อาเซียนเตรียมพร้อมรับมือโลกร้อน ประ

อาเซียนเตรียมพร้อมรับมือโลกร้อน ประชุมใหญ่ปารีส | เดลินิวส์
„ในวันที่ 30 พ.ย.-11 ธ.ค.2558 ที่จะถึงนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 21 ณ กรุงปารีส หรือที่เรียกว่า Paris 2015/COP 21 โดยการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (ยูเอ็นเอฟซีซี) เป็นการประชุมเพื่อหาทางแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน มีประเทศเข้าร่วมจำนวน 195 ประเทศ และผู้เข้าร่วมประชุมราว 50,000 คน ในจำนวนนี้ 25,000 คน เป็นเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากภาครัฐหลายประเทศ เจ้าหน้าที่จากตัวแทนจากยูเอ็น องค์กรพัฒนาเอกชน และเจ้าหน้าที่ประชาสังคม เป้าหมายของการประชุมในครั้งนี้คือ การจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิของภาวะโลกร้อนให้อยู่ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส ดังนั้น ก่อนการประชุมใหญ่ที่กรุงปารีส ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายภาคส่วนจึงร่วมกันจัดการประชุมระดับภูมิภาคอาเซียนทางด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Regional Forum on Climate Change -RFCC) ขึ้นก่อนในระหว่างวันที่ 1-3 ก.ค.2558 ซึ่งเป็นความร่วมมือกันของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) กระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาของฝรั่งเศส สำนักเลขาธิการอาเซียนและสหภาพยุโรป (อียู) ในงานนี้ นายแลร์รี มารามิส ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานด้านความร่วมมือ สำนักเลขาธิการอาเซียน เปิดเผยว่า อาเซียนเป็นภูมิภาคที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก จึงได้มีการจัดการประชุมปรึกษาปัญหานี้มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรเหมือนการประชุมในประเด็นเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับนายฟิลิป เซลเลอร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำภูมิภาคอียูสำหรับการประชุม COP 21 ที่กล่าวว่า แม้ประชาชนและรัฐบาลในภูมิภาคจะตระหนักดีว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกกระทบต่อชีวิต แต่การร่วมมือกันในระดับภูมิภาคก็ยังไม่เป็นที่น่าพึงพอใจนัก อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าอาเซียนจะไม่มีความคืบหน้าหรือความร่วมมือทางด้านนี้เลย โดยในปี 2552 ได้จัดตั้งคณะทำงานอาเซียนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ASEAN Working Group on Climate Change : AWGCC) ดำเนินการตามพิมพ์เขียวประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (เอเอสซีซี) ทำให้สามารถออกแผนปฏิบัติในการรับผิดชอบการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศร่วมกันขึ้นมาในปี 2555 นายประเสริฐ ศิรินภาพร ผู้อำนวยการสำนักงานประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พูดถึงบทบาทของไทยต่อการประชุม COP 21 ว่า อันที่จริงไทยเข้าเป็นสมาชิกอนุสัญญานี้มานานแล้ว และจำต้องมีพันธกรณีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการทำรายงานบัญชีก๊าซเรือนกระจกที่ไทยทำมาแล้ว 2 ฉบับ นอกจากนี้ยังได้จัดทำแผนแม่บทระยะยาวรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาของครม. และอีกไม่นานก็จะออกมาเป็นแผนดำเนินงานของประเทศ มีด้วยกัน 3 ยุทธศาสตร์สำคัญ คือ การจับตาเรื่องการลดก๊าซเรือนกระจก การปรับตัวและการเพิ่มขีดความสามารถต่าง ๆ ไทยแบ่งกรอบการดำเนินงานเพื่อลดโลกร้อนเป็นสองช่วง คือก่อนหน้าปี 2563 ซึ่งไทยยังเป็นสมาชิกที่ไม่ได้ถูกบังคับให้ต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพียงแต่ไทยก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ และกรอบหลังปี 2563 โดยในการเจรจาปลายปีที่จะเกิดขึ้นที่กรุงปารีสนี้จะมีการลงนามเป็นข้อผูกมัดรัฐภาคีในการลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวด้านต่าง ๆ ยูเอ็นเอฟซีซีต้องการให้ทุกประเทศส่งตัวเลขประมาณการของตนเอง ทำให้ไทยกำลังเร่งศึกษาและประเมินขีดความสามารถของประเทศและส่งให้กับยูเอ็นเอฟซีซีภายในวันที่ 1 ต.ค.ที่จะถึงนี้ จากนั้นยูเอ็นเอฟซีซีก็จะทำการประเมินว่าตัวเลขที่แต่ละประเทศจัดประเมินมานั้นสามารถจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิของภาวะโลกร้อนให้อยู่ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียสได้หรือไม่ ขณะนี้ไทยจัดทำการประเมินดังกล่าวหลัก ๆ จะแบ่งเป็น 4 ส่วน คือภาคพลังงาน ภาคการขนส่ง ภาคของเสียและภาคกระบวนการผลิต โดยภาคพลังงาน แน่นอนว่าอาจจะเป็นภาคที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด ส่วนบทบาทไทยต่อประเด็นนี้ในอาเซียนก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับแกนนำร่วมกับสิงคโปร์และมาเลเซีย ทั้งนี้ ปัญหาหลักของอาเซียนในแง่การแก้ไขปัญหาโลกร้อนร่วมกันนี้ นายประเสริฐมองว่า เป็นเพราะภูมิภาคนี้มีความหลากหลายสูง มีทั้งประเทศแถวหน้าที่พร้อมจะปรับตัวตามนโยบายของเวทีโลกแต่บางประเทศอาจต้องได้รับความช่วยเหลือทางด้านการเงินหรือด้านเทคนิค เพื่อให้ทันกับกรอบนโยบายที่ยูเอ็นเอฟซีซีประกาศเป็นแนวปฏิบัติ.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

ASEAN ready to cope with global warming Conference Paris daily news |.„ในวันที่ 30 พ.ย.-11 ธ.ค.2558 ที่จะถึงนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 21 ณ กรุงปารีส หรือที่เรียกว่า Paris 2015/COP 21 โดยการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (ยูเอ็นเอฟซีซี) เป็นการประชุมเพื่อหาทางแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน มีประเทศเข้าร่วมจำนวน 195 ประเทศ และผู้เข้าร่วมประชุมราว 50,000 คน ในจำนวนนี้ 25,000 คน เป็นเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากภาครัฐหลายประเทศ เจ้าหน้าที่จากตัวแทนจากยูเอ็น องค์กรพัฒนาเอกชน และเจ้าหน้าที่ประชาสังคม เป้าหมายของการประชุมในครั้งนี้คือ การจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิของภาวะโลกร้อนให้อยู่ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส ดังนั้น ก่อนการประชุมใหญ่ที่กรุงปารีส ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายภาคส่วนจึงร่วมกันจัดการประชุมระดับภูมิภาคอาเซียนทางด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Regional Forum on Climate Change -RFCC) ขึ้นก่อนในระหว่างวันที่ 1-3 ก.ค.2558 ซึ่งเป็นความร่วมมือกันของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) กระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาของฝรั่งเศส สำนักเลขาธิการอาเซียนและสหภาพยุโรป (อียู) ในงานนี้ นายแลร์รี มารามิส ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานด้านความร่วมมือ สำนักเลขาธิการอาเซียน เปิดเผยว่า อาเซียนเป็นภูมิภาคที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก จึงได้มีการจัดการประชุมปรึกษาปัญหานี้มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรเหมือนการประชุมในประเด็นเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับนายฟิลิป เซลเลอร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำภูมิภาคอียูสำหรับการประชุม COP 21 ที่กล่าวว่า แม้ประชาชนและรัฐบาลในภูมิภาคจะตระหนักดีว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกกระทบต่อชีวิต แต่การร่วมมือกันในระดับภูมิภาคก็ยังไม่เป็นที่น่าพึงพอใจนัก อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าอาเซียนจะไม่มีความคืบหน้าหรือความร่วมมือทางด้านนี้เลย โดยในปี 2552 ได้จัดตั้งคณะทำงานอาเซียนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ASEAN Working Group on Climate Change : AWGCC) ดำเนินการตามพิมพ์เขียวประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (เอเอสซีซี) ทำให้สามารถออกแผนปฏิบัติในการรับผิดชอบการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศร่วมกันขึ้นมาในปี 2555 นายประเสริฐ ศิรินภาพร ผู้อำนวยการสำนักงานประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พูดถึงบทบาทของไทยต่อการประชุม COP 21 ว่า อันที่จริงไทยเข้าเป็นสมาชิกอนุสัญญานี้มานานแล้ว และจำต้องมีพันธกรณีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการทำรายงานบัญชีก๊าซเรือนกระจกที่ไทยทำมาแล้ว 2 ฉบับ นอกจากนี้ยังได้จัดทำแผนแม่บทระยะยาวรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาของครม. และอีกไม่นานก็จะออกมาเป็นแผนดำเนินงานของประเทศ มีด้วยกัน 3 ยุทธศาสตร์สำคัญ คือ การจับตาเรื่องการลดก๊าซเรือนกระจก การปรับตัวและการเพิ่มขีดความสามารถต่าง ๆ ไทยแบ่งกรอบการดำเนินงานเพื่อลดโลกร้อนเป็นสองช่วง คือก่อนหน้าปี 2563 ซึ่งไทยยังเป็นสมาชิกที่ไม่ได้ถูกบังคับให้ต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพียงแต่ไทยก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ และกรอบหลังปี 2563 โดยในการเจรจาปลายปีที่จะเกิดขึ้นที่กรุงปารีสนี้จะมีการลงนามเป็นข้อผูกมัดรัฐภาคีในการลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวด้านต่าง ๆ ยูเอ็นเอฟซีซีต้องการให้ทุกประเทศส่งตัวเลขประมาณการของตนเอง ทำให้ไทยกำลังเร่งศึกษาและประเมินขีดความสามารถของประเทศและส่งให้กับยูเอ็นเอฟซีซีภายในวันที่ 1 ต.ค.ที่จะถึงนี้ จากนั้นยูเอ็นเอฟซีซีก็จะทำการประเมินว่าตัวเลขที่แต่ละประเทศจัดประเมินมานั้นสามารถจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิของภาวะโลกร้อนให้อยู่ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียสได้หรือไม่ ขณะนี้ไทยจัดทำการประเมินดังกล่าวหลัก ๆ จะแบ่งเป็น 4 ส่วน คือภาคพลังงาน ภาคการขนส่ง ภาคของเสียและภาคกระบวนการผลิต โดยภาคพลังงาน แน่นอนว่าอาจจะเป็นภาคที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด ส่วนบทบาทไทยต่อประเด็นนี้ในอาเซียนก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับแกนนำร่วมกับสิงคโปร์และมาเลเซีย ทั้งนี้ ปัญหาหลักของอาเซียนในแง่การแก้ไขปัญหาโลกร้อนร่วมกันนี้ นายประเสริฐมองว่า เป็นเพราะภูมิภาคนี้มีความหลากหลายสูง มีทั้งประเทศแถวหน้าที่พร้อมจะปรับตัวตามนโยบายของเวทีโลกแต่บางประเทศอาจต้องได้รับความช่วยเหลือทางด้านการเงินหรือด้านเทคนิค เพื่อให้ทันกับกรอบนโยบายที่ยูเอ็นเอฟซีซีประกาศเป็นแนวปฏิบัติ.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

ASEAN prepare for global warming Meeting Paris | Daily
"on 30 November -11 December 2558 to the Government of France will host a meeting of States Parties to the UN Convention. With climate change at 21 in Paris, known as the Paris 2015 / COP 21 by such a meeting is a meeting under the UN Framework Convention on Climate Change. (UN FCC) decision to seek solutions to global warming. Which countries have joined the 195 countries and 50,000 attendees, of which 25 000 were officers, government representatives from many countries. Officials from the United Nations agency NGO Officials and civil society The goal of this meeting is. Limiting temperature increase of global warming to below 2 degrees Celsius, so before the Paris meeting. Experts from various sectors such joint meeting of the ASEAN Regional climate change (Regional Forum on Climate Change -RFCC) before, during 1-3 July 2558, which is a collaboration of institutions. Asian Technology (AIT) and the development of the French Foreign Ministry. The ASEAN Secretariat and the European Union (EU) and Mr. Larry came Ramis, director of the Office for the Coordination of cooperation. ASEAN Secretariat, said that ASEAN is a region vulnerable to global climate change. We have organized this problem and then some. But it was not as successful as they should be meeting on economic issues. Like Mr. Philippe Zeller, Ambassador of France to the EU region for the COP 21 meeting, said that although people and governments in the region to realize that. The global impact of climate change on life. But cooperation in the region was still not satisfied, however, so that ASEAN will be no progress or cooperation in this by the year 2552, has established a working group of ASEAN on climate change (ASEAN Working. Group on Climate Change: AWGCC) implementation of the blueprint Socio-Cultural Community ASEAN (ASC C) allows the plan to be responsible for a change of climate, together came up in 2555, Prasert Siri Napaporn. Director of the Office to manage climate change. Ministry of Natural Resources and Environment Thailand spoke of the role of the COP 21 meeting that in fact Thailand has long been a member of the Convention. And must have several obligations. Whether reporting greenhouse gas accounting that Thailand already done two versions also have long-term master plan for climate change, which is in the consideration of the Cabinet. And soon it will be a plan of the country, there are three key strategies is to focus on reducing greenhouse gases. Adaptation and empowerment of Thailand share operational framework to reduce global warming are two periods. Before the year 2563, which Thailand is a member, were not forced to reduce emissions of greenhouse gases. But Thailand was willing to cooperate. And frame the year 2563 by the negotiations at the end of the year will take place in Paris this will have to sign an obligation of States Parties to reduce greenhouse gas emissions and adaptation to various United Nations FCC wants all. estimates of their own country Making Thailand were urged to study and evaluate the capabilities of the country and sent to the United Nations, the FCC on or before Oct. 1. C. To come. The United Nations, the FCC also assesses whether each country is assessed a number that can limit global warming to a temperature increase of 2 degrees Celsius or lower. Thailand is currently conducting such assessments will be divided into four main parts: the energy sector, transport sector, waste sector and the manufacturing process. The energy sector Of course, that may be the most greenhouse gas emissions. The role of ASEAN in Thailand on this issue can be considered in the lead with Singapore and Malaysia, the main problem of the region in terms of resolving this world together. Mr viewed This is because the region is highly diversified. Both countries are ready to adapt policies forefront of the world stage, but some countries may have received financial or technical assistance. To keep up with the policy framework, the United Nations declared the FCC guidelines.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

ASEAN ready for Global Warming Conference Paris | news
image on 30 Nov - 11 Dec2558 to this. The French government will host a conference the States parties to the United Nations Convention. On climate change, the 21, Paris, also known as Paris 2015 / COP 21.FCC (UN). This is a meeting to find a solution to global warming, the participating countries were 195 countries and those who attend the story, 50One of these, 25 000000 people, a staff representative from the government in many countries. The representatives from the UN NGO staff and civil society. The goal of this meeting is.2 C. So, before the big meeting in Paris. Experts from various sectors, the Regional Conference on climate change (Regional Forum. On Climate Change - RFCC).1-3.C.2558 which is a coalition of Asian Institute of Technology (AIT), the Ministry of foreign affairs and the development of France. Association of Southeast Asian Nations and the European Union (EU) in this job you Larry Mara miss