สตรีมีฐานะเป็นภรรยาภายหลังจากการแต่

สตรีมีฐานะเป็นภรรยาภายหลังจากการแต่งงานแล้ว การมีคู่ครองหรือมีสามีน่าจะมีความหมายและความสำคัญอย่างมากต่อชีวิตของสตรีสมัยต้นรัตนโกสินทร์
แม้ว่าชายหนุ่มและหญิงสาวจะผูกสมัครรักใคร่กันเอง แล้วแอบหนีไปอยู่กินกันฉันสามีภรรยา แต่สังคมสมัยก่อนยังคงไม่ยอมรับ เมื่อถูกจับได้ก็ต้องโทษตาม 'พระไอยการลักษณะผัวเมีย' เพราะสมัยก่อนพ่อแม่มีอิทธิพลหรือมีบทบาทสำคัญในการเลือกคู่ครองให้กับบุตรชายหญิง
สถานภาพของภรรยาสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้นแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
'เมียกลางเมือง' หมายถึง ภรรยาที่พ่อแม่จัดการให้แต่งงานกับลูกชายของตน มีการสู่ขอ เรียกสินสอดและขันหมากตามประเพณี ถือว่าเป็นภรรยาหลวง เมียกลางเมืองจะถือศักดินาครึ่งหนึ่งของสามี
'ภรรยาพระราชทาน' หมายถึง ภรรยาที่พระมหากษัตริย์พระราชทานมาเพื่อตอบแทนความดีความชอบ ภรรยาพระราชทานจะถือศักดินาเท่ากับเมียกลางเมือง
'เมียกลางนอก' หมายถึง อนุภรรยาที่ชายขอมาเลี้ยง จะถือศักดินาครึ่งหนึ่งของเมียกลางเมือง
'เมียกลางทาสี' หมายถึง ทาสที่ผู้ชายไถ่ตัวมาเป็นภรรยา หากมีลูกด้วยกัน ศักดินาจะเท่ากับเมียกลางนอก
ภรรยาทั้งสี่ประเภทมีสถานภาพเสมือนทรัพย์สินของสามี สามีมีสิทธิยกภรรยาให้ใครก็ได้ และยังมีสิทธิจะขายภรรยาของตนโดยไม่จำเป็นต้องบอกให้เจ้าตัวรับรู้หรือยินยอมก็ได้
สาเหตุที่กฎหมายให้สิทธิสามีเหนือภรรยาเช่นนี้ ทำให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชปรารภว่า เมืองไทยในสมัยของพระองค์นั้น "ภรรยาเป็นดังสัตว์เดรัจฉาน” หรือเห็นว่า “ผู้หญิงเป็นควาย ผู้ชายเป็นคน” จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เจ้าจอมและพนักงานฝ่ายในกราบถวายบังคมลาออกจากราชการกลับมาอยู่บ้านหรือมีสามีใหม่ได้ นอกจากเจ้าจอมมารดาเท่านั้นที่มิได้พระราชทานพระบรมราชานุญาต เพราะได้มีพระโอรสหรือพระธิดากับพระองค์แล้ว
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงเป็นแบบอย่างของการมีพระมเหสีเพียงพระองค์เดียว ไม่ทรงมีพระสนมหรือเจ้าจอมเลย นอกจากนี้ในรัชสมัยของพระองค์ยังมีการตรากฎหมายสำคัญฉบับหนึ่งเรียกว่า 'พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะผัวเมีย พ.ศ.2473'
พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นจุดพลิกผันโครงสร้างของครอบครัวไทยสมัยโบราณที่ผู้ชายนิยมมีภรรยาหลายคน อันเป็นวัฒนธรรมที่ฝังรากลึกมานาน การจะเปลี่ยนค่านิยมในสังคมแบบดั้งเดิมมาเป็นสังคมผัวเดียวเมียเดียวจึงมิใช่เรื่องง่าย พระองค์ทรงใช้วิธีการละมุนละม่อม ด้วยการตราพระราชบัญญัติในปี พ.ศ.2473 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2475
พระราชบัญญัติฉบับนี้ระบุให้มีการจดทะเบียนสมรส จดทะเบียนหย่า และจดทะเบียนรับรองบุตร เพื่อทดแทนธรรมเนียมดั้งเดิมเป็นครั้งแรกในสังคมไทย
ต่อมามีการนำเอาสาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับนี้ มารวมไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพที่ 5 ว่าด้วยเรื่องครอบครัว ประกาศเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2478 ยังผลให้มีการยอมรับหลักการมีภรรยาชอบด้วยกฎหมายเพียงคนเดียวในปัจจุบัน
เก้าทศวรรษแห่งการจดทะเบียนแต่งงานระยะแรกในสยาม พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงใคร่ขอเชิญชวนท่านผู้อ่านมาเยี่ยมชมนิทรรศการถาวรชั้นที่ 2 จัดแสดงเกี่ยวกับเหตุการณ์วันอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ (ต่อมาคือรัชกาลที่ 7) กับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์ (ต่อมาคือสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ) เมื่อวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พุทธศักราช 2461
เป็นการอภิเษกสมรสตามกฎมนเทียรบาลคู่แรก เนื่องด้วยมีการกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทำการสมรสจากรัชกาลที่ 6 อีกทั้งยังมีการจดทะเบียนแต่งงาน และมีการตั้งกระทู้ถามตอบระหว่างคู่สมรสตามแบบตะวันตก

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Women as a wife after marriage. There are husbands and wives to have or is likely to have meaning and importance to women's lives, but to date the early Rattanakosin.Although the young men and young women to love themselves, and then bind the application secretly fled to eat each other husband and wife, but I still do not accept the modern society before being caught, punished by God I list spouses ' style. Because the past their parents influence or play an important role in choosing a mate, female children. The status of the old wife initially divided into four categories: ' City ' means wife, wife, parents, married to his son. Have to call dowry and humorous pieces, according to tradition, is considered the capital with his wife? Female in Center will hold half of the husbands sakdina. The ' Royal ' means wife wife the King granted to reward good deeds like. Give your wife the sakdina equals his town. ' The middle ' also refers to the Commander of his wife at the requested feed will hold half of the female city sakdina. The ' wife ' refers to the middle of the painted man to ask a slave as his wife. If you have a child together, the female medium outside the sakdina. ภรรยาทั้งสี่ประเภทมีสถานภาพเสมือนทรัพย์สินของสามี สามีมีสิทธิยกภรรยาให้ใครก็ได้ และยังมีสิทธิจะขายภรรยาของตนโดยไม่จำเป็นต้องบอกให้เจ้าตัวรับรู้หรือยินยอมก็ได้ สาเหตุที่กฎหมายให้สิทธิสามีเหนือภรรยาเช่นนี้ ทำให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชปรารภว่า เมืองไทยในสมัยของพระองค์นั้น "ภรรยาเป็นดังสัตว์เดรัจฉาน” หรือเห็นว่า “ผู้หญิงเป็นควาย ผู้ชายเป็นคน” จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เจ้าจอมและพนักงานฝ่ายในกราบถวายบังคมลาออกจากราชการกลับมาอยู่บ้านหรือมีสามีใหม่ได้ นอกจากเจ้าจอมมารดาเท่านั้นที่มิได้พระราชทานพระบรมราชานุญาต เพราะได้มีพระโอรสหรือพระธิดากับพระองค์แล้ว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงเป็นแบบอย่างของการมีพระมเหสีเพียงพระองค์เดียว ไม่ทรงมีพระสนมหรือเจ้าจอมเลย นอกจากนี้ในรัชสมัยของพระองค์ยังมีการตรากฎหมายสำคัญฉบับหนึ่งเรียกว่า 'พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะผัวเมีย พ.ศ.2473' พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นจุดพลิกผันโครงสร้างของครอบครัวไทยสมัยโบราณที่ผู้ชายนิยมมีภรรยาหลายคน อันเป็นวัฒนธรรมที่ฝังรากลึกมานาน การจะเปลี่ยนค่านิยมในสังคมแบบดั้งเดิมมาเป็นสังคมผัวเดียวเมียเดียวจึงมิใช่เรื่องง่าย พระองค์ทรงใช้วิธีการละมุนละม่อม ด้วยการตราพระราชบัญญัติในปี พ.ศ.2473 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2475 พระราชบัญญัติฉบับนี้ระบุให้มีการจดทะเบียนสมรส จดทะเบียนหย่า และจดทะเบียนรับรองบุตร เพื่อทดแทนธรรมเนียมดั้งเดิมเป็นครั้งแรกในสังคมไทย ต่อมามีการนำเอาสาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับนี้ มารวมไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพที่ 5 ว่าด้วยเรื่องครอบครัว ประกาศเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2478 ยังผลให้มีการยอมรับหลักการมีภรรยาชอบด้วยกฎหมายเพียงคนเดียวในปัจจุบัน เก้าทศวรรษแห่งการจดทะเบียนแต่งงานระยะแรกในสยาม พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงใคร่ขอเชิญชวนท่านผู้อ่านมาเยี่ยมชมนิทรรศการถาวรชั้นที่ 2 จัดแสดงเกี่ยวกับเหตุการณ์วันอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ (ต่อมาคือรัชกาลที่ 7) กับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์ (ต่อมาคือสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ) เมื่อวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พุทธศักราช 2461
เป็นการอภิเษกสมรสตามกฎมนเทียรบาลคู่แรก เนื่องด้วยมีการกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทำการสมรสจากรัชกาลที่ 6 อีกทั้งยังมีการจดทะเบียนแต่งงาน และมีการตั้งกระทู้ถามตอบระหว่างคู่สมรสตามแบบตะวันตก

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Women as wives after marriage. The spouse or unmarried, would be meaningful and significant to the lives of women early Rattanakosin period
, although young men and young women will love affair amicably. Then sneak off to eat my wife. But society still does not accept the old days. When he was caught and sentenced accordingly. 'The ice on the nature spouses' because the former parent influence or play a role in mate selection to the sons and daughters
of the status of his early Rattanakosin period was divided into four categories, namely
'wives city' refers to the wife. The parents manage to marry his son and groom have to ask for dowry tradition. It was a royal wife Civil law is Tืasakdina half of the husband
'royal wife' refers to the wife of the Crown Royal to reward merit. King's wife will Tืasakdina of civil law
'outside the law' means a minor wife, the man asked the party. Tืasakdina to half of female heart
'were painted medium' means that a ransom of slaves as his wife. If you have a child together Feudalism is the wife of the
wives of the four types of status as property of their husbands. Husband and wife have the right to raise anyone. He also has the right to sell their wives without telling referred acknowledgment that
the law gives the right husband and wife over this. Mongkut Rama 4 has a preamble that. His modern city in Thailand. "My wife is such a beast," or that "women's buffalo. Man was "so ordered. A royal concubine and staff in obeisance retired from back home or a new husband. The Dowager not only the royal permission. I have a son or daughter with him,
King Rama VII 7. He is the example of the queen only to Him alone. He has his harem concubine or not at all. In addition, his reign has also enacted a law called the key issue. 'Act Amending the law of the spouses. 2473 '
Act, such as the turning point of the family structure Thailand ancient popular men are polygamous. As a culture deeply rooted. The change in traditional social values ​​as social monogamy is not easy. He used to mildly. With the enactment in 2473 and entered into force on 1 April 2475,
the Act allows for a marriage license. Divorce Children and registration To replace the tradition for the first time in Thailand
later bringing the essence of the Act. Included in the Civil and Commercial Code regarding the five families. Announced on 20 October 2478 has resulted in the recognition principle, lawful wife, the only one in the
nine decades of marriage registered in Siam. King Prajadhipok Museum. I would like to invite your readers to visit the permanent exhibit on the second floor exhibit about the wedding of his younger brother Prince Prajadhipok Edchns authority. (Later King Rama 7), the grandson of the woman Rambhaibarni Svasti (later Queen's Rambhaibarni) on Monday August 26 2461 AD
The first couple married according to regulations. As a respectfully royal royal permission to marry from the reign of the sixth as well as a registered marriage. The questionnaire and the responses between the spouses by the West.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Women as a wife after marriage. Having a spouse or a husband should be meaningful and important impact on women's lives during the Rattanakosin
.Even if a man and a woman will tie the whole each other. And sneak away to live in my husband and wife. But the old society still refused. When caught, it was พระไอยการ style 'spouses'.The status of early Rattanakosin wife is divided into 4 types
.เมียกลางเมือง 'means' wife parents managed to marry his son a proposal. เรียกสินสอด and gifts, according to tradition, is considered as a royal wife เมียกลางเมือง will ถือศักดินา half of her husband!The 'Royal' means wife wife King royal to reward merit His wife gave to ถือศักดินา was เมียกลางเมือง
.เมียกลางนอก 'means' mistress who adopted. To ถือศักดินา half of เมียกลางเมือง
'เมียกลางทาสี' means slave a ransom to เป็นภรรยา. If a baby together. The feudalism is equal to เมียกลางนอก
.A wife four types, status as property of her husband. The husband has the right to raise the wife to anyone. And also the right to sell his wife without the need to tell the recognition or consent.
.