บทคัดย่อ (Abstract) การศึกษาเรื่อง

บทคัดย่อ (Abstract)

การศึกษาเรื่อง การวิเคราะห์ระบบการจัดซื้อวัตถุดิบ สินค้าคงคลัง และระบบการผลิตแบบลีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์ และโซ่อุทาน ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ กรณีศึกษาบริษัทผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงรูปแบบการบูรณาการระบบบริหารทรัพยากรองค์กรภายในองค์กรว่าส่งกระทบต่อองค์กรในด้านใดบ้าง พร้อมทั้งศึกษาการทำงานร่วมกันระหว่างระบบบริหารทรัพยากรองค์กรกับการปฎิบัติงานที่หน้างานจริงว่าสามารถทำงานควบคู่กันอย่างความสอดคล้องได้อย่างไร เพื่อให้เกิดความถูกต้อง และแม่นยำในการบริหารทรัพยากรองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

การศึกษาบริษัทตัวอย่างในครั้งนี้ จากประชากร และกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ให้ข้อมูลในงานวิจัย คือ พนักงานของบริษัทผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม แบ่งกลุ่มตัวอย่าง ออกเป็น 9 กลุ่ม ได้แก่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้จัดการฝ่ายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้จัดการฝ่ายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ผู้จัดการโรงงาน ผู้จัดการฝ่ายงานจัดซื้อ ผู้จัดการฝ่ายงานสินค้าคงคลัง ผู้จัดการฝ่ายงานผลิต ผู้จัดการฝ่ายงานควบคุม และตรวจสอบคุณภาพ และผู้จัดการฝ่ายงานแผนกบุคคล โดยเครื่องมือที่ผู้วิจัยใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล จำนวน 3 เครื่องมือ ได้แก่
- การสัมภาษณ์เชิงลึก แบบตัวต่อตัว โดยใช้เทคนิคการสื่อสารแบบถามตรง
- การสังเกตการณ์แบบทางตรง โดยการลงมือปฎิบัติที่หน้างานจริง
- การเก็บ และรวบรวมข้อมูล ทั้งแบบข้อมูลทุติยภูมิจากแบบฟอร์มเอกสาร และรายงานต่างๆ ตามแต่ละฝ่ายงาน และข้อมูลปฐมภูมิ จากการสัมภาษณ์ และสังเกตการณ์ จากผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่งานการจัดซื้อวัตถุดิบ งานการจัดเก็บสินค้าคงคลัง และงานการผลิต


ผลการศึกษาพบว่า แบบฟอร์มเอกสารต่างๆ ที่ใช้ในการทำงานตามแต่ละฝ่ายงาน มีรูปแบบของฟอร์มเอกสารที่ใช้งานแตกต่างกัน และต่างฝ่ายงานออกแบบแบบฟอร์มเอกสาร เพื่อใช้ในการทำงานภายในแผนกตนเอง ส่วนใหญ่แบบฟอร์ม

เอกสารดังกล่าวจะถูกสร้างผ่านทางโปรแกรม Microsoft (Word, Excel) ส่งผลทำให้ข้อมูลถูกจัดเก็บไว้อยู่ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มีความเสี่ยงของข้อมูลที่อาจจะสูญหาย ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นถูกโจมตีด้วยไวรัสผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และไม่สามารถกู้ข้อมูลได้ ส่งผลกระทบต่อองค์กร เนื่องจากไม่สามารถทำงานต่อได้ และต้องเสียเวลาในการออกแบบฟอร์มเอกสารใหม่ เพราะแบบฟอร์มเอกสารไม่ได้ถูกสร้างผ่านระบบจากทางแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่งผลทำให้ไม่เกิดการแบ่งปันสารสนเทศร่วมกันภายในองค์กร และไม่ก่อให้เกิดรูปแบบของแบบฟอร์มที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เนื่องด้วยแบบฟอร์มเอกสารที่ใช้มีความหลากหลาย เช่น เอกสารใบขอซื้อ และใบสั่งซื้อ ของแผนกจัดซื้อ หรือเอกสารที่ใช้ในกระบวนการผลิต ตั้งแต่การรับเข้า - เบิกจ่ายวัตถุดิบ การตรวจสอบ และการผลิต พบว่ากิจกรรมการดำเนินงานส่วนใหญ่จะเน้นไปที่งานเอกสารเป็นหลัก แต่ละแผนกต่างคนต่างทำงาน โดยใช้การกรอกมือ เซ็นต์รับทราบ และส่งต่อกันเป็นทอดๆ ก่อให้เกิดเอกสารสูญหายระหว่างทาง และจำนวนเอกสารในแต่ละแผนกที่จัดเก็บแยกส่วนกัน เอกสารมีเป็นจำนวนมากที่จัดเก็บใส่แฟ้ม ถ้ามีเอกสารเพิ่มมากขึ้น ทำให้องค์กรต้องทำการจัดซื้อตู้เก็บเอกสาร และจัดหาพื้นที่ในการเก็บเอกสาร ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในระยะยาว จะเห็นได้ว่าข้อมูลไม่มีการเชื่อมโยงกัน เพราะไม่มีการบริหารการจัดการข้อมูล (Information Technology Mangement: ITM) ที่เป็นระบบ โดยไม่มีการจัดเก็บข้อมูลเข้าระบบ ทำให้ไม่สามารถค้นหา หรือตรวจสอบ
ข้อมูลผ่านทางระบบได้อย่างทันทีที่ต้องการ ทำให้ต้องเสียเวลาในการค้นหาเอกสารที่จัดอยู่ในแฟ้มจำนวนมาก และไม่สามารถที่จะทราบได้ว่าเอกสารที่ต้องการอยู่ในแฟ้มใดบ้าง ถ้าไม่มีการจัดทำรหัสบ่งชี้ที่ชัดเจน และอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างผลกระทบต่อองค์กร คือ ปัญหาพนักงานลาออก ซึ่งเป็นพนักงานที่มีความรู้ความสามารถ ถ้าหากเกิดพนักงานที่มีความรู้เหล่านี้ออกจากองค์กร อาจทำให้ความรู้เหล่านี้สูญหายไปด้วยเช่นกัน ถ้าไม่มีการจัดเก็บข้อมูลเหล่านั้นเข้าระบบ

จากวิสัยทัศน์ผู้บริหารที่เน้นการให้ความสำคัญในการลดต้นทุน โดยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้กับองค์กร เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากที่กล่าวไว้ข้างต้น เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกแผนก และเป็นหัวใจหลักที่สำคัญในการบูรณาการระบบงานต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้เกิดการบริหารงานภายในองค์กรที่สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น สร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันสำหรับธรุกิจยุคใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการนำเอาระบบการบริหาร และการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรโดยรวม (Enterprise Resource Planning: ERP) เข้ามาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ลดเวลาการดำเนินงาน และลดกระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อนลง เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลสารสนเทศร่วมกันทั่วทั้งองค์กร ภายใต้ฐานข้อมูลเดียวกัน แบบออนไลน์ และเรียลไทม์ คาดว่าจะทำให้องค์กรสามารถแก้ไขปัญหาดังที่กล่าวมาได้ และดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Abstract (Abstract) The study of analysis system of raw material procurement, inventory and production system lean to improve logistics management and supply chain information technology a case study of exclaim or interject the manufacturers and distributors of beauty products. Objective to study the enterprise resource management system integrated within the organization that sent the Organization in the field of education, which, along with collaboration between the enterprise resource management system with an actual page that others can work in parallel, continuous compliance? To achieve accuracy and precision in the enterprise resources management most effectively.A study of the company, for example, this time from the population and sample data in user research is an employee of the manufacturer and distributors of beauty products divided into 9 groups of samples, including Chief Executive Officer Vice President, information technology manager, new product development manager, plant manager, procurement Manager, Inventory Manager, production manager and quality control manager, Department, and individual researchers use the tool to collect information. 3 tools: -In-depth interviews by private communication direct questions. -The direct observations of the actual reaction to batthi. -To collect and gather the information in the data document and form the secondary from the various reports based on primary data, and each job interview and observations from the worker involved, ranging from the procurement of raw materials jobs. The task of storing inventory and production jobs.Study results showed that the form that is used to run each job. The format of a form document that use different party designs and forms to use to work within their own departments. Most of the form.เอกสารดังกล่าวจะถูกสร้างผ่านทางโปรแกรม Microsoft (Word, Excel) ส่งผลทำให้ข้อมูลถูกจัดเก็บไว้อยู่ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มีความเสี่ยงของข้อมูลที่อาจจะสูญหาย ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นถูกโจมตีด้วยไวรัสผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และไม่สามารถกู้ข้อมูลได้ ส่งผลกระทบต่อองค์กร เนื่องจากไม่สามารถทำงานต่อได้ และต้องเสียเวลาในการออกแบบฟอร์มเอกสารใหม่ เพราะแบบฟอร์มเอกสารไม่ได้ถูกสร้างผ่านระบบจากทางแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่งผลทำให้ไม่เกิดการแบ่งปันสารสนเทศร่วมกันภายในองค์กร และไม่ก่อให้เกิดรูปแบบของแบบฟอร์มที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เนื่องด้วยแบบฟอร์มเอกสารที่ใช้มีความหลากหลาย เช่น เอกสารใบขอซื้อ และใบสั่งซื้อ ของแผนกจัดซื้อ หรือเอกสารที่ใช้ในกระบวนการผลิต ตั้งแต่การรับเข้า - เบิกจ่ายวัตถุดิบ การตรวจสอบ และการผลิต พบว่ากิจกรรมการดำเนินงานส่วนใหญ่จะเน้นไปที่งานเอกสารเป็นหลัก แต่ละแผนกต่างคนต่างทำงาน โดยใช้การกรอกมือ เซ็นต์รับทราบ และส่งต่อกันเป็นทอดๆ ก่อให้เกิดเอกสารสูญหายระหว่างทาง และจำนวนเอกสารในแต่ละแผนกที่จัดเก็บแยกส่วนกัน เอกสารมีเป็นจำนวนมากที่จัดเก็บใส่แฟ้ม ถ้ามีเอกสารเพิ่มมากขึ้น ทำให้องค์กรต้องทำการจัดซื้อตู้เก็บเอกสาร และจัดหาพื้นที่ในการเก็บเอกสาร ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในระยะยาว จะเห็นได้ว่าข้อมูลไม่มีการเชื่อมโยงกัน เพราะไม่มีการบริหารการจัดการข้อมูล (Information Technology Mangement: ITM) ที่เป็นระบบ โดยไม่มีการจัดเก็บข้อมูลเข้าระบบ ทำให้ไม่สามารถค้นหา หรือตรวจสอบInformation through the system, as soon as they want. To waste time in searching for the documents that belong to a large number of files, and can not be aware that the document contained in the file. If you do not have a clear indicator codes. And one of the problems that create impact on the Organization, the issues that it is employees who have knowledge can occur if employees who have knowledge of these organizations may make these lost knowledge as well. If there are no storage systems. จากวิสัยทัศน์ผู้บริหารที่เน้นการให้ความสำคัญในการลดต้นทุน โดยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้กับองค์กร เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากที่กล่าวไว้ข้างต้น เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกแผนก และเป็นหัวใจหลักที่สำคัญในการบูรณาการระบบงานต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้เกิดการบริหารงานภายในองค์กรที่สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น สร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันสำหรับธรุกิจยุคใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการนำเอาระบบการบริหาร และการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรโดยรวม (Enterprise Resource Planning: ERP) เข้ามาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ลดเวลาการดำเนินงาน และลดกระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อนลง เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลสารสนเทศร่วมกันทั่วทั้งองค์กร ภายใต้ฐานข้อมูลเดียวกัน แบบออนไลน์ และเรียลไทม์ คาดว่าจะทำให้องค์กรสามารถแก้ไขปัญหาดังที่กล่าวมาได้ และดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น