หากความหมายของประชาธิปไตยคือ “อำนาจ

หากความหมายของประชาธิปไตยคือ “อำนาจตัดสินใจทางการเมือง และหรือที่เกี่ยวข้องกับนโยบายสาธารณะเป็นของประชาชน” ความหมายดังกล่าวนี้จะไม่มีทางทำให้เป็นจริงได้หากปราศจากการยอมรับหลักการที่ว่า “มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน”

แต่หลักการดังกล่าวนี้ดูเหมือนจะขัดแย้งกับข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ที่ยืนยันว่ามนุษย์นั้นแตกต่างกันอย่างน้อยก็ 2 ด้านใหญ่ๆ คือ“ความแตกต่างด้านชีววิทยา” เช่น บางคนเกิดมาสมประกอบ บางคนเกิดมาพิการ บางคนร่างกายอ่อนแอ บางคนแข็งแรง บางคนโง่ บางคนฉลาด ความสามารถในการเรียนรู้ ความคิดความอ่านเป็นต้นของคนเราไม่เท่ากัน

ซึ่งความไม่เท่ากันดังกล่าวนั้นทำให้เกิดความแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ “ความแตกต่างด้านสังคมวิทยา” เช่น ระดับการศึกษา อาชีพ ทรัพย์สิน อำนาจ รสนิยม ชาติตระกูล ความสำเร็จ เกียรติ ชื่อเสียง ยศถาบรรดาศักดิ์ ฯลฯ

สังคมที่เรียบง่ายในยุคเกษตรกรรมความแตกต่างเหล่านี้อาจมีไม่มากนัก แต่สังคมที่ซับซ้อนเช่นปัจจุบันความแตกต่างดังกล่าวมีมากขึ้น และเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดชนชั้นทางสังคม เช่น คนชั้นสูง คนชั้นกลางระดับสูง คนชั้นกลางระดับกลาง คนชั้นกลางระดับล่าง คนชั้นต่ำหรือชนชั้นรากหญ้า

ความแตกต่างทางระดับการศึกษา อาชีพ ทรัพย์สิน อำนาจ รสนิยม ฯลฯ ทำให้คนเกาะเกี่ยวสัมพันธ์กันอย่างเหนียวแน่นเฉพาะในชนชั้นของตนเองทั้งในด้านการทำงาน กิจกรรมทางสังคม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแบ่งปันทุกข์สุข การพักผ่อน กิจกรรมบันเทิง ฯลฯ และรวมไปถึงการมีส่วนร่วมทางการเมือง หรือการกำหนดประเด็นสาธารณะต่างๆ ด้วย

แม้ความแตกต่างทางชนชั้นในปัจจุบันจะไม่ใช่ความแตกต่างที่เข้มข้นเหมือนความแตกต่างภายใต้ระบบศักดินา แต่ก็เป็นความแตกต่างที่สะท้อนให้เห็น “ช่องว่าง” หรือความไม่เป็นธรรมทางสังคมอย่างน่าตกใจ ดังข้อสังเกตของ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ที่ว่า

“... ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย หรือระหว่างคนข้างล่างกับคนข้างบน คือ ภาพสะท้อนมหภาคของความไม่เป็นธรรม เราเป็นคนเหมือนกันควรจะมีศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นคนเหมือนกัน แต่ทำไมจึงแตกต่างกันมากเหลือเกินระหว่างคนข้างล่างที่ปากกัดตีนถีบไม่พอที่จะเลี้ยงลูก กับคนข้างบนที่อาจมีรายได้เป็นล้านๆ บาทต่อเดือน เรามีปัญหาความไม่เป็นธรรมทุกด้าน ทั้งทางเศรษฐกิจ ทางสังคม ทางกฎหมายและการเข้าถึงทรัพยากร เรารู้หรือไม่ว่ากฎหมายและการประยุกต์ใช้กฎหมายมีอคติต่อคนจน ความขัดแย้งทั่วแผ่นดินเกิดจากการแย่งชิงทรัพยากรที่รัฐไม่อำนวยความเป็นธรรม” [1]

ประเด็นคือการเมืองเป็นเรื่องของการต่อรองอำนาจและผลประโยชน์ และหากประชาธิปไตยหมายถึงอำนาจเป็นของประชาชน และเป็นอำนาจบนหลักการที่ว่า “มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน” เพราะมีแต่มนุษย์ที่เท่าเทียมกัน (หรือสมาชิกแห่งสังคมที่ยืนยันหลักการ “ความเสมอภาค”) เท่านั้นเมื่อมาต่อรองอำนาจและผลประโยชน์กัน ผลลัพธ์ของการแบ่งปันอำนาจและผลประโยชน์จึงจะออกมาอย่างเป็นธรรม

ฉะนั้น เราไม่อาจจินตนาการถึงสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริงซึ่งปฏิเสธหลักการ “ความเท่าเทียมของมนุษย์” เช่น ถือว่าในสังคมนั้นต้องมีบุคคลพิเศษที่อยู่เหนือมนุษย์อื่นๆ ทั้งในแง่ชาติตระกูล คุณธรรม การมีอภิสิทธิ์ หรืออำนาจที่ไม่มีประชาชนคนใดอาจตั้งคำถาม ตรวจสอบ หรือกำกับให้รับผิดชอบต่อการใช้อำนาจนั้นได้

แต่ในสังคมบ้านเรานั้น ไม่จำเป็นต้องใช้จินตนาการเราก็เห็นความเป็นจริงของสังคมที่ไม่อาจจินตนาการถึงนั้นอยู่เต็มตา ทั้งยังเห็นช่องว่างทางชนชั้นทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรมซึ่งนับวันจะถ่างกว้างขึ้นเรื่อยๆ ประชาธิปไตยที่อำนาจของประชาชนอยู่บนพื้นฐานของหลักการความเท่าเทียมของมนุษย์จึงยากจะเป็นไปได้

อย่างไรก็ตาม ประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าเราไม่เชื่อย่างลึกซึ้งในหลักการที่ว่า “มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน” [2] แต่จากที่กล่าวมาเราอาจสรุปข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกับหลักการนี้ให้ชัดขึ้น คือ

1.ความเชื่อร่วมหรืออุดมการณ์ร่วมของสังคม (ที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญและวัฒนธรรมตกทอดจากอดีต) ที่ยอมรับอภิสิทธิชนที่อยู่เหนือการตั้งคำถามและการตรวจสอบในทุกรณี เป็นความเชื่อหรืออุดมการณ์ที่ขัดแย้ง “เชิงอุดมการณ์” ต่อหลักการ “มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน” อย่างสิ้นเชิง และนี่จึงเป็นอุปสรรคสำคัญของการเกิดประชาธิปไตยที่ประชาชนทุกคนซึ่งเท่าเทียมกันสามารถต่อรองในเรื่องอำนาจและผลประโยชน์กันได้อย่างยุติธรรม

2.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความแตกต่างด้านชีววิทยา สังคมวิทยา หรือปัญหาช่องว่างทางเศรษฐกิจ สังคม ที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม ไม่ใช่ความขัดแย้ง “เชิงอุดมการณ์” กับหลักการ “มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน” เพราะหากไม่ยึดเอาความแตกต่างเหล่านั้นมาเป็นเงื่อนไขในการจำแนกความแตกต่างทางคุณค่าหรือศักดิ์ศรีของมนุษย์ (เช่น ไม่ถือว่าคนรวยมีคุณค่าความเป็นคนมากกว่าคนจน ฯลฯ) สังคมก็ยังอาจรักษาอุดมการณ์ “มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน” เอาไว้ได้

เช่น ไม่ว่าคนจนคนรวยก็ต้องเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย ถูกตั้งคำถาม ตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์ได้ และวาง “ระบบ” ที่ทำให้ทุกคนในฐานะสมาชิกแห่งสังคมประชาธิปไตยได้เข้าสู่เวทีการต่อรองในเรื่องอำนาจและผลประโยชน์อย่างเสมอภาค (มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ถ้าเชื่อในเรื่องอภิสิทธิชนตามข้อ 1 จะไม่มีทางเป็นไปได้เลย)

ดังนั้น ก้าวต่อไปของประชาธิปไตยในบ้านเรา จึงต้องเผชิญกับสิ่งท้าทายสำคัญอยู่ 2 เรื่องหลักๆ คือ

1.เราจะสลายความเชื่อหรืออุดมการณ์ยอมรับอำนาจพิเศษของอภิสิทธิชน ด้วยการสร้างรัฐธรรมนูญใหม่และวัฒนธรรมใหม่ที่ตั้งมั่นอยู่บนหลักการ “มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน” ได้อย่างไร โดยประชาชนไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ

2.เราจะจัดการกับปัญหาช่องว่างทางเศรษฐกิจและสังคมที่ไม่เป็นธรรมอย่างไร จึงจะทำให้เกิดสังคมที่มีการกระจายสิทธิ อำนาจ และผลประโยชน์ในด้านต่างๆ อย่างเป็นธรรม หรือทำอย่างไรที่ประชาชนในทุกชนชั้นทางเศรษฐกิจ สังคม จะสามารถขึ้นสู่เวทีต่อรองในเรื่องอำนาจและผลประโยชน์ หรือมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสาธารณะต่างๆ อย่างเท่าเทียมมากขึ้น

ก็ได้แต่ฝากปัญหาให้ช่วยกันคิดหาทางแก้นะครับ เพราะเป็นปัญหาที่ผมเองก็จนด้วยเกล้าจริงๆ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

If the meaning of democracy is a "political decision makers and public policy-related or belong to the people," he said. This means it will not have to make it come true without accepting the principle that "all men equally," he said.But these principles seem to conflict with the fact that the man has confirmed that seemed completely different at least 2 major aspect is the "difference in biology", like some people are born with some robust people born with disabilities. Some body weak, some strong, some stupid, some clever people. The ability to learn, think, read, etc., of the people we are not equal.That is not the same so it makes a difference is another important difference of sociology ", such as the level of education, occupation, property, power, success, honor family taste famous architecture titled rank, etc.Simple agricultural society in the age of these differences there may be not much. But the complex society like today, these differences are more and are important factors in determining social class, such as a high class people. High level middle-class people. Middle class, middle level The lower middle class people. Lower class or grassroots classThe difference to the level of education, occupation, property, power, taste, etc., make people involved in closely related Island only in their own classes, both in the field of work. Social activities. The exchange of learning to share fun activities, its vagaries. , Etc., and include political participation or public issues.Despite the political differences, the current class is not a concentration difference as a difference under sakdina system but it is the differences that reflect the "gap" or unfair social thought. The remarks of Prof. m.d. prawet WA colors that“... The gap between the poor and the rich, or among the people below with the people above are images instead of milk, peach, unfair haphak. We are the same people should have human dignity and the value of the same people. But why is too much different between people below the mouth is not enough to feed the ball to the person above that may earn it millions of baht per month. We have a problem, as all aspects of economic, social, legal, and access to resources, we know that the law and the application of the law has a bias towards the poor. The conflict over the land arising from government resources, look no further than another is not fair "[1]The issue is that the city's negotiation power and the benefits and if democracy means people's power and authority on the principle that "all men are equal, but equal" because of the human (or members of society who insist the principle of "equality") only when it comes to bargaining power and benefits. As a result of sharing power and benefits will come out fairly.Therefore, we could not imagine the real democratic society, which rejects the principle of "the equal man" like that in a society that requires a special person above all other men in terms of family virtue to have powers or privileges without which people may question. Monitoring or supervision, responsible for the power.But in a society that we do not need to use imagination, we see the reality of the society could not imagine it is full. Also see gaps in the economic class and unfair that the days will be wider to widen gradually. Democratic People's power, on the basis of the principle of equity so hard man as possible.However, democracy will happen if we do not believe in the principle of profound and said, "all men equally" [2], but from these we may summarize the facts that contradict this principle, obviously. Is?1. shared beliefs or ideology of the society (that appears in the Constitution and culture passed from the past) that accepts people disintegrate over the questioning and inspection in every case is a belief or ideology that "conflict" ideology-oriented towards the principle of "all men equally completely," he said. And this is an important obstacle to the democratic cause that all people who are equally able to negotiate regarding the powers and benefits. fair.2. the facts about different aspects of biology Sociology or social-economic gap, causing an unfair non-ideological complex "conflicts" with the principle of "all men" equal, because if not captured those differences are terms in distinction to human dignity or value (for example, is not considered valuable is the rich more than the poor, etc.), the society may also maintain equal all men "ideology" to remove it.Like, no matter how poor the rich, must be equal under the law are questions. Check the placement and criticized "the system" that puts everyone in a democratic society, as a member of the Forum have access to bargain for power and benefits, equal (as much as possible. But if the notion of rights 1 the debates, there is no way possible.)Therefore, the next phase of democracy in our House, it faced major challenges are the major story 2 is.1. we will break up the belief or ideology to accept special powers by making people disintegrate, a new Constitution and establish a new culture based on the principle of "equal treatment of all men", for example, people don't want bloodshed.2. we are dealing with the economic and social gap that is not fair, however, it will also cause society to distribute the authority and benefits in various aspects of fairness or how people in all economic classes. The society will be able to climb up to the stage in bargaining power and benefits or to participate in various public policy equally as much.But leave the problem to help seek solution anyway, because it is an issue that I personally went through a really kind enough.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

If the meaning of democracy "Political decision-makers Or related to public policy is the people, "meaning it will not be realized without the recognition that principle. "All men are equal" principle, but this seems to contradict the empirical facts that confirm that humans are different, at least two of the major "differences in biology," as some people are born physically. Some people are born with disabilities Some weak, some strong, some silly, some clever ability to learn. Ideas are not the same people, which is not the same as the cause is one major difference. "The diversity of sociology," such as education, occupation, wealth, power, fame, honor tastes success of family dignity. Etc, in the society of simple machines, these differences may be appointed. But as today's complex society such differences are greater. And a major factor in determining social class, middle class, such as the high level. The middle class, middle class The lower middle class Lower class or classes grassroots differences wealth, power, education, career orientation, etc., makes people cling steadfastly only in relation to each class of its own, both in terms of work. Social activities Send to Share welfare, leisure, entertainment, etc., as well as getting involved in politics. Or determining public issues With even the class differences today are not very different to the same concentration differences under feudalism. However, it is the differences that reflect the "gap" or social injustice alarmingly. The observations of Prof. MD. Prawet Wasi that "... the gap between rich and poor. Or the ones below to above is a reflection of the macro is not justified. We are the same people should have the dignity and worth of the same person. Why does it vary much between people below the endeavor is not enough to feed the baby. With the above may earn a million baht per month, we have all the injustice. Economic, social, legal, and access to resources. We know that the law and the application of the laws are biased against the poor. The conflict over land caused by usurpation of state resources unfavorable fairness "[1] is a political issue as a matter of bargaining power and benefits. If democracy means the power of the people. And an authority on that principle. "All men are equal" because it is human equality. (Or members of a society that assertion. "Equality") only when the bargaining power and interest. Results of sharing power and benefits will come out in a fair manner. We can not imagine a truly democratic society which rejects the principle. "Equality of men" such a person shall be treated in a special over other human beings. In terms of family virtues of privilege. Or power that no one may question the audit or regulatory authority with the responsibility to use it , but in our home. No need to imagine it, we see the reality of a society that could not imagine it is vividly. It also saw the gap is unfair economic class, which will stretch wider and more. Democracy, the power of the people on the basis of equality of men is difficult to be possible , however. Democracy will not happen if we do not believe in the principle that burned deep. "All men are equal" [2], but we may conclude from the above facts that conflict with this principle clear. Is 1. a belief or ideology of social participation. (Appearing in the Constitution and culture handed down from the past) recognized the privilege beyond the questioning and examination in all cases. A belief or ideology that conflict. "Ideological" in principle "all men are equal" entirely. And this is a major drawback of the democracy in which all citizens are equally able to negotiate in the interests of justice was 2. Facts about the differences in biology, sociology or social problems, economic gap formation. the injustice Not conflict "Idealistic" and "principle that all men equal," because if you do not take these differences then, as a condition to distinguish the value or dignity of a human being (ie not as rich as valuable as more people poor. etc.), it may still maintain social ideology. "All men are equal," it was like. No matter how rich and poor have equal rights under the law in question and criticize check the "system" that makes everyone as members of a democratic society has entered the stage of negotiation of the power and benefits equally. (As much as possible. I believe in the supreme rights under Article 1 would not be possible at all) , so. Next step of democracy in our country. Faced with a major challenge in two main areas : 1. We will break faith or ideology accept the exclusive jurisdiction of the privilege. With the creation of a new constitution and a new culture to stand on principle. "All men are equal," How can people not be enforced by 2. We will deal with the economic and social gap that can not be justified, however. To cause the distribution of social power and interests in many fields. Fairly Or do the people of all socioeconomic classes will be up to the stage to negotiate the power and benefits. Or participate in public policy pages. More evenly , but I think to solve problems and help you. It is an issue that I'm really baffled.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

If the meaning of democracy. "The power of political decision. And or associated with the public policy of the people. " Such meaning will never be realized without the acceptance of that principle.
.But this principle appears to conflict with the empirical facts that human is different at least 2 big side. Is "the difference in biology", such as someone born lacking, some are born deformed.Some stronger, some stupid. Some intelligent learning ability. Thought on people's unequal
.
.The inequality that cause such differences is another important "The difference in sociology", such as education, occupation, property, power, tastes, ancestor, success, honour, reputation.Etc
.
.The society that simplicity in agricultural era these differences may be very limited. But social complexity, such as at present, such differences are more and more. And it is important in determining the social class, such as the nobility. The middle class is high.The middle class levels below third-class or grassroots
.
.Differences in the level of education, occupation, property, power, tastes, etc. the island people about related intimately only in their class in all aspects of work. In social activities, knowledge sharing, sharing happiness and sorrow.Entertainment activities, etc., as well as political participation. Or the public issues as well
.
.Despite the difference in class will not be like the difference ภายใต้ระบบศักดินา concentration difference. But it is a difference that reflected the "gap" or social injustice น่าตกใจ as observations of Prof.Dr. penetration. วะสี that

"...The gap between rich and poor Or between the bottom with such a man. Is the reflection of macro of injustice. We are all human beings should have the dignity and value of being human.With such a man could earn a million per month, we have a problem of injustice all aspects, the economic, social, legal and access to resources. We know that the law and the application of law of bias to poor.[1]
.
.