พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ (5 เมษายน พ.ศ. 2463 — 6 พฤ การแปล - พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ (5 เมษายน พ.ศ. 2463 — 6 พฤ อังกฤษ วิธีการพูด

พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก ชาติชาย

พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ (5 เมษายน พ.ศ. 2463 — 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2541) เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 17 และเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในหลายกระทรวงคือ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม และ กระทรวงกลาโหม

พลเอกชาติชาย เป็นผู้ก่อตั้งพรรคการเมือง 2 พรรค และได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค คือ พรรคชาติไทย และ พรรคชาติพัฒนา
ชาติชาย ชุณหะวัณ เกิดที่ตำบลพลับพลาไชย จังหวัดพระนคร เดิมมีชื่อว่า "สมบูรณ์ ชุณหะวัณ" เป็นบุตรของจอมพลผิน ชุณหะวัณ กับคุณหญิงวิบุลย์ลักสม์ ชุณหะวัณ ในครอบครัวที่มีเชื้อสายจีน[1] มีบรรพบุรุษอพยพมาจากเมืองเท่งไฮ้ (เฉิงไห่)[2][3][4]

พลเอกชาติชาย สมรสกับ ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ (สกุลเดิม โสพจน์) พระญาติของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี[5] มีบุตรชายคือ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และบุตรสาวคือ วาณี ชุณหะวัณ [6] (อดีตภริยานายระวี หงษ์ประภาส มีบุตรสาวชื่อ ปวีณา หงส์ประภาส) [7] พลเอกชาติชาย เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี โรงเรียนเทพศิรินทร์และโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายทหารม้า และโรงเรียนยานเกราะกองทัพบก (อาร์เมอร์สคูล) รัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกา

พล.อ.ชาติชาย มีพี่สาว 3 คน และน้องสาว 1 คน

พี่สาวคนโตคือ คุณหญิง อุดมลักษณ์ ศรียานนท์ ภริยา พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย ในช่วงก่อนการรัฐประหารปี พ.ศ. 2500
พี่สาวคนที่สองคือ นางพร้อม ทัพพะรังสี ภริยา นายอรุณ ทัพพะรังสี นางพร้อมและนายอรุณ อดีตอธิบดีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง มีบุตรคือ นายกร ทัพพะรังสี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ที่ พล.อ.ชาติชาย ให้ไว้วางใจอย่างสูง
พี่สาวคนที่สาม คือ ท่านผู้หญิงเจริญ อดิเรกสาร ภริยา พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร หัวหน้าพรรคชาติไทยคนแรก ท่านผู้หญิงเจริญ และพล.ต.อ.ประมาณ มีบุตรคือ นายปองพล อดิเรกสาร
น้องสาวคนเล็ก คือ นางพรสม เชี่ยวสกุล เป็นภริยาของ นายเฉลิม เชี่ยวสกุล อดีตรองผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และอดีตประธานกรรมการธนาคารนครหลวงไทย มีบุตรคือ นายเฉลิมพงษ์ เชี่ยวสกุล เจ้าของเวทีมวยราชดำเนิน
พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ ได้ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 ณ โรงพยาบาลคอมเวลล์ สหราชอาณาจักร รวมอายุได้ 78 ปี
มัธยมศึกษา โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี, โรงเรียนเทพศิรินทร์และโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร
พลเอกชาติชาย รับราชการครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2483 ในตำแหน่งผู้บังคับหมวด กองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ผู้บังคับกองร้อย กองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ประจำกรมเสนาธิการทหารบก ในช่วงที่ต้องไปประจำการที่ สหรัฐไทยเดิมพอดี[8] ต่อมาในปี พ.ศ. 2492 ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งรองผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา และกลับมาเป็นผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ รองผู้บังคับการโรงเรียนยานเกราะ และผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 2 และผู้บังคับการโรงเรียนยานเกราะ

ในปี พ.ศ. 2501 ได้ถูกเหตุการณ์ทางการเมืองผันแปรชีวิตไปเป็นอุปทูตอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม ประจำประเทศอาร์เจนตินา และเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม ประจำประเทศออสเตรีย ตุรกี สำนักวาติกัน และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรประจำองค์การสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ตามลำดับ

ปี พ.ศ. 2515 พลเอกชาติชาย เดินทางกลับประเทศไทย เข้ารับตำแหน่ง อธิบดีกรมการเมือง กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งนับเป็นตำแหน่งสุดท้าย ในชีวิตข้าราชการประจำ เนื่องจากในปลายปี พ.ศ. 2515 นี้เอง พลเอกชาติชาย ที่ขณะนั้นยังมียศเป็น พลจัตวาชาติชาย ชุณหะวัณ ได้รับแต่งตั้งให้เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ใน คณะรัฐมนตรีคณะที่ 32 ของไทย ที่มี จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี และหลังจากนั้น พลเอกชาติชาย ก็ได้เข้าสู่วงการเมืองอย่างเต็มตัว
พลเอกชาติชาย มีส่วนร่วมในการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2490 และรัฐประหารในปี พ.ศ. 2494 ตามบิดา คือ จอมพลผิน ชุณหะวัณ ผู้เป็นหัวหน้าในการรัฐประหารทั้งสองครั้งนี้ โดยขณะมียศเพียงแค่ร้อยตรีและร้อยเอกเท่านั้น หลังจากนั้นเริ่มบทบาททางการเมืองอย่างแท้จริงในรัฐบาล จอมพลถนอม กิตติขจร ด้วยตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 พลเอกชาติชาย ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา และได้รับเลือกตั้งต่อเนื่องกันมาอีกรวม 5 สมัย พลเอกชาติชาย และได้เข้าร่วมในคณะรัฐมนตรีอีกหลายสมัย ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรองนายกรัฐมนตรี

โดยได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามลำดับดังนี้
พ.ศ. 2515 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ
พ.ศ. 2518 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ[9]
พ.ศ. 2518 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา รวม 5 สมัย
พ.ศ. 2519 ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาลหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช[10] จนกระทั่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากนายกรัฐมนตรีลาออก และได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม[11] อีกสมัยหนึ่ง แต่ดำรงตำแหน่งเพียง 12 วัน และได้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณเพียงวันเดียวก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากการรัฐประหารของพลเรือเอก สงัด ชลออยู่
พ.ศ. 2529 รองนายกรัฐมนตรี
ในปี พ.ศ. 2517 พลเอกชาติชาย ได้ร่วมกับ พลตรีประมาณ อดิเรกสาร ผู้มีศักดิ์เป็นพี่เขย และ พลตรีศิริ สิริโยธิน ก่อตั้ง พรรคชาติไทย ขึ้น โดยมี พลตรีประมาณ อดิเรกสาร เป็นหัวหน้าพรรค และต่อมาในปี พ.ศ. 2529 พลเอกชาติชายขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 2 สามารถนำพรรคชาติไทย ชนะการเลือกตั้งได้คะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่งในปี พ.ศ. 2531 ในชั้นต้นมีการทาบทาม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อเป็นสมัยที่ 4 แต่พลเอกเปรมปฏิเสธ และประกาศวางมือทางการเมือง พลเอกชาติชายจึงได้รับการสนับสนุน ให้ดำรงตำแหน่งเป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ 17 ของประเทศไทย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ (5 เมษายน พ.ศ. 2463 — 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2541) เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 17 และเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในหลายกระทรวงคือ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม และ กระทรวงกลาโหมพลเอกชาติชาย เป็นผู้ก่อตั้งพรรคการเมือง 2 พรรค และได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค คือ พรรคชาติไทย และ พรรคชาติพัฒนาชาติชาย ชุณหะวัณ เกิดที่ตำบลพลับพลาไชย จังหวัดพระนคร เดิมมีชื่อว่า "สมบูรณ์ ชุณหะวัณ" เป็นบุตรของจอมพลผิน ชุณหะวัณ กับคุณหญิงวิบุลย์ลักสม์ ชุณหะวัณ ในครอบครัวที่มีเชื้อสายจีน[1] มีบรรพบุรุษอพยพมาจากเมืองเท่งไฮ้ (เฉิงไห่)[2][3][4]พลเอกชาติชาย สมรสกับ ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ (สกุลเดิม โสพจน์) พระญาติของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี[5] มีบุตรชายคือ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และบุตรสาวคือ วาณี ชุณหะวัณ [6] (อดีตภริยานายระวี หงษ์ประภาส มีบุตรสาวชื่อ ปวีณา หงส์ประภาส) [7] พลเอกชาติชาย เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี โรงเรียนเทพศิรินทร์และโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายทหารม้า และโรงเรียนยานเกราะกองทัพบก (อาร์เมอร์สคูล) รัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกาพล.อ.ชาติชาย มีพี่สาว 3 คน และน้องสาว 1 คนพี่สาวคนโตคือ คุณหญิง อุดมลักษณ์ ศรียานนท์ ภริยา พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย ในช่วงก่อนการรัฐประหารปี พ.ศ. 2500พี่สาวคนที่สองคือ นางพร้อม ทัพพะรังสี ภริยา นายอรุณ ทัพพะรังสี นางพร้อมและนายอรุณ อดีตอธิบดีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง มีบุตรคือ นายกร ทัพพะรังสี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ที่ พล.อ.ชาติชาย ให้ไว้วางใจอย่างสูงพี่สาวคนที่สาม คือ ท่านผู้หญิงเจริญ อดิเรกสาร ภริยา พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร หัวหน้าพรรคชาติไทยคนแรก ท่านผู้หญิงเจริญ และพล.ต.อ.ประมาณ มีบุตรคือ นายปองพล อดิเรกสารน้องสาวคนเล็ก คือ นางพรสม เชี่ยวสกุล เป็นภริยาของ นายเฉลิม เชี่ยวสกุล อดีตรองผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และอดีตประธานกรรมการธนาคารนครหลวงไทย มีบุตรคือ นายเฉลิมพงษ์ เชี่ยวสกุล เจ้าของเวทีมวยราชดำเนิน
พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ ได้ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 ณ โรงพยาบาลคอมเวลล์ สหราชอาณาจักร รวมอายุได้ 78 ปี
มัธยมศึกษา โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี, โรงเรียนเทพศิรินทร์และโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร
พลเอกชาติชาย รับราชการครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2483 ในตำแหน่งผู้บังคับหมวด กองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ผู้บังคับกองร้อย กองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ประจำกรมเสนาธิการทหารบก ในช่วงที่ต้องไปประจำการที่ สหรัฐไทยเดิมพอดี[8] ต่อมาในปี พ.ศ. 2492 ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งรองผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา และกลับมาเป็นผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ รองผู้บังคับการโรงเรียนยานเกราะ และผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 2 และผู้บังคับการโรงเรียนยานเกราะ

ในปี พ.ศ. 2501 ได้ถูกเหตุการณ์ทางการเมืองผันแปรชีวิตไปเป็นอุปทูตอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม ประจำประเทศอาร์เจนตินา และเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม ประจำประเทศออสเตรีย ตุรกี สำนักวาติกัน และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรประจำองค์การสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ตามลำดับ

ปี พ.ศ. 2515 พลเอกชาติชาย เดินทางกลับประเทศไทย เข้ารับตำแหน่ง อธิบดีกรมการเมือง กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งนับเป็นตำแหน่งสุดท้าย ในชีวิตข้าราชการประจำ เนื่องจากในปลายปี พ.ศ. 2515 นี้เอง พลเอกชาติชาย ที่ขณะนั้นยังมียศเป็น พลจัตวาชาติชาย ชุณหะวัณ ได้รับแต่งตั้งให้เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ใน คณะรัฐมนตรีคณะที่ 32 ของไทย ที่มี จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี และหลังจากนั้น พลเอกชาติชาย ก็ได้เข้าสู่วงการเมืองอย่างเต็มตัว
พลเอกชาติชาย มีส่วนร่วมในการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2490 และรัฐประหารในปี พ.ศ. 2494 ตามบิดา คือ จอมพลผิน ชุณหะวัณ ผู้เป็นหัวหน้าในการรัฐประหารทั้งสองครั้งนี้ โดยขณะมียศเพียงแค่ร้อยตรีและร้อยเอกเท่านั้น หลังจากนั้นเริ่มบทบาททางการเมืองอย่างแท้จริงในรัฐบาล จอมพลถนอม กิตติขจร ด้วยตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 พลเอกชาติชาย ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา และได้รับเลือกตั้งต่อเนื่องกันมาอีกรวม 5 สมัย พลเอกชาติชาย และได้เข้าร่วมในคณะรัฐมนตรีอีกหลายสมัย ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรองนายกรัฐมนตรี

โดยได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามลำดับดังนี้
พ.ศ. 2515 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ
พ.ศ. 2518 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ[9]
พ.ศ. 2518 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา รวม 5 สมัย
พ.ศ. 2519 ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาลหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช[10] จนกระทั่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากนายกรัฐมนตรีลาออก และได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม[11] อีกสมัยหนึ่ง แต่ดำรงตำแหน่งเพียง 12 วัน และได้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณเพียงวันเดียวก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากการรัฐประหารของพลเรือเอก สงัด ชลออยู่
พ.ศ. 2529 รองนายกรัฐมนตรี
ในปี พ.ศ. 2517 พลเอกชาติชาย ได้ร่วมกับ พลตรีประมาณ อดิเรกสาร ผู้มีศักดิ์เป็นพี่เขย และ พลตรีศิริ สิริโยธิน ก่อตั้ง พรรคชาติไทย ขึ้น โดยมี พลตรีประมาณ อดิเรกสาร เป็นหัวหน้าพรรค และต่อมาในปี พ.ศ. 2529 พลเอกชาติชายขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 2 สามารถนำพรรคชาติไทย ชนะการเลือกตั้งได้คะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่งในปี พ.ศ. 2531 ในชั้นต้นมีการทาบทาม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อเป็นสมัยที่ 4 แต่พลเอกเปรมปฏิเสธ และประกาศวางมือทางการเมือง พลเอกชาติชายจึงได้รับการสนับสนุน ให้ดำรงตำแหน่งเป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ 17 ของประเทศไทย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
Admiral Admiral ACM Chatchai Choonhavan (5 April 2463-6 May 2541) was the 17th Prime Minister of Thailand and served as deputy prime minister and minister in several ministries is. State Department Ministry of Industry and the Ministry of Defence Gen. Chatchai. Is the founder of two political parties and the party has held the position of head of the party's National Party and the National Party of Thailand Chatchai Choonhavan born in the parish Plubplachai. Provincial capital Originally titled "complete GCCF" the son of Chom Phon Phin Choonhavan Lady Luck Wibulis reactionaries GCCF family of Chinese descent [1] whose ancestors migrated from Teng Hai. (Cheng Hai) [2] [3] [4] Gen. national men married to Madam merit house GCCF (Currency former Bachelorette terms), the cousin of HRH the Princess Mother's royal minister [5]. son of Mr. Kraisak Choonhavan, a former senator. And his daughter goddess of speech GCCF [6] (former wife of Mr. Ravi Hong illumination has a daughter named Pavena Swan illumination) [7], General Federation attended the school Benjamarachutit Ratchaburi High School. Amnuaysin Old Cadet School and the Military Academy. Mr. Cavalry School And Army Armor School (R. Palmer School), Kentucky USA . Gen.. Chatchai has a sister three people and 1 sister , the eldest, is Lady Udomlux Sri drug and wife. Maj. A.. Phao Sriyanond past. Chief of Police One of the most powerful men in the country. In the pre-coup the year 2500 the two sisters, Mrs. Dabbaransri along with his wife, Mr. Arun Dabbaransri Mrs. and Mr. Arun. Former Comptroller General The Ministry of Finance is the son of Mr. Korn Dabbaransi, former minister for several days. Gen.. Chatchai to trust highly sister is the third Madam growing hobby of his wife. Maj. Gen. district about hobbies of National Party leader Thailand people. first Madam growth And Maj.. District about having children is that Mr. Dupont Adireksarn blessing for her little sister is the wife of Mr Chalerm turbulent rapids currencies are currencies former deputy. CPB And former Chairman of the Bank of Thailand is the son of Mr. Chalerm Pong turbulent currency Ratchadamnoen boxing stadium owner General Chatichai Choonhavan has passed away on May 6th 2541 at Planet Fairfax Hospital. Britain's 78-year-old secondary school Benjamarachutit Ratchaburi, Amnuaysin School and High School. Metropolitan General Chatichai Be the first since 2483 in the platoon. Guards 1st Cavalry Brigade company commander. The 1st Cavalry Guards Department chief of staff. During that must be stationed at. Thailand fit the US [8] Later in 2492, has moved to the position of Deputy Assistant Defense Attaché in Washington DC, United States Army and returned as a battalion commander, 1st Cavalry Guards deputy. The commander of the Armor School And commanders of the 2nd Cavalry Regiment and commander of the Armor School in the year 2501 were varied political life to a charge d'affaires Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary. Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary Country Argentina Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary. Annual Turkey, Austria and Vatican Ambassador and Permanent Representative of the United Nations at Geneva by the year 2515 General Chatichai return to Thailand. Appointed Department of City State Department This is the final position In civil life Since the end of 2515 this General Chatichai then still have a rank. Brigadier General Chatchai Choonhavan was appointed. Deputy Foreign Minister of the Cabinet of Thailand on 32 preservation Chom Phon Kittikajorn with the Prime Minister. And the General Chatichai into politics full time General Chatichai. Involvement in a coup in 2490 and a coup in 2494 by Father is Chom Phon Phin Choonhavan in a coup leader who was both times. By now titled simply lieutenant and captain only. After starting a political role in the Chom Phon truly cherish Kittikajorn with Deputy Minister of Foreign Affairs later in the year 2518 General Chatichai be a candidate for a member of Parliament. Nakhon Ratchasima And was elected to five consecutive days, including the General Federation and joined the cabinet several times. The Minister of Foreign Affairs. Industry Minister Deputy Prime Minister and by the political order: BE 2515 Deputy Minister of Foreign BE 2518 Minister of Foreign [9] BE 2518 was elected a member of parliament. Nakhon Ratchasima, in five days of 2519, was appointed as the Minister of Industry. In the Seni Pramoj [10] until the prime minister resigned from office. And was appointed as the Minister of Industry [11] more modern one, but served only 12 days and one day before the oath was retiring. Since the takeover of Admiral oilman delay in 2529, Deputy Prime Minister in 2517, General Federation in collaboration with the Air Force about the hobby of his brother Yusuf and Major General Sirin Siriyodhin established. Thailand's National Party by a major hobby for about substance as party leader in 2529 and later General Chatichai up a second term as party leader can lead the party, Thailand. Votes win elections in 2531 was ranked one of the top early in the overture. Gen.. Prem Tinsulanonda to the position of prime minister. But four days later, a coup rejected. And political announces retirement General Chatichai therefore be supported. Let's tenure as Prime Minister of Thailand 17.



























การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: