สรรพสัตว์ทั้งหลายที่อุบัติเกิดขึ้นม

สรรพสัตว์ทั้งหลายที่อุบัติเกิดขึ้นมาในโลกนี้ล้วน แต่มุ่งหน้าไปสู่ทิศทางเดียวกันคือ ไปสู่ความตาย แม้เราจะพยายามหลบหนีก็หนีพญามัจจุราชไม่ได้ เวลาพญามัจจุราชต้องการตัวเราๆ จะหลบหนีไปไหนก็หนีไม่พ้น แม้เราจะพยายามป้องกันเราก็ป้องกันได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น อย่างเรามีโรงพยาบาล เรามีแพทย์ มีพยาบาลช่วย อันนั้นเพียงบำบัด ทำให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไปอีกเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ว่าวาระสุดท้ายจริงๆ ถึงเราไม่เจ็บไม่ป่วยอะไรเลย กายของเราก็ทนอยู่ไม่ได้ กายของเราต้องแตกดับไปในที่สุด จะต้องตายในที่สุด เมื่อครั้งกระนั้น มีบุคคลท่านหนึ่ง บวชมาในพระพุทธศาสนา แล้วไปทูลถามพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าว่า คนเราตายแล้วเกิดหรือตายแล้วสูญ พระองค์ตอบว่า แล้วแต่เหตุปัจจัย ถ้ายังมีเหตุมีปัจจัยอยู่ ก็เกิดตามอำนาจของเหตุปัจจัย ถ้าปราศจากเหตุปัจจัย บุคคลนั้นตายแล้วก็ไม่กลับมาเกิดอีก อันนี้เป็นการตอบตามแบบหลักสัจธรรม ว่าสัตว์โลกเป็นไปตามกรรม การกระทำ(กรรม) เป็นเหตุทำให้สัตว์ทั้งหมุนเวียนอยู่ในภพน้อยภพใหญ่ การทำกรรมเป็นเหตุให้สัตว์ต้องหมุนเวียนอยู่ในภพต่างๆ ภพแล้วภพเล่าอยู่ร่ำไป บุคคลใดยังกระทำกรรมอยู่ บุคคลนั้นยังจะต้องเวียนว่าย ตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏ บุคคลใดหยุดการกระทำกรรมแล้ว บุคคลนั้นก็ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏอีกต่อไป เราจะเห็นได้ว่าพระดำรัสขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าที่ตรัสออกมานั้น ไม่ใช่เป็นการยืนยันว่าตายแล้วเกิด หรือไม่ใช่เป็นการยืนยันว่าตายแล้วสูญ เป็นการดำรัสว่า เกิดก็ได้ไม่เกิดก็ได้ ถ้าจะเกิดๆ ด้วยอำนาจของอะไร ถ้าไม่เกิด ไม่เกิดด้วยอำนาจของอะไร การแสดงในลักษณะนี้ พระองค์ทรงแสดงตามความเป็นจริง สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม ในเมื่อทุกคนหนีไม่พ้นจากความตาย จึงไม่ควรหวาดกลัวกับความจริงข้อนี้ ทั้งคนโง่ คนฉลาด ทั้งคนพาลและบัณฑิต เศรษฐี มหาเศรษฐี พระราชา และพระมหากษัตริย์ ล้วนแต่ไปสู่จุดหมายปลายทาง คือ ความตายด้วยกันทั้งหมด การตายเหมือนกับการย้ายบ้าน มีบ้านอยู่ 2 หลัง บ้านหลังเก่าเราอยู่มานาน หลังคาก็เริ่มผุ ฝนตกก็รั่ว เก่าคร่ำคร่า เราก็ไปปลูกบ้านหลังใหม่ พอปลูกบ้านหลังใหม่ หลังใหญ่ สะดวกสะบาย ความตายไม่ใช่เป็นแค่วิกฤตของชีวิตเท่านั้น หากยังเป็นโอกาสในทางจิตวิณญาณ ในทางพุทธศาสนาเชื่อว่าจิตที่สงบเป็นกุศล ไม่เพียงช่วยให้ตายอย่างไม่ทุกข์ทรมาณแล้ว ยังสามารถนำพาผู้ตายไปสู่สุคติ ทรัพย์สมบัติ ชื่อเสียง เกียรติยศ ลูกหลาน พ่อแม่ คนรัก หรือคู่ครอง เป็นสิ่งที่ควรตัดใจปล่อยวาง เมื่อวาระสุดท้ายใกล้มาถึง การเป็นห่วงคนเหล่านั้น ยิ่งทำให้ความตาย กลายเป็นเรื่องทุกข์ทรมาณมากขึ้น การปล่อยวางเกิดขึ้นได้ยาก เพราะความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็น “ตัวกู ของกู” ความตายนั้นโดยตัวมันเองก็เป็นประกาศิตจากธรรมชาติว่า ไม่มีอะไรเป็นของเราสักอย่าง เพราะเราเอาติดตัวเมื่อตายไปแล้ว ไม่ได้เลย แม้เสียงสวดมนต์ของพระ คนตายก็ไม่ได้ยิน จริงๆ แล้วเรื่องตายเป็นทั้งศาสตร์และเป็นทั้งศิลป์ที่คนเราจะต้องเรียนรู้ สำหรับคำถามว่าทำไมคนจึงกลัวตาย ในความเห็นส่วนตัวคิดว่าสาเหตุอย่างหนึ่งคือเขาไม่รู้จักมัน ไม่รู้ความตายเป็นอย่างไร เพราะสังเกตดู มักกลัวสิ่งที่เราไม่รู้จักเราจะเกิดความหวาดและขยาด เหมือนเวลาเราจะไปที่ไหนแล้วไม่รู้จัก ทางเราจะกลัวแล้ว ความตายก็เช่นเดียวกัน เราอยู่ในที่นี้ ก็ยังไม่รู้จักว่าความตายเป็นอย่างไร สิ่งที่เราไม่รู้เราก็กลัว แต่ถ้ารู้แล้ว เราอาจจะไม่กลัวหรืออาจจะกลัวมากขึ้นก็ได้ จริงๆ แล้วเราไม่รู้จัก เหตุที่สองอาจเป็นเพราะเรารู้สึกว่าเมื่อความตายมาถึง เราจะสูญเสีย สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง เราต้องจากคนที่เรารัก เราจะต้องจากสมบัติ เพชรพลอยต่างๆ ของเราซึ่งอุตส่าห์ หาเลี้ยงสะสมมากกว่าจะซื้อหามาได้ แล้วเราจะต้องละมันไป เพราะเรารู้ว่าเวลาตายเราเอาไปไม่ได้ บ้านช่องเราก็เอาไปไม่ได้ ลูกเราก็เอาไปไม่ได้ ไม่มีอะไรสักอย่างที่เราจะเอาไปด้วยได้ เราต้องไปคนเดียว แล้วจะน่ากลัวได้อย่างไร มันยิ่งก็น่ากลัว จิตที่แท้จริงนั้นคือ ประภัสสร หมายถึง จิตที่ใสแสงผ่องแผ้วเหมือน ไม่มีอะไรเลย ก็เพราะว่ากายหยาบของเรานั้น หรือแม้แต่กายละเอียดปานกลางอะไรก็ตามหมดไปแล้ว ก็เหลือแต่จิตเพียวดวงเดียวที่ผ่องแผ้ว แล้วก็บริสุทธิ์อย่างที่ว่า ว่ากันว่าการตายเป็นนี่เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ถ้าเรารู้จักศิลปะในการตาย เราก็จะรู้จักศิลปะในการดำเนินชีวิต ถ้าเรารู้จักศิลปะในการดำเนินชีวิตว่าจะดำเนินอย่างไร เราก็จะตายเป็นและตายดี จิตสุดท้ายเป็นจิตที่สำคัญที่สุด สภาวะของจิตสุดท้ายที่ตายนั้นจะบอกว่าตายแล้วไปไหน สำหรับคนทั่วไป ถ้าเชื่อเสียอย่างเดียวว่าสมองคือเครื่องผลิต ความรู้สึกนึกคิดและจิตวิญญาณ ก็ไม่ต้องพูดต่อความยาวสาวความยืดให้มากไปกว่านั้น ความตายคือการยุติการทำงานของร่างกายและจิตใจ ประสบการณ์และการกระทำทั้งมวลล้วนสาบสูญลง ณ จุดเวลาแห่งมรณกรรมนั้นเอง แต่สำหรับพุทธศาสนิกชน หรือจำเพาะลงไปกว่านั้นคือพุทธศาสนิกชน ผู้มีสมาธิจิตผ่องแผ้ว มีศักยภาพในการน้อมจิตไปรู้เห็น ขณะจุติและอุบัติของวิญญาณหลังกายหมดสภาพ ก็ย่อมเห็นเป็นอีกอย่างว่า ความตายของคนเราคือการรวบรวมกรรมทั้งหมดในชีวิตมาชั่งน้ำหนัก แล้วตัดสินว่าเอียงไปข้างใดระหว่างสูงขึ้นหรือต่ำกว่าความเป็นมนุษย์ เมื่อคิดอย่างคนไม่แน่ใจ คิดอย่างคนไม่เคยมีประสบการณ์ ล้มหายตายจาก รวมทั้งรู้สึกว่าจะไม่มีทางได้รู้ล่วงหน้า ก็อาจยิ้มๆ ปลอบกันว่าความตายจะเป็นอย่างไรก็ช่างเถิด วันนี้ยังมีชีวิตก็พอหรือไม่ก็อาจสรุปรวบรัดว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วพรุ่งนี้ถ้าต้องตายก็ให้ มันเป็นไปตามที่มันจะเป็น นั่นคือคำสุดท้ายสำหรับคนทั่วไปจริงๆ ‘ทำดีที่สุด!’ ผู้มีความรู้เห็นกรรมวิบากและภพภูมิดุจตาเห็นรูป ย่อมทราบว่าจะได้ดีที่สุดนั้น ไม่อาจใช้สามัญสำนึกหรือความรู้สึกแบบคนธรรมดาเป็นไม้บรรทัดวัด แต่ต้องอาศัย ‘ความรู้’ ที่ได้จากความเห็นแจ้งประจักษ์อันเป็นสิ่งเหนือโลก และในบรรดาญาณของผู้หยั่งรู้ด้วยกันทั้งหมด พระพุทธเจ้ารู้ดีกว่าใคร ไม่มีใครรู้ได้เสมอพระองค์ เนื่องจากพระองค์บรรลุถึงซึ่งธรรมชาติบางประกา

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

All the animals prefer to happen happen in this world are but headed into the same direction is to the death. Although we will attempt to escape death, the King had not. When his death want rao to escape to nowhere, it becomes. Even though we are trying to protect us, protect only the evil are only temporary. However, we have a hospital. We have doctors, nurses and therapists that have helped make us alive for another temporary but that we do not end up getting sick is not really anything. Our body is not resistant. Our body needs varying levels to eventually will have to die in the end. When one person is khrangkranan and ordained in Buddhism and then to Lord Buddha Buddha teacher dead people dead or missing, He said, however, the factors are factors why it happens according to the power of personal factors factors that without dying, it doesn't come back to another. Is this a reply based on the principles of the animal world, which is based on the Karma? Action (karma), the animal's entire turnover is in the big time in less time. Making innovation is why animals need circulates in the present world's edge, the story's goodbye to someone to commit a person to a verb is born in Buddhist cosmology, anyone stopped the action on track, then that person is not born in Buddhist Cosmology anymore. We can see that the word of the Lord, who is the owner of said it. Does not confirm that the dead or not dead confirmed that a loss has occurred that the Word does not occur suddenly. If this is what the power of koet. If this does not occur collisions with power of anything. Show in this manner. He represented as fact. The animal world is based on the Karma. When everyone does escape from death. It should not be panic with this fact and all wise men fools hooligan and Bandit millionaire, millionaire. The King and the monarchy are, but to a destination is death all together. The death is the same as moving house. There is an old House back 2 us for a long time the roof began to leak, it rains all inlaid with gold or silver to take old, we went back home. Enough to build a new House after the big comfortable death is not just a crisis of life only. If it's chances in the mental video nayan The Buddhist believe that the mind is not only charitable help to die without suffering thonma nalaeo. Can also lead to deceased heaven? Treasure and honor fame offspring Parents A lover or mate is something that should make leaving cut paste. When the final agenda around comes to those people worried. The death became a subject suffering thonma namak. Release planning will occur just as firmly adhering to "the gu-gu's" death by itself, it is a commandment from nature that nothing belongs to us something because we remove the stick when dead. Not at all. Even the sound of chanting The dead do not hear. It actually die is both a science and an art that is both someone we will have to learn. For the question why people so afraid of death. In personal opinion think the cause is he doesn't recognize it. I don't know how the dead. Because the watch is usually afraid of what we don't know, we will have time to panic and we are going to look like the khayat where unknown. We will be afraid. Death, as well. We are in this case, it is not yet known whether the death is like. What we don't know, we are scared, but if we knew, we probably won't be afraid or scared it might be more. Actually, we do not know. The second reason may be because we feel that when death comes to us all gone will lose everything. We want the people we love, we will need from the treasure. We're specimens, which are cumulative for utsa to buy into it, and then we will need each time because we know it is dead, we remove the impossible. Home channel, we remove the impossible The ball we just remove the impossible There is something that we will take with. We have to go alone, and then how it will be even more awesome, awesome. The mind is real mental clarity refers to the light prapasson phongphaeo like nothing at all, because our Yap apparel or even moderately subtle anything out to rest, but the only band notably 7-mental phongphaeo and pure, that it is said that the death is here.As one of the art. If we know the art of dying, we know the art of life. If we know the art of life that will continue, however, we will die, and die as well. The last mental health is the most important. State of mind of the dead end they say dead? For the common people. If brain damage is just one example that the production machine. Think and feel the spirit, they don't want to talk to complicate, more. Death is the cessation of mind and body. States parties shall take all actions and all that haengomronkam point in time the guling itself but for the specific Buddhist or is a Buddhist. They concentrate the mind in the context of potential phongphaeo the mind to spirit's emergence as an accomplice and reborn after Ant after State would see as the death of someone we are collecting all the Karma in your life come to weigh and decide which side to tilt between higher or lower than the m.Nut when I think people aren't sure think people have never experienced, he has lost, as well as a sense that there is no way to know in advance whether it can soothe yim is death, however, he plainly. Today, there are also life is enough or not, may be concluded without delay that made the best today, and then tomorrow if you want to die, let it be as it is, that is the last word for the common people really ' do best! ' Who is an accomplice of a Safari and see the eye chart, like time surely know how to get the best. May not use common sense or the sense of ordinary people as a ruler to measure, but rely on the ' knowledge ' seemed to have an opinion from a Northern thing in the world and among the peoples who know's all together. The Buddha knew better than anyone. Nobody knew him, because he has always been seminal, which naturally Ka.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

The accident happened beings in this world are. But heading into the same direction to the death, even though we tried to escape, escape, death is not the serpent. Time of death devil wanted us. To escape what was inevitable. While we are trying to protect us, only prevented for a time only. We have doctors, nurses, hospitals have helped only a therapy. We live next to a short period of time. I really finale We not sick at all. My body did not endure. Our body must perish eventually. Is mortal Yet when There is a person The Buddhist monk He inquired of the Lord Buddha to Buddha Interview. We were born dead or died of loss. He replied: It causes If the cause is a factor. It was under the authority of factors. Without an aggravating factor The person is dead, he does not come back up again. This is a response by the laws. That the world is based on karma. Action (karma) cause animals circulate in the world at large worlds. The deed is why animals have circulated in different worlds. Then what is generally Worlds Worlds Any person who has done the deed The person must also be a circular. Death occurred in samsara Any individual action and stop the action. That person would not be in samsara cycle of birth and death anymore. We can see that the word of the Lord thy God King has spoken out then. Not confirms dead. Or is not confirming that a dead loss. The word that If it was not going to come with the power of what I was not born with the power of anything. Acting in this way, He stated the fact. Animal Planet follows the action When everyone else escape from death. Do not fear the truth, the whole stupid smart people both bully and wealthy billionaire graduates king and king. But the destination is death all together. Death is like moving house, two behind the old house, we live for. The roof was leaking rain began to decay old archaic, we planted a new home. When planting a new house a large convenient death is not just a crisis of life. If there is an opportunity in spirituality. In Buddhist belief that mental rest is charity. Not only help the suffering he did not die then. Can bring the dead to rest in peace, wealth, reputation, honor, lover or spouse, children, parents should decide what is released. When the end came to a close To those worried The cause of death The suffering becomes more and more. The release occurs easily. Because of clinging to a "me my" death by itself, it is natural that the decree. Nothing belongs to us something. We took the dead body was not even the sound of chanting monks. The dead do not really hear about death is both a science and an art that we all have to learn. For questions about why people are so afraid of death. In my personal opinion I think that the one thing they do not know it. Know how death It observed We often fear what we do not know the terror and intimidated. We like to go where I do not know. We are afraid Death is the same We are in this Did not know that death is. What we did not know we were afraid. If you already know We may not fear or be afraid any more, then we really do not know. The second reason may be because we feel that when death comes, we will lose lost everything. We need someone we love. We must treasure Precious stones Our endeavor Earn a reward rather than buy them. Then we have to go at it. Because we know the time of death are inalienable. Chong was inalienable. Our children are inalienable. Not something that we will take with them. We have to go it alone How can it be awesome It's just awesome Spirit is the real spiritual meaning clear light shining bright as nothing because of it's rough. Or even physical medium resolution whatever gone. But it was left with only the absolute serene. Then that innocent It is said that this is the death of art. If we know the art of dying. We will know the art of living. If we know the art of living that will continue, however. We will die, and die as well. The last is the most important spiritual consciousness. Mental state of the dead are said to be dead. For the common man I believe that the brain is like a single machine. Wills and soul I do not need to say much more than that to bring up a side issue to complicate the matter. Death is the end of the body and mind. Experience all the action and lost all down at the time of death itself. But for Buddhists Or specificity than it is to Buddhists. The serene meditation Norn to potential witnesses. Advent and emerge as the spirit behind the body breaking down. Would agree is another matter. Death of man in life is to gather all karma weighed. And determine if any sideways between higher or lower than the human person. When people do not think so I have never experienced such a man die, and that is no way to know in advance, it may well smile consolation that death is somehow never mind. Today's lifetime is enough or not, it may be concluded that the postgame make today the best. If I die tomorrow. It follows that it would be. That is really the last word for the common man. 'Do our best' people with knowledge of retribution and world landscape as the eye can see. Know where to get the best time. Do not use common sense or common sense as a ruler but to rely on 'knowledge' to be made known to the world as something above. Among the mystics and seers of all together. Buddha knows better than anyone No one knew he was always Since attained a certain natural coral.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

All living creatures that emerge are born into this world But towards the same direction is to death. Even if we try to escape, flee the มัจจุราชไม่ได้. When the king of Hades to ourselves, escaping is inevitable.As we have, we have doctors, hospital nurse help that only therapy. We live only for a short time, but in the end one. If we didn't hurt, not sick anymore. Our body can't stay out of it.Will die eventually. When nonetheless have a person ordained in Buddhism and asked Buddha, and Buddha. People born dead or dead, he said, but lost causes, if there is a reason of the ปัจจัยอยู่.Without the causes that person is dead is never happens again. This is the answer to the truth, that according to the main animal industrial action (karma). Cause of the revolving little worlds worlds.He then I tell feelings, any person can do karma, that person will also need to swim, die was born in transmigration. Any person stop karma. That person won't be metempsychosis in transmigration.Not be declared dead. Or not is declared dead loss is a word that happen not happen if เกิดๆ through the power of the what if not born, born with the power of the. Acting in this way.According to the object. When all the creatures escape from death. Should not be afraid to this fact, the fool smart people bully and scholar, millionaire, billionaire king and the king is towards the destination. Is.Death like moving with the home 2 after the old house we lived long roof began to decay, the rain leak, very old, we'll build the new house. When the new house after house comfortable.If the mental in soul. On Buddhism believes that mental calm as charity. Not only help to die without suffering. Can also lead the deceased rest in peace, wealth, fame, honor, children, parents, I.What should give up to let go. When the end is nigh, worry about those people makes death become suffering more and more. To let it happen. Because of properly as a "Prejudice".ไม่มีอะไรเป็นของเรา one. Because we take when they die, even though the prayer of the dead men don't even hear actually death is both science and art as a whole person to learn.In my opinion think the cause is unknown, it did not know death? Because observe fears what we don't know we are born with fear and intimidated Like the time where we go and don't know. We are afraid of.We're in here, don't even know what death is. What we don't know we are afraid, but if so, we may not be afraid or may be more fear, when really we do not know.We will lose, lose everything, we must from the ones we love, we must treasure gems from our various which came to feed accumulated more than to buy earned. We'll have it because we know is we need.Baby, we can not. There is something we take, we must go alone. So fearful? It's scary. The mind is real Carbonate means clear light mind clean like nothing.Or even subtle medium whatever is gone. There is only one star, clean pure mind And pure like that. They say death is this is a kind of art. If we know the art of death.If we know the art in life to walk how we die, and die, the mind finally is the most important psychological The final state of mental death said died away. For ordinary people.Mind and soul. Don't say white cane for much more than that. Death is the end of the work of the body and the mind. The experience and action all disappear down at the point of the time of death itself.Or specific down than that Buddhists. The concentration of the mind clean has the potential to bow, mental ไปรู้เห็น While the advent of soul and body, after breaking accident It will be seen as alsoAnd decided that sideways between any higher or lower than humanity. When think people not think people never experience. Pass away, as well as feel will never know in advance, they may smile.Today's life is enough or it may summarize concisely that do your best today. And tomorrow, if dead, it follows that it is. That is the last word for the people. 'do best!'knowledge and see the crazy about worlds as eyes see the pictures. Is known to be the best. May not use common sense or feeling normal a measuring ruler, but must rely on the 'knowledge'.And in the spirit of the enlightenment, the Buddha all know better than anyone, no one has always been him. Due to his natural wisdom which the check.