคุ้มกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่าย นักค้าเงินทั้งหลายสนุกกับความร้อนแรงของธุรกิจ mortgage (จำนองอสังหาริมทรัพย์) โดยไม่กังวลว่าฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์จะแตก
สาเหตุที่สอง คือ ความโลภในธุรกิจ mortgage มีผู้ทำธุรกิจไม่ว่าธนาคารเพื่อที่อยู่อาศัย สถาบันการเงิน บริษัทประกันภัย วานิชธนกิจ ฯลฯ คิดประดิษฐ์ ตราสารประหลาดๆ ออกมากมายหลายตัวไม่ว่าจะเป็นหุ้นกู้ หุ้นหรือ อนุพันธ์ (derivatives) โดยที่ไม่มีใครเข้าใจ ถึงผลกระทบ แม้ว่าตราสารเหล่านี้จะมีการผันผวนไปในทางลบ แต่ก็ถูกใช้กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากให้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงและป้องกันความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง
โดยวิธีการหนึ่งที่นิยมกันมากของผู้ค้าเงินก็คือ leveraging (การกู้เงินมาเพื่อต่อเงิน) เครื่องมือหนึ่งที่นิยมใช้กันก็คือ ตราสารที่เรียกว่า CDS (credit-default swap) ตราสารนี้บริษัทประกันใหญ่คือกลุ่ม AIG เป็นผู้ออกรายใหญ่ของโลก การหาเงินทำได้โดยการขายตราสาร CDS นี้ให้ผู้ซื้อหุ้นกู้(ลงทุน) เช่น A ซื้อหุ้นกู้ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวาณิชธนกิจ B และ A กลัวว่าจะไม่ได้เงินต้นคืนก็มาซื้อ CDS มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก AIG เพื่อให้แน่ใจว่าหากผู้ขายหุ้นกู้ B ไม่จ่ายเงิน AIG ก็จะจ่ายแทนให้ นอกจากซื้อ CDS แล้ว A ก็ยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอีก CDS ของ AIG นี้ก็จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันอีกเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถจ่าย 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้ A ได้ หากมีปัญหาเกิดขึ้น ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือหุ้นกู้ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ออกโดยวาณิชธนกิจ B ซึ่งต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืมก็
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Why crises hamburgers.The starting point is a problem property.The Hamburger is a crisis problem that occurs in the 2551 (2008) (2008), because the United States crash in real estate and facility management, supervision and violence, not investment banking (investment banker), strong liquidity and is missing until the problem threatening the stability of a financial institution, which is different from the Tom Yam Kung crisis. When the year 2540 (1997) caused by the crash in Thailand's exchange rate policy until there is not enough international reserves. There is a problem with the financial institution. วิกฤตการร์แฮมเบอร์เกอร์เป็นปัญหาที่เกิดจาก “ซับไพรม์”( sub-prime) คือ ลูกหนี้เงินกู้ (ซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์) ที่มีเครดิตต่ำกว่าระดับมาตรฐานที่สถาบันการเงินกำหนดไว้ที่จะปล่อยให้กู้ได้ ซึ่งในกรณีเกิดจาก ปัญหา sub-prime mortgage ในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือสินเชื่อที่ปล่อยให้กู้ให้กับลูกหนี้ที่มีเครดิตทางการเงินต่ำกว่ามาตรฐานโดยใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน จนเกิดปัญหาลุกลามทำให้บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาถึงกับล้มละลายนั้น เนื่องจากลูกหนี้กลุ่ม "ซับไพรม์" นี้สถาบันการเงินทั่วไปจะไม่ปล่อยกู้ จึงมีการตั้งบริษัทอิสระมาปล่อยกู้แทน ส่วนเงินที่บริษัทเหล่านั้นนำมาปล่อยกู้ก็ใช้วิธีออกตราสารหนี้แล้วใช้อสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ค้ำประกันตราสารหนี้อีกที ถ้าเกิดมีปัญหา ลูกหนี้ผิดชำระหนี้ บริษัทเหล่านั้นก็จะขายอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ เพื่อนำเงินไปจ่ายคืนให้คนที่ซื้อตราสารหนี้ ธนาคารยึดทรัพย์ขายทอดตลาด แล้วเอาเงินมาจ่ายให้ผู้ฝากเงิน หลายปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกามีลูกหนี้ซับไพรม์เกิดมากมาย เพราะราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการขายตราสารหนี้ออกไปทั่วโลก พอมาปีที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเริ่มไม่ค่อยดี ลุกหนี้กลุ่มซับไพรม์นี้ เริ่มไม่จ่ายหนี้มากขึ้น ขณะเดียวกันอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริการาคาตก ส่งผลให้บริษัทที่ปล่อยกู้ เงินก็เริ่มขาดมือไม่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้ที่ซื้อตราสารหนี้ ผลที่ตามมาคือกองทุนเฮดจ์ฟันด์ต่างๆ ขาดทุนอย่างมากจากตราสารหนี้ที่ถือไว้ จากกรณีนี้ธนาคารกลางทั้งในสหรัฐอเมริกา(เฟด) อียู และญี่ปุ่น มีการอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาล กว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8 ล้านล้านบาท เพื่อสกัดปัญหาไม่ให้ลุกลามกลายเป็นวิกฤตการเงินระลอกใหม่Why crises hamburgers.สาเหตุแรก คือ ประเทศสหรัฐอเมริกามีทุนไหลเข้าไปในประเทศมากเกินไปจนล้นออกไปในภาคอสังหาริมทรัพย์ทำให้เกิดฟองสบู่เก็งกำไรกันขึ้น เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐ เป็นเงินสกุลหลักที่เชื่อถือของชาวโลกมายาวนาน และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นสิ่งมีค่าที่ควรใช้เป็นเงินสกุลหลักเพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินสกุลอื่นในการค้าขาย (เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาใหญ่ 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลก) ทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาสามารถพิมพ์พันธบัตรได้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หนุนหลัง ซึ่งต้นเหตุที่ทำให้สหรัฐอเมริกามีเงินทุนไหลเข้ามากและได้มาในราคาต่ำกว่าชาวโลกอื่นๆ ทำให้รัฐบาลของสหรัฐอเมริกาสามารถขาดดุลงบประมาณได้ถึง 1 ใน 3 ของงบประมาณ เพราะส่วนที่ขาดดุลสามารถชดเชย ด้วยการขายตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ (U.S. Treasury bills) ที่ถือกันว่ามั่นคงสูงสุด) และดอลลาร์เหล่านี้ที่ได้มาจากต่างประเทศเนื่องมาจากการขายตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็คือเงินดอลลาร์สหรัฐที่มาจากการพิมพ์ธนบัตรของประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนหน้า โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หนุนหลังและไหลเวียนอยู่ในต่างประเทศ (การบริโภคของคนในประเทศสหรัฐอเมริกาจนขาดดุลการค้าต่างประเทศทุกปีทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐจำนวนมากไหลไปอยู่ในต่างประเทศ) เงินจากต่างประเทศที่ได้รับนี้ก็ไม่มีต้นทุนในการแลกเปลี่ยนข้ามสกุล และที่สำคัญเมื่อสหรัฐอเมริกาจะใช้คืนเงินต้นและดอกเบี้ยก็ทำได้ด้วยการพิมพ์ธนบัตร เงินทุนจากต่างประเทศเหล่านี้เปรียบเสมือนเงินกู้ที่จ่ายในอัตราดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์ และใช้คืนด้วยกระดาษ และเงินเหล่านี้ก็กลายมาเป็นเงินทุนของภาคเอกชนราคาต่ำอีกครั้งโดยไหลมาจากการใช้จ่ายของงบประมาณภาครัฐและการให้กู้ยืมต่างๆแก่เอกชน ทั้งหมดนี้สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเดียวที่ทำได้เพราะดอลลาร์เป็นเงินสกุลหลักของโลก ทำให้ในปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐมีหนี้เนื่องมาจากการกระทำข้างต้น และจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเหตุการณ์สิบเอ็ดกันยายน และการมีทุนมาก คือ สาเหตุที่ทำให้ช่วงเวลา 5-6 ปี ก่อนปี 2550 ผู้คนในประเทศสหรัฐอเมริกากู้เงินผ่อนบ้านกันได้ง่ายมาก จนเกิดการเก็งกำไรจนเป็นฟองสบู่ราคาบ้าน บังคับให้กู้ทั้งที่ไม่สามารถผ่อนส่งได้ แต่ก็ไม่กลัวเพราะมั่นใจว่าราคาบ้านจะสูงขึ้นเรื่อยๆ และกำไรจากราคาบ้านจะคุ้มกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่าย นักค้าเงินทั้งหลายสนุกกับความร้อนแรงของธุรกิจ mortgage (จำนองอสังหาริมทรัพย์) โดยไม่กังวลว่าฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์จะแตกสาเหตุที่สอง คือ ความโลภในธุรกิจ mortgage มีผู้ทำธุรกิจไม่ว่าธนาคารเพื่อที่อยู่อาศัย สถาบันการเงิน บริษัทประกันภัย วานิชธนกิจ ฯลฯ คิดประดิษฐ์ ตราสารประหลาดๆ ออกมากมายหลายตัวไม่ว่าจะเป็นหุ้นกู้ หุ้นหรือ อนุพันธ์ (derivatives) โดยที่ไม่มีใครเข้าใจ ถึงผลกระทบ แม้ว่าตราสารเหล่านี้จะมีการผันผวนไปในทางลบ แต่ก็ถูกใช้กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากให้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงและป้องกันความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง โดยวิธีการหนึ่งที่นิยมกันมากของผู้ค้าเงินก็คือ leveraging (การกู้เงินมาเพื่อต่อเงิน) เครื่องมือหนึ่งที่นิยมใช้กันก็คือ ตราสารที่เรียกว่า CDS (credit-default swap) ตราสารนี้บริษัทประกันใหญ่คือกลุ่ม AIG เป็นผู้ออกรายใหญ่ของโลก การหาเงินทำได้โดยการขายตราสาร CDS นี้ให้ผู้ซื้อหุ้นกู้(ลงทุน) เช่น A ซื้อหุ้นกู้ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวาณิชธนกิจ B และ A กลัวว่าจะไม่ได้เงินต้นคืนก็มาซื้อ CDS มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก AIG เพื่อให้แน่ใจว่าหากผู้ขายหุ้นกู้ B ไม่จ่ายเงิน AIG ก็จะจ่ายแทนให้ นอกจากซื้อ CDS แล้ว A ก็ยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอีก CDS ของ AIG นี้ก็จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันอีกเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถจ่าย 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้ A ได้ หากมีปัญหาเกิดขึ้น ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือหุ้นกู้ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ออกโดยวาณิชธนกิจ B ซึ่งต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืมก็
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
The crisis hamburger
beginning of the
crisis hamburger. The problem is occurring in the year 2551 (2008) because of an error in the management of US mortgage and corporate investment banking groups (investment banker) is not tightened. The problem of lack of liquidity, and threatens the stability of financial institutions. Unlike 2540, when the Tom Yum Kung crisis caused by the failure to implement the exchange rate policy of Thailand until the foreign reserves is not enough. Financial institutions have
a hamburger crisis was caused by "subprime" (sub-prime) is loans. (Buyer) with lower credit standards, financial institutions, scheduled to leave for the loan. In the case of sub-prime mortgage problems in the United States. Or loans that allow borrowers to loans with lower financial credit using real estate as collateral. It caused widespread disruptions caused giant US finance companies to the bankruptcy that. Because the debtors to "subprime" financial institutions will not lend. It has set up an independent company to lend instead. The money they lend to those companies using debt and then use the property of the debtor's secured debt again. If you have a problem, Receivables debt default These companies would then sell the debtor's property. The proceeds were used to pay back the debt. Bank foreclosure auction Then came the money paid to depositors. Several years ago, The United States has caused many subprime loans. Because real estate prices in the US rose sharply. Along with the sale of debt to the world. When the US economy started the year very well. Get this subprime debt. Began to pay more debt Meanwhile, in the US real estate prices fall. As a result, the lending company. Money began to run out of money to people who can not afford the debt. The result is a fund of hedge funds. Huge losses on the debt instruments held. In this case the central bank in the United States (Fed), the EU and Japan are pumping huge sums of money over two billion dollars, or about 8 billion baht to a problem does not become aggressive financial crisis, a new wave of
the crisis hamburger
causes first. Capital flows into the United States are in excessive overflow into the real estate sector caused speculative bubbles up. The US Dollar A major currencies of the world secure long. And is recognized as a value that should be used as the main currency in exchange for another currency in trade. (One of the three major economies of the US, the world economy), the United States can print without a bond backed securities. The cause of the large influx of US capital and at a price lower than the other world. US government budget deficit can be up to one third of the budget because the deficit can be offset. With sales of US government debt (US Treasury bills) held that maximum stability), and these dollars came from abroad due to the sale of US government debt. It is the US dollar by printing money the US earlier. Without backed securities and circulation abroad. (Consumption of people in the United States until the foreign trade deficit every year, making the dollar amount flowing into the country) received money from abroad, it is not the cost of cross-currency swap. And the United States will take on principal and interest would be done by printing banknotes. The funds from these countries as a loan that pays an interest rate zero percent. And spent the night with paper And these funds became the capital of the private sector lower again by flows from the government budget spending and lending in the private sector. All this is possible because the United States is the only country where the dollar is the main currency of the world. Bringing the total US government debt as a result of the above actions. And from policy stimulus after the events of September eleventh. And the availability of capital causes a period of 5-6 years before the year 2550, people in the US home mortgage loan is very easy. Until the speculative bubble as house prices. The installment loan can not force it. I was not afraid because it ensures that home prices are rising. And house price gains will outweigh the interest to be paid. Money traders who enjoy the heat of mortgage (mortgage) without worrying that the real estate bubble will be
the second cause is greed in the mortgage business is business, whether banks for housing. Financial institution Banking, insurance companies, etc., to invent strange instruments. Out of many options, whether shares, debentures or derivatives (derivatives) without anyone understand the impact Although these instruments will fluctuate in a negative way. It is used widely. Due to the benefits and risks to some degree
, by the way, one of the most popular vendors' money is leveraging (borrowing to continue funding) is a tool commonly used. The instrument, called CDS (credit-default swap), this instrument is a large insurance company AIG is a major global issue. The money made ​​by selling CDS instruments to bond buyers (investors) to buy bonds as A $ 10 million. From investment banking, B and A fear that is not principal had bought CDS worth 10 million US dollars from AIG to ensure that if the sale of bonds B does not pay AIG would pay instead for the purchase of CDS and A's. Another pay AIG's CDS also require additional collateral to ensure they can pay $ 10 million to A if a problem occurs. The problem is that $ 10 million of bonds issued by investment bankers B, which requires collateral to borrow it.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
The crisis is the beginning of a hamburger

the crisis problem hamburger. A problem in 2002.2551 (2008) because of the mistakes of the United States in the credit management of real estate and the supervision for banking group (investment. Banker) not strong. The problem of liquidity and threaten the stability of financial institutions.Last year 2540 that are caused by errors in the exchange rate policy in จนมี international reserve is not enough. Along with financial problems
.Mini hamburger is a critical problem of "subprime" (sub-prime) is receivable loans (buy a house and real estate). With lower credit level institutions determined to let the loan, which ในกรณีเกิดจาก.Sub-prime mortgage in the United States. Or let the credit loan to the debtor has lower financial credit standard, using real estate as collateral.Because the debtor group "subprime" institutions in general will not loan. It has set up independent companies to omit the borrower instead.If there's a problem, the debtor's debt. Those companies to sell real estate of the debtor. To bring the money to pay for the people who buy debt. The Bank Foreclosure Auction. And I'll pay depositors. Many years ago.Because the price of real estate in the United States increased rapidly. Along with the sale of debt out all over the world. After years of the U.S. economy started very well. You debt group subprime, begin to pay the debt.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: