Big Hero 6 เป็นเป็นเรื่องราวของกลุ่

Big Hero 6 เป็นเป็นเรื่องราวของกลุ่มฮีโร่ 6 คน โดยฮีโร่ทั้งหกมีความหลากหลายทางสปีชีส์ (คน-หุ่นยนต์), ชาติพันธุ์ (ผิวขาว-ผิวสี), และเพศ (ชาย-หญิง-เพศที่สาม) ซึ่ง “ความหลากหลาย” ดังกล่าวเป็นประเด็นที่น่าสนใจ

Big Hero 6 เป็นหนังเด็กที่ทันสมัยและมีความวัยรุ่นสูง สังเกตได้จาก pop-culture และวลีทีนเอจที่ตัวละครใช้ในเรื่อง เช่น การเอากำปั้นมาชนกันแล้วบูมวู้ๆ(เหมือนที่หนุ่ม Moose ชอบทำในเรื่อง Step Up) เป็นต้น

Big Hero 6 มีภาพ animation สวยงาม ละเอียด และมีชีวิตชีวาสมจริงมากๆ การดำเนินเรื่องก็ฉับไว สนุก ความเด่นของหนังไม่ได้พุ่งไปที่ความเป็นฮีโร่ของแก๊งฮีโร่เหมือนอย่างหนังเรื่อง The Avengers แต่พระเอกของเรื่องจริงๆ คือ Baymax นั่นเอง โดยช่วงครึ่งแรกของเรื่องนั้น ความน่ารักและความจริงใจใสซื่อของ Baymax จะทำให้เรายิ้มและหัวเราะท้องได้ทุกนาที

โดย Baymax นี้ เป็นหุ่นยนต์ที่ทีมงานดิสนีย์ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินของเพนกวินกับเด็กน้อยวัยหัดเดิน ส่วนหัวก็ได้รับแรงบันดาลใจจากกระดิ่ง และการออกแบบโดยรวมก็มีต้นแบบ 3D ของหุ่นยนต์จริงๆ ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาจากแล็บ MIT, Carnegie Mellon, และ DARPA (Read More: 8 Real-Life Robots That Inspired Big Hero 6)

ส่วนตัวละครฮีโร่อื่นๆ ถึงแม้จะเหมือนเป็นตัวประกอบแต่ฉันชอบที่สไตล์ของเครื่องแต่งกายหรือคอสตูมของแต่ละตัวเขาคงคอนเซ็ปต์บุคลิกและความเป็นตัวของตัวเองของคนคนนั้นเอาไว้ เช่น GoGo ก็จะเป็นมาดลุยๆ เท่ๆ และ Honey Lemon ก็จะแนวหวาน

นอกจากนี้ฉากเด่นฉากหนึ่งในเรื่อง มีฉากสะพาน Golden Gate เช่นเดียวกับหนังซุปเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ ตามสูตรสำเร็จ แต่สะพาน Golden Gate ของ Big Hero 6 แตกต่างออกไป ตรงที่สถาปัตยกรรมโครงสร้างของสะพานมีการประยุกต์ใหม่กับสถาปัตยกรรมวัดของญี่ปุ่น ทั้งนี้เพราะในการ์ตูนจริงๆ โลเกชั่นอยู่ที่กรุงโตเกียว แต่ทางดิสนีย์ดัดแปลงใหม่ให้โลเกชั่นของหนัง Big Hero 6 อยู่ที่เมือง “San Fransokyo” ซึ่งจะเป็นเมือง hybrid city ในอนาคต เกิดจากการผสมผสานความเป็นเมืองตามแบบตะวันตกกับตะวันออก (east-meets-west city) ระหว่างเมือง San Francisco ของอเมริกากับเมือง Tokyo ของญี่ปุ่น (Look More – Take a Tour to the City: San Fransokyo กับดิสนีย์) และเมือง San Fransokyo นี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดของหนังอีกเช่นกัน

แต่ Big Hero 6 ก็มีข้อเสียคือการหักมุมที่คาดเดาได้ง่าย ซึ่งฉันก็ทราบว่า Big Hero 6 เป็นหนังการ์ตูนสำหรับเด็กโลกสวย แทบไร้ซึ่งเนื้อหาความรุนแรงและความผิดหวังในเนื้อเรื่อง ดังนั้นมันเป็นเรื่องปกติแล้วที่เรื่องจะง่ายๆ เบาๆ เพราะถ้าคนดูอยากคิดเยอะๆ เขาก็ควรตีตั๋วไปดู Interstellar แทน

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Big Hero 6 is the story of a group of six men by six heroes hero with a diversity of species (man-robot), ethnic group (white-skin color), and gender (male-female-male, third) that "diversity" is an interesting issue.Big Hero 6 as children and teenagers are high. Notice that the pop-culture and phrases used in the teenage, such as removing the fist and then boom wu (as he's a young Moose Step Up), etc.Big Hero 6 is a beautiful image, animation and live a very realistic story, it makes fun of movies does not demand rises to the gang's heroics as The Avengers movie hero, but a hero of the story really is that Baymax exerted by the first half of the story. A clear and sincere honest Baymax's to make us smile and laugh every minute.โดย Baymax นี้ เป็นหุ่นยนต์ที่ทีมงานดิสนีย์ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินของเพนกวินกับเด็กน้อยวัยหัดเดิน ส่วนหัวก็ได้รับแรงบันดาลใจจากกระดิ่ง และการออกแบบโดยรวมก็มีต้นแบบ 3D ของหุ่นยนต์จริงๆ ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาจากแล็บ MIT, Carnegie Mellon, และ DARPA (Read More: 8 Real-Life Robots That Inspired Big Hero 6)ส่วนตัวละครฮีโร่อื่นๆ ถึงแม้จะเหมือนเป็นตัวประกอบแต่ฉันชอบที่สไตล์ของเครื่องแต่งกายหรือคอสตูมของแต่ละตัวเขาคงคอนเซ็ปต์บุคลิกและความเป็นตัวของตัวเองของคนคนนั้นเอาไว้ เช่น GoGo ก็จะเป็นมาดลุยๆ เท่ๆ และ Honey Lemon ก็จะแนวหวานนอกจากนี้ฉากเด่นฉากหนึ่งในเรื่อง มีฉากสะพาน Golden Gate เช่นเดียวกับหนังซุปเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ ตามสูตรสำเร็จ แต่สะพาน Golden Gate ของ Big Hero 6 แตกต่างออกไป ตรงที่สถาปัตยกรรมโครงสร้างของสะพานมีการประยุกต์ใหม่กับสถาปัตยกรรมวัดของญี่ปุ่น ทั้งนี้เพราะในการ์ตูนจริงๆ โลเกชั่นอยู่ที่กรุงโตเกียว แต่ทางดิสนีย์ดัดแปลงใหม่ให้โลเกชั่นของหนัง Big Hero 6 อยู่ที่เมือง “San Fransokyo” ซึ่งจะเป็นเมือง hybrid city ในอนาคต เกิดจากการผสมผสานความเป็นเมืองตามแบบตะวันตกกับตะวันออก (east-meets-west city) ระหว่างเมือง San Francisco ของอเมริกากับเมือง Tokyo ของญี่ปุ่น (Look More – Take a Tour to the City: San Fransokyo กับดิสนีย์) และเมือง San Fransokyo นี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดของหนังอีกเช่นกัน
แต่ Big Hero 6 ก็มีข้อเสียคือการหักมุมที่คาดเดาได้ง่าย ซึ่งฉันก็ทราบว่า Big Hero 6 เป็นหนังการ์ตูนสำหรับเด็กโลกสวย แทบไร้ซึ่งเนื้อหาความรุนแรงและความผิดหวังในเนื้อเรื่อง ดังนั้นมันเป็นเรื่องปกติแล้วที่เรื่องจะง่ายๆ เบาๆ เพราะถ้าคนดูอยากคิดเยอะๆ เขาก็ควรตีตั๋วไปดู Interstellar แทน

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Big Hero 6 is the story of a group of Heroes 6 people. The hero all six have the variety of species (a robot), ethnicity (white - skin color), and gender (male - female - the third sex). "Variety." Such an interesting issue

.Big Hero 6 leather is advanced and the teenager children high observation from the pop-culture and phrases that ตัวละครใช้ teenage in, such as taking a fist hit already boom Whoa (like young. Moose like in Step Up) etc.

.Big Hero 6 picture animation beautiful detailed and lively more realistic narration is fast, fun, the dominant of the movie didn't rush to the hero of the hero like the movie. The Avengers but the hero of the true, that is, BaymaxBy the first half of the story. Cute and innocent sincerity of Baymax will make us smile and belly laugh every minute!
.By this Baymax robot team Disney was inspired by the walk of the penguins with little kids / Toddler The header has been inspired by the bell. And the overall design is a master 3D of robots.MIT.Carnegie Mellon, and DARPA (Read More: 8 Real-Life Robots That Inspired Big Hero 6)

.Personal drama other heroes. Even as an assembly but I like that style of dress or costume of each one เขาคง concept of personality and individuality of the person. Such as GoGo will press ahead, as cool and Honey.Will the sweet
.
.