อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์: ชีวประวัติ (Albert Einstein: Life and Career)ชายผ การแปล - อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์: ชีวประวัติ (Albert Einstein: Life and Career)ชายผ อังกฤษ วิธีการพูด

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์: ชีวประวัติ (Al

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์: ชีวประวัติ (Albert Einstein: Life and Career)

ชายผู้นี้เคยกล่าวไว้ว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” (Imagination is more important than knowledge.) ขอต้อนรับสู่รายการของ WatchMojo.com ค่ะ และวันนี้เราจะมาดูกันถึงชีวประวัติและความสำเร็จของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) ค่ะ

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.1879 ในประเทศเยอรมนี และความสนใจในวิชาวิทยาศาสตร์ของเขานั้น มีจุดกำเนิดมากจากเข็มทิศธรรมดาๆอันหนึ่งที่เขาได้เห็นเมื่ออายุห้าปี สิ่งนี้ทำให้เขาเกิดความสงสัยว่าอะไรเป็นสิ่งควบคุมการเคลื่อนไหวของเข็ม จนเมื่อเขาอายุสิบปี ไอน์สไตน์ได้มีโอกาสอ่านหนังสือดีๆมากมายเกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์และปรัชญา ซึ่งส่งเสริมพรสวรรค์ของเขามากขึ้นไปอีก

ขณะที่ยังศึกษาอยู่ ไอน์สไตน์เรียนได้ดีมาก อย่างไรก็ตาม ความเหนื่อยหน่ายที่แสดงออกมาทำให้อาจารย์บางคนมองว่าเขาเป็นเด็กขี้เกียจ เมื่อเขาเรียนจบการศึกษาชั้นอุดมศึกษาในช่วงเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 ไอน์สไตน์ไม่ได้ทำงานสอนหนังสืออย่างที่ตั้งใจ แต่กลับได้ทำงานกับสำนักงานสิทธิบัตรของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งงานนี้ทำให้เขามีเวลาว่างมากพอที่จะทำงานวิจัยและศึกษาทางวิทยาศาสตร์อย่างที่ชอบ งานของเขาส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับอุปกรณ์แม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อแนวความคิดและทฤษฎีของเขาในภายหลัง

ปี ค.ศ.1905 เป็นปีที่ไอน์สไตน์ประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านการงาน ซึ่งเรียกกันอย่างแพร่หลายว่าเป็น “Annus Mirabilis” หรือ “ปีแห่งปาฏิหาริย์” (Miracle Year) ของเขา ปีนี้เป็นปีที่แวดวงวิทยาศาสตร์เริ่มให้ความสนใจ เขาได้รับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยซูริค และได้ตีพิมพ์ผลงานสำคัญของเขาถึงสี่ชิ้นด้วยกัน ซึ่งผลงานเหล่านี้จะเป็นรากฐานสำคัญให้กับวิชาฟิสิกส์ต่อไป และเขายังเปลี่ยนแนวความคิดเกี่ยวกับอวกาศ เวลา และสสารไปอีกด้วย

นอกจากนี้ ปีนี้ยังเป็นปีที่เขาเผยแพร่สมการที่โด่งดังที่สุดในศตวรรษที่ 20 ด้วย นั่นก็คือสมการ E=mc^2 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงานของวัตถุนั้นๆ

ภายในระยะเวลาเพียงสามปี ชื่อเสียงในการเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าของไอน์สไตน์ช่วยทำให้เขาได้เป็นผู้บรรยายในมหาวิทยาลัย ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เลิกการเป็นผู้บรรยาย และลาออกจากงานเสมียนที่สำนักงานสิทธิบัตรด้วย ทั้งนี้เพื่อไต่เต้าขึ้นไปเป็นศาสตราจารย์เต็มตัว ซึ่งในที่สุดก็ได้มาในปี ค.ศ.1911

หลังจากนั้นเขาก็ทำงานอยู่ในแวดวงการศึกษามาตลอด จนในปี ค.ศ.1919 ไอน์สไตน์ได้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เนื่องจากทฤษฎีที่เขาเคยเผยแพร่มาก่อนหน้านั้นหลายปีได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจริง ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General Theory of Relativity) ของเขาได้อธิบายเรื่องแรงโน้มถ่วงให้ลึกขึ้น และทำให้ไอน์สไตน์ได้ชื่อว่าเป็นผู้สืบทอดของเซอร์ไอแซ็ค นิวตัน ในโลกของฟิสิกส์

ในปี ค.ศ. 1921 ไอน์สไตน์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ เนื่องจากได้อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็คทริค ซึ่ง่ทำให้ความเข้าใจเรื่องธรรมชาติของแสงกระจ่างมากขึ้น เขาได้รับการต้อนรับเปรียบคนดังขณะที่เดินทางไปทั่วโลก และมีผู้ชื่นชอบมากมายมารวมตัวกันเพื่อฟังเขากล่าวสุนทรพจน์ ชื่อเสียงทำให้เขาสามารถแสดงออกซึ่งความเชื่อทางการเมืองและสังคมได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่เขาเป็นชาวยิว ทำให้ไอน์สไตน์ตกเป็นเป้าของพรรคนาซีที่กำลังมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงปี ค.ศ.1933 ไอน์สไตน์ไม่สามารถสอนหนังสือในประเทศเยอรมนีได้อีกต่อไป งานเขียนของเขาบางส่วนถูกเผา และตัวเขาเองถึงขั้นตกเป็นเป้าการลอบสังหารด้วย

ไอน์สไตน์เป็นผู้ฝักใฝ่สันติ (Pacifist) อย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นในปีนั้นเอง เขาได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และตั้งรกรากและทำงานอยู่ที่ “สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง” (Institute for Advance Study) ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ (New Jersey)

ในปี ค.ศ.1939 ไอน์สไตน์หันหลังให้กับความเป็นผู้ฝักใฝ่สันติของตัวเอง และได้เตือนรัฐบาลอเมริกันถึงความเป็นไปได้ว่ากองกำลังของฮิตเลอร์อาจกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อยู่ ในตอนแรก ประธานาธิบดีแฟรงกลิน ดี รูสเวลท์ (Franklin D. Roosevelt) ยังไม่ปักใจเชื่อคำเตือนดังกล่าว แต่สุดท้ายก็เห็นว่าเป็นความจริง จึงได้จัดตั้ง โครงการแมนฮัตตัน (The Manhattan Project) ขึ้น โครงการนี้เป็นโครงการแรกที่ค้นคว้าพัฒนาระเบิดปรมาณู

ปีถัดมา ไอน์สไตน์ได้รับสัญชาติอเมริกัน และได้ร่วมเป็นสมาชิกคนสำคัญของ “สมาคมสนับสนุนความก้าวหน้าของชาวผิวสีแห่งชาติ” (National Association for Advancement of Colored People-NAACP) เขายังเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เรียกร้องสิทธิพลเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย

ในปี ค.ศ.1952 ในฐานะที่เป็นหนึ่งในชาวยิวที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลก ไอน์สไตน์ได้รับการทาบทามโดยนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่สองของประเทศอิสราเอลที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ แต่ไอน์สไตน์ปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าเขาขาดทักษะทางด้านมนุษยสัมพันธ์ที่ผู้ดำรงตำแหน่งนี้พึงมี

ไอน์สไตน์ใช้ช่วงบั้นปลายชีวิตไปกับการพยายามคิดค้นเรื่อง “ทฤษฎีสนามรวม” (Unified Field Theory) ซึ่งจะเป็นทฤษฎีที่สามารถอธิบายพลังต่างๆของธรรมชาติและจักรวาลได้ในกรอบความคิดเดียว หรือกล่าวได้อีกอย่างว่าเป็น “ทฤษฎีของทุกสรรพสิ่ง” (Theory of Everything) นั่นเอง อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถพัฒนาทฤษฎีได้สำเร็จ ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1955 เนื่องจากอาการเลือดตกใน จากโรคหลอดเลือดแดงเอออร์ตาโป่งพองในช่องท้อง (Abdominal Aortic Aneurysm) เขาทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยจนวาระสุดท้ายของชีวิต

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์มิได้อยู่ในความทรงจำในฐานะที่เป็นบิดาแห่งฟิสิกส์สมัยใหม่ หรือนักวิทยาศาสตร์ที่ปราดเปรื่องที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 เท่านั้น แต่ยังเขายังเป็นอัจฉริยะผู้ถ่อมตัว และไม่เคยสูญเสียความช่างสงสัยอย่างเด็กๆด้วย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์: ชีวประวัติ (Albert Einstein: Life and Career)ชายผู้นี้เคยกล่าวไว้ว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” (Imagination is more important than knowledge.) ขอต้อนรับสู่รายการของ WatchMojo.com ค่ะ และวันนี้เราจะมาดูกันถึงชีวประวัติและความสำเร็จของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) ค่ะอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.1879 ในประเทศเยอรมนี และความสนใจในวิชาวิทยาศาสตร์ของเขานั้น มีจุดกำเนิดมากจากเข็มทิศธรรมดาๆอันหนึ่งที่เขาได้เห็นเมื่ออายุห้าปี สิ่งนี้ทำให้เขาเกิดความสงสัยว่าอะไรเป็นสิ่งควบคุมการเคลื่อนไหวของเข็ม จนเมื่อเขาอายุสิบปี ไอน์สไตน์ได้มีโอกาสอ่านหนังสือดีๆมากมายเกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์และปรัชญา ซึ่งส่งเสริมพรสวรรค์ของเขามากขึ้นไปอีกขณะที่ยังศึกษาอยู่ ไอน์สไตน์เรียนได้ดีมาก อย่างไรก็ตาม ความเหนื่อยหน่ายที่แสดงออกมาทำให้อาจารย์บางคนมองว่าเขาเป็นเด็กขี้เกียจ เมื่อเขาเรียนจบการศึกษาชั้นอุดมศึกษาในช่วงเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 ไอน์สไตน์ไม่ได้ทำงานสอนหนังสืออย่างที่ตั้งใจ แต่กลับได้ทำงานกับสำนักงานสิทธิบัตรของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งงานนี้ทำให้เขามีเวลาว่างมากพอที่จะทำงานวิจัยและศึกษาทางวิทยาศาสตร์อย่างที่ชอบ งานของเขาส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับอุปกรณ์แม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อแนวความคิดและทฤษฎีของเขาในภายหลังปี ค.ศ.1905 เป็นปีที่ไอน์สไตน์ประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านการงาน ซึ่งเรียกกันอย่างแพร่หลายว่าเป็น “Annus Mirabilis” หรือ “ปีแห่งปาฏิหาริย์” (Miracle Year) ของเขา ปีนี้เป็นปีที่แวดวงวิทยาศาสตร์เริ่มให้ความสนใจ เขาได้รับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยซูริค และได้ตีพิมพ์ผลงานสำคัญของเขาถึงสี่ชิ้นด้วยกัน ซึ่งผลงานเหล่านี้จะเป็นรากฐานสำคัญให้กับวิชาฟิสิกส์ต่อไป และเขายังเปลี่ยนแนวความคิดเกี่ยวกับอวกาศ เวลา และสสารไปอีกด้วยนอกจากนี้ ปีนี้ยังเป็นปีที่เขาเผยแพร่สมการที่โด่งดังที่สุดในศตวรรษที่ 20 ด้วย นั่นก็คือสมการ E=mc^2 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงานของวัตถุนั้นๆภายในระยะเวลาเพียงสามปี ชื่อเสียงในการเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าของไอน์สไตน์ช่วยทำให้เขาได้เป็นผู้บรรยายในมหาวิทยาลัย ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เลิกการเป็นผู้บรรยาย และลาออกจากงานเสมียนที่สำนักงานสิทธิบัตรด้วย ทั้งนี้เพื่อไต่เต้าขึ้นไปเป็นศาสตราจารย์เต็มตัว ซึ่งในที่สุดก็ได้มาในปี ค.ศ.1911 หลังจากนั้นเขาก็ทำงานอยู่ในแวดวงการศึกษามาตลอด จนในปี ค.ศ.1919 ไอน์สไตน์ได้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เนื่องจากทฤษฎีที่เขาเคยเผยแพร่มาก่อนหน้านั้นหลายปีได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจริง ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General Theory of Relativity) ของเขาได้อธิบายเรื่องแรงโน้มถ่วงให้ลึกขึ้น และทำให้ไอน์สไตน์ได้ชื่อว่าเป็นผู้สืบทอดของเซอร์ไอแซ็ค นิวตัน ในโลกของฟิสิกส์
ในปี ค.ศ. 1921 ไอน์สไตน์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ เนื่องจากได้อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็คทริค ซึ่ง่ทำให้ความเข้าใจเรื่องธรรมชาติของแสงกระจ่างมากขึ้น เขาได้รับการต้อนรับเปรียบคนดังขณะที่เดินทางไปทั่วโลก และมีผู้ชื่นชอบมากมายมารวมตัวกันเพื่อฟังเขากล่าวสุนทรพจน์ ชื่อเสียงทำให้เขาสามารถแสดงออกซึ่งความเชื่อทางการเมืองและสังคมได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่เขาเป็นชาวยิว ทำให้ไอน์สไตน์ตกเป็นเป้าของพรรคนาซีที่กำลังมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงปี ค.ศ.1933 ไอน์สไตน์ไม่สามารถสอนหนังสือในประเทศเยอรมนีได้อีกต่อไป งานเขียนของเขาบางส่วนถูกเผา และตัวเขาเองถึงขั้นตกเป็นเป้าการลอบสังหารด้วย

ไอน์สไตน์เป็นผู้ฝักใฝ่สันติ (Pacifist) อย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นในปีนั้นเอง เขาได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และตั้งรกรากและทำงานอยู่ที่ “สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง” (Institute for Advance Study) ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ (New Jersey)

ในปี ค.ศ.1939 ไอน์สไตน์หันหลังให้กับความเป็นผู้ฝักใฝ่สันติของตัวเอง และได้เตือนรัฐบาลอเมริกันถึงความเป็นไปได้ว่ากองกำลังของฮิตเลอร์อาจกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อยู่ ในตอนแรก ประธานาธิบดีแฟรงกลิน ดี รูสเวลท์ (Franklin D. Roosevelt) ยังไม่ปักใจเชื่อคำเตือนดังกล่าว แต่สุดท้ายก็เห็นว่าเป็นความจริง จึงได้จัดตั้ง โครงการแมนฮัตตัน (The Manhattan Project) ขึ้น โครงการนี้เป็นโครงการแรกที่ค้นคว้าพัฒนาระเบิดปรมาณู

ปีถัดมา ไอน์สไตน์ได้รับสัญชาติอเมริกัน และได้ร่วมเป็นสมาชิกคนสำคัญของ “สมาคมสนับสนุนความก้าวหน้าของชาวผิวสีแห่งชาติ” (National Association for Advancement of Colored People-NAACP) เขายังเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เรียกร้องสิทธิพลเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย

ในปี ค.ศ.1952 ในฐานะที่เป็นหนึ่งในชาวยิวที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลก ไอน์สไตน์ได้รับการทาบทามโดยนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่สองของประเทศอิสราเอลที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ แต่ไอน์สไตน์ปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าเขาขาดทักษะทางด้านมนุษยสัมพันธ์ที่ผู้ดำรงตำแหน่งนี้พึงมี

ไอน์สไตน์ใช้ช่วงบั้นปลายชีวิตไปกับการพยายามคิดค้นเรื่อง “ทฤษฎีสนามรวม” (Unified Field Theory) ซึ่งจะเป็นทฤษฎีที่สามารถอธิบายพลังต่างๆของธรรมชาติและจักรวาลได้ในกรอบความคิดเดียว หรือกล่าวได้อีกอย่างว่าเป็น “ทฤษฎีของทุกสรรพสิ่ง” (Theory of Everything) นั่นเอง อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถพัฒนาทฤษฎีได้สำเร็จ ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1955 เนื่องจากอาการเลือดตกใน จากโรคหลอดเลือดแดงเอออร์ตาโป่งพองในช่องท้อง (Abdominal Aortic Aneurysm) เขาทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยจนวาระสุดท้ายของชีวิต

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์มิได้อยู่ในความทรงจำในฐานะที่เป็นบิดาแห่งฟิสิกส์สมัยใหม่ หรือนักวิทยาศาสตร์ที่ปราดเปรื่องที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 เท่านั้น แต่ยังเขายังเป็นอัจฉริยะผู้ถ่อมตัว และไม่เคยสูญเสียความช่างสงสัยอย่างเด็กๆด้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
Al Roberts Island Einstein: A Biography (Albert Einstein: Life and Career) this man once said. "Imagination is more important than knowledge" (Imagination is more important than knowledge.) Welcome to the list. WatchMojo.com it and today we will look at the history and success of the Albert Einstein's (Albert Einstein) that Albert Einstein's birth on the 14th of March. . Prof. 1879 in Germany. And his interest in science. Compass originated from common one he had seen at the age of five years. This made ​​him wonder what it is to control the movement of the needle. When he was ten years old Ein Stein had the opportunity to read many books about mathematics and philosophy. Which encouraged his talent even more , while still studying. Ein Stein studied very well, despite the boredom that makes some professors expressed that he was lazy. When he graduated higher education in the 20th century into the Ein Stein did not work as intended teaching. He has worked with the Patent Office of Switzerland. This event gave him enough time to research and scientific studies like. His work is mainly about electromagnetic equipment. Which contribute greatly to the concepts and theories of his later years, 1905 was the year of Einstein's accomplishments in the field of work. This is known widely as the "Annus Mirabilis" or "Year of Miracles" (Miracle Year) This is the year that he became interested in science. He received his doctorate from the University of Zurich. And has published the results of his four pieces together. These works, which are fundamental to physics next. He also changing ideas about space, time and matter to them also. This year was also the year he published his most famous equation in the 20th century with that is the equation E = mc ^ 2, which deals with the relationship between mass and energy of any object within just three years. Reputation as the leading scientist of Einstein's help, he was a lecturer at the university. Soon after, he was cast as the narrator. And quit his job at the patent office clerk with. In order to climb up the ladder to full professor. Which finally came in. In 1911 , after which he worked in the field of education as well as in 1919, Ein Stein has a reputation around the world. The theory that he had been released earlier that year proved to be true. General relativity (General Theory of Relativity), his description of gravity deeper. Ein and Stein was named as the successor of Sir Isaac Newton in the world of physics in 1921, Einstein received a Nobel Prize in Physics. Because of unexplained phenomena, photonic Electric. Which makes understanding more about the nature of light illuminating. He was greeted as a celebrity comparable to the world. And there are many enthusiasts gathered to listen to his speeches. Reputation enabled him to express political beliefs and more, however, that he was Jewish. Ein Stein made ​​the target of the Nazi Party are increasingly empowered by the 1933 Ein Stein can not teach in Germany anymore. His writings have been partially burned. And himself to the targets of assassination by Ein Stein's favor peace (Pacifist), obviously. So in that year, He decided to move to the United States. And settled and worked. "The Institute for Advanced Studies" (Institute for Advance Study) in New Jersey (New Jersey) in 1939 Ein Stein turned against its own people favor peace. And the American government has warned of the possibility that Hitler's forces may be developing nuclear weapons in the first place, President Franklin D. Roosevelt Hotel (Franklin D. Roosevelt) was not convinced warnings. aforementioned But, that is true. Has established Manhattan Project (The Manhattan Project) This project is the first project to develop an atomic bomb research in the following years. Ein Stein received American citizenship. And was a key member of. "The association supports the advancement of skin color, national" (National Association for Advancement of Colored People-NAACP), he also was part of a campaign calling for civil rights in the United States by the year 1952 as a whole. One of the most famous Jews of the world. Ein Stein was approached by the prime minister. For the second presidential inauguration of the newly formed state of Israel. But Einstein's rejection. The reason that they lack interpersonal skills, this position should have an Einstein to use the terminal to try to invent a story. "Total Field Theory" (Unified Field Theory), which is a theory that can explain the power of nature and the universe is in concept only. In other words, that is. "Theory of Everything" (Theory of Everything) itself, however, he developed a theory can not be achieved. Prior to his death on April 18, 1955 due to a fall in blood. From arterial disease, abdominal aortic Taopeg inflatable (Abdominal Aortic Aneurysm), he worked tirelessly until the end of his life, Al Burt. Ein Stein was not in the memory as the father of modern physics. Or the most brilliant scientist of the 20th century, but also he was a humble genius. And never doubt that losing a child.



























การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: