รู้จักใช้ เข้าใจเงินโดย วรากรณ์ สาม

รู้จักใช้ เข้าใจเงิน
โดย วรากรณ์ สามโกเศศ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

การเป็น "สิ่งแรก" นั้นเป็นอมตะ เพราะไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกมากน้อยเพียงใด ก็จะไม่มีวันทำให้สถานะของการเป็นแรกนั้นเปลี่ยนแปลงไปได้เลย ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธนาคารแรกของไทยในนาม "สยามกัมมาจล" จะครบอายุ 100 ปี ในวันที่ 30 มกราคม 2550 และในโอกาสนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ได้จัดทำหนังสือ "รู้จักใช้ เข้าใจเงิน" เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ โดยเจ้าของคอลัมน์นี้เป็นผู้เขียน

หนังสือเล่มนี้ธนาคารไม่ขาย แต่มอบให้ห้องสมุดโรงเรียน ลูกค้า ผู้ถือหุ้น ฯลฯ โดยจัดพิมพ์ขึ้นครั้งแรก 60,000 เล่ม ธนาคารตั้งใจให้ความรู้เรื่องการจัดการการเงินส่วนบุคคลแก่เยาวชน นักศึกษา พ่อแม่ ครู และบุคลากรทั่วไป โดยแต่ละบทของหนังสือมุ่งเน้นไปที่แต่ละกลุ่มบุคคล

หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ตำราการเงิน แต่พยายามเขียนอย่างง่ายๆ ด้วยภาษาที่ใครที่อ่านภาษาไทยออกสามารถเข้าใจได้ ผู้เขียนมีความรู้สึกอย่างเดียวกับธนาคารไทยพาณิชย์คืออยากให้หนังสือเล่มนี้สร้างประโยชน์อย่างแท้จริงแก่ผู้คนทุกวัย

ขอยกบางตอนของบทที่ตั้งใจเขียนให้บุคคลทั่วไปอ่านมาพอเป็นตัวอย่างดังต่อไปนี้

"...เมื่อพูดถึงเรื่องการหาเงินและการใช้เงิน คนจำนวนไม่น้อยเห็นว่าเป็นเรื่อง "หญ้าปากคอก" ที่ไม่ต้องเรียนรู้ก็ได้ อย่างไรก็ดี "หญ้าปากคอก" นี้ได้กลายเป็น "หนามยอกอก" ที่ทิ่มแทงคนหลายคน จนบางคนต้องล้มหายตายจากไปทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่ดังที่ได้เห็นกันอยู่เนืองๆ

การมีฐานะมั่นคงจากการใช้แรงงานของตนเองตลอดชีวิต ถึงแม้จะเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง แต่ก็เป็นศิลปะที่มีหลักการบางอย่างเป็นตัวกำกับ การเข้าใจหลักการดังกล่าว จะช่วยให้ไม่เกิดสภาวะที่ทุ่มเททำงานหารายได้อย่างหนัก แต่ในบั้นปลายชีวิตก็ยังหาความมั่นคงทางการเงินไม่ได้

"ชีวิตเป็นเรื่องของการเลือก และการยอมรับผลที่เกิดขึ้นตามมา" ข้อความนี้เตือนใจให้นึกถึงการตัดสินใจที่ทุกคนต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกคนรัก เลือกสั่งอาหาร เลือกโรงเรียนลูก เลือกซื้อบ้าน รถยนต์ โทรทัศน์ เลือกที่จะใช้เงินตามใจชอบ หรือเลือกที่จะอดออม

มนุษย์มีแนวโน้มโดยธรรมชาติที่จะใช้จ่ายเงินที่หามาได้อย่างตามใจตนเอง เพราะถือว่าเป็นสิ่งตอบแทนการทำงานที่เหน็ดเหนื่อย จนละเลยที่จะเก็บเงินบางส่วนไว้เพื่อทำให้งอกเงยสำหรับอนาคตที่สุขสบายยิ่งขึ้น หลายคนลืมคิดไปว่าถ้าใช้เงินที่หามาได้ไปทั้งหมด ความสุขที่ได้รับก็จะจบอยู่เพียงแค่นั้น ไม่มีอนาคตที่ว่าทำงานเท่าเดิม แต่ได้รับผลตอบแทนมากขึ้น ไม่มีอนาคตของความมั่นคงทางการเงินซึ่งจะอำนวยให้เกิดความมั่นคงในชีวิตไปด้วย และไม่มีอนาคตที่จะมีชีวิตสุขสบายเมื่อพ้นวัยทำงานไปแล้ว

ถ้าใครเลือกเส้นทาง "สุขวันนี้และจบแค่นี้" ก็จำต้องยอมรับผลที่เกิดตามมา แต่ถ้าใครเลือกเส้นทาง "ไม่สุขวันนี้เต็มที่ แต่จะสุขยาวกว่านี้ไปในอนาคต" ก็จำเป็นต้องมีเงินเหลือจากการใช้จ่ายเก็บไว้เป็นเงินออม หรือจะให้ดีกว่านั้นก็คือ กันส่วนหนึ่งของรายได้ไว้แต่แรกก่อนใช้จ่าย เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของรายได้ก่อนหักภาษี

เงินออมเป็น "ต้นน้ำ" สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการมีความมั่นคงในด้าน การเงินต่อไปในอนาคต เงินออมเกิดขึ้นได้เพราะเจ้าของรายได้มีความมัธยัสถ์ กล่าวคือใช้จ่ายเงินเฉพาะในเรื่องที่จำเป็น ไม่สุรุ่ยสุร่ายใช้จ่ายเงินอย่างเขลาในเรื่องต่างๆ ความมัธยัสถ์เป็นแบบแผนหนึ่งของการดำเนินชีวิต ที่มิได้ทำให้ใครเดือดร้อน และมิใช่การเอารัดเอาเปรียบคนอื่น การขาดความมัธยัสถ์ต่างหากที่จะทำให้ตนเองเดือดร้อน และอาจทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนไปด้วย เพราะอาจถูกรบกวนขอเงิน หรือขอยืมเงินเพราะตนเองมีเงินใช้ไม่พอ

ความมัธยัสถ์โยงใยกับการมีวินัยบังคับใจตนเอง และการมุ่งมั่นมีเป้าหมายในชีวิต ทำให้เกิดสภาวการณ์ที่สำคัญของชีวิต นั่นคือ "การอยู่กินต่ำกว่าฐานะ" (live below means) ซึ่งนำไปสู่การมีเงินเหลือเพื่อเก็บออมนั่นเอง

ผู้ที่อยู่กินตามฐานะของรายได้หมายถึงการไม่มีเงินออม และผู้ที่อยู่กินเกินฐานะ หมายถึงใช้จ่ายเงินเกินรายได้ที่ตนเองมี นั่นก็คือต้องหยิบยืมส่วนที่ขาดไปจากผู้อื่น ซึ่งก็คือการเป็นหนี้นั่นเอง

เมื่ออยู่กินต่ำกว่าฐานะอย่างสม่ำเสมอก็จะเกิดเงินออมขึ้นอย่างสม่ำเสมอเช่นกันเงินออมจะสะสมเป็นเงินก้อน และเมื่อเอาไปลงทุนอย่างชาญฉลาดก็จะก่อให้เกิดผลตอบแทนเป็นรายได้เพิ่มเติมจากรายได้ที่ได้รับจากการทำงานอยู่แล้ว ถ้าหากผลตอบแทนลักษณะนี้พอกพูนกันมากขึ้น ถึงแม้จะทำงานน้อยลงหรือไม่ได้ทำงานเลย อันเนื่องมาจากความเจ็บป่วยหรือพ้นวัยทำงานแล้ว ก็จะยังคงมีรายได้อยู่เช่นเดิม

ความมั่งคั่งเป็นผลพวงของ "การออกลูกออกหลาน" ของเงินตอบแทนจากการออมขึ้นแรก กล่าวคือเมื่อได้รับผลตอบแทน จากการลงทุนครั้งแรก ก็นำไปลงทุนต่อ และเมื่อได้รับผลตอบแทนอีก ก็ลงทุนต่อไปอีกขั้นหนึ่งต่อไปเรื่อยๆ จนสมทบพอกพูนเป็นความมั่งคั่ง

การกระทำเช่นนี้ ซึ่งเริ่มจากการมีเงินออมเป็นเบื้องต้นจนถึงการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง คือ การให้ "เงินทำงานรับใช้" นั่นเอง

ในชีวิตของผู้คน ทุกคนมีทั้งวัยทำงานที่หารายได้คล่องมือจากการออกแรงทำงาน และมีวัยพ้นทำงานที่ไม่มีรายได้ จากการออกแรงทำงาน ดังนั้น การวางแผนการเงินเพื่อให้ "เงินทำงานรับใช้" ตั้งแต่อยู่ในวัยทำงาน จนสามารถหารายได้เป็นกอบเป็นกำ เผื่อไปถึงวัยที่ไม่อาจหารายได้ได้เต็มที่จากการทำงาน จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง

ตลอดชีวิตการทำงานซึ่งมีเวลา 30 ปีเศษๆ ถ้าบุคคลในช่วงวัยทำงานใช้จ่ายเงินอย่างขาดการวางแผนให้ "เงินทำงานรับใช้" แล้ว เมื่อถึงวัยเกษียณอายุ คุณภาพชีวิตที่ได้รับก็จะไม่เหมือนเดิม หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่าจะไม่ร่ำรวยตลอดชีวิตอย่างแน่นอน อย่างนี้เรียกว่า "รวยในวันนี้ เพื่อจนในวันข้างหน้า"

ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่ตระหนักดีถึงการร่ำรวยตลอดชีวิต จะวางแผนให้เงินทำงานรับใช้เป็นอย่างดี โดยมีการดำเนินชีวิตพื้นฐานแบบ "อยู่กินต่ำกว่าฐานะ" การกระทำเช่นนี้ก็คือ "ยอมจนวันนี้ เพื่อร่ำรวยตลอดชีวิต" นั่นเอง

การยอมสละการบริโภคในปัจจุบันไปบ้าง เพื่อให้มีอนาคตทางการเงินที่มั่นคง และสามารถดำเนินชีวิตที่มีคุณภาพสม่ำเสมอไป จนตลอดชีวิต คือ การ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Recognize the use understand money.By 30 December, Kim Three University of Lignan business visit. To as the "first thing" is immortal because, no matter how long the time will go through the day. No matter what has happened much more did it will not make its status as first change. The Bank is the first Bank of Commerce, Thailand Thailand "Siam" to 100 years of age, on January 30, and on this occasion, 2550 Bank Thailand has prepared a "commercial use" to recognize understood as a public service by the owner of this column as writer.This book is not for sale, but the Bank will grant school library customers, shareholders, etc. by publishing first books, 60,000 Bank intend to provide knowledge about personal finance management-youth. Students. Parents, teachers, and General personnel, each chapter of the book focuses on each individual group.This book is not a treatise but trying to write a simple language that anyone can understand, read out Thailand language. The author is feeling alone with Thailand Bank commerce is eager for this book, creating truly useful to people of all ages.Some of the articles strongly intend to read enough of the general public, as the following examples."When you talk about making money and to use the money. Many people see that as a matter of "Ya mouth policymaking" that don't want to learn it. However, the "grass" this Kennel had become mouth "thorns Pierce his chest" that stab several people until some people must die, both lost fails, there are still breathing is seen in Pakistan.Having a stable position from their own labor throughout his life. Although it is one of the art-but it is art with a certain principle is the regulated to understand such conditions will help not that work hard to make money, but at the end of life, it can also find financial stability does not."Life is a matter of choosing and accepting consequences follow." This warning message, mind to mind, deciding that everyone must face all the time. Whether it's choosing a lover. To order food. Select a school child Buying a home, car, tv, chose to use the money as you like or choose to save.Humans, by nature, tend to spend the money, find themselves liking. Because it is considered a return to work until the that neglecting to collect some money for savings for future happiness. Many people forget to think that if they use money as a whole. Happy, it will just finishing it. There's no future for that same work. But a greater return. There are no future financial stability, which will facilitate stability in life goes by. And there is no future, comfortable life when teens.If someone chose "joy today and end this" needs to accept the result, but if someone chose "not happy today, and in the future will be happy." it is necessary to have a rest from spending the money held as savings, or will be, the better it is, the same time a part of the revenue, but the first before spending an amount of not less than 15 percent of pre-tax income.Savings is important "upstream" must-have for financial stability in the future. Savings will occur because the owner has the desire to economize revenue. That is, spending money only on matters that are required. Don't spend money on stupid example suruisurai. Ability to economize as a life plan that not make anybody hurts and not exploit other people. The lack of separate to economize to cause themselves trouble and may cause difficulties with others may ask for money or borrow money, because there is not enough money using the self.Link to economize with the ability to enforce discipline the mind and self commitment with goal in life is to cause the circumstances of life, that is, "are lower as" (live below means), which leads to money, to keep saving celebrities.Those who are according to the position of revenue means no savings and consume excess as spending exceeded income means that they are missing parts must be borrowing from others, which is a perilous debt.When it is eaten less than as a regular occurrence increased savings as well as savings to accumulate money and when to invest wisely, it will cause an additional revenue yield from revenue earned from work already. If the payoff of this nature existed. Even though I work less, or not at all. Due to a childhood illness or transcendent work, then it will still have an income.Wealth is the aftermath of "my grandson" of money from saving up for the first. That is, when it receives a payoff. From: investment first, it leads to investment and when the payoff berm investment another step following contributions accumulate as wealth.This action, which starts from the savings as a basic to augment the wealth is to make "money life" celebrities.In the life of the people. Everyone is working all the deft hand of labour and has teens working income freeing. From the work force, so plan to make "money life" since age working so can find dollar allowance to reach teens who may not find the full income from work is therefore a priority.ตลอดชีวิตการทำงานซึ่งมีเวลา 30 ปีเศษๆ ถ้าบุคคลในช่วงวัยทำงานใช้จ่ายเงินอย่างขาดการวางแผนให้ "เงินทำงานรับใช้" แล้ว เมื่อถึงวัยเกษียณอายุ คุณภาพชีวิตที่ได้รับก็จะไม่เหมือนเดิม หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่าจะไม่ร่ำรวยตลอดชีวิตอย่างแน่นอน อย่างนี้เรียกว่า "รวยในวันนี้ เพื่อจนในวันข้างหน้า"ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่ตระหนักดีถึงการร่ำรวยตลอดชีวิต จะวางแผนให้เงินทำงานรับใช้เป็นอย่างดี โดยมีการดำเนินชีวิตพื้นฐานแบบ "อยู่กินต่ำกว่าฐานะ" การกระทำเช่นนี้ก็คือ "ยอมจนวันนี้ เพื่อร่ำรวยตลอดชีวิต" นั่นเองการยอมสละการบริโภคในปัจจุบันไปบ้าง เพื่อให้มีอนาคตทางการเงินที่มั่นคง และสามารถดำเนินชีวิตที่มีคุณภาพสม่ำเสมอไป จนตลอดชีวิต คือ การ