โดยทั่วไปสิ่งที่มนุษย์สรางขึ้นดวย

โดยทั่วไปสิ่งที่มนุษย์สรางขึ้นดวยมือเรียกวาหัตถกรรม (craft, handicraft) ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักคือ การใช้สอย ต่อมาเมื่อมีประโยชน์ใช้สอยสมบูรณ์ แล้ว มนุษย์จึงสร้างให้มีฝีมือสูงขึ้น โดยใช้ทักษะเฉพาะตัว ผสานกับความรู้สึกนึกคิด จินตนาการ และความงดงาม ทําให้งานหัตถกรรมมิได้เป็นเพียง
เครื่องมือเครื่องใช้เท่านั้น แต่มีความงาม แฝงภูมิปัญญาและค่านิยมของชุมชน ซึ่งเป็นต้นเค้าของสิ่งที่เรียกกันภายหลังว่า ศิลปะ และเรียกหัตถกรรมที่มี
คุณลักษณะดังกล่าวว่า ศิลปหัตถกรรม (art and craft) มนุษย์ใช้ศิลปหัตถกรรมเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจําวัน สนองความเชื่อทางศาสนา หรือเสริม
อํานาจบารมีของชนชั้นน (หัตถกรรมกับศิลปหัตถกรรมนั้น แยกออกจากกันอย่างเด็ดขาดยาก ดังนั้น ในบทความนี้จะเรียกรวมๆ ว่า ศิลปหัตถกรรม ซึ่งหมาย
รวมถึงหัตถกรรมด้วย)ก่อนจะสร้างศิลปะที่เรียกว่าวิจิตรศิลป์ (fine art) ให้มีคุณค่าและมีความงามในตัวเองมากกว่าประโยชน์ใช้สอย ศิลปะที่สร้างเพื่อ
ประโยชน์ใช้สอยมากว่าคุณค่าทางสุนทรียภาพ เรียกประยุกต์ศิลป์(applied art) หรือศิลปะประยุกต์ แต่กระนั้นก็ตาม ศิลปะทั้งสองประเภทนี้ก็ยากที่จะแยกจากกันชัดเจน เพราะมักเกี่ยวเนื่องกันเสมอ ต่อมาในคริสต์ศักราช 1870 กระแสความนิยมศิลปะที่มีลักษณะเป็นปัจเจกนิยมและคุณค่าของสุนทรียภาพสูงขึ้น จึงมีผู้พยายามจะแยกศิลปะออกจากวัตถุประสงค์นั้นเรียกศิลปะแนวนี้ว่า ศิลปะเพื่อศิลปะ (art for art’s sake) เนื่องเป็นแรงผลักดันสําคัญที่ทําให้ศิลปินสมัยใหม่
สร้างสรรค์ศิลปะให้ก้าวหน้าอย่างอิสระ ในขณะที่กระแสศิลปะสมัยใหม่กําลังก้าวไปข้างหน้านั้น ศิลปะที่สร้างโดยชาวบ้านหรือประชาชนทั่วถูกละเลย ช่างฝีมือ
ลดจํานวนลงไปมาก เฉพาะช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 งานช่างฝีมือหรืองานหัตถกรรมของยุโรปได้รับผลกระทบจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทําให้ช่างฝีมือ
ละทิ้งงานฝีมือเข้าสู่ระบบโรงงาน จนขาดแคลนช่างงานหัตถกรรมและศิลปหัตถกรรมถูกละเลย เพราะประชาชนนิยมผลิตภัณฑ์จากโรงงานอุตสาหกรรมที่มีราคาถูกซื้อได้สะดวก ค่านิยมเช่นนี้ทําให้ศิลปิน นักออกแบบนักวิชาการศิลปะกลุ่มหนึ่งเกิดความกังวนว่าศิลปหัตถกรรมที่เป็นงานฝีมือของช่างดั้งเดิมของชาติจะสูญไป จึงร่วมกันรณรงค์ให้อนุรักษ์ฝีมือช่างของแต่ละถิ่นเอาไว้เกิดขบวนการศิลปหัตถกรรม (arts and crafts movement) ขึ้นในประเทศอังกฤษ แล้วแพร่ไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรป ศิลปินและนักออกนําลวดลายและรูปแบบของงานศิลปหัตถกรรมไปประยุกต์เป็นศิลปะตกแต่งหรือมัณฑนศิลป์แบบใหม่ที่เรียกว่า นวศิลป์หรือ art nouveau ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1880-1990

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

In General, the things that humans have  ngakhuen  wayamue  arts and crafts jade calling Moscow (craft, handicraft), which is the main objective is to utilize. Later, when the functional integrity of human creates high-skilled user with specific skills, think feel. The imagination and make crafts not only.Use only tools with wisdom and beauty of passive values of community, which is the beginning of what is called the same layout as the arts and crafts with.Features: Arts and crafts, said (art and craft) of human use, arts and crafts and tools used in daily life. Religious belief or accessory needsThe power and influence of the arts and crafts classes (with the craft separated from the widely marketed, so difficult in this article is to be referred, arts and crafts.Includes arts and crafts), before the creation of the arts Visual Arts (fine art) is called, and is in itself more than the functional. Art created toFunctional and aesthetics. Call the applied arts (applied art) art by art or even application of both categories, it is difficult to separate clearly because they are often associated. Gregorian in 1870 the popularity of art look like individualism and aesthetics. There are those who are attempting to separate the art from the objective of this concept art that art calls for art (art for art's sake) as a significant driving force that makes the modern artist.Creative Arts, advancing independently. While the stream of modern art is moving forward. Art created by people or people being ignored Artisans.Reduce the number of down. Only the end of the 19th century the work of artisans or craft Europe affected by the industrial revolution. Make artisans.ละทิ้งงานฝีมือเข้าสู่ระบบโรงงาน จนขาดแคลนช่างงานหัตถกรรมและศิลปหัตถกรรมถูกละเลย เพราะประชาชนนิยมผลิตภัณฑ์จากโรงงานอุตสาหกรรมที่มีราคาถูกซื้อได้สะดวก ค่านิยมเช่นนี้ทําให้ศิลปิน นักออกแบบนักวิชาการศิลปะกลุ่มหนึ่งเกิดความกังวนว่าศิลปหัตถกรรมที่เป็นงานฝีมือของช่างดั้งเดิมของชาติจะสูญไป จึงร่วมกันรณรงค์ให้อนุรักษ์ฝีมือช่างของแต่ละถิ่นเอาไว้เกิดขบวนการศิลปหัตถกรรม (arts and crafts movement) ขึ้นในประเทศอังกฤษ แล้วแพร่ไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรป ศิลปินและนักออกนําลวดลายและรูปแบบของงานศิลปหัตถกรรมไปประยุกต์เป็นศิลปะตกแต่งหรือมัณฑนศิลป์แบบใหม่ที่เรียกว่า นวศิลป์หรือ art nouveau ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1880-1990

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

In general, all human rating at the market and its address. (hand craft, craftHandicraft) whose main purpose is to use. When the usefulness of complete and human should make skilled higher. Using individual skill combined with emotions, imagination and beauty.Tools only. But beauty, wisdom and values of the latent community. Which is what he's known later that art and craft are called
.Such features, arts and crafts (Art and craft) using human arts and crafts appliances in daily life, meet the religious beliefs. Or extra
.Power prestige classes (Arts and crafts and arts and crafts. Separated completely hard, so in this article will call together that arts and crafts, which means
.Includes craft) before creating art called the Fine Arts (Fine Art) provide valuable and beauty in itself rather than utility. Art created to
.