มีประวัติความเป็นมาซึ่งเปลี่ยนแปลงไ

มีประวัติความเป็นมาซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยตามความเหมาะสม ตั้งแต่ในสมัยเริ่มแรกเมื่อชาวบาบิโลเนีย เริ่มคิดค้นการใช้ปฏิทินโดยอาศัยระยะต่าง ๆ ของดวงจันทร์เป็นหลักในการนับ เมื่อครบ 12 เดือน ก็กำหนดว่าเป็น 1 ปี และเพื่อให้เกิดความพอดีระหว่างการนับปีตามปฏิทินกับปีตามฤดูกาล จึงได้เพิ่มเดือนเข้าไปอีก 1 เดือน เป็น 13 เดือนในทุก ๆ 4 ปี

ต่อมาชาวอียิปต์ กรีก และชาวเซมิติค ได้นำการปฏิบัติของชาวบาบิโลเนียมาดัดแปลงแก้ไขอีกหลายคราวเพื่อให้ตรงกับฤดูกาลมากยิ่งขึ้น จนถึงสมัยของกษัตริย์จูเลียต ซีซาร์ (ประมาณ 46 ปี ก่อนคริสต์ศักราช) ได้นำความคิดของนักดาราศาสตร์ชาวอียิปต์ชื่อโยซิเยนิส มาปรับปรุงให้หนึ่งปีมี 365 วัน โดยทุก ๆ 4 ปี ให้เติมเดือนที่มี 28 วัน เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน เป็น 29 วัน คือเดือนกุมภาพันธ์ เรียกว่า อธิกสุรทิน เมื่อเพิ่มให้เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน ให้ทุกๆ 4 ปี แต่วันในปฏิทินก็ยังไม่ค่อยตรงกับฤดูกาลนัก คือเวลาในปฏิทินยาวกว่าปีตามฤดูกาล เป็นเหตุให้ฤดูกาลมาถึงก่อนวันในปฏิทิน

และในวันที่ 21 มีนาคม ตามปีปฏิทินของทุก ๆ ปี จะเป็นช่วงที่มีเวลากลางวันและกลางคืนเท่ากัน คือเป็นวันที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นตรงทิศตะวันออก และลับลงตามทิศตะวันตก วันนี้ทั่วโลกจึงมีช่วงเวลาเท่ากับ 12 ชั่วโมงเท่ากัน เรียกว่า วันทิวาราตรีเสมอภาคมีนาคม (Equinox in March)

แต่ในปี พ.ศ. 2125 วัน Equinox in March กลับไปเกิดขึ้นในวันที่ 11 มีนาคม แทนที่จะเป็นวันที่ 21 มีนาคม ดังนั้นพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่ 13 จึงทำการปรับปรุงแก้ไขหักวันออกไป 10 วัน จากปีปฏิทิน และให้วันหลังจากวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2125 แทนที่จะเป็นวันที่ 5 ตุลาคม ก็ให้เปลี่ยนเป็นวันที่ 15 ตุลาคมแทน (ใช้เฉพาะในปี พ.ศ. 2125) ปฏิทินแบบใหม่นี้จึงเรียกว่าปฏิทินเกรกอเรี่ยน จากนั้นได้ปรับปรุงประกาศใช้ วันที่ 1 มกราคม เป็นวันเริ่มต้นของปีเป็นต้นมา

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

There is history, which vary according to the era, as appropriate. Since the beginning, when nationals of Babylonia Start the calendar invented by use of different stages of the moon as well as in the count. When the full 12 months, 1-year-old is determined to achieve a fit between the calendar year by counting on a year-on-year, according to the season, so add 1 month to month 13 month. every 4 years. Subsequently, Egypt, Greek people and nationals of a boutique hotel have taken action of Babylonia and other temporary modification to match the season even more until the reign of King Juliet Caesar (approximately 46 years before the Christian era) has introduced the idea of the famous British astronomer Johan Egypt SIM Yes NIS come to one year is 365 days every year, there are 4 additional months, 28 days, 1 day extra 29 day is February called athiksunthin when added to February every four years is 29 days but calendar days, it didn't match the season more. Is the time in your calendar is longer than last year, according to the season. This is why the season arrive before the day in the calendar. And on March 21 by calendar year of every year would be a time when day and night are equal. Is that the Sun will rise in the East and straight back down by the West. Today, the world has an equal period of 12 hours. Called wanthi WA equal night March (Equinox in March) But in the years since in March Equinox day 2125 back to occur in March 11 instead of March 21, so the Pope made 13 krekori improvement to date deducted 10 days from the calendar year, and the day after October 4, 2125, rather than as a change agent October 15 October 5 (used only in the years 2125), this new calendar called calendar Gregory aria hotel and then update announcement January 1 as the beginning of the year, etc.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Have a history, which vary according to age appropriate. Since in the initial period when the Babylonian. Start to use the calendar by using the invented various phases of the moon, mainly in the count at the end 12 month is determined.Over the years, and to achieve a balance between the count year by year calendar with seasonal. Therefore, add month in 1 month is a month every year 13 4
.
.Later, Egyptian, Greek, and the Semitic, the practice of the Babylonian to modify time shops pattern to meet the season even more. Until the reign of King Julius Caesar (about 46 years BC).